SIAMZONE.COM

หนังสนุกดีค่ะ มันส์ดีนะ แปลกแยกจากเรื่องอื่นๆดีด้วย คนทำหนังเข้าใจเอาเรื่องการโคลนนิ่งมาทำให้เข้าใจได้ง่ายๆดีค่ะ เพียงแต่ว่าเว่อร์ไปนิดนึง

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ถ้าขึ้นชื่อไมเคิล เบย์แล้วละก็ สิ่งที่ปรากฏในหนังเรื่องนั้นๆต้องเต็มไปด้วย ฉากแอ็กชั่นมโหฬารเกือบทั้งเรื่องแน่นอน เช่น Armageddon,Pearl Harbor,The Rock หรือหนังถล่มกันตูมตาม ระเบิดจอจนนักวิจารณ์ไม่ชื่นชมกันนัก(แต่มันส์คนดู)อย่าง Bad Boys 2
แต่กับ The Island ไม่ได้เน้นไปถึงฉากแอ็กชั่น แต่เน้นไปที่การหลบหนี และเล่าถึงความเป็นมนุษย์
หนังเรื่องนี้เป็นความแตกต่างในหลายๆอย่าง นี่เป็นหนังไซไฟเรื่องที่ 2 แล้ว ต่อจาก Armageddon แต่ The Island เป็นหนังไซไฟในโลกอนาคต และอีกอย่างก็คือ เป็นการกำกับหนังครั้งแรกที่ไม่ได้ทำงานร่วมกับเจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์ ผู้อำนวยการสร้างคู่ใจนั่นเอง อีกอย่างก็คือ ตัวหนัง
คนที่ ไมเคิล เบย์ร่วมงานและคนที่เชิญให้เบย์มากำกับThe Island คือ สตีเว่น สปีลเบิร์ก หัวเรือใหญ่ของดรีมเวิร์คนั่นเอง
จริงอยู่ที่มีฉากแอ็กชั่น ไล่ล่ากันมากมายในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้มากเท่ากับหนังเรื่องก่อนหน้าของเขาอย่างBad Boys 2 หรือ Armageddon ก็ตามที แต่หนังกลับทำออกมาชวนน่าติดตามมากกว่า Bad Boys 2 ซะอีก เพราะเป็นหนังไซไฟที่เล่าถึงการโคลนนิ่ง ความเป็นมนุษย์ โดยเน้นไปที่ 2 ตัวละครหลักๆ ก็คือ ลินคอล์น ซิกซ์ เอ็คโค่(ยวน แม็คเกรเกอร์)และจอร์แดน 2 เดลต้า(สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน)โดยได้รับสิทธิพิเศษให้เชิญมายังเกาะแห่งหนึ่ง จอร์แดนคิดว่า ตนกำลังจะไปยังเกาะแห่งความสุขสบาย ไร้ความทุกข์ แต่ลินคอล์นกลับรู้สึกว่า มีอะไรซักอย่างผิดปกติ แล้วความคิดที่ว่านั้น กลับเป็นจริง!แต่ทั้งสองหนีออกมาได้ และนั่นก็คือที่มาของเกมส์ไล่ล่า
เบย์ค่อนข้างเน้นไปที่ความเป็นโลกอนาคตมากกว่าความมันส์ของการไล่ล่า ดังนั้น ทำให้หนังออกมาน่าติดตาม และเป็นอีกหนึ่งงานที่น่าจดจำของผู้กำกับเบย์เลยทีเดียว
ยวน แม็คเกรเกอร์-ถือว่าปี 2005 เป็นปีทองเลยก็ว่าได้ เพราะปีนี้มากับ 2 หนังฟอร์มยักษ์อย่าง Star Wars Episode 3: Revange of the Sith และ The Island และเขาเองก็ถูกใจกับบทลินคอล์นนี้มาก จึงทุ่มเทกับการแสดงในหนังเรื่องนี้เต็มที่ ซึ่งผลก็คือ ดีตามที่คาดไว้ ส่วนสการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน นี่เป็นหนังฟอร์มใหญ่เรื่องแรกของเธอเลย ซึ่งแน่นอน สวย นุ่ม ลึก เพ้อฝันกับบทที่กำหนดไว้
ผู้กำกับเบย์เน้นความแอ็คชั่นไปในแบบความเป็นไซไฟส่วนใหญ่ เช่น การหนีโดยมอเตอร์ไซค์ไอพ่นบินได้ หรือจะเป็นรถของทอม ลินคอล์นที่เป็นโปรดิวเซอร์ของลินคอล์น ซิกซ์ เอ็คโค่ที่ถือว่าสวย น่าขับ อยากเป็นเจ้าของเลยทีเดียว
ไม่เคิล เบย์ ถือว่าเป็นผู้กำกับยุคใหม่ที่มาพร้อมเทคนิค ฉากแอ็คชั่นสุดอลังการ และ The Island ก็พิสูจน์ได้ว่า ทำหนังโลกอนาคตออกมาได้ดีมากๆเช่นเดียวกับริดลี่ย์ สก็อตต์ (เช่น Blade Runner) สตีเว่น สปีลส์เบิร์ก,เจมส์ คาเมรอน(Aliens) หรือจอร์จ ลูคัสจาก Star Wars แม้ไม่มากเท่า แต่ก็ลงตัวอย่างถึงที่สุด

ลองไปดูเหอะ ผมว่าสนุกมากๆ สำหรับผมนะ ผมว่าดีกว่าหลายเรื่องที่คุณเคยดูมาแน่ อยากให้ลอง

ดูไป 20 นาทีแรก อยากจะลาบวช ดูไปอีก 1 ชม นางเอกแจ่มมาก พอมันออกมาจากท่อหนังเรื่องนี้เลยเปลี่ยนไป มันมากมันโคตรๆ บทก็ดี มันกว่าหลายๆเรื่อง เรื่องนี้มันเหลือเกินจริงๆ ค่อยคุ้มเงินหน่อย ฉากสุดยอดประทับใจมาก รถสวยๆเพียบ เอฟเฟ็คสุดยอด ขนาดตกตึก 70 กว่าชั้นมันยังไม่ยอมตายอีก แต่สนุกจริงๆ ไม่เสียดายเงินแน่นอน

ชอบตอนที่พระเอกจะถูกจับอะ แล้วยืนอยู่กะลินคอร์นตัวจริง แล้วเลียนแบบคำพูดอะ

หนังสนุกดีๆ วิทยาศาสตร์แม่งทำได้ทุกอย่างจริงๆ

ทำไมหน้า ewan ไม่เนียนเลยอะ -*-

ตัวหนัง> ทำได้ดีกว่าที่ผมคาดเอาไว้นิดๆครับ ตอนแรกคิดว่าจะdrama กว่านี้แต่โดยรวมถือว่าดีมากครับ การดำเนินเรื่องในบ้างช่วงไม่อืดแต่ดูเหมือนอืด เข้าใจไหมครับ!!? หมายถึงดำเนินเรื่องปกติไม่ช้าแต่กลับดูเหมือนช้าเพราะว่าไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ในบางช่วง หนังคุณภาพค่อนข้างไปในทางที่ดีแต่ก็คงจะไม่ใช่หนังที่จะถูกจดจำหรอกครับ

ฉาก actions/ไล่ล่า > ทำได้ดีมากๆครับขอชม สมจริงและตื้นเต้นดีจังหวะดีลงตัวมากๆ และดูไม่เว่อร์จนเกินไป ข้อดีของหนังคืออยู่ในโลกอนาคตทำให้ ดูแล้วไม่เว่อร์เพราะเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ในอนาคต

จอร์แดน 2 เดลต้า [โจแฮนสัน] >เป็นดาราคุณภาพอยู่แล้วหลายคนอาจจะไม่รู้จัก เพราะไม่ค่อยหวือหวาตูมตามแบบหลายๆคน ในคราวนี้ก็แสดงได้ดี แต่ดูเหมือนว่าหากใครได้ดูการแสดงของเธอมาแล้วก็จะงงว่าทำไม โจแฮนสัน ไม่ค่อยจะเปลี่ยนการแสดงเลย จะคล้ายๆกันทุกเรื่อง แต่ถือว่าดีไหม ถือว่าดีมากครับ

พระเอก> พระเอกดีที่เป็นเขาเพราะมีชื่อเสียงแต่ก็ไม่ดังมาก ทำให้หลายๆคนถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่ๆหากเอาใครคนอื่นมาเล่นอาจจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่านี้ก็ได้ และแมคเกรเกอร์ ก็เข้ากับบทที่ได้รับดี [หากเป็นทอม ครูส อาจจะควงปืนอุ้มนางเอกขึ้นรถหนีก็ได้ 555555]

เนื้อเรื่อง> อาจจะคล้ายๆกับหลายๆเรื่องหรือทิศดีอื่นๆที่เป็นที่รู้จักกันแต่กลายเป็นหนังเรื่องนี้ทำให้เราคิดว่าเนื้อเรื่องเป็นเรื่องใหม่และเดาทางไม่ค่อยออก ถือว่าเป็นหนึ่งประสบความสำเร็จของผู้กำกับและคนเขียนบทเลยครับ

สรุป> หนังทำได้ดีมากกกกกกกกกคร้าบบบบบบบบ แต่ในขณะเดียวกันหนังก็ไม่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาเรื่องอื่นๆ เอาเป็นว่าหากได้ชมก็ถือว่าคุ้มค่าแต่ถ้าอดดูก็ไม่ถือว่าพลาดอะไรหรอกครับ แต่ว่าหากมีเวลาก็แนะนำให้ไปดูเลยครับ สนุกจริงๆ
เกรดที่ผมให้น้า> B+

สนุกดีครับ เรื่องนี้ทำออกมาได้ ลุย ดีครับ

สนุกครับ ตอนแรกๆก็ไม่ค่อยมีอะไรครับ สนุกตอนหนีครับ

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น อืม......ยังก๊ะเอามาจากการ์ตูนญี่ปุ่นแต่ก่อนเลยนะ หรือทางฝั่งฝรั่งก็มี เป็นการ์ตูนมานานแล้ว เรื่องที่ว่าโคลนนิ่งคนเป็นร้อยๆแล้วนำมาเลี้ยงในศูนย์เนี่ย พล็อตเรื่องไม่น่าแปลกตรงไหนเลย แล้วก็ประมาณว่ามีคนๆหนึ่งหนีออกจากศูนย์ได้มาอยู่โลกภายนอก เหมือนเดะๆเลย แต่ยังไงก็มันส์อยู่ดีแหละ

สนุกมากกกกกกกกก....... หนังทำออกมาดีกว่าที่คิดไว้เยอะ แนะนำๆๆเลย ตอนนี้ใครว่างๆ ก็ลองเข้าไปดูนะ รับรองมันส์จริงๆ พระเอกน่ารักด้วย ฮุฮุ .. นั่งดูแบบอึ้งๆในเทคโนโลยีด้วย