วิจารณ์ รับน้องสยองขวัญ
-
พาราไซต์
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 13 พ.ย. 48 10:42
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น หนังทำออกมาได้ในระดับดี ฉากการตายแต่ละคนก็เพอร์เฟกต์ สงสารแค่เคนตะ ได้พูดแค่คำเดียว "ช่วยด้วย"
ตอนจบ เราคิดว่า ผู้กำกับกำลังจะเสียดสีรายการเรียลลิตี้ที่มีอยู่ทั่วไปนะ คือมันทำให้คนดูสนใจแล้วหยิบมือถือขึ้นมาโหวตว่าจะให้ใครอยู่ต่อไป จะให้ใครออกจากเกม ซึ่งเป็นการกระทำที่สิ้นเปลือง และเป็นผลเสีย สังเกตได้ชัดตอนที่ในหนังเค้าให้เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ยืนดูรายการอยู่แล้วกดเลือกว่าจะให้ใครรอดหรือตาย ขนาดเด็กตัวเล็กๆยังติดรายการเรียลลิตี้แบบนี้เลย
แต่มันก็แล้วแต่ใครจะคิด เราว่าหนังเรื่องนี้ " ดี " ในระดับหนึ่งที่เดียว -
ความสุข
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 13 พ.ย. 48 08:31
อ่ามันดูคล้ายๆเรื่อง ซิก เนอะ (หกตาย ท้าตาย) แต่เราชอบตอนจบซิกมากกว่า แบบว่าอึ้งกิมกี่ไปเลยอ่ะ....
-
รี
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 22:13
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น เลียนแบบหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งอ้ะ ที่ฉายที่ HBO อารมณ์แบบโหวตว่าใครจะตายอ้ะ ไม่ไหวๆ ไม่ชอบตอนจบ เต้ยก็ออกน้อยด้วย
-
ฟู่หยกน้อย
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 21:45
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ขอวิจารณ์แบบเป็นกลางละกันนะแต่ขอเบี่ยงไปทางชอบส่ะนิดนึง เพราะเรารักหนังเรื่องนี้
รับน้องสยองขวัญ หนังวัยรุ่นที่เรียกว่าฆาตกรรมไม่ได้แต่อาจจะเรียกสยองขวัญได้นะ นำเสนอการสะท้อนสังคมที่ผู้กำกับพยายามจะนำเสนอออกมาให้กระทบกับReality Fever หรืออาจจะเป็นความตั้งใจของผู้กำกับที่จะลดความกดดันของหนังลง ถึงได้ทำให้ออกมาแบบนั้น ขอถามตรงๆเถอะ คุณอยากออกมาแบบไหนระหว่าง
1.มองซ้ายมองขวามองคนรอบข้าง(เอ๊ะอีนี่จะฆ่ากูรึเปล่า)เพราะติดอารมณ์มาจากหนัง
2.เดินบ่นมาหน่อย จบได้ไงว่ะ เน่าอย่างแรง แต่ก็กลับบ้านไปอาบน้ำนอนสบายใจ
เอาละนะคุณจะเลือกข้อไหนก็เรื่องของคุณ แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยชอบก็คือการไม่มีสคริปต์ของหนังเรื่องนี้ ที่ทุกคนต้องเล่นเป็นตัวเองเลยทำให้รู้สึกว่าถ้าใครอยากตายก็จะตาย เลยทำให้หนังเหตุผลอ่อนไปบ้าง อย่างเช่น อ้อมที่รู้สึกsheแกไม่อยากเล่นแล้ว เลยหาเหตุผลไปจ๊ะเอ๋กับฆาตกรสะงั้นด้วยคำว่าเดี๋ยวฉันไปตามคนขายนะ 555+ หรือไม่ก็แอร์อ่ะ แต่ก็มีบ้างที่พยายามจะรอดจากการตายเช่นโอปอ ที่กลิ้งโน้นกลิ้งนี่แต่สุดท้ายก็ตาย 555+ แต่ถ้าเราเข้าใจประเด็นผิดก็ขอโษด้วยนะ(แต่เราเข้าใจอย่างนี้จริงๆ)
อันนี้คือความคิดเห็นของเรานะ เรารักหนังเรื่องนี้มากๆ เราอาจจะชอบดาราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วเรารู้สึกว่านิสัยเราคล้ายๆพลอยแถมเป็นหอบหืดต้องพกVentolinเหมือนพลอยด้วย เลยแอบเชียร์ เกลียดเด็กอ่ะ ว่าแต่คำถามสุดท้าย ถ้าเป็นคุณคุณจะให้ใครรอด
เราเลือกพลอยนะ แฮ่ๆ -
เพิ่งดู
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 20:23
เหมือน หนังเรื่องHouse Of Wax มากๆๆๆ มันไม่ค่อยสมจริงสมจังแต่ก็อาศัยตัวแสดงวัยรุ่น หน้าตาน่ารัก
-
หนม
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 20:12
มีเพื่อนเราสมัยเรียนที่บดินทรตอนมัธยมแสดงด้วย มันเข้าวงการตอนไหนอ่ะ งง โน้ต สุดปราชญ์ อึ้งตระกูล
-
อ่ะบอกใบ้ให้
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 19:30
ตอนแรก ๆ กับตอนกลางเรื่องอ่ะ โอเคนะ แต่ตอนจบมันหักมุมเกินจริง
-
คนดี
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 16:36
สนุกมากค่ะเเต่งงมากตอนจบ
-
FL
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 16:31
มันส์ สนุกดีค่ะหนังเรื่องนี้
สยองๆดี ปกติไม่ค่อยดูหนังแนวนี้อยู่แล้ว
แต่พอดี รุ่นพี่ที่ ร.ร. เล่น เลยไปดู
สนุกมากๆ ค่ะ น่ากลัวไปนิด -
ชoUปีใหม่
(ไม่ได้เป็นสมาชิก)
เมื่อ 12 พ.ย. 48 14:24
คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น วิจารณ์เลยละกัน ๆ ไหนก็รู้ตอนจบแล้วนี่
ตัวแสดง>นักแสดงแต่ละวัยเหมาะมาก ตอนจบอยากรู้ว่าตายแล้วได้ไรแล้ว ถ้ามีโหวต โหวตปีใหม่ตั้งนานแย้ว
เนื้อเรื่อง>เนื้อเรื่องเฉย ๆ คนที่บอกว่าหนังแบบนี้ไม่ดี ผมว่ามันไม่ใช่ บทสัมภาษณ์ของไม้ บวรพจน์ บอกว่า ` ธรรมดาอยู๋แล้วที่หนังจะเป็นแบบนี้ เพราะยังไงก็ต้องมีแนวนี้อยู่ดี` และก็กลับมาที่เนื้อเรื่อง เหมือนกันที่คนว่าเหมือน House Of Wax ในการฆ่าอ่ะ คัดลอกมาเลย
ตอนจบ>การนำเสนอหนังในแบบหักมุมอย่าง Reality Film ถ้าทำไม่ได้ดีจริง ๆ อย่าทำดีกว่า ไม่งั้นหนังดีจะลดระดับได้
สรุป>ตัวแสดงน่ารักกันอย่างเดียว กับการฆ่าใช้ได้ ส่วนอย่างอื่นแย่นะ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+
วันนี้ในอดีต
เกร็ดภาพยนตร์
- The 33 - เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ เจมส์ ฮอร์เนอร์ รับหน้าที่ประพันธ์เพลง โดย เจมส์ เสียชีวิตก่อนภาพยนตร์เข้าฉายไม่ถึง 2 เดือน อ่านต่อ»
- American Ultra - อูมา เธอร์แมน ได้รับเลือกให้แสดงบท แลสเซ็ตเตอร์ แต่สัญญาไม่เคยเป็นรูปธรรม ต่อมา ชารอน สโตน ได้เข้ามารับบทนี้แทน แต่เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับตารางงาน ชารอน จึงถอนตัว และในที่สุดบทนี้ตกเป็นของ คอนนี บริตตัน อ่านต่อ»
