เกร็ดน่ารู้จาก Munich

เกร็ดน่ารู้
  • เบนส์ คิงสลี่ย์ ได้รับการติดต่อให้มาเล่นในเรื่องนี้ แต่เนื่องจากตารางการทำงานที่ไม่ลงตัว บทของ เอเฟรม จึงตกเป็นของ เจฟฟรีย์ รัช แทน
  • สตีเว่น สปีลเบิร์ก วางแผนจะกำกับเรื่องนี้ให้เสร็จทันฉายในปี 2003 หรือ 2004 แต่ต้องเลื่อนกำหนดออกไป เมื่อ ทอม ครูซ มีเวลาว่าง ทั้งคู่จึงร่วมงานกันในเรื่อง War of the Worlds แทน
  • อิงเนื้อหาของภาพยนตร์มาจากหนังสือเรื่อง Vengeance ของ จอร์จ โจนัส
  • หลังจากได้รับลิขสิทธิ์ในหนังสือเรื่อง Vengeance แล้ว สตีเว่น สปีลเบอร์ก ผู้กำกับ ได้มอบหมายให้ เดวิด เวบบ์ พีเพิลส์ กับ เจเน็ต พีเพิลส์, ชาร์ล แรนดอล์ฟ, อีริก ร็อธ ไปเขียนบทภาพยนตร์ ท้ายสุดแล้วบทของ อีริก ร็อธ ได้รับเลือก และถูกปรับปรุงโดย โทนี่ คัชเนอร์ ในเวลาต่อมา
  • เดิมที โทนี่ คัชเนอร์ ปฏิเสธที่จะร่วมเขียนบทเรื่องนี้ เพราะเขารู้สึกว่าเป็นเรื่องราวที่ก่อให้เกิดการโต้แย้ง และซับซ้อนเกินไปสำหรับการเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกของเขา
  • สร้างจากเหตุการณ์จริง วันที่ 6 กันยายน ปี 1972 ในช่วงของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี 1972 ที่มิวนิค ประเทศเยอรมัน
  • ขณะเกิดเหตุการณ์ในเรื่อง คุณพ่อของ แอฟเนอร์ อยู่ในเรือนจำ แอฟเนอร์เองก็ต้องอยู่ห่างจากภรรยาและลูกที่เพิ่งเกิดเป็นเวลา 1 ปี หรือมากกว่านั้น
  • ฉากที่ แอฟเนอร์ (อีริก บาน่า) ต้องร่วมทีมกับคอมมานโดอิสราเอลในกรุงเบรุต หนึ่งในคอมมานโดได้แนะนำชื่อตัวเองว่า เอฮุด บารัก (Ehud Barak) ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มมอสแซ็ด ก่อนที่มาเป็นนักการเมืองและนายกรัฐมนตรีของอิสราเอลจริงๆ
  • Mossad (มอสแซ็ด) เป็นภาษาฮิบรู แปลว่าสถาบัน คือหน่วยงานของอิสราเอลที่รับผิดชอบด้านข่าวกรองและการปฏิบัติการซุ่มโจมตี รวมทั้งการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเน้นที่การปฏิบัติการในชาติอาหรับและองค์กรทั่วโลก
  • กูรี่ ไวน์เบิร์ก บุตรชายของ โมชี่ ไวน์เบิร์ก กรรมการมวยปล้ำชาวอิสราเอล และอดีตนักมวยปล้ำระดับแชมเปี้ยน ที่ถูกสังหารในมิวนิคขณะที่ กูรี่ อายุเพียง 1 เดือน กูรี่ได้รับโอกาสให้มาแสดงเป็นคุณพ่อของเขา ขณะอายุ 33 ปี ซึ่งเท่ากับตอนที่คุณพ่อเสียชีวิต และถือเป็นการให้เกียรติกับพ่อของเขาด้วย
  • ถึงแม้ อีริก บาน่า จะเกิดและเติบโตในออสเตรเลีย แต่เขาก็จำเหตุการณ์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่มิวนิค ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุประมาณ 4-5 ขวบได้
  • สตีเว่น สปีลเบิร์ก เลือกเลนส์กล้องเป็นเลนส์ซูม เพื่อย้อนเวลากลับไปยังรูปแบบการสร้างภาพยนตร์ในยุค 70 ที่เต็มไปด้วยภาพซูม ซึ่งเป็นการเข้ากับยุคสมัยของภาพยนตร์เรื่องนี้
  • สถานที่หลักสองแห่งที่ใช้ในการถ่ายทำ คือ ฮังการี ซึ่งเป็นประเทศในยุโรปตะวันออก เหมาะสำหรับการถ่ายทำฉากเมืองในยุโรปเหนือกว่าหกประเทศ และเกาะมอลต้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งสามารถเป็นตัวแทนสถานที่ทั้งในเมดิเตอร์เรเนียนและตะวันออกกลาง
  • ผู้กำกับภาพ ยานุสซ์ กามินสกี้ เคยร่วมงานกับ สตีเว่น สปีลเบิร์กมาแล้วในภาพยนตร์ถึงเก้าเรื่อง ชี้ว่าการจัดแสงสำหรับฉากต่างๆ จะจะเปลี่ยนแปลงตามสถานที่ เช่น ในไซปรัสจะเน้นโทนสีเหลืองที่อาบไปด้วยแสงอาทิตย์ ในขณะที่เอเธนส์จะมีโทนสีออกในแนวสีฟ้า ส่วนในปารีสโทนสีจะนุ่มนวลขึ้นด้วยท้องฟ้าที่มีฝนตก
  • ทีมงานเรื่องนี้ได้ซื้อรถจำนวน 60 คันจากทั่วยุโรป และนำมาพ่นสีใหม่ตามที่ฉากนั้นต้องการ
  • เมื่อถ่ายทำในฮังการี ที่ซึ่งพวงมาลัยของรถจะอยู่ทางด้านซ้าย แต่ในเนื้อเรื่องนั้นกลับต้องอยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งพวงมาลัยจะอยู่ทางขวา ทีมงานจึงต้องทำพวงมาลัยปลอมขึ้นมาและใช้คนขับรถพิเศษขับรถแต่ละคัน
  • เสื้อผ้าของ แอฟเนอร์ ในช่วงเริ่มเรื่องจะดูเหมือนทหาร โดยเสื้อผ้าจะดูสะอาด รีดจีบคมกริบ โทนสีดูอบอุ่น และเพื่อให้รู้สึกว่า แอฟเนอร์ กำลังสูญเสียการควบคุม เสื้อผ้าของเขาจะใช้ผ้าเดอนิมแบบนิวยอร์ก ซึ่งเป็นโลกยุคใหม่ที่เขาไม่เคยเข้าถึง

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Steve Jobs - เดิมที เดวิด ฟินเชอร์ รับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ถูกถอดออกเพราะ เดวิด ต้องการค่าจ้าง 10,000,000 เหรียญสหรัฐ และต้องการมีอำนาจควบคุมกระบวนการสร้างสรรค์ภาพยนตร์อย่างเต็มรูปแบบ ขณะนั้น เดวิด อยากให้ คริสเตียน เบล เข้ามารับบท สตีฟ จ็อบส์ แต่หลังจาก แดนนี บอยล์ เข้ามารับหน้าที่กำกับแทน ได้ทาบทาม ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ มารับบทนำ แต่ ลีโอนาร์โด ปฏิเสธไป หลังจากนั้น คริสเตียน ก็ได้รับข้อเสนอให้แสดงบทนี้อีกครั้ง ซึ่งเขาก็ปฏิเสธเช่นกัน ในที่สุดจึงได้ตัว ไมเคิล ฟาสส์เบนเดอร์ เข้ามารับบท สตีฟ จ็อบส์ อ่านต่อ»
  • 45 Years - ชาร์ลอตต์ แรมพลิง นักแสดงบท เคต และ ทอม คอร์ตเทเนย์ ผู้รับบท จีออฟ เคยปรากฎตัวร่วมกันใน Night Train to Lisbon (2013) มาก่อน อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

พจมาน สว่างคาตา พจมาน สว่างคาตา เรื่องราวสุดวายป่วงและสยองพองขนใน พจมาน สว่างคาตา เริ่มต้นขึ้นเมื่อ พจมาน (เจริญพร อ่อนละม้าย) สาวน้อยผู้เรียบร้อยน่ารั...อ่านต่อ»