เกร็ดน่ารู้จาก Pan's Labyrinth

เกร็ดน่ารู้
  • ได้รับการปรบมือยาวนานถึง 22 นาทีตอนที่มีการฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์
  • ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเป็นตัวแทนประเทศเม็กซิโก สำหรับสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในเวทีออสการ์ ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีไม่กี่เรื่องที่ได้เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในเวทีออสการ์
  • หลังการเข้าฉายสัปดาห์แรกในเม็กซิโก ได้มีการใส่คำเตือนลงบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ เพื่อบอกถึงการมีฉากรุนแรงในเรื่อง เป็นการเตือนสำหรับผู้ปกครองที่จะนำลูกหลานเล็กๆ ไปดูเรื่องนี้
  • ภาพซากปรักหักพังของบ้านเมืองในฉากเปิดเรื่อง เป็นภาพเมืองเก่า เบลชิต ในประเทศสเปน ที่เคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Adventures of Baron Munchausen ในปี 1988 มาก่อน โดยเมืองนี้ได้ถูกทำลายในระหว่างสงครามกลางเมืองของสเปนและยังไม่มีการบูรณะให้กลับคืนเป็นปกติเลยจนกระทั่งปัจจุบัน
  • ผู้กำกับ กิลเลอร์โม เดล โทโร่ จะจดความคิดและภาพร่างลงในสมุดโน้ต ก่อนที่เขาจะนำเอาเรื่องราวมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่เขากลับลืมสมุดโน้ตสำคัญที่เต็มไปด้วยความคิดของเรื่องนี้ไว้ที่ท้ายรถรับจ้าง ซึ่งเขาเองก็คิดว่าอาจเป็นจุดจบของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วก็ได้ แต่ว่าคนขับที่พบโน้ตเหล่านั้นและก็รู้ว่านี่คือสิ่งสำคัญมากของเขาจึงย้อนกลับไปตามหา กิลเลอร์โม จนพบและคืนมันให้กับเขา ซึ่งจากอุปสรรคที่เขาพบเจอและลงเอยด้วยดีนี้ ทำให้ กิลเลอร์โม ตัดสินใจว่าต้องสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เสร็จให้ได้
  • ต้องใช้เวลาทั้งหมด 5 ชั่วโมงในการแต่งตัวให้ โดก์ โจนส์ กลายเป็นตัวประหลาดในชุดสีขาวซีด ซึ่งครั้งหนึ่งตอนที่เขาสวมชุดนี้อยู่ เขาต้องมองลอดทางช่องจมูกที่เจาะไว้เพียงแค่ 2 ช่องบนใบหน้า เพื่อมองว่าเขาจะต้องเดินไปทางไหนดี
  • โดก์ โจนส์ เป็นชาวอเมริกันเพียงคนเดียวในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมทั้งยังเป็นคนเดียวที่ไม่ได้พูดด้วยภาษาสเปน
  • โดก์ โจนส์ ไม่เพียงแค่จะต้องจำบทของเขาในภาษาสเปนซึ่งไม่ใช่ภาษาของเขาเท่านั้น แต่ยังต้องจำบทของตัวละคร โอฟีเลีย เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าเมื่อไรที่เขาจะต้องพูดประโยคต่อไปด้วย แต่ว่าเพราะกลไกในชุดส่วนหัวที่ช่วยแสดงความรู้สึกบนใบหน้าและทำให้หูเคลื่อนไหวได้มีเสียงดังเกินไป ทำให้เขาไม่ได้ยินบทพูดของเธอ
  • ขาของตัวฟอน ไม่ได้สร้างขึ้นโดยอาศัยเทกนิกจากคอมพิวเตอร์ แต่ว่าผู้กำกับ กิลเลอร์โม เดล โทโร่ ได้สร้างกลไกพิเศษในขาปลอมแต่ละข้างที่นำไปประกอบกับขานักแสดง โดยที่จะใช้คอมพิวเตอร์ลบขาจริงๆ ของนักแสดงออกในภายหลัง
  • อีวาน่า บากัวโร ผู้รับบทเด็กสาว โอฟีเลีย ความจริงแล้วมีอายุมากเกินกว่าในบทที่ระบุว่า 8-9 ปี แต่ว่าผู้กำกับก็แก้ไขบทใหม่ให้เหมาะสมกับนักแสดงที่มีอายุ 11 ปีแทน
  • กิลเลอร์โม เดล โทโร่ เอง แปลภาษาอังกฤษประกอบเรื่องเอง เพราะเขาไม่เชื่อใจนักแปลหลังจากที่เห็นผลลัพธ์จากการแปลเรื่องก่อนหน้าของเขา
  • ฉากทานอาหารในช่วงที่เป็นนิทานของเรื่อง โดก์ โจนส์ ต้องกัดถุงยางอนามัยที่บรรจุเลือดปลอมไว้ภายใน

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • A Millionaire's First LoveA Millionaire's First Loveเข้าฉายปี 2007 แสดง Hyun Bin, Lee Yeon-Hee, Lee Han-Sol
  • LockoutLockoutเข้าฉายปี 2012 แสดง Guy Pearce, Maggie Grace, Peter Stormare
  • Blood and ChocolateBlood and Chocolateเข้าฉายปี 2007 แสดง Agnes Bruckner, Hugh Dancy, Olivier Martinez

เกร็ดภาพยนตร์

  • What If - แมรี อลิซาเบธ วินสเตต, เดบอราห์ แอน วอลล์, โรส เบิร์น และ รีเบกกา ฮอลล์ ล้วนเป็นนักแสดงที่ได้รับการพิจารณาให้รับบท ชานทรี ที่สุดท้ายแล้วรับบทโดย โซอี คาซาน อ่านต่อ»
  • Boyhood - เอลลาร์ โคลเทรน ผู้รับบท เมสัน ตอนเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์อายุ 7 ปี และตอนถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จอายุ 18 ปี อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

แสงกระสือ แสงกระสือ เรื่องราวของ รักต้องห้าม กับชะตากรรมที่ต้องเลือก เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนรักสามคน สาย (ภัณฑิรา พิพิธยากร) น้อย (โอ...อ่านต่อ»