SIAMZONE.COM

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ที่เขาต้องการจะสื่อก็คือ "แม้แต่ฮีโร่เองก็ต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีปัญหาในชีวิตเหมือนคนปกติ" แม้แต่คนธรรมดาก็เถอะ แค่ชีวิตปกติก็วุ่นวายมากมายแล้ว แต่ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ยังต้องมีภาระเพิ่มขึ้นจากคนปกติอีกคือ ต้องคอยแบ่งเวลาไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน (นี่คือพล็อตเรื่องของหนังฮีโร่ที่มักจะถูกใจนักวิจารณ์ ปัจจุบัน)

ส่วน Venom ที่กลัวเสียงเหล็กอาจจะทำให้เหมือนในการ์ตูนก็ได้ เพราะอย่าลืมว่า สไปดี้มีต้นฉบับเป็นการ์ตูนครับ

ภาคนี้สื่อให้เห็นว่า สไปเดอร์แมนต้องแบกรับภาระอะไรบ้าง ข้อคิดในเรื่องนี้เยอะมาก ๆ อยากให้ทุกคนไปดูครับ

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น ส่วนตัวผมเองมองว่ายังทำไม่สนุก ค่อนข้างผิดหวัง เพราะว่า ผู้กับกำคงลืมไปแล้วว่าสไปเดอร์แมนคืออะไร สไปเดอร์แมนคือซุปเปอร์ฮีโร่เบอร์หนึ่ง แต่ภาคนี้คืออะไร สไปเดอร์แมนคือพระเอกหนังน้ำเน่าหรือ ผมเชื่อว่าผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้าไปดูจะไปดูสไปเดอร์ในบทแอคชั่นมากกว่าหนังรัก ผมเทียบจากเวลาแล้ว เป็น Drama 60% ซึ่งมันไม่น่าจะใช่หนังแอคชั่น แถมยังไม่มีฉากแอคชั่นที่น่าประทับใจเลย ตัววายร้ายก็กับกลายกลัวเสียงเหล็ก(คิดได้ไง) สไปเดอร์แมนน่าจะทำอะไรแปลกใหม่ได้มากกว่าช่วยคนจากบนตึก

ในภาคนี้มีคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากสไปเดอร์แมนไม่ถึง 10 คนซะด้วยซ้ำ ซึ่งผมมองว่ามันไม่ใช่ ถ้าจะทำหนังแนวความรักระหว่างแฟน ความรักระหว่างพ่อและลูก มิตรภาพระหว่างเพื่อน การให้อภัยระหว่างศัตรู ทำไมไม่ทำกับตัวละครอื่น ให้ความสำคัญกับสไปเดอร์แมนน้อยมาก จะไปเน้นในตัวละครซะมากกว่า แต่ก็ยังมีของดีอยู่บ้างในเรื่องของเอ็ฟเฟ็กซ์ทำได้เนียนตากว่าภาคที่ผ่านๆมาและสิ่งสุดท้ายที่ผมชอบคือปีศาจทรายทำได้แปลกใหม่ดีผมชอบ คะแนนเต็ม 10 ผมให้ 7

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น สุดยอดครับ หนังให้แง่คิดในหลายๆแง่มุม และสื่อออกมาผ่านตัวละครได้ซึ้งมาก เช่น u are my best friend, i forgive u... บวกกับฉากแอคชั่นได้สุดมัน เอฟเฟคไม่ต้องพูดถึง และดราม่าก็ซึ้งได้ใจมาก เกือบน้ำตาไหลเลย ทั้งความรักแบบเพื่อน แบบแฟน การให้อภัย คุ้มค่ากับค่าตั๋ว 140 และ 2 ปีที่รอคอย เต็ม 10 ครับ

แรกเลยขอบอกว่าคนเยอะมากเท่ากับวันแรกที่ไปดูพระนเรศวรเลย ขนาดโทรจองยังนั่งเกือบหน้าสุด ส่วนหนังมีความเป็นดราม่าและแอ็คชั่นผสมกันอย่างลงตัว และมีสูงกว่า 2 ภาคแรกด้วยซ้ำ หนังฝรั่งเขาทำแล้วไหลลื่นจัง ก็อย่างว่าละลงทุนไปตั้ง 9000 ล้านบาท เรื่อง effect ไม่ต้องพูดถึง แต่เสียดายที่ฉากต่อสู้กับ Venom น้อยไปหน่อยทั้งๆที่น่าจะทำให้ดีกว่านี้ มันเลยไม่ค่อยมีอะไรให้ประทับใจในฉากต่อสู้มากเท่ากับ 2 ภาคแรก

อย่างภาค 1 ที่สู้กับ Goblin ตอนสโลโมชั่นหลบลูกระเบิดบินได้ (อย่างกะเมตริกซ์) ส่วนภาค 2 ที่สู้กับ Octopus ตอนหยุดรถไฟ (เอาตัวเข้าหยุดรถไฟ ชักใยจนหน้าเขียว) ประทับใจสุดๆ แต่ภาค 3 ไม่มีอะไรให้จดจำ แต่ที่จำได้ก็คงจะเป็นที่ตัวละคร Super Hero ออกมาสู้กันครบทั้ง 4 ตัวเท่านั้น แต่ก็ไม่มีฉากที่ให้จดจำ

แต่ถึงยังไงแล้วโดยรวมกลับชอบภาคนี้มากกว่า เพราะมีครบทุกอารมณ์โดยเฉพาะดราม่าทำได้เข้าขั้น ส่วนแอ็คชั่นก็มีมาเรื่อยๆ หนังไม่สะดุดและอารมณ์ของหนังต่อเนื่องดีมากๆ ดูแล้วสนุกคุ้มค่าเงิน ให้ 9.5/10

หนังทำได้ดีคับผมว่า แต่เนื้อเรื่องเยอะไม่หน่อย ไม่ค่อยกระชับอย่างที่ว่า แล้วอีกอย่าง น่าจะเอา Venom ไปต่อภาค 4 เลยก็ยังได้นะ แต่เหมือนรู้สึกคงจบแค่เพียงภาคนี้อ่าแหละ จะซึ้งก็ตอนก่อนจบ อาจร้องไห้ได้ในมิตรภาพของเพื่อน แต่ชอบแฮรี่เนอะ เท่ดีเป็น goblin อ่ะ ฉากหวาดเสียวตื่นเต้นไม่ค่อยรู้สึกเท่าแบบภาค 1-2 (ก็อยากที่บอกเหมือนขายเนื้อเรื่อง) แต่รู้สึกไม่ค่อยระทึกเท่าไร เอาเป็นว่ารวมๆดีล่ะกัน ให้ 9/10

โดยรวม Spiderman 3 ยังถือว่าเป็นหนังที่ดูได้สนุก แต่รู้สึกว่าเนื้อหามันกว้างไปหน่อย ไม่กระชับเหมือน 2 ภาคแรก อารมณ์มันแกว่งๆยังไงชอบกล ไม่รู้หนังจะเอาทางไหนแน่ คาดว่าผู้กำกับคงต้องการจะให้ภาคนี้มีเนื้อหาที่มีข้อคิดมากขึ้น เลยเพิ่มบท Sandman มา เสียดาย Venom ไปเลย ตัวละครมันมากไปนิด แต่โดยรวมก็ถือว่าคุ้มค่าตั๋วให้ 7/10 ละกัน

ภาคนี้ให้เกรด A ( 9.5 คะแนน )

**Non Spoiler**

ภาคนี้สื่อได้หลายอย่างเลยครับ

ในบทหนังผมเชื่อว่าผู้กำกับสามารถพัฒนาได้ไปอีกขั้น แต่ที่ผมชอบคือการที่ Spider-Man เป็นฝ่ายมืด มันทำให้หนังมี Drama แบบโอ้โห สุด ๆ ครับ คนที่ชอบอินแน่ ๆ ครับ ที่ผมชอบก็คือเรื่องรักสามเส้า ของ เกวน-ปีเตอร์-แมรี่ เจน ด้านมืดผมว่าทำให้หนังดราม่าได้ถึงจุดสุดแล้ว

หนังโยงใยไปจนคลอบคลุมได้หมดเลยครับ ไม่มีออกนอกลู่นอกทางเลย เป็นหนัง Heroes ดราม่า หนักแน่น เนื้อเรื่องหนักแน่น

ฉาก Action Effect ขอบอกดูแล้วไม่สะดุดสักนิดเลย สามารถทำได้ถึงจุดสุดแล้วครับภาคนี้

ตอนจบผมว่ามันออกแนวละครไทย แต่ก็ทำให้เนื้อเรื่องดำเนินจนจบ ผมชอบมากครับ ฉากต่อสู้ภาคนี้ไม่เท่าไหร่ ขาย Effect เนื้อเรื่องล้วน ๆ ตอนจบซึ้งนิดหน่อย มิตรภาพเพื่อน เอ้อ สนุกมากครับ

*ตอนจบไม่รู้สิครับ มันไม่เชิง Happy Ending แต่มันแสดงถึงว่ายังไงเราก็รู้ใจกันอยู่แล้ว อนาคตหน้าคงแต่งงานกันอ่ะนะ

จบสักทีครับ แหะๆ

แรกๆ ก็สนุกดีครับ แต่หลังๆ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
แต่บทดราม่า ภาคนี้กินขาดเลยทีเดียว
แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ชอบนะ
Effect ดีมาก
แอ็คชั่นก็โอเคนะ แต่สู้ภาค 2 ไม่ค่อยได้
ให้ 8/10 ครับ
ป.ล. มีแอบหักมุมแหละ งิงิ

คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้ม ดราม่าเข้มข้นกว่า 2 ภาคที่ผ่านมาอย่างแน่นอน รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างปีเตอร์กับแมรี่ เจน ฉากแอคชั่นและเอฟเฟกส์นี่ไม่ต้องพูดถึง สุดยอดมากๆ โดยส่วนตัวแล้วคิดภาคนี้ทำออกมาได้ดีมาก เพราะตัวละครที่ออกมาในภาคนี้มีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป แถมยังมีมุขตลกฮาๆออกมา ลดความตึงเครียดได้ผลชะงักด้วย แต่ที่ชอบที่สุดคงเป็นดราม่าที่เน้นในการให้อภัยมากกว่า พูดแล้วก็อยากดูอีก สนุกมากๆ ไปดูกันให้ได้นะ ไม่เสียใจแน่นอน ให้ 10 เต็มไปเลย