เกร็ดน่ารู้จาก Charlie Wilson's War
เกร็ดน่ารู้
- สร้างจากเรื่องจริงของ ชาร์ลี วิลสัน
- เอมิลี่ บลันต์ ถ่ายทำในส่วนของเธอในเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น
- สร้างจากงานเขียนรวบรวมข้อมูลจากเรื่องจริงโดย จอร์จ ไครล์ นักหนังสือพิมพ์มือรางวัลที่เฝ้าติดตามชีวิตของสมาชิกสภาคองเกรสชาวเท็กซัสผู้นี้ ทำสงครามต่อต้านสหภาพโซเวียตอย่างลับๆ
- มือเขียนบท แอรอน ซอร์กิ้น ใช้เวลาหลายเดือนในการค้นคว้าโลกที่ จอร์จ ไครล์ ได้บันทึกเอาไว้ แค่ฉบับร่างแรกกว่าจะเขียนเสร็จก็ใช้เวลาถึง 8 เดือน
- ชาร์ลี วิลสัน ตัวจริง ที่กลายมาเป็นแขกประจำของกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
- ไมก์ นิโคลส์ และ ทอม แฮงก์ส ซึ่งเป็นเพื่อนที่คบหากันมานาน เกือบจะได้สร้างภาพยนตร์ด้วยกันแล้ว แต่ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จเสียทีจนกระทั่งมาถึงเรื่องนี้
- ทอม แฮงก์ส ได้ใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับ ชาร์ลี วิลสัน เพื่อพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการเมือง เรื่องของสาวหรูชาวฮุสตัน โจแอนน์ เฮอร์ริ่ง จนถึงเรื่องบุคลิกสุดโลดโผนของเขาเอง
- ขณะที่ ทอม แฮงก์ส ใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับ ชาร์ลี วิลสัน ตัวจริง จูเลีย โรเบิร์ตส์ ที่รับบทเป็น โจแอนน์ เฮอร์ริ่ง กลับเลือกที่จะไม่เจอกับตัวจริง จนกว่าเธอจะสร้างตัวละครของเธอขึ้นมาได้แล้ว นี่ไม่ใช่การต่อต้าน เฮอร์ริ่ง แต่เป็นการตัดสินใจในแง่ของศิลปะมากกว่า จูเลีย กล่าว
- จอร์จ ไครล์ ผู้ประพันธ์หนังสือเล่มนี้ เสียชีวิตด้วยมะเร็งที่ตับอ่อนเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ปี 2006 ด้วยวัย 61 ปี ก่อนจะได้เห็นภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นดำเนินงานสร้าง
- ในบทภาพยนตร์ของ แอรอน ซอร์กิ้น เต็มไปด้วยตัวละครที่เป็นบุคคลจริง แต่มีตัวละครหลักเพียงคนเดียว ที่ประกอบขึ้นจากบุคคลจริงหลายคนเข้าด้วยกัน นั่นก็คือ บอนนี่ แบ็ช ผู้ช่วยของ ชาร์ลี ซึ่งบทนี้ตกมาเป็นของ เอมี่ อดัมส์ ด้วยความที่ผู้กำกับประทับใจเธอจากบทบาทในเรื่อง Junebug
- อ็อม ปูรี่ นักแสดงชาวอินเดียชื่อดัง รับบทเป็นประธานาธิบดีปากีสถาน เซีย อูล-ฮัจ
- เรื่องนี้เริ่มต้นการถ่ายทำในโมร็อกโค ซึ่งถูกใช้เป็นฉากในปากีสถานและอัฟกานิสถาน เจรี่ แวน ดิ๊ก เจ้าหน้าที่ในอัฟกานิสถาน และ มิลท์ เบียร์เด้น หัวหน้าทีมซีไอเอในปากีสถานตั้งแต่ปี 1986 จนถึงช่วงที่โซเวียตถอนกำลังออกไปจากอัฟกานิสถาน ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเพื่อให้แน่ใจว่าทางทีมงานสร้างรายละเอียดออกมาได้อย่างสมจริง
- หลายฉากเกิดขึ้นในแถบเทือกเขาแอ็ตลาส ที่ซึ่งทีมงานได้สร้างค่ายผู้อพยพอัฟกันขึ้นมา ทำให้ทั้ง เจรี่ แวน ดิ๊ก และ มิลท์ เบียร์เด้น ประทับใจ รวมถึงเป็นพื้นที่ประกอบอาหาร เลี้ยงดูตัวประกอบชาวโมร็อกโค ที่แต่งกายในชุดแบบชาวอัฟกันแบบทศวรรษที่ 80
- ผู้กำกับ ไมก์ นิโคลส์ ถ่ายทำหลายต่อหลายฉากของภาพยนตร์เรื่องนี้ในเทือกเขาแอ็ตลาส ซึ่งบางครั้งต้องใช้ตัวประกอบมากถึง 900 คน
- สำหรับ เอมี่ อดัมส์ แล้ว เธอคือคนรุ่นใหม่ที่รู้จักยุค 80 น้อยมาก หลังจากที่ได้ลองแต่งกายในยุคนั้น ทำให้ เอมี่ ได้รู้ว่า ที่ฟองน้ำหนุนไหล่ได้รับความนิยมขึ้นมาได้ เพราะมันทำให้เอวดูเล็กลง
- เพื่อให้เหมาะกับผู้หญิงในสถานะเดียวกับ โจแอนน์ เฮอร์ริ่ง ทำให้ จูเลีย โรเบิร์ตส์ ได้สวมใส่เครื่องประดับเพชรประกายแวววับจาก คาร์เทียร์ นอร์ธ อเมริกา ในระหว่างการถ่ายทำ โดยสวมทั้งสร้อยเพชรและกำไลเพชรที่เป็นประกาย รวมถึงต่างหูเพชร 10 กะรัตที่มีมูลค่าถึง 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และแหวนเพชร 15 กะรัตที่มีมูลค่าประมาณ 2 ล้านเหรียญ ทำให้ต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยติดอาวุธ ประจำอยู่ที่กองถ่ายทุกครั้งที่มีการถ่ายทำฉากเหล่านี้
วันนี้ในอดีต
ปืนใหญ่จอมสลัดเข้าฉายปี 2008 แสดง สรพงษ์ ชาตรี, จารุณี สุขสวัสดิ์, ชูพงษ์ ช่างปรุง
โอปปาติก เกิดอมตะเข้าฉายปี 2007 แสดง สมชาย เข็มกลัด, ชาคริต แย้มนาม, พุฒิพงศ์ ศรีวัฒน์
ตะเคียนเข้าฉายปี 2003 แสดง นันทวัฒน์ อาศิรพจนกุล, รุ่งระวี บริจินดากุล, อาทิตยา ดิถีเพ็ญ
เกร็ดภาพยนตร์
- The Finest Hours - คริส ไพน์ นักแสดงบท เบอร์นี และ อีริก บานา ผู้รับบท แดเนียล เคยแสดง Star Trek (2009) ร่วมกันมาก่อน อ่านต่อ»
- Exposed - จี มาลิก ลินตัน ผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์ ต่อสู้เพื่อให้ชื่อของเขาถูกถอดออกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะฉบับดั้งเดิมที่เขาตั้งใจสร้างคือภาพยนตร์ที่พูดภาษาสเปน 70 เปอร์เซ็นต์ เกี่ยวกับการสังหารคนหมู่มาก การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และการใช้กำลังทำร้ายเด็กและผู้หญิง โดยมี อิซาเบล ที่แสดงโดย อานา เด อาร์มาส เป็นตัวละครนำเรื่อง แต่ภายหลังกลับถูกตัดต่อให้กลายเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับตำรวจสืบสวน กัลบัน ที่รับบทโดย คีนู รีฟส์ ซึ่งเดิมถูกวางไว้เป็นนักแสดงสมทบ สุดท้ายชื่อผู้กำกับได้เปลี่ยนเป็นชื่อ ดีแคลน เดล ซึ่งเป็นชื่อสมมติแทน อ่านต่อ»