เกร็ดน่ารู้จาก Mongol
เกร็ดน่ารู้
- ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ เซอร์เก้ โบดรอฟ ชาวรัสเซีย เจ้าของรางวัลทางภาพยนตร์ จากเรื่อง Prisoner of the Mountains (1996) โดย เซอร์เก้ เริ่มเขียนบทด้วยตัวเองในปี 2004 ร่วมกับ อารีฟ อลิเยฟ ผู้ร่วมเขียนบท Prisoner of the Mountains กับเขา บทภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ของนักวิชาการ ที่เกี่ยวกับชีวิตของ เจงกีส ข่าน
- เจงกีส ข่าน ได้ชื่อว่าเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง เขามีชื่อเดิมว่า เตมูจิน เกิดเมื่อปี 1162 เติบโตมาโดยชีวิตเต็มไปด้วยภยันตราย เจงกีส ข่าน มีภาพลักษณ์ชั่วร้ายป่าเถื่อนเหมือนสัตว์ป่า แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้สื่อภาพ เจงกีส ข่าน ที่เป็นผู้นำที่กล้าหาญและมีวิสัยทัศน์
- ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ ได้อ่านเรื่องราวของ เจงกีส ข่าน ครั้งแรกในชั้นเรียนประวัติศาสตร์ ในสมัยที่เขาเป็นเด็กและอาศัยอยู่ในอดีตสหภาพโซเวียต รัสเซียเองก็เป็นหนึ่งในหลายประเทศที่แพ้พ่ายให้กับมองโกล ซึ่งเริ่มรุกรานเข้ามาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1222 โดยมี บาตู หลานชายของ เจงกีส ข่าน เป็นผู้นำทัพ และตกอยู่ใต้การปกครองของชาวมองโกเลียประมาณ 200 ปี หนังสือเรียนของพวกเขาจึงสะท้อนภาพของ เจงกีส ข่าน เหมือนเป็นสัตว์ประหลาด
- ทศวรรษ 1990 ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ มีโอกาสได้อ่าน The Legend Of The Black Arrow ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับมองโกลและเติร์กของ เลฟ กูมิเลฟ นักประวัติศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงของรัสเซีย จากนั้น เซอร์เก้ ก็ศึกษาเพิ่มเติม กระทั่งได้รู้เรื่องความลำบากในช่วงต้นชีวิตของ เจงกีส ข่าน เซอร์เก้ จึงยิ่งสนใจเรื่องของชายคนนี้มากจนริเริ่มสร้างเป็นภาพยนตร์
- หลักฐานทางวิชาการที่เกี่ยวกับ เจงกีส ข่าน ไม่อาจยืนยันข้อเท็จจริงได้แน่ชัด บันทึกประวัติศาสตร์ของมองโกลที่ตกทอดมามีเพียง The Secret History of the Mongols บทกวียาวของนักประพันธ์ไม่ทราบชื่อ ประพันธ์ขึ้นหลังจาก เจงกีส ข่าน ตายไปเมื่อปี 1227 บทกวีนี้สูญหายไปหลายศตวรรษ กระทั่งมีผู้ค้นพบฉบับคัดลอกในประเภทจีนในศตวรรษที่ 19 เชื่อกันว่าฉบับคัดลอกนี้ทำขึ้นในศตวรรษที่ 14
- เซอร์เก้ โบดรอฟ ให้ความสำคัญกับเรื่องราวความรักระหว่าง เตมูจิน กับ บอร์เต้ มาก เซอร์เก้ อธิบายว่าในช่วงปลายชีวิต เจงกีส ข่าน มีภรรยาหลายร้อยคน แต่ บอร์เต้ ภรรยาคนแรกยังเป็นคนที่สำคัญที่สุด เขาจะหารือกับเธอเวลาต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ เหมือนความสัมพันธ์ของคนสมัยใหม่ อีกทั้ง เตมูจิน ยังยอมรับและเลี้ยงดู ซูชี ลูกชายคนแรกของ บอร์เต้ เหมือนเป็นลูกของเขาเอง ทั้งที่หลายคนเชื่อว่า บอร์เต้ ตั้งครรภ์ระหว่างถูกพวก เมอร์กิทส์ จับเป็นนักโทษ
- คณะผู้สร้างภาพยนตร์คัดเลือกนักแสดงจากทั่วโลกมารับบทต่างๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นในมองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ลอสแองเจลีส และหลายภูมิภาคในรัสเซียอย่าง ตูวา เบอร์ยาเตีย ทาทาร์สถาน บาชคิเรีย ยาคุเตีย (หรือชาคา) โวลก้า อูรัล และ ไซบีเรีย
- ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ คัดเลือกนักแสดงร่วมกับ กุคา โอมาโรวา ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวคาซัคซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเขา เซอร์เก้ และ กุคา เดินทางไปที่มองโกเลียด้วยกันเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ และ กุคา ได้พบเด็กชายชื่อ ออนยัม โอซุเรน ผู้รับบทเป็น เตมูจิน ในวัยเด็ก
- ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ อยากได้นักแสดงหญิงชาวมองโกลมารับบท บอร์เต้ ขณะที่มีเวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ก่อนที่จะเปิดกล้อง ผู้คัดเลือกนักแสดง กุคา โอมาโรวา เดินทางกลับไปยังมองโกเลีย และสัปดาห์ต่อมาเธอก็โทรศัพท์หา เซอร์เก้ เรียกให้เขามาพบ คุลัน ชุลูน นักเรียนหญิงที่ไม่เคยแสดงภาพยนตร์มาก่อน ทั้ง เซอร์เก้ และ กุคา ชอบหน้าตาท่าทางของเธอ จึงตัดสินใจเสี่ยงใช้นักแสดงสมัครเล่นในบท บอร์เต้
- การถ่ายทำเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2005 สถานที่ถ่ายทำคือพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลในประเทศจีน มองโกเลีย และคาซัคสถาน ซึ่งล้วนเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิมองโกลมาก่อน รวมไปถึงที่ราบกว้างใหญ่ที่ว่างเปล่าและผืนป่าหนาแน่นอันเป็นบ้านของ เตมูจิน หรือ เจงกีส ข่าน ในวัยเด็ก พื้นที่เหล่านี้ห่างไกลและโดดเดี่ยว ต้องใช้เวลาเดินทาง 12-15 ชั่วโมงบนถนนขรุขระกว่าจะไปถึงเมืองที่ใกล้ที่สุด
- ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนวิถีการดำรงชีวิตของชนเผ่าเร่ร่อนชาวมองโกลในศตวรรษที่ 12 ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางข้ามแผ่นดินบนหลังม้า การอพยพไปตามฤดูกาล การตั้งกระโจมอันกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพ และการต้อนฝูงสัตว์เลี้ยง การใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายนี้ยังคงสืบเนื่องต่อมาเป็นวิถีชีวิตของชาวมองโกเลียที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนในปัจจุบัน
- ดาชิ นัมดาคอฟ เป็นผู้ออกแบบการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ ดาชิ เป็นคนเมือง เบอร์ยาท ซึ่งเป็นเขตหนึ่งของรัสเซียซึ่งมีชายแดนติดมองโกเลีย และยังเป็นบ้านของชาวรัสเซียเชื้อสายมองโกลหลายเผ่าพันธุ์ เขาจึงรู้เรื่องเกี่ยวกับชาวมองโกลดี
- ดาชิ นัมดาคอฟ ผู้ออกแบบงานสร้าง ที่มีเชื้อสายมองโกล เป็นคนแนะนำให้ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ ไปหาหัวหน้าหมอผีแห่งมองโกเลีย เพื่อขออนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เซอร์เก้ เห็นด้วย เพราะหมอผีเป็นคนที่สำคัญมากในมองโกเลีย และชาวมองโกลยังคิดว่า เจงกีส ข่าน คือหนึ่งในหมอผีที่มีอำนาจมากที่สุด
- เพื่อช่วยให้ฉากต่อสู้บนหลังม้ามีสีสันและต่อเนื่อง ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ เรียกนักแสดงแทนชาวคาซัคสถานและคีร์กิซสถานจำนวนมากเข้ามาร่วมงาน เซอร์เก้ รู้จักคนเหล่านี้จากตอนที่เขากำกับภาพยนตร์ประวัติศาสตร์เรื่อง Nomad (2005) ในประเทศคาซัคสถาน เซอร์เก้ ให้นักแสดงแทนเหล่านี้ใช้เวลา 2 เดือนฝึกฝนเหล่าตัวประกอบและม้าที่ต้องเข้าฉากต่อสู้ให้เชี่ยวชาญ โดยใช้ม้าและผู้ขี่เข้าฉาก 1,500 คู่
- นักแสดงแทนและนักแสดงประกอบฉากชาวมองโกเลีย คาซัค และอูเกอร์ ต่างนำม้าของตนมาเข้าฉากเอง วัฒนธรรมของพวกเขาผูกพันกับม้าอย่างลึกซึ้ง ดังเช่นในภาพยนตร์ที่ จามูคา ในวัยเด็กซึ่งรับบทโดย อมาร์โบลด์ ตูฟชินบายาร์ บอกกับ เตมูจิน ที่รับบทโดย ออนยัม โอซุเรน ว่าสำหรับชาวมองโกล ม้าสำคัญยิ่งกว่าผู้หญิง อีกทั้งผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ ก็เป็นคนรักม้าและเคยฝันอยากเป็นนักแข่งม้า ม้าทุกตัวในกองถ่ายจึงได้รับการดูแลอย่างดี และไม่มีม้าตัวใดได้รับบาดเจ็บจากการถ่ายทำเลย
- คณะผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้มีประมาณ 600 คน และมีนักแสดงประกอบประมาณ 1,000 คน
- สถานที่ถ่ายทำบางแห่งห่างไกลและเข้าถึงยากมาก จนคณะผู้สร้างต้องสร้างถนนขึ้นเอง
- การถ่ายทำใช้เวลาประมาณ 25 สัปดาห์ แบ่งการถ่ายทำออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งถ่ายทั้งฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง จนถึงฤดูหนาว การถ่ายทำส่วนแรกคือตอน เตมูจิน ในวัยเด็กทั้งหมด แสดงโดย ออนยัม โอซุเรน และในวัยผู้ใหญ่บางส่วน แสดงโดย อาซาโนะ ทาดาโนบุ ผู้กำกับภาพในส่วนแรกเป็นชาวดัตช์ชื่อ โรเกียร์ สตอฟเฟอร์ส แต่ โรเกียร์ ไม่ว่างถ่ายทำในส่วนที่สอง เซอร์กี้ โทรฟิมอฟ จึงต้องเข้ามารับช่วงต่อ
- หลังถ่ายทำเสร็จ ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ ได้เข้าเยี่ยมคำนับประธานาธิบดีของมองโกเลีย ณ เมืองหลวงอูลานบาตอร์ ตามที่ได้รับคำเชิญ
- ผู้กำกับ เซอร์เก้ โบดรอฟ บังเอิญได้ดูคอนเสิร์ตของ อัลตัน อุรัก วงดนตรีโฟล์กร็อกของมองโกเลียที่มีสมาชิกในวง 8 คน จากนั้น เซอร์เก้ ขอให้ อัลตัน อุรัก ช่วยทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ โดยเฉพาะฉากที่ เตมูจิน ซึ่งรับบทโดย อาซาโนะ ทาดาโนบุ เผชิญหน้ากับศัตรู และ เซอร์เก้ ให้ ทัวมัส คันเทลิเนน นักประพันธ์เพลงชาวฟินแลนด์แต่งดนตรีออร์เคสต้าประกอบฉากภูมิประเทศอันกว้างใหญ่ไพศาล และฉากเน้นอารมณ์ต่างๆ ในเรื่อง
- ผู้ตัดต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ แซก สแตนเบิร์ก ผู้ได้รางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์ The Matrix (1999) และ วัลดิส ออสคาร์สดอตเตอร์ เจ้าของรางวัลบีเอเอฟทีเอ จากเรื่อง Eternal Sunshine of the Spotless Mind (2004) และ The Celebration (1998)
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ของประเทศคาซัคสถาน ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล อคาเดมี อวอร์ดส์ ครั้งที่ 80 ประจำปี 2008 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
advertisement
วันนี้ในอดีต
The Nunเข้าฉายปี 2006 แสดง Belen Blanco, Anita Briem, Cristina Piaget
Fullmetal Alchemistเข้าฉายปี 2006 แสดง Romi Pak, Rie Kugimiya, Megumi Toyoguchi
Duelistเข้าฉายปี 2006 แสดง Ha Ji-won, Ahn Sung-kee, Kang Dong-won
เกร็ดภาพยนตร์
- Jurassic World - เป็นภาพยนตร์ชุด Jurassic Park ภาคแรกที่ แซม นีลล์, ลอรา เดิร์น และ เจฟฟ์ โกลด์บลัม ไม่ได้ร่วมแสดง เนื่องจากผู้กำกับและผู้เขียนบท โคลิน ทรีวอร์โรว์ คิดว่าเขาเคารพตัวละครที่เป็นที่จดจำเหล่านั้นเกินกว่าจะนำกลับมาโลดแล่นในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะกับตัวละคร อ่านต่อ»
- Hamari Adhuri Kahaani - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ที่ เอมราน ฮาชมี ผู้รับบท อาราฟ แสดงร่วมกับ วิดยา บาลัน นักแสดงบท วาสุดา เรื่องก่อนหน้านี้คือ The Dirty Picture (2011) และ Ghanchakkar (2013) อ่านต่อ»