เกร็ดน่ารู้จาก Hachi
เกร็ดน่ารู้
- สร้างจากเรื่องจริงของสุนัขพันธุ์อากิตะชื่อ ฮาชิโกะ ที่มาถึงโตเกียวพร้อม ศาสตราจารย์ ฮิเดซามุโระ อุเอโนะ แห่งภาควิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยโตเกียว ในปี 1924 ฮาชิโกะ มารอรับส่งเจ้านายที่สถานีรถไฟชิบูยะทุกวัน กระทั่งเดือนพฤษภาคม 1925 ศาสตราจารย์เสียชีวิตเพราะหัวใจล้มเหลว แต่ ฮาชิโกะ ก็ยังมาเฝ้ารอเขาอยู่ที่เดิมเป็นเวลากว่า 10 ปี บทความของลูกศิษย์ของศาสตราจารย์ทำให้เรื่องของ ฮาชิโกะ โด่งดังขึ้นในระดับนานาชาติ จนมีการสร้างรูปปั้นบรอนซ์ ฮาชิโกะ ขึ้นหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น โดยรูปปั้นที่โด่งดังที่สุดอยู่ที่ประตูทางเข้าสถานีรถไฟชิบูยะ หรือที่เรียกกันว่าประตูฮาชิ
- เรื่องราวนี้เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง เช่น Hachiko Monogatari หรือ Hachi-ko (1987) นอกจากนี้ชื่อ ฮาชิโกะ ยังถูกใช้เป็นตัวละครในหนังสือสำหรับเด็กชื่อดังหลายเล่ม เช่น Hachiko: The True Story of a Loyal Dog เขียนโดย พาเมลา เอส. เทอร์เนอร์ และ Hachiko Waits เขียนโดน เลสเลียร์ นิวแมน ทั้ง 2 เล่มตีพิมพ์ในปี 2004
- ผู้อำนวยการสร้าง วิกกี ชิเงคุนิ หว่อง ได้เห็นรูปปั้นบรอนซ์ของ ฮาชิโกะ ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อกลางปี 1980 แล้วรู้สึกประทับใจมาก จึงตั้งชื่อสุนัขของตนเองว่า ฮาชิโกะ หลังจากสุนัขของเธอเสียชีวิต เธอตัดสินใจจะผลักดันเรื่องราวนี้เป็นภาพยนตร์ จึงระดมทุนจากเพื่อนๆ แล้วรวบรวมผู้ร่วมงาน เช่น ผู้อำนวยการสร้าง พอล เมสัน นักเขียนบท สตีเวน พี. ลินด์เซย์ ผู้อำนวยการสร้าง บิลล์ จอห์นสัน และตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อเริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
- เมื่อ ริชาร์ด เกียร์ ได้ยินเรื่องการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เขารู้สึกประทับใจและนึกถึงผู้กำกับ ลาสเซ ฮาลล์สตรอม เพื่อนบ้านของเขาในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็นผู้ที่เคยร่วมงานกันใน The Hoax (2006) ริชาร์ด จึงส่งบทภาพยนตร์ไปให้ แล้ว ลาสเซ ก็ตกลงรับหน้าที่กำกับ ขณะที่ ริชาร์ด รับตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างพร้อมทั้งแสดงนำในบท ปาร์กเกอร์ วิลสัน
- ครูฝึกสัตว์ บูน นารร์ มาถึงกองถ่ายทุกวันพร้อมสุนัขพันธ์อากิตะ 3 ตัวที่เขาคัดตัวมาจากทั่วประเทศ และฝึกฝนมานานกว่า 6 เดือน เพื่อให้รับบทเป็น ฮาชิโกะ ในวัยโต ส่วน ฮาชิโกะ ในวัยเด็กนั้นจะแสดงโดยลูกสุนัขพันธุ์ชิบะอินุ
- ผู้สร้างและนักแสดงหลายคนให้ข้อมูลตรงกันว่า สุนัขพันธุ์อากิตะไม่ค่อยเชื่อฟัง ไม่ชอบประจบ หัวดื้อ อดทน สุขุม และสุภาพเรียบร้อย ผู้สร้างไม่สามารถหลอกล่อสุนัขได้ง่ายเหมือนสุนัขพันธุ์อื่นๆ จึงถือเป็นความท้าทายในการทำให้สุนัขแสดงตามบท
- มาริสา เบลลส์ ตัวแทนจากสมาคมเมตตาสัตว์แห่งอเมริกา หรือเอเอชเอ (American Humane Association หรือ AHA) เป็นผู้ตรวจสอบการฝึกและการเลี้ยงดูสุนัขทั้งหมดที่ทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทุกๆ ช่วงที่ฝึกสัตว์ จะมีการถ่ายทำเป็นสารคดีที่มีการอธิบายว่าครูฝึกทำอย่างไร สัตว์จึงแสดงสิ่งต่างๆ ได้ แล้วเผยแพร่สารคดีนั้นในเว็บไซต์ของสมาคม นอกจากนี้ยังมีการออกคำรับรองให้ผู้ชมอุ่นใจว่า ไม่มีสัตว์ได้รับบาดเจ็บระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
- ถ่ายทำกันในเดือนที่หนาวที่สุดในโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา สมาคมเมตตาสัตว์แห่งอเมริกา หรือเอเอชเอ (American Humane Association หรือ AHA) จึงเป็นห่วงสุขภาพของลูกสุนัขที่ยังคงเหนื่อยง่าย ต้านทานความความหนาวเย็นได้น้อย และต้องการให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ฝ่ายเสื้อผ้าจึงทำเสื้อบุกันหนาวสีเดียวกับขนลูกสุนัขให้พวกมันสวม
- เลข 8 ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า ฮาชิ และเลข 8 ยังเป็นสัญลักษณ์ถึงการเชื่อมโยงโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ โดยมีความหมายว่า เอื้อมถึงฟากฟ้าแต่ยังสัมผัสถึงพื้นดิน ภาพยนตร์ใช้ความหมายเหล่านี้เปรียบเทียบว่า ฮาชิโกะ เป็นผู้นำความรักจากฟากฟ้าลงมาสู่พื้นดิน
วันนี้ในอดีต
โคลิค เด็กเห็นผีเข้าฉายปี 2006 แสดง พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์, วิทยา วสุไกรไพศาล, กุณฑีรา สัตตบงกช
แก๊งชะนีกับอีแอบเข้าฉายปี 2006 แสดง มีสุข แจ้งมีสุข, พัชรศรี เบญจมาศ, กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์
Stay Aliveเข้าฉายปี 2006 แสดง Jon Foster, Samaire Armstrong, Sophia Bush
เกร็ดภาพยนตร์
- White God - ใช้สุนัข 274 ตัวในการถ่ายทำ ซึ่งได้รับการบันทึกว่าเป็นการใช้สุนัขในการถ่ายทำภาพยนตร์มากที่สุดในโลก อ่านต่อ»
- Straight Outta Compton - บทภาพยนตร์เคยมีฉากที่ ดร.เดร แสดงโดย คอรีย์ ฮอว์กินส์ พบกับ เอมิเนม ในช่วงที่ เอมิเนม เพิ่งเริ่มต้นงานเพลง และนักแสดงที่ได้รับการทาบทามให้แสดงบท เอมิเนม คือ แอนเซล เอลกอร์ต แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนบท ฉากนี้จึงหายไป อ่านต่อ»