SIAMZONE.COM

ชอบนะครับ
เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูนิ่ง แต่เข้มข้น หนักแน่นมาก
เนื้อเรื่องดี น่าสนใจ ผูกเรื่องได้ดีมาก แถมแอบแทรกปรัชญาด้วย แต่ที่การเล่าเรื่องดูคลุมเครืออาจจะเป็นเพราะตัวเรื่องสั้นต้นฉบับเขาคงเล่าบางจุดได้ไม่ครบอ่ะครับ ถ้าเรื่องนี้เป็นนิยายรายละเอียดอะไรหลายๆ อย่างน่าจะชัดเจนกว่านี้ ดังนั้นพอเป็นหนังรายละเอียดต่างๆ ก็หายไปเช่นกัน

การแสดงของสองนักแสดงก็โอเคเลยครับ เลือกมาได้ดี แมตต์เล่นได้ดีมาก เป็นผู้ชายมาดนิ่ง แต่ดูอ่อนโยน อบอุ่น โรแมนติกับคนที่เขารักมากๆ บทของเดวิดจะค่อนข้างฉีกสไตล์เดิมๆ ของแมทไปมาก ปกติเราจะเห็นบทเขาสไตล์ระห่ำแบบเจสัน บอร์น ได้เห็นเขาเล่นในสไตล์ก็ดูแปลกตาไปดีเหมือนกัน ส่วนเอมิลีก็โอเค แรกๆ คิดว่าเธอดูธรรมดาเหมือนนักแสดงหญิงทั่วไป แต่ผู้หญิงคนนี้ขึ้นกล้องจริงๆ ครับ จุดแข็งคือเธอดูมีเสน่ห์เวลาแสดงอารมณ์มากๆ

อย่างที่บอกจุดด้อยของเรื่องนี้คือรายละเอียดที่ยังไม่ชัดเจนในบางจุดจริงๆ ครับ ดังนั้นให้แค่ 8/10 แล้วกันครับ

และมั่นใจเลยว่าถ้าดูเรื่องนี้จบคุณจะคิดเลยว่า "ถ้าคุณรักใครสักคน คุณจะทำเพื่อคุณที่คุณรักได้มากเพียงใด"

THE ADJUSTMENT BUREAU: An enjoyable romantic-thriller with potential concept & shining chemistry between the leads. However, I still think it could have been done better than this, just to reach perfect!
[8]

ดูจากซีดีมาสเตอร์ ครับ
แผ่นแรก เนื้อเรื่องยังอะไรหว่า
ต้องดูให้จบถึงแผ่นที่สอง ถึงบางอ้อ...
มาสนุกก็ตอนนี้แหละ ดูมีสีสันเข้ามาบ้าง
แต่ก็ (สำหรับ ผม นะ)
ก็ดูโอ นะ แต่ แผ่นแรกรอนานไปหน่อย
ก็ดูได้ ครับ โอเค อยู่

เห็นมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ส่วรตัวดูตัวอย่างหนังแล้วก็กระตุ้นต่อมอยากดูมั่ก เพราะชอบ แมท เดม่อน อยู่แล้ว

หนังมาพร้อมประเด็นที่ใหญ่และหนักแน่น แฝงแนวคิดที่เยี่ยมยอด แต่หนังกลับนำเสนอ กำกับออกมาได้ไม่ดีเลย เล่าเรื่องแคบมาก มีหลายคำถามมากที่ค้างคา เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ หลายๆอย่างดูไม่มีเหตุมีผล เอาเสียเลย

(อาจมีสปอย)
.
.
.
-องค์กรนี้ ตกลงแล้วไม่ใช่มนุษย์แล้วเขาเป็นใคร? เขาสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะดูๆไปแล้วบางทีก็ โอ้ เก่งจัง แต่พอมาอีกที ก็บอกว่าอยู่เหนือการควบคุม ??

-ทำไม่ถึงไม่ลบความทรงจำ เดวิด ไปซะล่ะ ถ้าเขาทำให้ เส้นทางที่ถูกกำหนดมัน วุ่นวาย (หรือเพราะ ต้องการให้เป็น ประธานาธิบดี ถึงทำไม่ได้???)

-สุดท้าย อุตส่าห์ลุกขึ้นสู้ ทำอะไรต่างๆมากมาย แต่แล้วพระเจ้ากลับสงสาร ปล่อยให้ลิขิตชีวิตตัวเอง ถ้าเป็นเช่นนี้ ทำไมพระเจ้าไม่ลิขิตให้ทั้งคู่รักกันเสียแต่แรกไปเลยล่ะ?

-ตัวละคร แฮร์รี่ จะใจดีไปไหน ?

-สมุดนั่น กำหนด ขีดเขียนอะไรได้บ้าง (ทำไมไ่ม่บอก ก็รู้ว่าบางอย่างหนังไม่จำเป็นต้องบอกหมด แต่นี่คือไม่พูดถึงเลย งงนะ จะบอกให้ ทีอย่าง อินเซปชั่น หนังยัง(สามารถ)อธิบายได้ละเอียดยิบเลย /หรือทีมงานเกิดหมดมุก)

-ทั้งๆที่ องค์กรนี้ น่าจะดูลึกลับ และยิ่งใหญ่ แต่หนังถ่ายทอดออกมาได้ไม่น่ากลัวเอาเสียเลย ออกแนวทีเล่นทีจริงด้วยซ้ำไป

บลาๆๆๆๆ

แต่ใ่ช่ว่าหนังจะไม่มีข้อดี ข้อดีก็มีคับ แนวคิดเจ๋งๆแบบนี้ ใช่ว่าจะหาดูๆได้เกลื่อน ซะที่ไหนละ อดนึกไ่ได้ว่า หากว่าหนัง(plot)เจ๋งๆเช่นนี้ ไปอยู่ในมือผู้กำกับที่เชี่ยวชายอย่าง เจเจ อับราม,คริสโตเฟอร์ โนแลน,สตีเว่น สปีลเบิร์ก หรือใครก็ตามที่ชำ่ชองพอ หนังคงจะสร้างปรากฏการณ์ได้ยิ่งใหย่ น่าดูเลย

สุดท้ายหนังเป็นได้เพียง หนังแนวคิดดี แฝงปรัชญา(แต่ดูประดักประเดิด) หลักสัจะรรม แต่โดยรวมแล้วดูบกพร่อง แต่หากใครที่ต้องการดุหนังตลาดที่มีความมากกว่า หนังเรื่องนี้ก็พอจะตอบสนองความต้องการได้พอสมควรครับ

7.5/10 B-

โดยรวมเรื่องนี้ถือว่าโอเคครับผมดูได้เรื่อยสนุกใช้ได้เลย
ข้อดี:
- เนื้อเรื่องกับพล๊อตน่าสนใจมาก เข้าใจคิดดี
- แนวคิดต่างๆในเรื่องค่อนข้างสุดยอดมากๆ
- ช่วงท้ายๆเรื่องค่อนข้างสนุก
- โดยรวมถือว่าดูได้เรื่อยสนุกเรื่อยๆครับผม
ข้อเสีย:
- ช่วงแรกๆถึงกลางค่อนข้างอืด น่าเบื่อเล็กน้อย
- น้ำเน่าไปนิด- -
- ช่วงหลังๆเนื้อเรื่องค่้อนข้างเดินไปเร็ว อาจมึนหัวได้

สรุป:ก็โอเคครับไม่ได้ผิดคาดอะไรมากมายคือพอดูได้เรื่อยๆครับ
แต่ไม่ได้สุดยอดอะไร ออกแนวน้ำเน่าเล็กน้อย
เีรื่องนี้ 8/10 ครับ

i give A+
ดูหนังเรื่องนี้แล้วคุณจะพบสัจธรรมในชีวิต.

เป็นหนังที่ มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต พอๆกับINCEPTION หรือ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ต้องลองไปดู แล้วจะระแวงคนจากองค์กรนี้ ในชุุดสูท สวมหมวก เหมือนผม
plotดีมากคับ บทสรุป.. ยอดเยี่ยม!

ที่สำคัญ มันพูดถึง ปรัชญา/หลักความเชื่อสากล ที่มีในทุก'ศาสนา' แค่แตกต่างตรงการอธิบาย ได้อย่างไม่น่าเชื่อ! สิ่งที่คิดไว้และอธิบายยาก/เรื่องเหนือธรรมชาติ (นามธรรม) ถูกนำเสนอให้เห็นเป็นภาพแล้ว (รูปธรรม) + เรื่องของโชคชะตา/พรหมลิขิต (การถูกกำหนดเป็น...คู่กัน) ทำให้เริ่มมานั่งคิดว่า..
ตั้งแต่เกิดมาจนถึงนาทีนี้ ชีวิตเราอาจถูกกำหนดมาให้เป็นไปตามplanแล้วหรือเปล่าวะ ถ้าเราออกนอกแบบplanก็อาจจะมีคนสะกิดเราต่างๆนาๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ แต่ที่สุดแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการทำอะไรด้วย'ความรู้สึก'หรอก
"มนุษย์คล้ายกับว่าตัวเองคิดเป็น แต่แท้จริงแล้วมนุษย์คิดเองไม่เป็น"
จริงไหม? ไปดูแล้วช่วยตอบเราทีนะ....

เหมือนกับ เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต มันถูกกำหนดมาแล้วหรือเปล่า (ให้เป็นอย่างโง้นอย่างงี้ พลาดรถ ตกบันได เจอเพื่อน ไปไม่ทัน แฟนทิ้ง ทะเลาะกับแม่ ประสบความสำเร็จในชีวิต หรือการมานั่งพิมพ์ข้อความอยู่ตอนนี้ ฯฯลฯฯ) เพื่อให้ชีวิต/เหตุการณ์ในส่วนอนาคตดำเนินไปตามที่ถูกลิขิตมา (ตั้งแต่เกิดจนตาย) หรือเราทำไปด้วยความรู้สึกล้วนๆ โดยที่ไม่มีเรื่องพวกนี้อยู่ในหัว ไม่มีแบบแผน ไม่มีพรหมลิขิต ไม่มีเหตุการณ์ใดๆที่มารองรับการกระทำอะไรของเราทั้งนั้น... อันนี้น่าคิดมาก.........

คุ้มกว่าดู เลิฟ แบคทีเรียอะไรนั่น เยอะอ่ะครับ จัดไป 9.5/10 ครับ

สนุกสุดๆ หนังนำเสนอประเด็นในเรื่องของ พรหมลิขิต เ้น้นๆเลย เเต่มีพื้นหลังเป็นโลกที่ทุกคนถูกองค์กรลึกลับ ขีดเส้นทางชีวิต เป็นอุปสรรคความรักของพระเอกเเละนางเอก ประโยครักหวานๆของพระเอกเเละนางเอก ถูกนำมาใช้ได้อย่างถูกสถานการณ์เเละโรเเมนติคมากๆ ดูไม่เป็นการยัดเยียดมากเกินไปจนหวานเลี่ยนอย่าง ทไวไลท์ (ค.ห.ส่วนตัว เเฟนทไวไลท์ โปรดอภัย)
ผมสรุปว่าหนังเรื่องนี้ เป็น Sci-fi Fantasy Romace Thriller ที่ลงตัวมากๆ ใครอยากรู้ว่ามันเเฟนตาซียังไงอ่านสปอยล์ข้างล่าง
ต่อไปเป็นการสปอยล์
=
=
=
=
=
=
=
=
=
=
=
บทสรุปในตอนท้ายเป็นการนำประเด็นศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ความเชื่อเรื่องการมีอยู่ของพระเจ้า คริสต์เเละอิสลามต่างเชื่อในพระเจ้าเหมือนกัน ต่างศาสนา อาจเรียกชื่อต่างกัน เชื่อว่าทุกชีวิตต้องได้รับบททดสอบจากพระเจ้า ซึ่งในบางครั้งอาจดูไร้เหตุผล(สังเกตุจากข้อห้ามในบางศาสนา เช่น อิสลามจะไม่กินหมู)เเละหากมนุษย์ถึงจุดต่ำ พระเจ้าจะต้องทำการจัดระเีบียบโลกใหม่ด้วยวิธีวิธีหนึ่ง(เช่นเหตุการณ์น้ำท่วมโลกในสมัยของโนอา)ในเรื่องนี้จะเป็นการส่งทูตมาคอยกำหนดชีวิตของมนุษย์

สมกับการรอคอยเลยผมชอบมากๆเรื่องนี้มันแสดงให้เห็นว่าคนเราเลือกเส้นทางชีวิตตนเองได้

ชอบมากอ่ะ เปนหนังรักที่ไม่ได้พลอตมาแบบรักจ๋า

แต่ดูแล้วเอาใจช่วยแล้วก็ซึ้งมากๆ

10 ไปเลย