วิจารณ์ The Amazing Spider-Man

วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 27 พ.ย. 55 17:22

    'ไอ้แมงมุม ฉบับเอาใจใวรุ่น'

    ผมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับเรื่องนี้มากมายนักหรอก เพราะเราก็รู้ๆกันอยู่แล้วนะ ว่าเนื้อเรื่องมันเป็นไง
    ผกก. Marc Webb ที่เรารู้จักกันดี ในเรื่อง 500 Day of Summer ผมยังคิดเลยว่า มาทำ The Amazing นี่ มันจะดีหรอ แต่กลับผิดคาดครับ เพราะ เนื้อเรื่องไม่ได้เลวร้ายมีอะไรออกมาใหม่ๆลูกเล่นแปลกอีกเยอะ สมกับชื่อว่า The Amazing จริงๆครับ !

    มาทางด้านพระนางของเรา Andrew Garfield กับ Emma Stone
    แอนดรูก็เหมาะกับลุค สไปค์ดี้ ของเราดีนะ เพราะว่าแก่นทะเล้น ลุคลี้ลุคลน อยู่ไม่เป็นสุข 555 แต่ผมว่าไม่เหมาะกับบท ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ นะ เพราะตามคาแรคเตอร์ต้องเงียบสุขุมนะ แต่ช่างเหอะ ยังไงก็ได้เพระไม่มีอะไรตายตัว ในส่วนของนางเอก เอมม่า สโตน รับบท เกว็น สเตซี่ เธอก้เหมาะกับคาแรคเตอร์อยู่แล้วเด็กเรียน สวย ฉลาด ไม่มีอะไรจะอธิบายเลย ?

    อื่นๆก็ทำออกมาดีความอลังการนี่ก็ใช้ได้
    soundtrack ก็ดูตื่นเต้นเร้าใจดี
    การเดินกล้อง ก้เดินดีดูคล่ิองตัว ดูแล้วสบายตาไม่มึน
    CG ทำออกมาเนียนพอสมควร ไม่ต้องแก้ไขอะไร

    สรุป!! เป็นสไปค์เดอร์แมนฉบับเอาใจวัยรุ่นจริงๆ คุ้มค่าที่จะซื้อ Bluray มาเก็บใว้ดูแล้วได้ทุกอารมณ์ไม่มีอะไรไห้แก้ใขคับเรื่องนี้ เป็นไปอย่างนี้แหละดีแล้ว

    เรื่องนี้ผมไห้ 8/10 ^^

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 4 ส.ค. 55 17:54

    จากลิขสิทธิ์ของ marvelที่ว่าถ้าหากไม่สร้างspider-man ภายในเวลาที่กำหนด สิทธืทั้งหมดจะกลับคืนสู่marvel ทันทีทำให้ค่ายsonyต้องรีบรีบู๊ตก่อนที่จะเสียโฮกาสนี้ไป

    หนังเริ่มเรื่องในมุมมองที่ต่างออกไปกับภาคก่อนที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับพลังวิเศษที่ได้รับมา ว่าเราสามารถทำอะไรกับมันได้มากขนาดไหน ภาคนี้จะเล่าเรื่องของปีเตอร์อย่างเต็มตัว ตั้งแต่เเกิดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เกี่ยวกับปมในใจของเขาและความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทำให้ภาคนี้ดูมีรากฐานที่มั่นคงกว่าภาคก่อน ทีี่ว่าเขาไม่ใช่สไปเดอร์แมน แต่เป็นเพียงปีเตอร์ ปาร์กเกอร์เด็กโชคร้ายคนหนึ่งที่ต้องการจะแก้ไขในสิ่งที่ตนเองทำ
    ส่วนตัวแล้วไม่เคยดู(500) Days of Summer มาก่อนเลยไม่รู้ว่าจะทำออกมาได้ดีขนาดไหน จากที่ดูฉากรักหวานๆก็ทำออกมาได้อิ่มตัวกำลังดี ดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ในตอนกลางถึงท้ายเรื่องฉากแอ็คชั่นยังขาดแรงดึงดูดใจกับใส่อารมณ์ผิดจังหวะนิดนึง soundtrackถือว่าทำออกมาได้แต่ไม่ถึงกับดีสุดๆ

    การเคลื่อนไหวของสไปเดอร์แมนภาคนี้ดูที่ดูคล่องแคล่วกว่ามาก โดยเฉพาะมุมกล้องที่แปลกใหม่ ทั้งตอนที่ยิงไยออกมาและตอนที่ต่อสู้ทำให้สมารถเห็นได้รอบองศา ถ้าปรับ soundtrackให้เพิ่มความกดดันแบบzammerในตอนท้ายคงเป็นสไปเดอร์แมนที่ยอดเยี่ยมและดีที่สุดเลยทีเดียว

    The Amazing Spider-Man เป็นการเล่าเรื่องที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการพัฒนาบทของเวอร์ชั่นก่อนดัดแปลงให้มันดีขึ้น และถ่ายทอดเรื่องราวอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่เคยพูดถึงมาก่อน แต่ถ้ามองในอีกแง่มุมนึงสำหรับคนที่เคยดูเวอร์ชั่นของไรมี่ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน คงยากที่จะลืมและอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับในเวอร์ชั่นนี้ โดยเฉพาะในระยะเวลาอันสั้น

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 23 ก.ค. 55 07:13

    คห.ล่างเหมือนกันเลย 500 days of summer คือหนังรักอันดับนึงในดวงใจเหมือนผมเลย
    เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องบอกว่า The Amazing Spider man ผมประทับใจแค่ไหน
    แต่ก็อย่าไปเทียบกับของแซม ไรมี่เลย แล้วแต่คนชอบ อีกอย่างนำมารีบูทไวมาก ตั้งตัวแทบไม่ทัน

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 21 ก.ค. 55 15:20

    "อย่าสัญญาในสิ่งที่คุณทำไม่ได้"

    "มันเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว"

    :)

    เป็นความใฝ่ฝันของผมตั้งแต่เด็กที่อยากดูสไปเดอร์แมนในโรงภาพยนตร์ สไปเดอร์แมนคือฮีโร่คนแรกๆที่ผมรู้จัก(ถ้าไม่นับพวกมาสค์ไรเดอร์และเหล่าอุลตร้าแมน)และหลงรัก ซึ่งแน่นอน Spider-Man ทั้ง3 ฉบับก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมีโอกาสตีตั๋วเข้าไปชมเลยสักครั้ง การมาของสไปดี้กับการเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้จึงอยู่ในการรอคอยของผมอย่างเลี่ยงไม่ได้

    (500) Days of Summer คือหนังที่ผมรักที่สุดในชีวิต ซึ่งเป็นหนังอันดับ 1 ในใจของผมตลอดกาลมายาวนานเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา และผมคงไม่คาดหวังอะไรกับ The Amazing Spider-Man มากนักหากผู้กำกับ The Amazing Spider-Man ไม่ใช่คนเดียวกับที่ทำ (500) Days of Summer แต่นี่ Marc Webb คือผู้กำกับหนังทั้ง 2 เรื่อง นอกจากเฝ้าดูการโหนทะยานด้วยใยแมงมุมแล้ว ผมยังคาดหวังว่าจะได้เห็นความรักกุ๊กกิ๊ก(ในแบบฉบับรอมคอมของ Marc Webb ) ความโรแมนติกที่เราไม่ค่อยได้เห็นมากนักในหนังซูเปอร์ฮีโร่จ๋าแบบนี้ แต่ Marc Webb สามารถทำได้

    ผมคงไม่อาจบอกได้ว่า Spider-Man ฉบับไหนดีที่สุด และนั่นมันก็ดูจะเป็นคำถามที่ไร้สาระ ในเมื่อทั้งหมดคือสิ่งที่ผมรักแต่ที่ผมบอกกับตัวเองได้คือ The Amazing Spider-Man กลายเป็นอีกหนึ่งหนังที่ผมหลงรักไปแล้วตั้งแต่ได้เห็นตัวอย่างหนังสั้นๆเมื่อปลายปี 2011 ที่ผ่านมา

    หนังเล่าเรื่องราวที่เราคุ้นเคยและเคยเห็นกันมาแล้วใน Spider-Man ฉบับก่อนหน้า แต่รสชาติในการรับชมแตกต่างกัน ในฉบับนี้เรื่องราวทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยพลังของความรักทั้งจากครอบครัว รักมนุษย์โลก และรักในวัยรุ่น ที่สำคัญคือ Peter Parker ในฉบับนี้จะไม่เนิร์ดจ๋าเหมือนที่เราคเยเห็นแต่กลับมีความก้าวร้าวตามสไตล์วัยรุ่น บ้าระห่ำ เพี้ยน มีความท้าทาย และมีความเป็นปุถุชนมากยิ่งขึ้น เช่นกันกับตัวร้ายในภาคนี้อย่าง Dr. Curt Connors ก็มีความเป็นมนุาย์และหนังได้สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนมากขึ้นเมื่อต้องกลายร่างเป็นอสุรกาย The Lizard รวมถึงนางเอกของเรื่องที่เปลี่ยนจาก Mary Jane Watson มาเป็น Gwen Stacy ตามฉบับComic ดั้งเดิม ซึ่งหนังได้ใส่ความเป็น "เด็กวัยรุ่น ธรรมดา" ลงไปมากขึ้น เมื่อ Peter ต้องตกอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของความว้าวุ่นในการก้าวขึ้นเป็นผู้ใหญ่(เช่นเดียวกับที่ผมต้องเผชิญ อยู่ในตอนนี้กับการเรียน สอบ ความรัก พ่อแม่ ครอบครัว อนาคต)

    มีอยู่สองซีนที่ผมชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ซีนแรกคือการช่วยชีวิตเด็กในรถบนสะพาน นอกจากจะเป็นการบอกใบ้ว่า ทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้ ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีพลังวิเศษอะไร และซีนที่สองคือ ซีนจบเรื่องซึ่งดูน่ารักมาก แน่นอนที่สุดเสน่ห์ของหนัง The Amazing Spider-Man อีกส่วนหนึ่งคือนักแสดงนำทั้งสอง Andrew Garfield และ Emma Stone (ไม่ต่างจากการได้เห็น Kristen Stewart c]t Robert Pattinson ในหนังชุด Twilight ปล่อยให้ความหวานของความรักทะลักจอออกมา)

    อาจจะไม่ใช่หนัง Spider-Man ที่ดีที่สุด หรือกว้างกว่านั้นอาจไม่ใช่หนัง Superhero ที่ดีที่สุด แต่ The Amazing Spider-Man คือหนังที่น่าจดจำไม่แพ้หนังเรื่องไหนๆเลย

    9/10

    *ส่วนหนึ่งที่ผมรู้สึกไม่ชอบก็คือ Costume ของ Emma Stone ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากหน้ากระดาษหนังสือการ์ตูน Manga ยังไงยังงั้น

    *แอบสงสัยกับฉากท้ายเครดิต คงไม่มีใครให้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดได้ คงต้องไว้รอคอยคำตอบกันในภาคต่อไป

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 20 ก.ค. 55 22:30

    สนุกมากครับ
    ครบทุกรสจริงๆ
    คนละแนวกับภาคเก่าเลย
    ความสนุกพอๆกับภาคเก่าเพราะเด่นกันคนละด้านครับ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 19 ก.ค. 55 12:18

    ให้ 9 เต็ม 10 แน่นอนที่สุด

    ดีกว่า 3 ภาคเก่ามาก ไม่ได้เน้นขายแค่บุคคลคนเดียว
    แต่อธิบายถึงความเป็นมา เป็นไป ของแต่ละคนอย่างลงตัว
    ดูภาคนี้แล้ว คุณจะรักลุงเบนจนน้ำตานองหน้าโดยไม่รู้ตัว T^T

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 16 ก.ค. 55 11:21

    สนุกกว่าที่คิดไว้เยอะ หนังมีครบทุกรสชาติ แต่ยังรู้สึกว่าไตรภาคก่อนหน้านี้มันสมบูรณ์กว่านิดหน่อยในเรื่องของการสร้างสถานะการณ์และปมของตัวละคร ในขณะที่ภาคนี้ สิ่งที่โดดเด่นมากคือการแสดง พระ-นางเข้ากันได้ดีมาก การแสดงให้อารมณ์ได้มากกว่าโทบี้ แม็คไกวร์ และ เคิร์สเต็น ดันส์ อยู่เยอะเลย

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 14 ก.ค. 55 12:41

    ให้ 10/10 เพราะประทับใจมากๆ มีความสุขมากที่ได้ดูเรื่องนี้ มันมีครบทุกรสจริงๆ สนุก มันส์ ฮา และซึ้ง สรุปคือชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดไม่ผิดทีไปดูเลยจริงๆ คุ้มค่าบัตรมาก พูดจากใจจริงเลย ^^

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 11 ก.ค. 55 13:39

    9/10 ได้เลย ภาคนี้ทำออกมาดีกว่า ภาคเก่า ใส่รายละเอียดตัวละครได้ดีเยี่ยม หนังไม่เน้นแอคชั่นจนล้น ดราม่าลงตัวกำลังดี นักแสดงเล่นเป็นธรรมชาติ เหมาะกับบท โทนหนังไม่การตูนจนเกินไป สมจริงมาก สนุกครับไปดูกันเยอะๆ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 10 ก.ค. 55 06:38

    สนุกมากกกกกกกกก
    ตอนแรกว่าจะไปดูลินคอน แต่มันเลยรอบมาแล้วเลยซื้อตั๋วสไปเดอร์แมน
    กลัวจะไม่หนุกเหมือนกันแต่ที่ไหนได้ไม่ผิดหวังเลย มันส์ๆ

มีทั้งหมด 51 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 3 4 5 6 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Zulu - เดิมที ไจมอน ฮอนซู คือผู้รับบท อาลี แต่ได้ถอนตัว และถูกแทนที่ด้วย ฟอเรสต์ วิตเทกเกอร์ อ่านต่อ»
  • Grace of Monaco - เจสสิกา เชสเทน, เอมิลี บลันต์, ชาร์ลีซ เธอรอน, รีส วิตเธอร์สปูน, กวินเน็ธ พัลโทรว์, เคต ฮัดสัน, โรซามันด์ ไพก์, เอมี อดัมส์, แจนยัวรี โจนส์ และ อลิซาเบธ แบงก์ส ต่างเป็นนักแสดงที่เคยได้รับการพิจารณาให้รับบท เกรซ เคลลี ที่ท้ายสุดแล้วแสดงโดย นิโคล คิดแมน อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค กัส (เผ่าเพชร เจริญสุข) กอล์ฟ (ธงชัย ทองกันทม) คิม (รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์) และ แนตตี้ (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) ทั้งสี่...อ่านต่อ»