เมื่อท่านรักใครสักคนโดยไม่มีความคาดหวังใดๆ
ในยามนั้นอีโก้ของท่านจะดิ้นพล่าน
เพราะมันไม่ชอบที่เวลาที่มันไม่ได้บงการชีวิตคน
ธรรมชาติของอีโก้คือ มันจะสถาปนาตัวบุคคลว่าสำคัญที่สุด
มันชอบที่จะให้ผู้อื่นเป็นไปตามบัญชา
แน่นอนว่ามันไม่ชอบเวลาที่ผู้คนหรือโลกขัดใจมัน
มันอยากเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งยกเว้นตัวมัน
มันเอาตัวมันเป็นศูนย์กลาง
มันไม่พยายามเข้าใจ
แต่มันพยายามบีบบังคับทั้งทางตรงและอ้อม
—————————————————————————
เมื่อผู้คนถูกอีโก้ครอบงำเสียแล้ว
ก็เท่ากับมีชีวิตเป็นทาสของเจ้านายที่เห็นแก่ตัว
บางคนถอนตัวจากมันได้บ้าง
ชีวิตก็เบาขึ้นแม้ชั่วขณะ
และหากจะคิดดูถูกการถอนตัวจากมันเพียงชั่วขณะ
ก็ลองนึกถึงตอนที่วางของหนักลงสิ
มันปลอดโปร่งโล่งเบาขนาดไหน
และแน่นอนว่าคนที่ถอนตัวจากอีโก้ได้บ้าง
ย่อมมีความสุขมากกว่าคนที่ถอนตัวจากมันไม่ได้เลย
คนที่ถอนตัวจากมันไม่ได้เลย
ชีวิตจะกดดันเป็นทาสมันและถูกสั่งไปให้สั่งผู้อื่นต่อ
ในยามที่สมหวังมันก็พองตัวคิดว่าตนนี้แน่
ในยามที่ผิดหวังมันก็เกลียดปัจจัยที่ทำให้มันผิดหวัง
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับความรักที่กล่าวมาข้างต้น
มันเกี่ยวอย่างมาก…เพราะข้าพเจ้ากำลังเสนอแนะให้ท่านรักบางสิ่งโดยไม่คาดหวังสิ่งใดตอบแทน
เมื่อท่านพยายามรักโดยมิต้องการอะไรกลับคืน
ท่านจะพบกับความต่อต้านจากภายในที่เกิดขึ้น
เมื่อท่านพบอาการลักษณะนี้จงตระหนักว่า
ท่านไม่ใช่ทาสของมัน !!!!
ท่านไม่ใช่หนึ่งเดียวกับมัน ท่านอยู่เหนือมันอย่างตั้งใจ
นาทีนี้ท่านเลือกที่จะรักโดยปราศจากความต้องการกลับคืน
เปรียบดั่งต้นไม้ที่ให้ร่มเงาแก่ทุกชีวิต
—————————————————————————
การทำเช่นนี้แค่เพียงครู่เดียว
จะช่วยให้ท่านปล่อยอีโก้ไปชั่วขณะ
แต่ท่านไม่ต้องกลัวว่ามันจะหายไป
มันยังคงวนเวียนอยู่กับท่าน
ท่านแค่วางจากมันครู่หนึ่ง
ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อความเบาของตัวท่านเอง
#ขอให้ทุกท่านตกหลุกรักกับตัวท่านเอง