SIAMZONE.COM

ไม่เคยอ่านหนังสือของคุณอาจินต์ แต่คิดว่าจะไปดู เพราะชอบหนังไทยที่สื่อออกมาเป็นการสอนใจ เตือนใจ ให้คติแง่คิด เพราะคนสมัยใหม่นับวันจะดุร้ายเหมือนสัตว์ขึ้นทุกวัน จะได้เห็นบรรยากาศของชนบทสมัยก่อนที่เราไม่มีโอกาสได้เห็น และที่สำคัญชอบเพลงประกอบภาพยนตร์มาก.........ฟังดูคึกคักดี

ในหนังของพี่เก้ง เรื่อง 15 ค่ำฯ ผมยอมรับว่าน้ำตาซึมกับฉากที่ หลวงพ่อ ตัดสินใจออกเรือไปเรื่อยมาถึงตอนจบของเรื่องจนเดินออกจากโรงอย่างประทับใจมาก คิดว่านี่เป็นหนังไทยที่ดีอีกเรื่องนึงในชีวิตที่เคยเจอมาเลย ก้อเลยรอผลงานชิ้นต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ แอบหวังว่ามันคงมีฉากอย่างนั้น และเมื่อดูตัวอย่างแล้วก้อทำให้แน่ใจว่า นี่แหละที่รอมานาน ต้องตามดูให้ได้
เมื่อดูแล้วต้องขอบอกว่า นี่เป็นหนังที่สร้างบรรยากาศได้ดีมาก ดีกว่าหนังเมืองนอกที่ลงทุนเป็นร้อยล้านอีก ฝนและแสงไฟสีส้มในฉาก ทำให้เหมืองแร่กลายเป็นสถานที่สงบ ห่างไกลจากความวุ่นวาย ดูแล้วทำให้นึกถึงชีวิตประจำวันของเราคนกรุงเทพว่าทำไมมันช่างยุ่งเหยิงอะไรอย่างนี้ ไปดูหนังเรื่องนี้แล้วท่านจะพบกับโลกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งบรรยากาศมันแบบว่า ดีมาก...อธิบายไม่ถูก ดูเหมือนว่าจะมีส่วนคล้ายๆ 15 ค่ำซะด้วย ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของพี่เก่งจริงๆ กับบรรยากาศแบบชาวบ้านๆ ที่ทำให้ดูแล้วนั่งยิ้มไปกับตัวละคร โดยส่วนมากมากจะเป็นซีนที่นั่งก๊งเหล้ากัน เมาเหล้าเฮฮา แล้วทำให้เห็นบรรยากาศสนุกสนาน ของคนที่เป็นนายกับกรรมกรชาวบ้าน คล้ายๆกับฉากที่หมอเมาเหล้าใน 15 ค่ำ
แต่สิ่งที่น่าผิดหวังก้อคือ หนังนั้นเหมือนกับภาพประกอบของหนังสือมากกว่าที่จะเป็นภาพยนตร์ หนังนั้นไม่มีการพัฒนาอะไรมากไปกว่าหนังสือเลย ส่วนมากจะเป็นการเล่าเรื่องโดยบรรยายมากกว่าที่จะดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ถือสอบตกในการตัดต่อ เพราะหนังนั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าตัวอย่างของหนังที่เราได้ดูเลย ดูแล้วเหมือนกับเอาตัวอย่างหนังมาขยายความมากกว่า แค่ฉากแรกของหนังก้อเหมือนกับฉากแรกของตัวอย่างหนังแล้ว เปิดตัวเหมือนกันเลย ในไคลแมกของหนังนั้นทำได้ออกมาไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์เท่าไร อาจจะเป็นเพราะผมคาดหวังไว้มากไป ส่วนฉากที่ผมชอบที่สุดคือ ฉากในตอนที่เจอผีที่บ้านพัก บรรยากาศตอนนั้นมันดิบจริงๆซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆในหนังสมัยนี้ นี่เป็นแค่ฉากส่วนประกอบนะเนี่ย ยังทำได้ดีกว่าหนังผีกระจอกๆบางเรื่องอีก

คนชอบเยอะดีครับ เพราะว่าคนไทยรักหนังไทยดี ผมขอวิเคราะห์การที่เขามาบอกว่าได้ "สร้างเหมืองแร่" ขี้นมาเพื่อถ่ายทำ อยากให้มองว่า หนังไทยไม่มี สตูดิโอใหญ่ ๆ การกระทำเช่นนี้ต้องลงทุน และอย่าไปเทียบกับ หนังอเมริกา ที่เขามีสตูดิโอ ใหญ่ๆ มีงบให้ใช้สบายเพราะเขาขายทั่วโลก หนังไทยขายได้แค่คนไทยก็เก่งแล้ว ไม่มีใครกล้าลงทุนมาก แต่นี่การสร้างเหมืองมาเพราะยังไงก็ต้องสร้าง มันคือหัวใจของเรื่อง เขาจะบอกก็ไม่เห็นผิด อยากให้มองว่าเป็นวิทธนาการของหนังไทย อย่ามองเอาไปเปรียบเทียบกับชาติอื่น เปรียบกันในชาติเดียวกันก็พอครับ เพราะจะมีความเท่าเทียมกันหลาย ๆ ด้าน จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา

ชอบหนังเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
T T ซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมชอบที่มันครบรส
ได้แง่คิด ซึ้ง ฮา ตลก ขำ
ชอบหนังที่ครบรสแบบนี้ที่สุดเลยครับ
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไม่ไหวแย้ว ผมดูแล้วแค่ 1 รอบคงไม่พอ ^^

จะบอกว่าคุณค่าของหนังไม่ได้อยู่ตรงทุนที่สร้าง ดาราที่แสดง หรือค่ายหนังใด ๆ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าหนังที่ดู ๆ กันแล้วได้อะไร แค่ความบันเทิง หรือปรัชญาชีวิต เพื่อพัฒนาชีวิตและสังคม ผมดูหนังเรื่องนี้แล้วชอบมาก
ที่สำคัญผมไม่เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้เลย แต่สิงที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้มากมายจริง ๆ ถือว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง

ผมชอบนะ ที่คุณอาจินต์ เขียนเป็นเรื่องสั้นแล้วมีการหักมุมในตอนจบของแต่ละตอน อ่านแล้ว บางตอนก็ยิ้ม บางตอนก็หัวเราะ และบางตอนก็งงๆๆ
แต่ถึงอย่างไรก็จะไปดู นะ ร้อยวันพันปีจะเขียนมาใหม่นะ หลังจากได้ดูแล้ว

ได้ดูมาแล้วค่ะ หนังสนุกดี เนื้อเรื่องน่ารัก แสดงถึงความรัก ความเข้าใจกัน ทำให้รู้ถึงความสามัคคี และหนังเรื่องนี้ให้อะไรหลายๆอย่างกับคนดู
ตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้เลย จนได้ดูแล้วรู้สึกว่า พี่เก้งเก่งจัง ทำหนังออกมาได้น่ารัก ภาพสวยมาก และหลังจากดูหนังแล้วทำให้อยากอ่านหนังสือด้วย และตอนนี้ก็ไปซื้อหนังสือมาอ่านเรียบร้อยแล้ว
ไปดูกันนะคะ ไม่งั้นเสียดายแย่เลยค่ะ มหา'ลัยเหมืองแร่ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่คนไทยควรดูจริงๆค่ะ

ผมคิดว่า หนังเรื่องนี้เป็นการตีความตามมโนภาพของผู้กำกับนะครับ ซึ่งย่อมต่างจากการอ่านหนังสือแน่นอน
โดยส่วนตัวผมชอบมากครับ

วันนี้ไปดูรอบพิเศษก่อนฉากจริงมาค่ะ สนุกมาก กินใจมาก ๆ

คุณเดย์ฟรีแลนด์ครับ - - ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า...

ภาพยนตร์ กับ เรื่องสั้น - - แตกต่างกันครับ

ครั้งแรกที่ดู - - ทำไมตัวละครมันเยอะอย่างนี้ ขนาดเอาคำพูดที่สำคัญๆ ที่พี่เก้งชอบมาแล้ว ยังเยอะอยู่ ในฐานะที่อ่าน(ทำ)หนังสือเล่มนี้มาก่อน เลยรู้สึกว่าเหมือนเป็นหนังสารคดี

- - แต่เมื่อคุยกับคนอื่นที่ไม่เคยอ่าน "เหมืองแร่" มาก่อน บอกว่าชอบ สนุกดี

ครั้งต่อมา(เมื่อวานนี้) - - ไปดูแบบเพลินๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก ดูบรรยากาศ ดูภาพ - - เฮ้ย! หนังมันก็ดีนี่หว่า ดีกว่า 15 ค่ำฯ ด้วยซ้ำ

- - อาจเป็นเพราะในครั้งแรกเราลุ้น เรารัก เรื่องสั้น "เหมืองแร่" เกินไป... แต่เมื่อดูอีกครั้งด้วยใจที่ไม่คิดอะไรมาก ก็ทำให้เราพบมุมมองที่ต่างออกไป