SIAMZONE.COM

ทุกอย่างสุดยอดโดยเฉพาะชื่อหนัง คิดได้ไง Batman Begins ขึ้นตอนท้ายเรื่อง รู้มั้ยครับทำไมใช้ Begins ไม่ใช่ Begin เฉยๆ หลายคนอาจรู้แล้วว่า มันเป็นประโยคนะ ว่าหนังเรื่อง Batman ภาคแรก (ไมเคิล คีตั้น แสดงน่ะนะ) ได้เริ่มขึ้นแล้ว เราจะเห็นภาพต่อจากนั้นเลยว่า แบทแมนจะไล่ล่าโจ๊กเกอร์(แจ๊ค นิโคสัน ยังไม่หน้ายิ้มนะ)ไปในโรงงานสารเคมี(รึป่าวจำไม่ได้) คืออาจมองได้สองแง่ว่า เป็นการเริ่มต้นของตำนานแบทแมน หรือ เป็นการเริ่มหนังเรื่อง Batman (1989) ก้อได้ (งงป่าว)

ลำดับภาพดี เนื้อเรื่องแน่นกว่าหนังแนวนี้แทบทุกเรื่อง แต่ดูแล้วไม่อยากดูภาคต่อนะ คือถ้าสมมติจะทำแบทแมน 5(ต่อจากแบทแมน โรบิน) ไรงี้
เนื้อเรื่องคงจะแน่นไม่ได้เท่านี้และ คงกลับเป็นหนังแบทแมนธรรมดา

แต่ภาค forever ก้อนับว่าดีนะ ใช้ได้เลย

สนุกมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และอยากไปดูอีก

สนุกมากเลยถือว่าเป็นตอนที่สนุกและชอบให้เป็นที่หนึ่งเลยสำหรับหนังชุดนี้รองลงมาก็ภาค batman forever batman batman return ไม่ค่อยชอบ batman-robin เท่าไหร่ แต่ก็ติดตามตลอดถือว่าเรียกศรัทธาคืนได้มีลุ้นตลอด แบทแมนมีตัวตนขึ้นมีจิตวิญญาณมากขึ้น แถมได้ข้อคิดต่างๆมากมายเลย ที่ชอบที่สุดคือตัวเมืองก็อตแฮมแตกต่างจากภาคก่อนเลย เสียอย่างเดียวไม่น่าเอา ดอม มาพากย์ เลยน่าจะให้ทีมพากย์มืออาชีพดีกว่าฟังทีไรเสียอารมณ์มาก เป็นหนัง summer ที่ดูแล้วคุ้มเช่นเดียวกับ kingdom of heaven starwars แถมแบทแมนมีบางอย่างคล้ายๆ สตาร์วอร์สด้วยคือจุดจบที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของแบทแมนบีกินคือภาคแบทแมนภาค 1

คำเตือน: บางส่วนของคำวิจารณ์นี้เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเท่านั้น นับว่าเป็นbatmanที่สร้างความแตกต่างให้กับseriesชุดนี้ได้มากที่สุดตั้งแต่มีการสร้างมา หนังมาพร้อมกับอารมณ์อันหลากหลาย ทั้งdrama thriller horror
หนังมีแนวทางที่ชัดเจนในการแสดงให้เห็นถึงความกดดันของพระเอก ความสะเทือนใจที่ต้องเสียพ่อแม่ไปต่อหน้าต่อตา ความรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นสาเหตุให้พ่อแม่ต้องตาย ความเคียดแค้นต่ออาชญากร ความกลัวในจิตใต้สำนึก
หนังค่อยๆปูพื้นไปเรื่อยๆและมีการย้อนเรื่องราวกลับไปมาเป็นช่วงๆ ช่วงแรกๆอาจจะรู้สึกว่ามีความเป็นdramaไปหน่อย จนอาจดูง่วง แต่พอดูไปเรื่อยๆหนังจะชี้ให้เห็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นแบทแมน ความน่าตื่นเต้น จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ก็แสดงให้เห็นความเป็นโรคจิตของแบทแมนไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นคนสองบุคลิก การใช้ความเคียดแค้นมาใช้ในการปราบอาชญากรผ่านน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดเหมือนเป็นคนละคน การปรากฎตัวอย่างรวดเร็วเหมือนปีศาจ และเคลื่อนไหวเหมือนเงา ทำให้ทุกครั้งทำให้รู้สึกกลัวไปด้วยและระทึกขวัญทุกครั้งที่แบทแมนออกมา
ตัวเอกคือคริสเตียน เบลแสดงได้ดีในการแสดงถึงความเป็นคนสองบุคลิก ความกดดันในการที่ต้องปกปิดตัวเองทางสายตา การแสดงอารมณ์อย่างเกรี้ยวกราดขณะเผชิญเหล่าร้าย นับว่าเลือกคนแสดงได้ถูก ทำไห้แบทแมนดูไม่เหมือนเป็นตัวประกอบเหมือนภาคที่ผ่านๆมา
ตัวละครscarcrowที่แสดงโดยซิลเลี่ยน เมอร์ฟี่ก็ทำได้ดี ทั้งการแสดงออกซึ่งความโรคจิตทั้งทางสายตา และท่าทาง อีกทั้งเป็นตัวร้ายที่ไม่ต้องอาศัยการเมคอัพอะไรมากมาย แต่ก็มีความเด่นทุกครั้งที่ออกมา และเล่นงานพระเอกซะสะบักสะบอม
เคน วาตานาเบ้ ไม่รู้จะรับเชิญมาทำไม ออกมาบ่นเป็นภาษาญี่ปุ่น ได้สองฉากก็ตายซะแล้ว

หนังเรื่องนี้ดีทีเดียวเลย และไม่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคมากเท่าไร ทำออกมา ซึ่งต่างจาก แบทแมนภาคอื่นๆอย่างสิ้นเชิง โดยอิงความเป็นจริงมากขึ้น และมีคติแง่คิดต่างๆแฝงไว้อย่างมากมาย ดูแล้วชอบมากทีเดียว สนุกมากจริงๆ น่าจะเป็นหนังในดวงใจของหลายๆคนเลยทีเดียว ดูแบทแมนภาคนี้และรู้สึกว่าคลาสสิกดี ชอบๆๆๆๆๆค่ะ

ดูแล้ว.. ถือว่าระดับ B ถึง B+ ลักษณะเรื่องคล้ายๆ กับ Dradevil

สนุก ^^ ปกติเฉยๆกะหนังแนวนี้แต่เรื่องนี้สนุกอ่ะ

ดูแล้วอยากไปดูอีกรอบ ขอบอกว่าสุดๆ ปลื้มพระเอกจังเลยอะ
หนังเรื่องนี้ไม่ใช่ฮีโร่ไร้สาระ มันแฝงคติข้อคิดอะไรไว้มากมายทีเดียว ลองไปดูเอง

ครบสูตรหนังซูเปอร์ฮีโร่ ถ้าว่าตามรูปแบบหนังไม่มีอะไรแปลกใหม่ ที่ประทับใจมีอย่างเดียว คือการแสดงของ ไมเคิล เคน เพียงเท่านั้น

เดี๋ยวตัวร้ายอาจจะใช่คนเดียวกับ joker ก็ได้ แบบ ตายแล้ว มีการ ดัดแปลง อะไรแบบนี้