Cirque du Soleil: Journey of Man
- ปีที่เปิดตัว2543
- เข้าฉายในไทย6 เมษายน 2544
- นำแสดงIan McKellen , Nicky Dewhurst , Brian Dewhurst
ถ้าชีวิตมนุษย์เปรียบเสมือนการเดินทางอันยาวไกล นับตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นจนก้าวเดินไปสู่ปลายทางแห่งชีวิตในช่วงวัยชรา Cirque du Soleil: Journey of Man ก็คือการผสานความงดงามเชิงศิลปะแห่งนาฏกรรมและการแสดงในหลากหลายรูปแบบของ เซิร์ก ดู โซเลล์ คณะแสดงโชว์ละครสัตว์และกายกรรมเชิงศิลปะจากประเทศแคนาดาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับเนื้อหาเชิงเปรียบเทียบของการเดินทางแห่งจิตวิญญาณและพัฒนาการในแต่ละช่วงชีวิตของมนุษย์ นับตั้งแต่เกิดจนถึงวัยชรา ผ่านสถานที่งดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งในโลก ถ่ายทอดเป็นประสบการณ์แห่งความอัศจรรย์ครั้งใหม่ลงบนภาพยนตร์ไอแมกซ์ 3 มิติ ที่รอคอยการสัมผัสด้วยสายตาอย่างท้าทาย
มหากาพย์แห่งการเดินทางบทนี้คือเรื่องราวแห่งชีวิตของมนุษย์ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการระเบิดตัวของห้วงจักรวาลทำให้เกิดคลื่นความสั่นสะเทือนสะท้อนส่งมายังโลก เปรียบเสมือนเสียงกัมปนาทของเสียงกลองที่เร่งเร้าจังหวะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากหมู่นักตีกลองโบราณที่เรียกว่า ทาอิโกะ ภายในถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งปรากฏชัดเจนขึ้นเมื่อฝุ่นธุลีของดวงดาวจางหายไป ชีพจรชีวิตแรกของจักรวาลได้ถือกำเนิดขึ้นในร่างของทารกน้อย ขณะเดียวกับที่เสียงกลองทาอิโกะยังคงขับจังหวะเป็นระยะๆ ถือเป็นการแสดงที่สื่อถึงการเริ่มต้นเดินทางของชีวิต เปรียบเทียบได้กับตัวอ่อนของทารกที่ถือกำเนิดขึ้นในครรภ์ของมารดา และมีน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดสำหรับทุกสิ่งที่มีชีวิต
ภาพลีลาร่ายรำอันอ่อนช้อยของเหล่านักระบำใต้น้ำ และฟองอากาศที่ถูกขับพ่นออกมาใต้น้ำลึกพร้อมๆ กับการว่ายเวียนในน้ำของทารกน้อยจึงปรากฏเป็นฉากต่อมา เป็นเครื่องหมายแทนความมหัศจรรย์แห่งการดำรงอยู่ของนาวาชีวิตในครรภ์ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น
ณ ดินแดนมหัศจรรย์ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมที่แปลกไปจากโลกปกติ การเดินทางของชีวิตวัยเยาว์ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากได้ก้าวผ่านช่วงเวลาของการกำเนิดมาเป็นเด็กชาย ท่ามกลางความพิศวงในดินแดนแห่งนี้เด็กชายได้พบกับฟลุนเนอร์ ชายและหญิงสองคน ทั้งคู่มีลักษณะคล้ายตัวตลกแต่ในความเป็นจริงกลับเป็นผู้แนะนำแนวทางแห่งการเดินทางของชีวิตให้กับเด็กชาย จนสามารถค้นพบอารมณ์และสัญชาตญาณแท้จริงที่แฝงอยู่ภายในของตนเอง
ฟลุนเนอร์ชายมีนิสัยเป็นนักเสี่ยงโชค มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง เมื่อตั้งใจที่จะทำสิ่งใดจะทุ่มเททำทุกอย่างด้วยพลังทั้งหมดที่มี ส่วนฟลุนเนอร์หญิงเป็นคนสุขุม ร่าเริง และเฉลียวฉลาด ขณะเดียวกันก็พร้อมเปิดใจรับฟังความคิดเห็นจากทุกคน ทั้งสองคนเป็นส่วนหนี่งของกันและกันที่คอยเติมเต็มชีวิตของอีกฝ่ายและอยู่เคียงข้างกันตลอดมา
ด้วยการเรียนรู้จากคำแนะนำของฟลุนเนอร์ ทำให้เด็กชายค้นพบความรู้สึกจากอารมณ์ที่หลากหลายภายในตัวของเขาเอง ทั้งความสงสัย ความกลัว และความกล้า แต่ทันใดนั้น บันจี้ ที่มีรูปร่างคล้ายนกยักษ์สีเหลืองก็โหนตัวจากยอดไม้พุ่งตรงลงมาที่เด็กชาย เขาพยายามวิ่งหนีและซ่อนตัวอย่างหวาดกลัว แต่ขณะเดียวกันความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ก็ทำให้เด็กชายเกิดความกล้าที่จะเดินเข้าสัมผัสบันจี้ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อได้เห็นการเคลื่อนไหวตัวในอากาศอย่างอิสระพร้อมกับลีลาการห้อยโหนตัวที่อ่อนช้อย กลายเป็นสิ่งปลุกเร้าความสงสัยภายในใจ ทำให้เด็กชายค่อยๆ ยื่นมือออกไปเบื้องหน้า มันเป็นความกระวนกระวายใจที่แฝงไว้ด้วยอารมณ์รอคอยที่จะได้ปลดปล่อยอย่างเสรี เหมือนดั่งเหล่าบันจี้ที่โหนตัวกลางอากาศเบื้องหน้า และเป็นนัยยะที่บ่งบอกถึงวิถีทางแห่งชีวิตที่เด็กชายจะต้องเผชิญในอนาคต
ในที่สุดบันจี้ก็คว้าข้อมือและดึงเด็กชายข้ามผ่านทางเดินแห่งห้วงเวลาอย่างน่าอัศจรรย์ โดยก้าวไปสู่ช่วงวัยรุ่นพร้อมๆ กับวันวารแห่งวัยเยาว์ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จากโลกที่ได้เผชิญในวัยเด็กมาสู่การค้นพบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างของช่วงวัยรุ่น กับช่วงชีวิตที่ไร้ขีดจำกัดท่ามกลางบรรยากาศแวดล้อมใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อน การเดินทางครั้งนี้ทำให้เด็กหนุ่มได้พบกับคู้บแมน ชายหนุ่มที่มีความเชี่ยวชาญในการควบคุมโครงลูกบาศก์โลหะขนาดใหญ่ ให้หมุนวนได้อย่างแคล่วคล่อง ซึ่งต้องอาศัยทั้งความแข็งแรงของร่างกายและทักษะขั้นสูงเป็นองค์ประกอบสำคัญ กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เด็กหนุ่มเกิดความเข้มแข็งและความกล้าหาญมากยิ่งขึ้น ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เขามีความมั่นใจที่จะก้าวเดินผ่านไปสู่อีกช่วงวัยหนึ่งของชีวิตอย่างไม่ลังเล
พันธะทางธรรมชาติระหว่างผู้ชายและผู้หญิง เป็นประสบการณ์บทใหม่ของการเดินทางผ่านช่วงเวลาจากวัยรุ่นมาสู่วัยหนุ่มอย่างสมบูรณ์ ในบรรยากาศแห่งสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงามในแบบศตวรรษที่ 17 รูปปั้นคู่ชายและหญิงที่ตั้งตระหง่านนิ่งอยู่ ได้เริ่มต้นเคลื่อนไหวเหมือนดั่งมีชีวิตขึ้น พร้อมๆ กับการถ่ายทอดนาฏกรรมรูปปั้น หรือ Statue Act ที่ต้องอาศัยศิลปะในการรักษาสมดุลย์ของการถ่ายน้ำหนักร่างกายให้สอดคล้องกลมกลืนกัน เพื่อสื่อให้เห็นถึงการถ่ายทอดความรักระหว่างชายและหญิง
แม้จะได้เรียนรู้ถึงคุณค่าแห่งความรัก แต่ในที่สุดชายหนุ่มก็ตกเป็นเหยื่อของความโลภที่เข้าครอบงำและกลายเป็นพลังฝ่ายอธรรมที่อยู่เหนือพลังแห่งรัก เมื่อเขาถูก Stiltman ปีศาจร้ายหยิบยื่นความร่ำรวยมาให้ จนกระทั่งเชื่อว่าอำนาจแห่งความร่ำรวยจะนำมาซึ่งการครอบครองทุกสิ่งรวมไปถึงความรักที่เขาปราถนา
แต่แม้จะมีทั้งอำนาจและความร่ำรวย แต่ชายหนุ่มที่เข้าสู่วัยชรากลับรู้สึกถึงบางอย่างที่ขาดหายไปในชีวิต ความรู้สึกนี้ถูกสะท้อนผ่านการแสดงในชุดบองกีน ที่เปิดฉากโดยการแสดงความสามารถที่น่าตื่นตาตื่นใจของเหล่านักกายกรรมต่อตัว สื่อความหมายถึงความเป็นเด็กที่มีอยู่ในตัวของผู้ใหญ่ทุกคน และนี่เองคือสิ่งที่กระตุ้นเตือนให้ชายชราได้หวนรำลึกถึงความสนุกสนานในช่วงเยาว์วัย และตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตได้ว่าความร่ำรวยไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขาอีกต่อไป
ห้วงเวลาสุดท้ายของการเดินทางแห่งชีวิตของชายชรามาหยุดยืนนิ่ง ที่ประตูแบรเดนเบิร์กในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในอนาคตของมวลมนุษยชาติ เรื่องราวและประสบการณ์ที่ผ่านพบในแต่ละช่วงอายุได้สะท้อนภาพให้ชายชราได้ตระหนักว่า แท้จริงแล้วกุญแจหลักสำหรับมนุษย์ที่จะใช้ดำเนินชีวิตให้ไปได้อย่างสมบูรณ์นั้น จะต้องประกอบไปด้วยความฝัน ความศรัทธา และความรัก ซึ่งจะเป็นกุญแจที่มนุษย์ใช้ไขเปิดประตูก้าวเข้าไปสู่ความเป็นไปได้อันเป็นนิรันดร์ และเป็นสัญญาณแห่งรุ่งอรุณของการเริ่มต้น ที่ภูมิปัญญาจะถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง อันจะเป็นเครื่องชี้นำทางที่ทรงความหมายอย่างยิ่งต่อชะตากรรมของมนุษยชาติทั้งมวล
มาร่วมค้นพบและตีความปริศนาแห่งการเดินทางของชีวิตมนุษย์ นับตั้งแต่การกำเนิดไปจนถึงปัจฉิมวัย ผ่านความงดงามที่น่าอัศจรรย์ ซึ่งรวบรวมการแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเซิร์ก ดู โซเลล์ ที่ตระเวนออกแสดงไปทั่วโลก มาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ 3 มิติ บนจอขนาดยักษ์ของไอแมกซ์เท่านั้น
- กำกับโดย Keith Melton
- เขียนโดย Steve Roberts, Peter Wagg
-
นำแสดงโดย
- Ian McKellen
- Nicky Dewhurst
- Brian Dewhurst
- ประเภท Short / Drama / Musical
- เรต G
- สร้างโดย USA
- จำหน่ายโดย ไอแมกซ์
วันนี้ในอดีต
Bangkok Dangerousเข้าฉายปี 2008 แสดง Nicolas Cage, Charlie Yeung, Shaun Delaney
เทวดาตกมันส์เข้าฉายปี 2008 แสดง เทพ โพธิ์งาม, วิวิศน์ บวรกีรติขจร, ศุภรดา เต็มปรีชา
In Brugesเข้าฉายปี 2008 แสดง Colin Farrell, Brendan Gleeson, Ralph Fiennes
เกร็ดภาพยนตร์
- Cop Car - ท่อนเปียโนในดนตรีประกอบเป็นท่อนที่แต่งโดย ลูคัส มอสส์แมน วัย 13 ปี ลูกชายของ ฟิล มอสส์แมน ผู้ประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ อ่านต่อ»
- Ip Man 3 - ภรรยาของ ดอนนี เยน หรือ เจินจื่อตัน ผู้รับบท ยิปมัน รู้สึกกังวลว่าสามีจะได้รับบาดเจ็บจากการเข้าฉากต่อสู้กับ ไมก์ ไทสัน นักแสดงบท แฟรงก์ แต่กลายเป็นว่า ดอนนี ทำให้นิ้วชี้ของ ไมก์ หักระหว่างถ่ายทำฉากต่อสู้แทน อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Shock Wave 2
การวางระเบิดต่อเนื่องในฮ่องกงนั้นทำให้ทั้งเมืองต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว พานเฉิงฟง (แอนดี้ หลิว) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยเก็...อ่านต่อ»