วิจารณ์ Mission: Impossible 3

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 6 พ.ค. 49 12:44

    ก็ถือว่า ok.. ให้ -B แล้วกัน

  • เมื่อ 6 พ.ค. 49 12:25

    อ่านะ ขอวิจารณ์อีกสักรอบ

    เรื่องนี้ผมก็ไม่ใช่ว่าจะจดจำว่าสนุก ถือว่าok ผ่าน หนังมันไม่มีฉากไหนที่ไม่เนียน เรื่องของการบู๊ให้ผ่าน แต่ผมรู้ตัวดีว่าถ้าดูหนังแนวมัน ดูไม่ต้องจริงจังมากหรอก แบบว่าเอาให้มันคุ้มค่าตั๋วก็พอใจแล้ว ส่วนเนื้อเรื่องหนังบางอันเหมือน Transporter 2 ฉากหลายฉาก แต่เรื่องนี้สนุกกว่าอ่ะนะ เอาเป็นว่าดูแก้เครียดดีกว่า อย่าดูแบบจับผิดหนังไม่งั้นหนังดีของคุณจะไม่สนุกหมดแน่

  • เมื่อ 6 พ.ค. 49 12:21

    อืมมมม ผมว่าใครจะว่าไม่มันส์ ไม่อะไร แบบนี้ ผมก็ว่าแล้วแต่คนจะมองนะครับ

    ผมคนหนึ่งแหละ ที่ดูออกมา ปุ๊บ ขนลุก เพราะ หนังสนุกมากๆ โคตรมันส์ สุดๆ สนุกสุดยอด เอ็นโดรฟินหลั่งปี๊ดปร๊าด

    เราชอบหนังสไตล์แบบนี้ อาจจะสร้างออกมาซ้ำๆบ้าง แต่จะให้ทำไงล่ะครับ ในเมื่อเขาสร้างก่อน อาจจะตั้งใจให้เหมือน หรือไม่ได้ตั้งใจเลียนแบบก็ได้

    ผมเห็นหนังไทยก๊อปหนังต่างประเทศมามากมาย เห็นด่ากันแค่เล็กน้อยเอง

    ภาคนี้คือ ภารกิจช่วยเมีย เป็นเรื่องส่วนตัวก็จริงครับ แต่มันก็ไม่ใช่เวิ่นเว้อ พูดถึงเรื่องการเมืองที่เกินจริง แค่เอาส่วนของการเมือง มาเป็นแบ๊คให้สมจริงเล็กน้อย เท่านั้นเอง ผมว่าหนังเค้าไม่ได้กะเน้นเรื่องการเมืองอยู่แล้วล่ะ

    ในฐานะที่ ผู้กำกับ ได้้้ทำงานกำกับหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ถือว่า สอบผ่านครับ ดีมากเลย ผมว่าเขาพัฒนาไปไ้ด้มากกว่านี้อีกนะ

    ทอม ครูซเอง เล่นได้ดีกว่า วอร์ ออฟ เดอะ เวิลด์ ครับ เค้าอาจจะจินตนาการไปว่า เค้ากำลังไปช่วยแฟนเขาจริงๆก็ได้ เพราะได้ข่าว ทอม ครูซ กำลัง อิน เลิฟ

  • เมื่อ 6 พ.ค. 49 11:21

    ดูได้สนุกเพลินๆ ตัวร้ายเจ๋งมาก

    แต่ผมว่ายังทำได้ไม่เข้าถึงอารมณ์เท่าไหร่อ่ะ

  • เมื่อ 6 พ.ค. 49 05:49

    ถึงไม่หนุกกว่าภาคแรก แต่ก็สนุกกว่าภาค2มากมาย

  • เมื่อ 6 พ.ค. 49 03:39

    จะอะไรกันนักหนาหึ.....ง่ายๆคือเรื่องนี้น่ะ มันส์ หรอ?? ก็มันส์ดี แต่ไม่น่ามีเรื่องส่วนตัวเข้ามาอะนะ มันทำให้อีธานทำงานแบบไม่เต็มที่...เฮ้อ..ส่วนตัวผมอะนะชอบภาค 1 ที่สุดแล้วไม่ต้องยิงกันมากใช้สมองดูดีกว่า ภาค 2 ก็ดีแต่นางเอกหน้าตาดูไม่ได้ อะนะแล้วคนที่ดูอะนะ ไม่รู้กันหรอว่า เท้ากระต่ายคือไร.....เห็นขวดมันก็รู้ อยู่แล้วว่าต้องเป็น.....(เอ่อ...) เป็นอะไรก็ช่างเหอะน่า อิอิ..ผมว่าเรื่องนี้น่ะนะเลียนแบบมาหลายเรื่องอยู่นะ เช่นตอนที่ อีธานไหลลงตึกอะ มันเหมือนกับเรื่อง " ผม เป็น ใคร "ของเฉินหลงอะ หนังเก่าแล้ว และอย่างที่ 2 คือ ตอนที่วิ่งไล่เก็บ เท้ากระต่างตรงถนน อะนะ เหมือนเลียน แบบเรื่อง TRANSPORTER ภาค 2 เลยอะนะลองไปดูแล้วจะรู้...อืมแต่รวมๆแล้ว หนังเรื่องนี้ก็ดี อืม..ใช้ได้ๆ

  • เมื่อ 6 พ.ค. 49 01:40

    แต่ผมว่า ฉากบาทากระต่ายอะ ตอนขโมยอะ ไม่มีอะไรอะ -.- แป๊ปเดียวได้ ผมว่าภาคอื่นที่มันขโมยอะ ยังดูยากกว่านี้อีกอะ อันนี้แบบ มาถึงได้แล้วได้แล้ว -.-

  • เมื่อ 5 พ.ค. 49 23:29

    เห็นด้วยกับ Revenant นะครับ ผมดูแล้วรู้สึกธรรมดาๆอ่ะ ไม่น่าจดจำอะไร

  • เมื่อ 5 พ.ค. 49 22:56

    ผมว่าหนังมันไม่สนุกจริงๆอ่ะครับ แอ๊คชั่นในเรื่องนี้ผมดูแล้วก็รู้สึกว่าทำไมมันดาดๆเป็นสูตรสำเร็จของหนังแอ็คชั่นทั่วไปอยู่แล้ว ภารกิจก็ไม่ค่อยจะสนุกเหมือนภาคก่อนๆ โดยเฉพาะตอนเข้าไปเอาบาทา กระต่าย น่าจะมีให้หน่อยว่าเขาไปเอายังไง ไม่ใช่แป๊บเดียวพุ่งออกมาเฉยเลยประมาณเนี้ย โดยรวมคือมันไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าที่ควรอ่ะครับ ทุนสร้าง150ล้านดอลล่าร์มันน่าจะทำให้ดูสนุกกว่านี้ เพราะในหนังมันเหมือนสร้างแค่ประมาณ50-70ล้านเท่านั้นเองอ่ะครับ

    ที่ตลกก็ตรงที่เนี่ยแหละครับ สังเกตดีๆ ทอม ครูซมีสิวอยู่ตรงแก้ม เม็ดเบ้อเร่อเลยตั้งแต่ต้นจนจบ 555

  • เมื่อ 5 พ.ค. 49 20:09

    หนังมันส์มาก มันส์กว่า 2 ภาคแรกตั้งเยอะ แต่ฉากจารกรรมภาค 1 ที่ฮันท์ไปขโมยข้อมูลรายชื่อสายลับในสำนักงาน cia นั้น ตื่นเต้นมากกว่าหนังทุกเรื่องที่เคยดูมา รวมทั้งฉากขโมยตีนกระต่ายภาคนี้ด้วย

มีทั้งหมด 90 วิจารณ์ หน้าที่ 6 [ก่อนหน้า] 1 2 3 4 5 6 7 8 9 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

วันนี้ในอดีต

  • The Hobbit: The Desolation of SmaugThe Hobbit: The Desolation of Smaugเข้าฉายปี 2013 แสดง Martin Freeman, Richard Armitage, Ian McKellen
  • Star RunnerStar Runnerเข้าฉายปี 2003 แสดง Vanness Wu, Kim Hyun-joo, Shaun Tam Chun-yin
  • ElfElfเข้าฉายปี 2003 แสดง Will Ferrell, James Caan, Bob Newhart

เกร็ดภาพยนตร์

  • Star Wars: The Force Awakens - เลือกที่จะถ่ายทำในสถานที่จริงและใช้หุ่นจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แทนการถ่ายทำในฉากเขียวและสร้างตัวละครในคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ภาพที่สมจริงเหมือนกับภาพยนตร์ไตรภาคต้นฉบับ อ่านต่อ»
  • Irrational Man - เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ติดต่อกันที่ผู้กำกับ วูดดี อัลเลน ร่วมงานกับ เอ็มมา สโตน นักแสดงบท จิลล์ เรื่องก่อนหน้านี้คือ Magic in the Moonlight (2014) อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Soul Snatcher Soul Snatcher ไป่ฉีซาน (หลี่ เซี่ยน) จิ้งจอกหนุ่มผู้เลื่องชื่อได้ถูกมอบหมายภารกิจท้าทายสำคัญ ปลอมตัวเป็นชายหนุ่มเพื่อตามหาไข่มุกวิญญา...อ่านต่อ»