SIAMZONE.COM

Step Up 2 ดูแล้วมันส์กว่าภาคแรก ภาคแรกจะออกแนวดราม่ามากไปหน่อยมันส์ตอนท้ายๆเท่านั้น แต่นี้ แนว The Street มันทั้งเรื่องเลย เต้นได้มันส์ดี โดยเฉพาะฉากที่เต้นกลางฝน เท่มากท่าควงหมุนเห็นน้ำค้างกระเต้นเป็นวงกลมเลย สุกยอดมาก ให้ 8/10 สนับสนุนหนังแนวนี้เพราะดูได้ทุกเพศทุกวัย

เราว่า แอนดี้คือตัวละครเก่าจากภาค 1 ค่ะ เพราะแอนดี้คือเด็กผู้หญิงคนที่ถือซีเรียลอาหารเช้าขึ้นไปกินในห้องของไทเลอร์ไง แล้วไทเลอร์ขอกินคำนึง แต่ขอกินคำโตเลยไง มาภาคนี้เปิดตัวไทเลอร์กับแอนดี้ก็รู้กันแล้ว คนนั้นแน่ๆเลย

บอกได้คำเดียว มันส์ ครับ

ไปดูมาแย้ว สนุกดีเหมือนกัน เนื้อหาก็พอใช้ได้ เรื่องราวเน้น การแสดง แต่ยอมรับความสามารถของนักแสดง ทุกคนทำได้ดีทีเดียว เวลานั่งดูต้องคอยขยับตามไปแทบทั้งเรื่อง สนุกดีนะ นางเอกน่าดี เด็กแร๊ป เด็กเฮ้วทั้งหลายไปดูกันเถอะมันมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Step Up 2 The Street : สเต็ปโดนใจ หัวใจโดนเธอ

ยังจำหนังซัมเมอร์ปี 2006 ที่ฮิตเซอรไพรส์ได้หรือไม่? หนังที่สร้างความบันเทิงได้อย่างยอดเยี่ยม
และผสมผสานองค์ประกอบหลายๆอย่างได้ลงตัว นั้นก็คือ Step Up นั้นเอง
หนังที่ถูกใจวัยรุ่นเป็นอย่างมาก และชุบชีวิตหนังเต้นอีกครั้ง

ปี 2008 หนังกลับมาอีกครั้ง หวังที่จะเรียกคนดูเดนตายที่รักหนังเรื่องนี้กลับไปชมภาคต่ออีกครั้ง
แต่ที่ทางผู้สร้างลืมเรียกกลับมาด้วยนั้นก็คือ ผกก. Anne Fletcher (27 Dresses) นั้นเอง

ภาคแรกเป็นหนังที่ไม่ได้อลังการ หวือหวาอะไรมากมาย แต่ในตัวหนังกลับมีสเน่ห์ดึงดูดอย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่ง ผกก. ในภาคแรกผสมดราม่า การเต้น และการดำเนินเรื่องได้ดี และน่าติดตาม
แต่มาในภาคที่ 2 หนังเริ่มต้นด้วยประเด็นที่ดีกว่าภาคแรก คือการให้ ไทเลอร์ เกจ ( Channing Tatum รับเชิญในบทเล็กๆ)
มาดวลกับ แอนดี้ (Briana Evigan) ซึ่งทำให้เธอต้องมาเรียนที่ที่ ไทเลอร์เคยมาแล้วประสบความสำเร็จ
แต่หลังจากประเด็นที่เปิดได้น่าสนใจแล้วนั้น ผกก.Jon Chu กลับไม่สามารถที่จะสร้าง
สเน่ห์อันน่าหลงใหลได้ในภาค 2 ทั้งประเด็นความรักที่ดูกร่อยๆ การฝึกซ้อมที่จากอ่อนหัด
จนกลายเป็นมืออาชีพก็ดูไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย ดูเหมือน ผกก. จะใส่ความเป็นชายในหนังมากไปหน่อย
ซึ่งต่างจากภาคแรกที่ หนังดูนุ่มนวลและน่าหลงใหลกว่าเยอะ

แต่ไม่เถียงเลยที่ฉากการเต้นต่างๆ โลเกชั่น เพลงประกอบ สถานที่ ดูเจ๋งกว่าภาคแรก
ยิ่งฉากสุดท้ายที่ถ้าดวลเต้นกันใน The Street ยิ่งดูยิ่งใหญ่สมเป็นไคล์แมกซ์

ซึ่งฉากการเต้นที่ออกแนว B-Boy , Break Dance และหลายๆแนวรวมกัน
ซึ่งภาคนี้การเต้นสนุกกว่าเห็นๆเลย อย่าไปเครียดกับเนื้อเรื่องมากนัก
ซึ่งน่าชมตรงที่ อย่างน้อย ผกก. Jon Chu ยังเล่าเรื่องได้กระชับ รวดเร็ว ฉับไว
ซึ่งต่างจากภาคแรกตรงที่ บางที่มันก็เอื่อยนิดๆครับ

สรุปแล้วว่า Step Up 2 The Street สามารถสร้างความบันเทิงและความสนุกสนานได้เช่นเคย
แต่สเน่ห์ในหนังนั้นหายไปหมด ยิ่งทำให้ภาคแรกดูคลาสสิกไปเลยครับ

เนื้อเรื่อง เปิดเรื่องได้ดี ดำเนินเรื่องได้พอใช้ ประเด็นในหนังที่มุ่งหวังท่จะไป The Street แข็งแรงมากๆ
จนเนื้อเรื่องในหนังกลับอ่อนไป ทั้งประเด็นความรัก และปัญหาในชีวิต
เอฟเฟกต์ องค์ประกอบ สถานที่ในหนังทำออกมาได้ดีกว่าภาคแรก
โดยเฉพาะฉากเต้นกลางสายฝนที่อาจทำให้ใครหลายๆคนต้องประทับใจจนอยากมาเต้นตามแน่นอน
การแสดง Briana Evigan แสดงเป็น Andie ได้ตามมาตรฐาน เช่นเดียวกับ Robert Hoffman ที่รับบท Chase เช่นกัน
ที่เหลือเป็นได้แค่ น้ำจิ้มที่ไร้ความโดดเด่นครับ
ความบันเทิง สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับฉากเต้น ที่อลังการกว่าเดิม น่าตื่นเต้นตื่นตากว่าเดิมมาก
คุณภาพ แต่สเน่ห์อันน่าหลงใหลที่ในภาคแรกสร้างมาทำให้คนดูปลื้มกลับหายไป

มาดูคะแนนกันเลยครับ
เนื้อเรื่อง 7/10
เอฟเฟกต์ 7.5/10
การแสดง 7/10
ความบันเทิง 9.5/10
คุณภาพ 6/10
คะแนนรวม 37/50 ให้เกรด B ครับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้ B- ครับ
ถือว่าเป็นการรอคอยที่ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ไปสนุกสนานและโยกตามจังหวะในโรงกันดีกว่าครับ

สนุกมากๆเลย ดูตอนฉาก dance สุดท้าย ขนลุกเลย ยอดเยี่ยมจริงๆๆ Dance is freedom จริงๆ ไปดูกันเยอะๆนะ อยากจะลุกขึ้นมาเต้นเลย อิอิ ให้ 9.5 แต่ไม่มีเลยให้ 10 ไปเลย ....... (^^)

ภาคนี้โอเคเลยทีเดียว

เนื้อเรื่องคล้ายๆภาคแรก แต่ทำออกมาย่อยกว่า ดูขยายบทไป
ส่วนการเต้น Entertain ภาคนี้ทำออกมาสนุกครับ ส่วนตัวชอบมากๆ Soundtrack ก็เพราะ

ถ้าใครชอบแนวนี้ไปดูไม่ผิดหวังแน่นอน
Grade B+

โดยรวมแล้วก็โอเค ไม่ต่างจากภาคเก่าเท่าไรทั้งเนื้อเรื่องและท่าเต้นแต่เต้นที่ออกแนวซะเป็นhiphopซะส่วนใหญ่อาจจะมี poping และ hit นิดหน่อยและที่โดนใจที่สุดคงเป็นฉากที่เต้น ตอนฝนตก แต่ว่าไปก็อยากให้เรื่อง stomp the yard ทำภาคสองจัง เพราะชอบทั้งสองเรื่องพอๆกันเลย ^^