เกร็ดน่ารู้จาก Monsters vs. Aliens
เกร็ดน่ารู้
- ให้เสียงพากย์ภาษาไทยโดยนักแสดงดังหลายคน ได้แก่ เอมี่ - เอมิกา กลิ่นประทุม พากย์เป็น ซูซาน หรือ ไจนอร์มิกา, ดอม เหตระกูล พากย์เป็น เดอะ มิสซิง ลิงก์, มิค - บรมวุฒิ หิรัญยัษฐิติ พากย์เป็น บ๊อบ, ฮาร์ท - สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล พากย์เป็น ด็อกเตอร์ค็อกโรช พีเอช. ดี. และ บ๊อบบี้ - นิมิตร ลักษมีพงศ์ พากย์เป็น กาลแลกซาร์
- ผู้กำกับทั้งสองคน ร็อบ เลตเตอร์แมน และ คอนราด เวอร์นอน เติบโตมากับภาพยนตร์สัตว์ประหลาดที่โด่งดังในยุค 50 พวกเขาจึงนำศิลปะจากทั้งตัวภาพยนตร์และภาพใบปิดของเรื่องเหล่านั้น มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างแอนิเมชันเรื่องนี้ รวมทั้งสื่ออื่นๆ ที่มีแนวศิลปะคล้ายกัน เช่น หนังสือการ์ตูนสยองขวัญ Rex Havoc และนิตยสาร แมด ที่มีผลงานของนักวาดภาพ แจ็ก เดวิส, ดอน มาร์ติน และ แจ็ก ริกคาร์ด
- คอนราด เวอร์นอน ที่มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกับ ร็อบ เลตเตอร์แมน เป็นทั้งผู้กำกับ นักวาดภาพสตอรีบอร์ด และนักพากย์ด้วย เขาเคยพากย์เสียงตัวละครมนุษย์ขนมผิงจากเรื่อง Shrek (2001) ทักษะการเลียนแบบเสียงของเขาทำให้ผู้สร้างพัฒนาเนื้อเรื่องไปได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอคัดตัวนักแสดงที่จะมาพากย์เสียงตัวละคร
- ร็อบ เลตเตอร์แมน และ คอนราด เวอร์นอน ร่วมกันกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่แยกงานกันทำ แต่ใช้วิธีทำงานแบบติดต่อและปรึกษาพูดคุยกันอยู่เสมอ
- ผู้อำนวยการสร้าง ลิซา สจวร์ต ได้เข้ามาอำนวยการสร้างแอนิเมชันเรื่องนี้ ทั้งที่ปกติเธออำนวยการสร้างแต่ภาพยนตร์ที่ใช้คนแสดง แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังมีจุดร่วมกับภาพยนตร์ที่เธอเคยสร้างมา นั่นคือเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครหญิงที่มีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกัน
- รีส วิตเธอร์สปูน พากย์เสียงเป็น ซูซาน หรือ ไจนอร์มิกา ผู้หญิงที่สูงเท่าตึกห้าชั้น แต่ตัวจริงของเธอกลับเป็นคนตัวเล็กมาก คือสูงเพียง 5 ฟุต 2 นิ้ว หรือ 157 เซนติเมตรเท่านั้น
- ตัวละคร บ็อบ ย่อมาจากคำว่า เบนโซอิก ออสไตเลซีน ไบคาร์บอเนต เป็นเจลาตินราดหน้าขนมหวานที่ผ่านการปรับแต่งทางเคมีเข้ากับมะเขือเทศที่ผ่านการปรับแต่งพันธุกรรม
- นักแสดงตลก เซธ โรเกน ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับงานพากย์เสียง เขาเคยพากย์เสียงในแอนิเมชัน Kung Fu Panda (2008) เป็นตัวละคร แมนทิส ที่ว่องไวเหมือนจรวด แต่ในเรื่องนี้เขากลับได้พากย์เสียงเป็น บ็อบ ผู้เชื่องช้าเหมือนเต่า
- เรนน์ วิลสัน ผู้พากย์เสียง กาลแลกซาร์ ไม่เคยทำงานเกี่ยวกับภาพยนตร์การ์ตูนมาก่อน
- ผู้กำกับ ร็อบ เลตเตอร์แมน ไปทาบทาม สตีเวน โคลแบรต์ มาพากย์เสียงท่านประธานาธิบดี เพราะถูกใจที่ สตีเวน พูดวิจารณ์ จอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาได้อย่างเผ็ดร้อน
- เนื่องจาก สตีเวน โคลแบรต์ ผู้พากย์เสียงท่านประธานาธิบดี มีฝีปากจัดจ้าน ผู้สร้างจึงอนุญาตให้เขาพากย์เสียงแบบด้นสดได้ และบ่อยครั้งที่ผู้สร้างวาดรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อสอดแทรกประโยคเด็ดของ สตีเวน ลงไปในภาพยนตร์
- ผู้สร้างสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร นายพล ดับเบิลยู. อาร์. มอนเกอร์ ที่พากย์เสียงโดย คีเฟอร์ ซัตเธอร์แลนด์ กับท่านประธานาธิบดี ที่พากย์เสียงโดย สตีเวน โคลแบรต์ โดยอ้างอิงจากตัวละครที่ จอร์จ ซี สก็อตต์ และ ปีเตอร์ เซลเลอร์ส แสดงไว้ในภาพยนตร์เรื่อง Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb (1964)
- ปกติแล้วผู้พากย์เสียงจะแยกกันบันทึกเสียงทีละคน แต่ในฉากหนึ่ง ผู้สร้างให้ พอล รัดด์ ที่พากย์เป็น ดีเรก และ รีส วิตเธอร์สปูน ที่พากย์เป็น ซูซาน เข้ามาบันทึกเสียงสนทนาโต้ตอบกันภายในบูธเดียวกัน
- ทั้ง พอล รัดด์ และ ดีเรก ตัวละครที่เขาพากย์เสียง ต่างก็ไม่ชอบสัตว์ประหลาดเหมือนกัน พอล ยอมรับว่าเขากลัวทุกอย่างที่ดูเหมือนสัตว์ประหลาดมาตั้งแต่เด็กแล้ว โดยเฉพาะสัตว์ประหลาดจากทะเลดำที่มีหน้าตาเหมือนปลา
- ตัวละครก้อนเจลาติน บ็อบ ที่พากย์เสียงโดย เซธ โรเกน เป็นงานยากชิ้นใหญ่ที่ผู้สร้างใช้เวลาออกแบบนานมากกว่าหนึ่งปี
- เนื่องจากมีฉากที่ต้องทำลายสะพานโกลเดนเกต ผู้ออกแบบงานสร้าง เดวิด เจมส์ จึงต้องศึกษาถึงโครงสร้างของสะพาน โดยถ่ายภาพสะพานอันเป็นสถาปัตยกรรมจากยุค 30 นี้จากทุกมุม รวมถึงจากด้านใต้สะพานด้วย
- ผู้สร้างสร้างฉากที่เหล่าสัตว์ประหลาดไล่ล่าหุ่นยนต์ยักษ์ โดยได้รับอิทธิพลจากฉากไล่ล่ากลางซานฟรานซิสโกในภาพยนตร์ Bullitt (1968) ที่แสดงนำโดย สตีฟ แม็กควีน และหลายๆ ฉากของ คาร์ล มัลเดน และ ไมเคิล ดักลาส ในละครแนวสืบสวนเรื่อง The Streets of San Francisco (1972)
- ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้สร้างได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นที่เรียกว่า ริก ซึ่งใช้ควบคุมตัวละครหรือวัตถุในแอนิเมชันได้เหมือนการเชิดหุ่นกระบอก โดยผู้สร้างใช้เทคนิคนี้กับสะพานที่ซับซ้อนและใหญ่โต เมื่อพวกเขาวาดภาพตัวละครลงไป การริกจะทำให้สะพานมีปฏิกิริยาอันสมจริงตามการเคลื่อนไหวของตัวละคร จากนั้นศิลปินวิชวลเอฟเฟกต์จึงค่อยเพิ่มเศษซากปรักหักพังและฝุ่นละอองเข้าไป
- ขณะที่ที่ปรึกษาการสร้างแอนิเมชัน ไลน์ แอนเดอร์สัน แสดงท่าทางเป็น ซูซาน หรือ ไจนอร์มิกา ที่พากย์เสียงโดย รีส วิตเปอร์สปูน โดยเดินอยู่ในแบบจำลองฉากเมือง แล้วให้ตากล้องถ่ายภาพเอาไว้ เธอเผลอไปเหยียบแบบจำลองต่างๆ เช่น รถยนต์ เสาไฟ หรือต้นไม้ แล้วแสดงท่าทางเงอะงะหรือกล่าวขอโทษออกมาตามสัญชาตญาณ ผู้สร้างเห็นว่านั่นเป็นปฏิกิริยาที่เหมาะกับ ซูซาน พอดี จึงนำมาใช้ในภาพยนตร์ด้วย
- เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติเรื่องแรกของค่ายภาพยนตร์ ดรีมเวิร์คส พวกเขาใช้เทคนิค อินทรู ทรีดี ที่พัฒนาโดยบริษัท ดรีมเวิร์คส์ และ อินเทล เทคนิคนี้ทำให้ผู้ชมมีอิสระที่จะมองไปทางไหนก็ได้ภายในฉากนั้นๆ ผู้สร้างจึงต้องใส่ใจเรื่องการกำหนดจุดดึงดูดสายตา โดยใช้การจัดแสง เสียง หรือการวางองค์ประกอบภาพ
- ภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครที่มีส่วนสูงหลากหลายมาก ได้แก่ ซูซาน หรือ ไจนอร์มิกา สูง 49 ฟุต 11 นิ้ว หรือ 15 เมตร ส่วนหนอนยักษ์ อินเซ็กโตซอรัส สูงถึง 350 ฟุต หรือ 106 เมตรครึ่ง และยังมีตัวละครอื่นๆ ที่สูง 6 ฟุต หรือ 8 ฟุต ดังนั้นผู้สร้างจึงต้องใส่ใจเรื่องสัดส่วนของตัวละครเป็นอย่างดี
- หลังจากผู้สร้างสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาในแบบสามมิติเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงแปลงภาพยนตร์ให้เป็นรูปแบบสองมิติด้วย เพื่อให้สามารถนำไปฉายในโรงภาพยนตร์ที่ไม่สามารถฉายภาพยนตร์ดิจิตอลสามมิติได้ ภาพยนตร์สองชุดนี้จะมีจังหวะความเร็วแตกต่างกัน เพราะบางช็อตที่เป็นสามมิติอาจมีความยาวมากกว่า เพราะสมองมนุษย์ไม่สามารถซึมซับรายละเอียดเหล่านั้นได้เร็วเท่าตอนเป็นภาพสองมิติ
- เครื่องบินรบในเรื่องเป็นเครื่องบินเร็วรุ่น เอฟ-14 ทอมแคตส์ ส่วนเฮลิคอปเตอร์เป็นรุ่น เอเอช-64 อปาเชส์
- ในฉากที่เครื่องบินรบกำลังโจมตีหุ่นยนต์ต่างดาว หนึ่งในขีปนาวุธที่ยิงออกไปประดับด้วยสัญลักษณ์ที่เขียนว่า E.T. Go Home ซึ่งเป็นประโยคดังจากภาพยนตร์ E.T.: The Extra-Terrestrial (1982) นอกจากนี้ ผู้สร้างยังหยิบยืมดนตรีประกอบจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมาประกอบฉากนี้อีกด้วย
- ผู้สร้างออกแบบเครื่องบินขนาดใหญ่ที่ใช้ขนส่งเหล่าสัตว์ประหลาดไปยังซานฟรานซิสโก โดยอ้างอิงจากเครื่องบิน กุปปี ซึ่งเครื่องบิน กุปปี ลำแรกสร้างขึ้นเมื่อปี 1962 โดย แอโร สเปซไลน์ส ออฟ แคลิฟอร์เนีย เพื่อใช้ขนส่งชิ้นส่วนของยานอวกาศของ นาซา
- ตัวละครนายพล ดับเบิลยู. อาร์. มอนเกอร์ ที่พากย์เสียงโดย คีเฟอร์ ซัตเธอร์แลนด์ ติดเข็มกลัดประดับไว้บนเครื่องแบบของเขา หนึ่งในเข็มกลัดเหล่านั้นเป็นรูปหัวของตัวละคร เชร็ค จากภาพยนตร์แอนิเมชัน Shrek (2001) ผลงานของ ดรีมเวิร์คส์
วันนี้ในอดีต
Hancockเข้าฉายปี 2008 แสดง Will Smith, Jason Bateman, Charlize Theron
Public Enemy Number One (Part 1)เข้าฉายปี 2009 แสดง Vincent Cassel, Cecile De France, Gerard Depardieu
Terminator Genisysเข้าฉายปี 2015 แสดง Emilia Clarke, Arnold Schwarzenegger, Jai Courtney
เกร็ดภาพยนตร์
- The Martian - แรกสุด แอนดี เวียร์ ผู้เขียนฉบับนิยาย เผยแพร่ The Martian ผ่านบล็อกส่วนตัวเพื่อความสนุก ต่อมาคนอ่านขอให้เขาเผยแพร่ในรูปแบบที่สามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ได้ หลังจากนั้นคนอ่านก็ขอให้เขาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์อเมซอน แอนดี จึงเผยแพร่ในเว็บดังกล่าวโดยตั้งราคาหนังสือของเขา 0.99 เหรียญสหรัฐ อ่านต่อ»
- Hotel Transylvania 2 - เป็นภาพยนตร์ภาคต่อของ Hotel Transylvania (2012) อ่านต่อ»
เปิดกรุภาพยนตร์
Deliver Us From Evil
เรื่องราวของอินนัม (ฮวังจองมิน) นักฆ่าฝีมือดีที่พบว่าญาติของเขาหายตัวไปในประเทศไทย จึงเดินทางมาเพื่อตามหาความจริง ในขณะ...อ่านต่อ»