เกร็ดน่ารู้จาก บุปผาราตรี 3.1

เกร็ดน่ารู้
  • เป็นภาพยนตร์ภาคต่อจาก บุปผาราตรี (2003) และ บุปผาราตรี เฟส 2 (2005) กำกับโดย ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค คนเดียวกันทั้งสามภาค ภาคนี้มีเนื้อหาต่อเนื่องมาจากสองภาคแรก แต่เว้นระยะห่างเป็นเวลา 10 ปีต่อมา
  • ผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค เล่าว่าภาพยนตร์ภาคนี้จะโหดและน่ากลัวกว่าภาคก่อนๆ ถึงขั้นที่ บุปผา ที่รับบทโดย พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ฆ่าคนเป็นครั้งแรก เนื่องจาก บุปผา รู้สึกกดดันจากเหตุการณ์ในสองภาคแรกมามากจนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอาฆาตในภาคนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้สร้างใช้มุกตลกเสียดสีเหตุการณ์ร่วมสมัยและเรื่องราวความรักซึ้งๆ เข้ามาแทรก ไม่ให้ผู้ชมอึดอัดกับความรุนแรงมากเกินไป
  • พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ที่รับบท บุปผา และ โอ้ - มาริโอ้ เมาเร่อ ที่รับบท หรั่ง เคยแสดงภาพยนตร์ร่วมกันมาก่อนในเรื่อง รักแห่งสยาม (2007)
  • ถ่ายทำที่ ออสการ์อพาร์ตเมนต์ หอพักเดิมที่ถ่ายทำในสองภาคแรก ทำให้ทุกคนในกองถ่ายคุ้นเคยกับสถานที่เป็นอย่างดี แม้จะมีการปรับปรุงทาสีใหม่และติดป้ายหอพักใหม่ก็ตาม ผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค เผยว่าหอพักนี้ไม่ได้น่ากลัวเหมือนในภาพยนตร์ เพราะไม่มีเหตุการณ์สยองขวัญใดๆ เกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำ
  • นักแสดงสมทบที่เคยแสดงในภาคก่อนๆ และได้กลับมาสร้างสีสันในภาคนี้อีกครั้ง ได้แก่ อังเคิล - อดิเรก วัฏลีลา, บุญถิ่น ทวยแก้ว, อ่าง เถิดเทิง และ สมเล็ก - สมชาย ศักดิกุล
  • เต๋า - สมชาย เข็มกลัด เกือบได้มารับบทสมทบในภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค เห็นว่า ไม่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างออกมาอีกกี่ภาค ผู้ที่รับบทเป็น บุปผา ควรจะเป็น พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ คนเดิมเท่านั้น
  • เนื่องจากผู้กำกับและผู้เขียนบท ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมายาวเกินไป แต่ไม่อยากตัดส่วนใดทิ้ง และไม่อยากโยกไปเป็นภาคสี่เพราะมีเนื้อหาเดียวกัน ต้อม จึงตัดสินใจแบ่งภาพยนตร์ภาคสามนี้ออกเป็นสองส่วน คือภาค 3.1 และภาค 3.2 โดยวางแผนจะออกฉายภายในปีเดียวกัน โดยเว้นระยะห่างเพียงแค่ 3-4 เดือน
  • ผู้สร้างปรับภาพลักษณ์ของตัวละคร บุปผา ที่รับบทโดย พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ในภาคนี้ให้ดูสวยขึ้นกว่าภาคก่อนๆ เนื่องจากต้องการให้ บุปผา มีภาพลักษณ์ที่ทั้งสวยดึงดูดใจและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน พลอย จึงขอให้ช่างแต่งหน้าปัดขนตาของเธอให้งอนยาวด้วย แต่ก็มีบางฉากที่ พลอย ต้องแต่งหน้าให้ดูเหมือนปากฉีกแบบน่ากลัวมากเช่นกัน
  • ตัวละคร บุปผา ที่รับบทโดย พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ในภาคนี้ ไว้ผมยาวสยายมากกว่าในสองภาคแรก แม้ผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค จะตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะให้ พลอย สวมวิกผมสั้น แต่ พลอย เสนอว่าผมสั้นนั้นดูน่ารักเกินไป ผิดจากผมยาวแบบยุ่งๆ ฟูๆ ที่ทำให้ดูน่ากลัวได้มากกว่า
  • ผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค วางแผนไว้ว่าจะสร้าง บุปผาราตรี ต่อไปอีกหลายภาค โดยทุกภาคจะมี พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ กลับมารับบทเป็น บุปผา พร้อมประชันบทบาทกับนักแสดงใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในทุกภาค ดังเช่นในภาคนี้ ที่มี โอ้ - มาริโอ้ เมาเร่อ มาเป็นนักแสดงชูโรงในบท หรั่ง
  • ตัวละคร บุปผา ที่รับบทโดย พลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ใช้เลื่อยเป็นอาวุธในภาคแรก และใช้เข็มเย็บกระสอบในภาคสอง ส่วนในภาคนี้ บุปผา ใช้มีดโกนหนวดแบบที่ใช้ในร้านตัดผมเป็นอาวุธร้ายที่พกติดตัวตลอด
  • โอ้ - มาริโอ้ เมาเร่อ ผู้รับบท หรั่ง เล่าถึงบรรยากาศในกองถ่ายว่าจะพักรับประทานอาหารเที่ยงตรงเวลาเสมอ นอกจากนี้ยังเลิกงานตอนเที่ยงคืนเพื่อให้ทุกคนรีบไปพักผ่อน เพราะผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค เห็นว่าหากนักแสดงและผู้สร้างง่วงนอน งานก็จะออกมาไม่ดี
  • ผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค ตั้งชื่อภาษาอังกฤษของภาพยนตร์ภาคสามนี้ว่า Rahtree Reborn ซึ่งพ้องกับภาคสองที่ชื่อ Rahtree Returns นอกจากนี้ ต้อม ยังวางแผนไว้คร่าวๆ ว่าในภาคต่อๆ ไปก็จะใช้คำภาษาอังกฤษที่พ้องกันเช่นนี้มาตั้งชื่ออีก เช่นคำว่า Revenge Recantation Recycle Reunion หรือ Republic เป็นต้น
  • ผู้กำกับ ต้อม - ยุทธเลิศ สิปปภาค เล่าว่าผลตอบรับของ บุปผาราตรี (2003) ซึ่งเป็นภาคหนึ่งนั้น มีคนจำนวนมากบอกว่าภาพยนตร์ตลกดีแต่น่ากลัวเกินไป เมื่อสร้างภาคสอง บุปผาราตรี เฟส 2 (2005) ต้อม จึงลดความน่ากลัวลง แต่กลับทำให้ผู้ชมบางกลุ่มเห็นว่าน่ากลัวน้อยเกินไป ในภาคสามนี้ ต้อม จึงลองสร้างโดยไม่เอาใจใครเป็นพิเศษ แล้วค่อยพิจารณาจากเสียงตอบรับอีกครั้งว่าในภาคต่อๆ ไปควรจะมีทิศทางการสร้างอย่างไร

วันนี้ในอดีต

  • ชั่วฟ้าดินสลายชั่วฟ้าดินสลายเข้าฉายปี 2010 แสดง อนันดา เอเวอริงแฮม, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์
  • AzumiAzumiเข้าฉายปี 2004 แสดง Aya Ueto, Shun Oguri, Hiroki Narimiya
  • QuillQuillเข้าฉายปี 2004 แสดง Kaoru Kobayashi , Kippei Shiina , Teruyuki Kagawa

เกร็ดภาพยนตร์

  • Spectre - ตอนที่แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ โมนิกา เบลลุชชี ผู้รับบท ลูเซีย มีอายุ 50 ปี ทำให้เธอเป็นนักแสดงหญิงที่อายุมากที่สุดที่รับบทสาวของ เจมส์ บอนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ออนเนอร์ แบล็กแมน เป็นเจ้าของตำแหน่งนักแสดงหญิงที่อายุมากที่สุดที่รับบทดังกล่าว โดย ออนเนอร์ แสดง Goldfinger (1964) ตอนอายุ 38 ปี นอกจากนี้ โมนิกา ยังเกิดปี 1964 ปีเดียวกับที่ Goldfinger (1964) ออกฉายด้วย อ่านต่อ»
  • The Vatican Tapes - ชอว์น คราฮาน มือเพอร์คัสชันและผู้ก่อตั้งวง สลิปน็อต ปรากฏตัวตอนจบของภาพยนตร์ในบทของผู้ถูกสัมภาษณ์ อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Shadow In The Cloud Shadow In The Cloud เรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกัปตัน มอร์ด การ์เร็ตต์ (โคลอี เกรซ มอเรตซ์) เข้าร่วมกับลูกเรือชายล้วนประจำเครื...อ่านต่อ»