เกร็ดน่ารู้จาก K-20

เกร็ดน่ารู้
  • สร้างจากนิยายที่ตีพิมพ์เมื่อปี 1989 เรื่อง Kaijin Niju Menso Den ซึ่ง โซ คิตามุระ เขียนโดยดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ เอโดงาวะ รัมโป ผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งนิยายลึกลับของญี่ปุ่น นิยายที่มีผู้อ่านมากกว่า 100 ล้านคนในญี่ปุ่นเรื่องนี้ บรรจุอยู่ใน Boy Detectives หนังสือชุด 26 เล่ม ของ รัมโป ส่วนในประเทศไทยตีพิมพ์เพียงเล่มเดียว คือ แก๊งค์จิ๋วเจาะคดี ตอน จอมโจรยี่สิบหน้า
  • โซ คิตามูระ ผู้เขียนนิยาย Kaijin Niju Menso Den ซึ่งเป็นต้นแบบภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นนักแสดงรับเชิญที่ปรากฏตัวในฉากที่จอมโจรยี่สิบหน้าปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งแรก
  • ฉากหลังในเรื่องคือประเทศญี่ปุ่น ปี ค.ศ. 1949 เช่นเดียวกับในนิยายต้นฉบับ แต่ส่วนที่ต่างไปคือ ภาพยนตร์ไม่ได้อิงบริบทของยุคสมัยนั้นตามประวัติศาสตร์จริง ประเทศญี่ปุ่นจึงไม่ได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สอง มีเมืองหลวงสมมติชื่อ เทอิโตะ และระบบศักดินายังคงรุ่งเรือง
  • เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สามของผู้กำกับ ชิมาโกะ ซาโตะ ที่มีตัวละครตำรวจนักสืบ โคโงโระ อาเคจิ ซึ่งในเรื่องนี้รับบทโดย โทรุ นากามุระ นอกจากนี้ ชิมาโกะ ยังเคยเขียนบทเกี่ยวกับนักสืบชื่อดัง โคสึเกะ คินดะอิจิ มาก่อนแล้วด้วย
  • ผู้กำกับและผู้เขียนบท ชิมาโกะ ซาโตะ ดัดแปลงภาพยนตร์เรื่องนี้โดยยึดตามนวนิยายเป็นหลัก เมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาส่วนใด เธอจะขออนุญาตผู้เขียนนิยาย โซ คิตามุระ เสียก่อน รวมถึงต้องขออนุญาต เคนทาโระ ฮิราอิ หลานชายของ เอโดงาวะ รัมโป นักเขียนที่เป็นเจ้าของเรื่องดั้งเดิมด้วย
  • ตอนที่ ทาเคชิ คาเนชิโร่ ผู้รับบท เฮอิคิจิ ถามผู้กำกับและผู้เขียนบท ชิมาโกะ ซาโตะ ว่า เฮอิคิจิ เป็นตัวละครแบบเท่หรือแบบตลก เธอตอบทันทีว่าเป็นแบบตลก เนื่องจากไม่ต้องการให้ตัวละครดูสมบูรณ์แบบเกินไป
  • ร่วมทุนสร้างโดยบริษัท นิปปอน เทเลวิชัน ผู้สร้างภาพยนตร์ Always: Sunset on Third Street (2005) และบริษัท โรบอท โดยมีคณะผู้สร้างภาพวิชวลเอฟเฟกต์จากบริษัท ชิโรงุมิ ที่ฝากผลงานไว้ใน Always: Sunset on Third Street มาดูแลการสร้างวิชวลเอฟเฟกต์ทั้งหมด โดยมี ทาเคชิ ยามาซากิ ผู้กำกับ Always: Sunset on Third Street มาช่วยดูแลงานส่วนนี้
  • ทาเคชิ ยามาซากิ ที่มาช่วยงานแผนกวิชวลเอฟเฟกต์ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เพียงแค่ออกแบบฉาก อาทิ หอคอยอิมพีเรียลที่ปรากฏในฉากเปิดเท่านั้น แต่เขายังช่วยคิดบทพูดในหลายๆ ช่วงด้วย เช่น บทพูดตอนโกรธหรืออายของ เฮอิคิจิ ที่รับบทโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่ และประโยคปิดท้ายภาพยนตร์ เป็นต้น
  • แผนกวิชวลเอฟเฟกต์ใช้เวลาถึง 3 เดือนในการสร้างฉากเปิดเรื่องเพียงฉากเดียว
  • ตอนหนึ่งของฉากไล่ล่า ตัวละคร เฮอิคิจิ ที่รับบทโดย ทาเคชิ คาเนชิโร่ ต้องคว้า โยโกะ ที่รับบทโดย ทาคาโกะ มัตสึ ไว้ได้กลางอากาศ ฉากนี้นักแสดงผาดโผนชาวรัสเซียสองคนรับหน้าที่แสดงแทน โดยพวกเขาใช้ศิลปะที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสที่เรียกว่า ปาร์คูร์ แบบที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่อง Casino Royale (2006) ศิลปะดังกล่าวนี้คือการเคลื่อนไหวร่างกายให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อข้ามผ่านสิ่งกีดขวางต่างๆ โดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยใดๆ
  • ผู้เรียบเรียงดนตรีประกอบ นาโอกิ ซาโตะ เลือกเพลง Shock of the Lightning จากอัลบั้ม Dig Out Your Soul ที่ออกวางแผงเมื่อเดือนตุลาคม 2008 ของ โอเอซิส วงร็อกที่โด่งดังของอังกฤษ มาใช้เป็นเพลงประกอบหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับและผู้เขียนบท ชิมาโกะ ซาโตะ เคยศึกษาด้านภาพยนตร์จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ จึงคุ้นเคยกับวงดนตรีวงนี้ดี
  • แม้ในตอนจบภาพยนตร์จะมีการทิ้งท้ายให้สามารถมีภาคต่อได้ แต่ผู้กำกับและผู้เขียนบท ชิมาโกะ ซาโตะ ยอมรับว่าคณะผู้อำนวยการสร้างยังไม่ได้เตรียมสร้างภาคต่อ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้มีความเสี่ยงสูง เพราะไม่ได้สร้างจากการ์ตูน ละครทีวี หรือนิยายที่ได้รับความนิยมในวงกว้างมากๆ เหมือนภาพยนตร์ทุนสูงเรื่องอื่นๆ ของญี่ปุ่น

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • 1920 London1920 Londonเข้าฉายปี 2016 แสดง Sharman Joshi, Meera Chopra, Vishal Karwal

เกร็ดภาพยนตร์

  • Lucy - เดิมที แองเจลินา โจลี คือนักแสดงผู้รับบท ลูซี แต่ถอนตัวไป สการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน จึงเข้ามารับบทแทน อ่านต่อ»
  • Kiki's Delivery Service - สร้างมาจากหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง Kiki's Delivery Service เขียนโดย เอโกะ คาดาโนะ หรือฉบับภาษาไทยชื่อ กำเนิดแม่มดกล้าแก่น อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Little Monsters Little Monsters คุณครูพี่เลี้ยงพาเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลมาทัศนศึกษา ณ ฟาร์มแห่งหนึ่ง แต่หารู้ไม่ว่าที่ฟาร์มแห่งนั้นกำลังระบาดไปด้วยไวรัส...อ่านต่อ»