เกร็ดน่ารู้จาก Whip It

เกร็ดน่ารู้
  • สร้างมาจากหนังสือ Derby Girl ของ ชอว์นา ครอส ผู้ซึ่งทำงานเป็นพนักงานบริษัทในตอนกลางวัน และเป็นนักกีฬาโรลเลอร์เดอร์บี ที่มีชื่อในการแข่งว่า แมกกี เมย์เฮม ในตอนกลางคืน โดย ชอว์นา แข่งขันในลีก ลอส แอนเจลิส เดอร์บี ดอลล์ส ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2003 หนังสือ Derby Girl ที่เธอเขียนนั้นอ้างอิงมาจากชีวิตจริงของนักกีฬาในลีกคนหนึ่ง
  • หลังจากได้สิทธิ์การสร้างภาพยนตร์แล้ว นักแสดงดัง ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้รับหน้าที่อำนวยการสร้าง พยายามเฟ้นหาผู้กำกับที่เหมาะสม และมีการนัดพูดคุยกับบางคนไปแล้ว แต่ในที่สุด ดรูว์ ตัดสินใจลงมากำกับเอง โดยถือเป็นงานกำกับครั้งแรกของเธอ นอกจากนี้ เธอยังแสดงเป็นตัวละครชื่อ สแมชลีย์ ซิมป์สัน ด้วย
  • กีฬาโรลเลอร์เดอร์บี ซึ่งนักกีฬาจะต้องสวมรองเท้าสเก็ต และไล่ตามอัดกันด้วยหมัดและศอกภายในสนามรูปไข่ เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงยุคเศรษฐกิจตกต่ำ และได้รับความนิยมมากในยุค 60-70 ในช่วงปี 2000 กีฬานี้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เริ่มมีการตั้งลีกท้องถิ่นขึ้นตามหัวเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐอเมริกา จุดเด่นของกีฬานี้คือเป็นกีฬาของผู้หญิง มีเครื่องแต่งกายฉูดฉาด มีทัศนคติแบบสาวพังก์ร็อก รวมถึงนามแฝงเท่ๆ ที่นักกีฬาใช้ในการแข่งขัน
  • ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้กำกับและผู้รับบท สแมชลีย์ ซิมป์สัน ร่วมกับผู้อำนวยการสร้าง แบร์รี เมนเดล ศึกษาข้อมูลเพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้จากสารคดีเกี่ยวกับโรลเลอร์เดอร์บี และภาพยนตร์จากยุค 70 ที่กีฬาชนิดนี้กำลังเป็นที่นิยม นอกจากนี้พวกเขายังต้องสรรหาแรงบันดาลใจ ศึกษาเรื่องมุมกล้อง การออกแบบงานสร้าง และเพลงประกอบ อันเป็นส่วนผสมที่สำคัญของภาพยนตร์
  • ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้กำกับและผู้รับบท สแมชลีย์ ซิมป์สัน เล่าว่า เอลเลน เพจ แสดงเป็น บลิสส์ คาเวนดาร์ อย่างมีพัฒนาการ โดยในตอนแรก บลิสส์ ยังเดินคล้ายนกพิราบและมีภาษาร่างกายที่ดูไม่มั่นใจ แต่ตอนสุดท้าย บลิสส์ จะมีท่าทางที่เติบโตขึ้น จากสาวในเมืองเล็กกลายเป็นสาวนักกีฬาโรลเลอร์เดอร์บี
  • เอลเลน เพจ รับบทเป็น บลิสส์ คาเวนดาร์ ซึ่งมีชื่อในการแข่งโรลเลอร์เดอร์บีว่า เบบ รูธเลสส์ ส่วนตัว เอลเลน เองซึ่งรู้สึกชอบกีฬาชนิดนี้มากขึ้นหลังจากแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้คิดนามแฝงของเธอเองไว้เช่นกันว่า เฮิร์ต วอนนากุต โดยตั้งชื่อตามนักเขียนคนโปรดของเธอ เคิร์ต วอนนากุต
  • ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้กำกับและผู้รับบท สแมชลีย์ ซิมป์สัน นำภาพยนตร์เรื่องโปรดของเธอ Breaking Away (1979) มาใช้เป็นแรงบันดาลใจหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากนี้เธอยังทาบทาม แดเนียล สเติร์น ซึ่งเคยแสดงใน Breaking Away มารับบทเป็น เอิร์ล คาเวนดาร์ ในเรื่องนี้ด้วย
  • ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้กำกับและผู้รับบท สแมชลีย์ ซิมป์สัน เป็นผู้คัดเลือกนักแสดงที่รับบทเป็นสมาชิกทีมโรลเลอร์เดอร์บี เฮิร์ล สเกาต์ส ด้วยตัวเอง
  • โซอี เบลล์ ที่รับบท บลัดดี ฮอลลี ได้เปรียบนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องความสามารถด้านกีฬา เพราะเธอเป็นอดีตนักแสดงผาดโผน เธอสามารถเล่นเซิร์ฟได้ เล่นสเก็ตได้ และขับรถจักรยานยนต์ได้ เธอจึงสามารถฝึกท่าสเก็ตยากๆ ได้ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
  • อาริ เกรย์นอร์ ที่รับบท อีวา เดสทรักชัน กัปตันทีมของ แบล็ก วิโดวส์ เคยแสดงคู่กับ เอลเลน เพจ ผู้รับบท บลิสส์ คาเวนดาร์ มาแล้วใน An American Crime (2007)
  • ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้กำกับและผู้รับบท สแมชลีย์ ซิมป์สัน รู้จัก แอนดรูว์ วิลสัน มากว่า 10 ปีแล้ว รวมทั้งเคยร่วมแสดงด้วยกันใน Never Been Kissed (1999) Fever Pitch (2005) Charlie's Angels (2000) และ Charlie's Angels: Full Throttle (2003) ดรูว์ จึงอยากให้ แอนดรูว์ ได้แสดงในผลงานการกำกับครั้งแรกของเธอ จึงให้เขารับบทเป็น ไบรอัน แมกกี หรือ เรเซอร์ ครูฝึกของทีม เฮิร์ล สเกาต์ส
  • ดรูว์ แบร์รีมอร์ เลือก จิมมี แฟลลอน ที่เคยร่วมแสดงกับเธอใน Fever Pitch (2005) มารับบท จอห์นนี ร็อกเก็ต หรือ ฮอตทับ โฆษกประจำสนามแข่งโรลเลอร์เดอร์บี เนื่องจาก จิมมี ถนัดการคิดมุกสด
  • ดรูว์ แบร์รีมอร์ ตัดสินใจเลือก เอเลีย ชอว์แคต มารับบท แพช เพราะในชีวิตจริง เอเลีย เป็นเพื่อนกับ เอลเลน เพจ ผู้รับบท บลิสส์ คาเวนดาร์ จึงแสดงเป็นเพื่อนสนิทกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • ผู้อำนวยการสร้าง แบร์รี เมนเดล และ ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้กำกับและผู้รับบท สแมชลีย์ ซิมป์สัน ต้องการให้ผู้ที่รับบทนักดนตรี โอลิเวอร์ เป็นนักดนตรีที่ไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อน เพื่อให้แสดงฉากเล่นดนตรีได้อย่างสมจริง พวกเขาจึงเลือก แลนดอน พิกก์ มารับบทนี้ นอกจากนี้ แลนดอน ยังได้แต่งเพลงชื่อ High Times มาประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย
  • นักแสดงส่วนใหญ่ไม่เคยเล่นสเก็ตมาก่อน ส่วน เอลเลน เพจ ที่รับบทนำเป็น บลิสส์ คาเวนดาร์ เล่นสเก็ตเป็นแต่ไม่เก่งนัก ทุกคนจึงต้องฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน รวมทั้งฝึกกับนักกีฬาตัวจริงจากลีก ลอส แอนเจลิส เดอร์บี ดอลล์ส โดยมีครูฝึกเป็น อเล็กซ์ โคเฮน หรือ เอ็กเซล ออฟ อิวิล ผู้มีอาชีพเป็นนักข่าวในตอนกลางวัน และเป็นนักกีฬาในลีกดังกล่าวในตอนกลางคืน นอกจากนี้ นักแสดงยังต้องเล่นโยคะเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายเป็นเวลา 6 วันต่อสัปดาห์ ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเธอสามารถแสดงฉากผาดโผนทุกฉากได้ด้วยตัวเอง
  • มีฉากหนึ่งที่ บลิสส์ คาเวนดาร์ กระโดดใส่ผู้หญิงอีกคนจนกระแทกไปบนพื้นสนาม เดิมผู้สร้างตกลงกันว่าจะใช้สายเคเบิลช่วยดึงตัวนักแสดงให้ลอยตัวขึ้น แต่ เอลเลน เพจ ผู้รับบท บลิสส์ ฝึกกระโดดมาเป็นเวลาหลายเดือน จนสามารถแสดงฉากนี้ได้ด้วยตัวเอง
  • ผู้กำกับ โรเบิร์ต ดี. เยโอแมน ใช้กล้อง 3 ตัวถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมๆ กัน ได้แก่ กล้องมุมมองธรรมดา กล้องที่ติดไว้บนหน้าอกของนักแสดงผาดโผนที่วิ่งไปกับเหล่าตัวละครในสนามจริงๆ และอีกกล้องจะติดอยู่กับดอลลี (ล้อที่ติดกับกล้องเพื่อเลื่อนกล้องไปตามราง) ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพรวมของการแข่งขันได้
  • เควิน คาวาเนอห์ ที่เคยเป็นลูกมือในทีมออกแบบงานสร้างของ The Dark Knight (2008) และ Transformers (2007) ได้มารับหน้าที่ผู้ออกแบบงานสร้างอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเขาต้องสร้างสนามแข่งขันโรลเลอร์เดอร์บีขึ้นมาในโรงงานเหล็กที่เมืองดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งครอบคลุมทั้งส่วนที่ใช้แข่งขัน ห้องแต่งตัวนักกีฬา ห้องเก็บตัวนักแสดง โรงอาหาร และสถานที่ที่ใช้ฝึกฝน
  • เอลเลน เพจ ถอนตัวจากภาพยนตร์เรื่อง Drag Me to Hell (2009) เพื่อมาแสดงเป็น บลิสส์ คาเวนดาร์ ในภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ทีมโรลเลอร์เดอร์บี เฮิร์ล สเกาต์ส ของเหล่าตัวละครเอก อ้างอิงมาจากทีมที่มีอยู่จริงชื่อ ทัฟ คุกกีส์ จากลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้ง 2 ทีมล้วนแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีเขียวซึ่งดัดแปลงมาจากชุดเนตรนารีของอเมริกา
  • ราเชล พิพลิกา และ คริสเทน อดอลฟี ที่รับบทเป็นพี่น้อง แมนสัน ซิสเตอร์ส ในทีม เฮิร์ล สเกาต์ส เป็นนักกีฬาโรลเลอร์เดอร์บีตัวจริง โดย ราเชล ใช้ชื่อในการแข่งขันว่า ไอออน เมเวน ส่วน คริสเทน ใช้ชื่อว่า คริสซี แครช พวกเธอแข่งอยู่ในทีม ทัฟ คุกกีส์ ซึ่งอยู่ในลีก ลอส แอนเจลิส เดอร์บี ดอลล์ส
  • สนามรูปวงรีที่ใช้ในภาพยนตร์มีทั้งที่ผู้สร้างสร้างขึ้นใหม่ และขอยืมพื้นที่สนามของทีม เรด เดิร์ต รีเบลเลียน โรลเลอร์เกิร์ลส์ ซึ่งประจำอยู่ในลีกของโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ตัวละคร บลิสส์ คาเวนดาร์ มีอายุ 17 ปี แต่ในฉากหนึ่งเธอโกหกว่าเธออายุ 22 ปี เท่ากับอายุจริงของ เอลเลจ เพจ ผู้รับบท บลิสส์
  • ถ่ายทำในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • มีนักกีฬาโรลเลอร์เดอร์บีตัวจริงจากทีม ดีทรอยต์ส เดอร์บี มาร่วมแสดงด้วยหลายคน
  • ในภาพยนตร์มีการแสดงให้เห็นกฎสำคัญๆ ของกีฬาโรลเลอร์เดอร์บี แต่ไม่ได้อธิบายตรงๆ ในการแข่งขัน ผู้ทำคะแนนหรือแจมเมอร์คนแรกจะถูกเรียกว่า ลีดแจมเมอร์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ให้สัญญาณด้วยการวางมือบนสะโพก เพื่อเรียกนักกีฬาทุกคนให้กลับไปยังจุดเริ่มต้นแล้วเริ่มการทำคะแนนครั้งใหม่
  • ตัวละครครูฝึก ไบรอัน แมกกี หรือ เรเซอร์ ที่รับบทโดย แอนดรูว์ วิลสัน อ้างอิงจากบุคคลที่มีจริงชื่อ ไบรอัน กัลลาเกอร์ หรือ เบลด ซึ่งเป็นครูฝึกโรลเลอร์เบลด เป็นนักแสดงผาดโผน เป็นนักกีฬาจากรายการโทร Rollerjam และเป็นครูฝึกโรลเลอร์เดอร์บีในลีกทีเอ็กซ์อาร์ดีและลอส แอนเจลิส เดอร์บี ดอลล์ส ในภาพยนตร์ เรเซอร์ สวมสร้อยคอรูปปลาโลมาและรองเท้าแตะ และขับรถ ดูน บักกี เหมือน ไบรอัน ตัวจริง นอกจากนี้ยังมีฉากที่เห็นชื่อ ไบรอัน อยู่บนปกหนังสือของเขา และมีฉากที่เขาบ่นเรื่องชื่อและเครื่องแบบของนักกีฬา ซึ่ง ไบรอัน ตัวจริงก็ไม่พอใจเรื่องนี้เช่นกัน
  • มีฉากหนึ่งที่ตัวละคร แมกกี เมย์เฮม หรือ มาลิซ อิน วันเดอร์แลนด์ ที่รับบทโดย คริสเทน วิกก์ กล่าวถึง แลช บลาสต์ ซึ่งเป็นที่ปัดขนตารุ่นหนึ่งของยี่ห้อ คัฟเวอร์ เกิร์ล ขณะที่ในชีวิตจริง ดรูว์ แบร์รีมอร์ ผู้กำกับและผู้รับบท สแมชลีย์ ซิมป์สัน เป็นนางแบบของ คัฟเวอร์ เกิร์ล ด้วย
  • ตัวละครคู่พี่น้อง แมนสัน ซิสเตอร์ส รับบทโดย ราเชล พิพลิกา กับ คริสเทน อดอลฟี อ้างอิงมาจากตัวละคร แฮนซัน บราเธอร์ส ในภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาฮอกกี้ Slap Shot (1977) นอกจากชื่อจะคล้ายกันแล้ว ยังมีฉากคล้ายคลึงกัน เช่น ตอนที่พวกเธอทุบตู้เครื่องดื่มกระป๋องหยอดเหรียญ และบทพูดที่ว่าพวกเธอถูกส่งตัวย้ายมาจากทีมอื่น

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • A Millionaire's First LoveA Millionaire's First Loveเข้าฉายปี 2007 แสดง Hyun Bin, Lee Yeon-Hee, Lee Han-Sol
  • LockoutLockoutเข้าฉายปี 2012 แสดง Guy Pearce, Maggie Grace, Peter Stormare
  • Blood and ChocolateBlood and Chocolateเข้าฉายปี 2007 แสดง Agnes Bruckner, Hugh Dancy, Olivier Martinez

เกร็ดภาพยนตร์

  • Whiplash - ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 19 วัน อ่านต่อ»
  • The Equalizer - เดิมทีตัวละคร เทอรี ถูกเขียนขึ้นให้แก่นักแสดงที่มีอายุกว่าที่เห็นในภาพยนตร์ ทว่าผู้กำกับประทับใจในตัว โคลอี เกรซ มอเร็ตซ์ มากจนปรับบท เทอรี ให้มีอายุน้อยลง อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

จอมขมังเวทย์ 2020 จอมขมังเวทย์ 2020 ก้าวเข้าสู่สมรภูมิแห่งอาคมที่จำต้องแลกด้วยศรัทธาแห่งตัวตน ก่อนการเผชิญหน้าครั้งยิ่งใหญ่ของเหล่าจอมขมังเวทย์ที่จะมาห้ำหั...อ่านต่อ»