วิจารณ์ The Hurt Locker

ไปที่หน้า
วิจารณ์ภาพยนตร์
  • เมื่อ 18 มี.ค. 54 19:46

    สิ่งเดียวที่ผมเสียดายสำหรับหนังเรื่องนี้คือ...ไม่น่าดูช้าเลย...
    ทีแรกที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ความรู้สึกคือ หนังคงไม่ดีเท่า อวตาร แน่ๆ เลยถูกมองข้ามไป แต่ผมเพิ่งมีโอกาสรื้อตู้เก็บของมาแล้วเจอหนังเรื่องนี้อยู่ก้นบึ้งของตู้(ปิดเทอม เก็บของเข้าที่น่ะ)แถมลืมไปแล้วว่าซื้อมา เลยตัดสินใจพิสูจน์ความเป็นออสการ์ ที่หนังได้รับ ด้วยความรู้สึกที่คงงั้นๆแหละ
    แต่พอได้ดู แม่เจ้า หนังทั้งเครียด กดดัน ลุ้นระทึกสุดๆ เป็นหนังที่คุณดูแล้วไม่อยากคาดเดาเลยว่าจะเป็นยังไงต่อไป ระเบิดวางอยู่ตรงหนัา โดยที่คุณไม่รู้ว่ามันจะระเบิดออกมาเมื่อไร กู้ระเบิด นั่นคือหน้าที่ของพวกเค้า
    ดูแล้วรู้สึกตื้นเต้นมากๆ หายใจไม่ทั่วท้องเลย ลุ้นระทึกตลอด อารมณ์ลุ้นๆประมาณดูหนังผีเลยครับ คือเราคอยลุ้นว่า เฮ้ยจะกู้สำเร็จหรือเปล่า จะตายไหมนะ สมกับคำสรรเสริญหนังที่ว่า เป็นหนังสงครามที่ดีที่สุดที่เคยมีการสร้างขึ้นเลย ที่สำคัญ ผู้กำกับ เป็นผู้หญิงซะด้วย

    หนังเปิดเรื่องมาได้ดีมากๆ ทำให้เรารับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เราต้องพบเจอกับอะไร หนังพูดถึงสงครามืี่ไร้สาระ แต่คนที่อยู่ในแถบนั้นก็รู้สึกชินชากับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ภารกิจของพวกเขาคือช่วยชีวิตคนจนวินาทีสุดท้าย ความกล้า ความบ้าบิ่น ของตัวละครทำให้เราลุ้นระทึกตลอดเวลา ไม่อาจจะคาดเดาได้ ในสนามรบเขาเป็นฮีโร่ แต่ที่บ้านเขาเป็นแค่สามัญชนธรรมดา เขาจึงเลือกที่จะเป็นฮีโร่มากกว่า ดูจบแล้วรู้สึกอิ่มมากๆ

    หากเทียบกับ อวตารแล้ว ผมคิดว่า เรื่องนี้นำเสนอได้ดี จริงจังกว่า รับรู้ได้ถึงอารมณืสงครามจริงๆราวกับอยู่ในเหกตุการณ์จริง
    ไม่น่าแปลกใจที่หนัีงได้ ออสการ์ มาครอง
    ให้ 9.5/10 เลยคับ พยายามหาที่ติแล้วล่ะมีแค่อย่างเดียวเลย ระทึกเกินไปแล้ว พี่จ๋า

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 8 ธ.ค. 53 13:35

    หนังเรื่องนี้ นำเสนอด้านอารมณ์ ความรู้สึก ความกดดันหรือความกลัวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างสงคราม สงครามส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของทหาร ความกลัว ความหวาดระเเวง การไม่ไว้ใจ ตลอดการที่ทำให้ทหารรุ้สึกเสพติดในความเต้นของสงคราม จนกลายเป็นคนที่ชอบการทำสงครามเป็นชีวิตจิตใจ สะท้อนให้เห็นอคติของคนท้องถิ่นที่มีต่ออเมริกา ปฏิกิริยาตอบโต้ของคนท้องถิ่น จะดูก้าวร้าว ภาพ+เสียงสมจริงมากๆ เเต่ยอมรับว่าส่วนตัวก็ไม่สามารถเข้าใจในสิื่่่่งที่หนังพยายามจะสื่อทั้งหมด บางอย่างก็งงว่าหนังจะสื่ออะไร เเต่โดยรวมเเล้วถือว่าเป็นหนังที่ดี เเต่น่าจะมีหนังเรื่องอื่นที่คู่ควรกับออสการ์มากกว่านี้นะั ให้ 8.5

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 4 ก.ย. 53 09:21

    หนังดำเนินเรื่องไปแบบเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยแงคิดหลายๆอย่าง

    หนังทำออกมาต่อต้านสงครามอย่างเห็นได้ชัด

    คือผู้กำกับต้องการสื่อให้เห็นว่าการที่สหรัฐส่งทหารเข้าไปเนี่ย คนที่นั่นเข้าไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

    ขนาดมีระเบิดกันตูมตามแต่คนที่นั่นก็ทำเหมือนปกติมากๆ

    อย่างเช่นตอนที่พระเอกไปช่วยปลดระเบิดที่ล๊อกกับตัวคนแล้วพระเอกโดนแรงระเบิดไปด้วย แต่พอลืมตาขึ้นมาก็ยังเห็นชาวบ้านเล่นว่าว ซึ่งมันดูไม่น่าตื่นเต้นตกใจสำหรับเค้านั่นเอง

    หนังแฝงอะไรดีๆไว้หลายอย่าง เรื่องนี้ชอบมาก

    ไม่ได้มันส์อะไรแบบบ้าระห่ำ แต่เต็มไปด้วยแง่คิด ดีจริงๆ

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 5 ส.ค. 53 18:45

    หนังก็ดีนะ แต่มันอืดจนชวนหลับ

  • เมื่อ 29 พ.ค. 53 10:09

    เพิ่งได้ดูจากแผ่น DVD เมื่อวานนี้ครับ สนุกดีครับ ตื่นเต้นดี บทก็ดี คนเราชอบทำนู้น ทำนี่ต่างๆกัน ชอบเดินห้าง ชอบดูหนัง ชอบนวด แต่พระเอกเรื่องนี่แจ่ม ชอบสงคราม เหมือนประโยคแรกที่หนังขึ้น War is a drug สงครามเหมือนยาเสพติด บรรยากาศหนังก็สมจริง สมจัง แต่ผมว่าถ้าเทียบกับ Avatar ยังไงๆ Avatar ก็น่าจะได้ออสการ์มากกว่านะ ?

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 16 มี.ค. 53 11:11

    โดยส่วนตัว ชอบนะเพราะมันมีช่วงที่ทำได้ให้เราลุ้นดี มุมกล้องนี้อินดี้มากมาก คงตั้งใจให้สถานการณ์ดูสมจริง หนังมันอาจไม่ได้ยิงกันตูมตาม แต่ก็มีสไตล์โดดเด่น โดยร่วมก้อถือว่าคุ้มดีครับ ได้เข้าไปดูความบ้าของพระเอก

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 14 มี.ค. 53 16:15

    ขอบอกได้คำเดียวว่า ถ้าไม่ได้ดู เรื่อง GAMER (ที่มีดีแค่ เพลง Sweet Dream ใน Trailer ) มาก่อนละก็
    หนังเรื่องนี้ คงเป็นหนังที่น่าผิดหวังที่สุดแห่งปีสำหรับผมเลยก็ว่าได้

    ผมเป็นคนที่เกลียดหนังทุนสร้างสูงๆ แต่ไร้คุณภาพ ( เช่น Nania )
    และ ก็เกลียดหนังโปรโมทด้วย ( เช่น จากผู้สร้างนี้ จะผู้กำกับนั้น )
    แต่ผมก็เลือกที่จะไปดูหนังเรื่องนี้ เพราะผมชอบดูหนัง ที่น่าจะมีอะไรคุ้มค่ากับ เวลา และ ค่าตั๋วเข้าชม
    ผมดูแม้กระทั้ง การกำกับภาพ การกำกับศิลป์ การกำกับเสียง บทภาพยนต์ การแสดง รวมไปถึง ความเป็นไปได้ของหนัง
    เรียกได้ว่า การเข้าไปดูหนัง 2 ชั่วโมงของผมแต่ละครั้ง ผมจะต้องเก็บมาให้ได้ครบ และคุ้มที่สุด

    แต่กับหนังเรื่องนี้ บอกได้คำเดียวว่า หนังกระแส (ในสายตาผม)
    บทอ่อนมาก กำกับภาพก็ไร้แก่นสาร (ตอนยิงปืนสู้คนในบ้านกลางทะเลทราย จะสโลว์ภาพทำไมครับ เพราะภาพต่อจากนั้นก็ไม่ได้เข้ากับภาพที่สโลว์ก่อนหน้าเลย หรือพี่จะเอาแค่สวย แบบนั้นมันมิได้นำพาหรอกครับ เพราะ The Lord of The Ring ก็เคยใช้ภาพสโลว์แบบไร้แก่นสาร จนโดนวิจารณ์ยับมาแล้วครับ) ความน่าจะเป็นไปได้ก็น้อย (หรือที่เรียกว่า เวอร์กว่าความเป็นจริง ซึ่งตรงข้ามกับคำที่คุณบอกว่า นำเสนอชีวิตที่เราไม่เคยเห็นของพวกเค้า เพราะพวกเค้าดูแล้ว ยังบอกว่า เว่อร์ จนเรียกว่า นี่เป็นแค่ภาพยนต์เรื่องหนึ่ง เท่านั้น)
    ที่บอกว่าบทอ่อนตรงไหนน่ะหรอครับ จะขอยกตัวอย่างที่เห็นชัดๆหน่อยละกันนะครับ

    1. ฉากกู้ระเบิดครั้งแรกนั้นมีระเบิด 1 ลูกแต่จุดชนวนด้วย โทรศัพท์มือถือ แต่พอการกู้ระเบิดครั้งแรกของพระเอก ซึ่งมีเยอะมาก เรียกว่า ล้อมตัว เลยที่เดียว ซึ่งเป็นการวางระเบิดแบบหวังผลแน่ๆ กลับจุดชนวนด้วยถ่านไฟฉายที่ต้องต่อด้วยมือเอง สรุปคนวางระเบิดโง่ หรือ คนเขียนบทลืม ซึ่งส่วนนี้สวนทางกับบทหลักของเรื่อง ที่พยายามเสนอการลอบวางระเบิดที่มีเทคนิค และรูปแบบที่รุนแรง และแยบยลขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการสะดุดของความคิด จนดูเหมือนกราฟแทนที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ กลับกลายเป็นขึ้นๆลงๆจนลดความเข้าถึงตัวหนังไป

    2. ความมุทะลุ ขึงขัง ของเพราะเอกนั้น เรียกได้ว่า เกินความจริงกว่าที่จะรับได้ของทีมกู้ระเบิดเลยล่ะครับ ทีมกู้ระเบิดถูกฝึกมาให้มีระเบียบวินัย และเห็นความปลอดภัยของผู้อื่นเป็นสำคัญ (เพราะไม่งั้นจะมากู้ทำไม ปล่อยให้มันระเบิดไปเองไม่ดีกว่าหรอ ถ้าไม่คิดว่าผู้อื่นจะได้รับอันตราย) สาเหตุที่ผมคิดแบบนี้ เพราะผมเคยทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา ในอำเภอที่มีการลอบวางระเบิด และเคยคุยกับเจ้าหน้าชุดเก็บกู้ระเบิดมากับตัวครับ

    3. การละทิ้งเนื้อหา หรือสิ่งหลักที่เคยเน้นมาก่อนหน้านี้ก็ทำแบบเลื่อนลอยมาก ถ้าใครดู Transformer 2 คงจำเจ้าหุ่นรถกระป๋องที่มาดึ้บๆขานางเอกได้นะครับ มันหายไปซะดื้อๆ ตอนมาถึงทะเลทราย ซึ่งรับไม่ได้มากๆ คนดูไม่ได้โง่นะครับ ที่จะจำไม่ได้มันได้หายไปแล้ว หนังเรื่องนี้ก็เหมือนกัน ฉากที่พระเอกกู้กล่องจุดขนวนที่อยู่ในรถเก๋งนั้น หนังได้สโคปให้เราลุ้นกับเหตุการณ์นี้นานมากจนเราก็ลุ้นไปกับเค้าด้วย แต่พอเจอปุ้บ ลองไปจับเวลานะครับ เค้าถ่ายภาพเจ้ากล่องที่อาจฆ่าพระเอก ผู้ช่วยพระเอก ร่วมถึงอีกหลายชีวิตแค่ไม่กี่วินาทีที่มันหล่นลงพื้น แล้วก็กลายเป็นว่ามันได้มาอยู่ในกล้องใต้เตียงพระเอกซะแล้ว บอกได้เลยครับว่า มันขัดอารมณ์สุดๆ ที่ทิ้งภาพไปอย่างไม่คิดถึงอารมณ์คนดู หนำซ้ำยังกลับทำให้ตัวหนังเองไร้แก่นสารเข้าไปอีก

    เอาแค่ 3 ส่วนนี้ มันก็บอกได้แล้วครับ ว่าความพยายามของหนัง กับบทที่ออกมาก็สวนทางกันแล้วครับ แล้วแบบนี้ยังจะเอาจุดขายเรื่องความสมจริงกว่าที่เรื่องใดเคยทำมามาเป็นจุดขายอีกหรือ
    สำหรับผมบอกได้คำเดียวว่าจุดขาย คือ ผู้กำกับที่เคยเป็นภรรยาของตัวเตร็งในปีนี้ ครับ ซึ่งผมมองว่าผู้กำกับคนนี้ ถูกวางให้เป็นหมากตัวหนึ่ง ที่จะจูงใจให้คนสนใจการประกาศรางวัลในปีนี้มากขึ้น ผู้ชมจะเหมือนดูละครหลังข่าวที่ผัวเมียจะมาแข่งกันดังหลังจากแยกกันไป (เหมือนว่าขาดเธอ ฉันก็เจอสิ่งที่ดีกว่า อะไรประมาณนั้น) เพราะถ้าไม่มีเรื่องนี้ ทุกคนก็ต้องเดาได้เลยว่า Avatar จะต้องอย่างนอนมา (แต่สำหรับผม ผมเชียร์ District 9 ใจขาดดิ้น) จนอาจทำให้ทุกคนรอเช็กผลเอาทางอินเตอร์เน็ตภายหลังก็ได้ ซึ่งย่อมไม่ดีกับเรตติ้งออกอากาศของ Oscar แน่ๆ

    และผมเองก็เกิดวันที่ 9 มีนาคม ทำให้พูดได้เลยว่า ผู้กำกับคนนี้ได้แน่ๆ ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงไงครับ เลยต้องให้ เพื่อเข้ากับกระแสของวันสตรีสากล คือ วันที่ 8 มีนาคม ซึ่งถ้าใครทราบประวัติของวันนี้ ก็จะทราบว่าน่าเชิดชูเกียรติผู้หญิงที่ออกมาประท้วงกันขนาดไหน และนี่ก็เป็นโอกาสทองที่อาจจะทำให้ Oscar ได้เรตติ้งในสายตาประชาชนกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่โดนถล่มเละที่ The Dark Knight ไม่ได้เข้าชิง Oscar (ตอนนั้นทำเอาผมอกหัก เกลียด Oscar ไปหลายวันเหมือนกัน)

    ภาพยนต์เรื่องนี้ เป็นเพียง หนังตลาดที่สร้างกระแสเท่านั้นในสายตาผม หาใช่ความแปลกใหม่ใดเลยในวงการภาพยนต์ (เพราะรูปแบบการลอบวางระเบิดในหนังเรื่องนี้ ทุกรูปแบบนั้นเราจะเคยรับรู้ผ่านสื่อมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้จุดแข็งในแง่นี้ ที่หนังเรื่องอื่นจะนำมาเสนอเพียงแบบ หรือ 2 แบบนั้น ยังไม่แข็งพอนั่นเอง)

    อยากให้ผู้กำกับคนนี้ กลับไปฝึกฝีมือ และมุมมองให้มากกว่านี้อีกนิด จะได้ไม่ทำหนังที่หลอกคนดูแบบนี้ เพราะถ้าดูแต่เปลือก นี่อาจจะดูดี แต่ถ้าเจาะลึกลงไปแบบจุดต่อจุดแล้ว นี่ไม่ได้ให้อะไรกับผู้ชมเลยแม้แต่น้อย

    แต่ Oscar ปีนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวังซะทั้งหมดหรอกครับ ผมดีใจที่ Up และ District 9 รวมถึง Inglorious. ได้เข้าชิงสาขาภาพยนต์ เพราะ 3 เรื่องนี้ คือ หนังดีแห่งปีเลยครับ (ยกเว้น Inglorious. ถ้าเรื่องนี้ไม่มี Brad Pitt หนังคงจะเลื่อนไหลไม่สะดุดกว่านี้)

    แจ้งลบ
  • เมื่อ 10 มี.ค. 53 12:50

    ไหงลบโพสของผมออกไปหล่ะครับ

  • เมื่อ 9 มี.ค. 53 16:19

    ชื่นชมผู้กำกับครับ เก่ง เจ๋ง และสมควรได้ออสการ์ผู้กำกับ (แหะๆๆๆๆ ไม่ได้อวยจนน่าเกลียดใช่เปล่า) หนังแมนมาก เข้มข้นด้วยเนื้อหา ทีท่าที่นำเสนอ ได้ทั้งความเรียล+ลุ้น+ช็อคในบางฉาก ทำเอาอึ้ง+ทึ่ง+หลอนไม่น้อย กู้ระเบิด vs ชีวิตคู่ 2 อย่างนี้เสี่ยงพอๆกันนะผมว่า>>>??

  • เมื่อ 6 มี.ค. 53 19:49

    หนังเพิ่งเข้าเมกาเมื่อ 2009 ครับ ส่วนประเทศอื่นเข้าแต่ กันยา 2008 แล้ว

มีทั้งหมด 15 วิจารณ์ หน้าที่ 1 [ก่อนหน้า] 1 2 [ถัดไป]
เขียนวิจารณ์
จะต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบก่อน จึงจะเขียนวิจารณ์ได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google+ หรือ Facebook ก็ได้
Facebook | Google+

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • สี่แพร่งสี่แพร่งเข้าฉายปี 2008 แสดง เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, มณีรัตน์ คำอ้วน, อภิญญา สกุลเจริญสุข
  • Nim's IslandNim's Islandเข้าฉายปี 2008 แสดง Abigail Breslin, Jodie Foster, Gerard Butler
  • Three Kingdoms: Resurrection of the DragonThree Kingdoms: Resurrection of the Dragonเข้าฉายปี 2008 แสดง Andy Lau, Sammo Hung Kam-Bo, Maggie Q

เกร็ดภาพยนตร์

  • The Wind Rises - ผู้กำกับและผู้เขียนบท ฮายาโอะ มิยาซากิ กล่าวว่าที่เขาเลือกภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันอำลาวงการเพราะเขาอยากเล่าเรื่องราวที่เป็นตัวแทนจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น สิ่งที่เกิดขึ้นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจ แต่ก็เป็นประวัติศาสตร์ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตชาวญี่ปุ่น และอยากให้ยอมรับสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นสร้างขึ้น อ่านต่อ»
  • Dawn of the Planet of the Apes - จูดี เกรียร์ ผู้รับบท คอร์เนเลีย มีสามีที่เป็นแฟนตัวยงของ Planet of the Apes (1968) จนแต่งเค้กงานแต่งของทั้งคู่ด้วยหุ่นสามีภรรยาลิงชิมแปนซี โดยในงานยังจัดฉายภาพยนตร์ดั้งเดิมและ Rise of the Planet of the Apes (2011) ในโทรทัศน์สองเครื่องบริเวณจุดบริการเครื่องดื่มในช่วงดื่มฉลองด้วย อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Lion King The Lion King ผจญภัยสู่ทุ่งหญ้าสะวันนาในแอฟริกาที่ซึ่งราชาได้ถือกำเนิด ซิมบา (โดนัลด์ โกลเวอร์) มีราชามูฟาซา (เจมส์ เอิร์ล โจนส์) บิด...อ่านต่อ»