เกร็ดน่ารู้จาก Toy Story 3

เกร็ดน่ารู้
  • คณะผู้สร้างภาพยนตร์ชุด Toy Story ได้แก่ ลี อังก์ริช, จอห์น แลสซีเตอร์, แอนดรูว์ สแตนตัน, พีต ด็อกเตอร์, ดาร์ลา เค. แอนเดอร์สัน, บ็อบ ปีเตอร์สัน และ เจฟฟ์ พิเจียน เริ่มสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้โดยนัดรวมตัวกันที่เคบินเล็กๆ ชื่อ เดอะ โพเอตส์ ลอฟต์ ในมาริน เคาน์ตี ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งแนวคิดแรกเริ่มสำหรับ Toy Story (1995) ภาคแรกถือกำเนิด โดย แอนดรูว์ นำไวน์พิเศษยี่ห้อ Toy Story ที่ จอห์น เคยมอบให้ทุกคนตอนภาพยนตร์ภาคแรกเข้าฉายมาด้วย แล้วพวกเขาก็ดื่มให้กับ โจ แรนต์ หัวหน้าฝ่ายเรื่องราวของภาคแรกที่เสียชีวิตไป
  • คณะผู้สร้างช่วยกันนึกถึงภาพยนตร์ภาค 3 ที่ดีๆ เพื่อใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขานึกออกเพียงเรื่องเดียวคือ The Lord of the Rings: The Return of the King (2003) และสังเกตว่ามันมีลักษณะเป็นตอนที่ 3 ของเรื่องยาวเรื่องเดียว มากกว่าจะเป็นเรื่องราวที่แยกออกมา ซึ่งนั่นกลายมาเป็นแนวคิดแรกเริ่มในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
  • แอนดรูว์ สแตนตัน เป็นผู้เขียนโครงเรื่องร่างแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ตอนที่ผู้กำกับ ลี อังก์ริช และภรรยาย้ายบ้านจาก เวสต์ ฮอลลีวูด ไปยังพาซาเดนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขานำตุ๊กตาสัตว์จากสมัยเด็กของภรรยาในถุงขนาดใหญ่ไปทิ้ง เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นขยะ ทำให้ภรรยาของเขาเสียใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลี จึงถือว่าฉากที่คุณแม่ของ แอนดี ที่พากย์เสียงโดย ลอรี เมตคัล์ฟ ลากถุงขยะไปตามพื้นนั้น เป็นการจารึกความทรงจำเกี่ยวกับของเล่นของภรรยาของเขา
  • เบลก คลาร์ก พากย์เสียงสุนัขพลาสติก สลิงกี แทน จิม วาร์นีย์ เพื่อนรักของเขาที่เคยพากย์เสียง สลิงกี ใน 2 ภาคแรก ก่อนจะเสียชีวิตไปเมื่อปี 2000
  • เท็ดดี นิวตัน ผู้พากย์เสียง แชตเตอร์ เทเลโฟน เป็นผู้กำกับภาพยนตร์สั้น Day & Night ที่จะเข้าฉายควบคู่ไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้
  • ทริกซี ไดโนเสาร์ไทรเซราทอปส์พลาสติก ที่พากย์เสียงโดย คริสเทน ชอล ถูกออกแบบมาให้เป็นของเล่นชุดเดียวกับ เรกซ์ ไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัสเรกซ์พลาสติก ที่พากย์เสียงโดย วอลเลซ ชอว์น
  • ลอตโซ ที่พากย์เสียงโดย เนด บีตตี เป็นตัวละครตุ๊กตาขนตัวใหญ่ตัวแรกของพิกซาร์ ซึ่งสร้างยากกว่าตัวละครที่เป็นพลาสติกแข็งๆ
  • ผู้ออกแบบงานสร้าง บ็อบ พอลลีย์ อธิบายว่า ผู้สร้างต้องกลับไปศึกษางานสร้างจาก 2 ภาคแรก แล้วสร้างตัวละครทุกตัวขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพราะเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ใน 2 ภาคแรกนั้นเก่ามาก จนไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก
  • นักแต่งเพลง แรนดี นิวแมน เคยแต่งและร้องเพลง You've Got a Friend in Me ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เอาไว้ใน Toy Story (1995) ในภาคนี้ เขานำดนตรีสเปนมาใส่ลงไปในเพลงเดิม กลายเป็น You've Got a Friend in Me (Para Buzz Espanol) ที่ขับร้องโดย ยิปซี คิงส์ และบันทึกเสียงที่สตูดิโอ แอบบีย์ โรด ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ แรนดี ยังแต่งเพลงใหม่ล่าสุดชื่อ We Belong Together อีกด้วย
  • เพลง You've Got a Friend in Me (Para Buzz Espanol) ปรากฏในฉากการเต้นแบบลาตินระหว่าง บัซซ์ ไลต์เยียร์ ที่พากย์เสียงโดย ทิม อัลเลน และ เจสซี ที่พากย์เสียงโดย โจน คูแซก ซึ่งมี เชอริล บูร์เก และ โทนี โดโวลานี จากรายการเรียลิตี Dancing with the Stars มาออกแบบท่าเต้นให้
  • ผู้สร้างกำหนดให้ตัวละครตุ๊กตาหมี ลอตโซ ที่พากย์เสียงโดย เนด บีตตี เป็นเหมือนสุภาพบุรุษแดนใต้ที่มีสำเนียงนิวออร์ลีนส์ ผู้แต่งเพลง แรนดี นิวแมน แต่งเพลงประจำตัวให้ ลอตโซ โดยใช้แอกคอร์เดียนกับฮาร์โมนิกา ซึ่งเข้ากันได้ดีกับนิสัยที่ซับซ้อนของเขา
  • ลี อังก์ริช ที่เคยตัดต่อภาพยนตร์ 2 ภาคแรก และเคยร่วมกำกับในภาคที่ 2 ได้รับเลือกให้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้แทนที่ จอห์น แลสซีเตอร์
  • เป็นภาพยนตร์ของ พิกซาร์ เรื่องแรกที่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ ไอแมกซ์
  • A113 หมายเลขห้องเรียนของแอนิเมเตอร์ของ พิกซาร์ ซึ่งปรากฏในภาพยนตร์ของ พิกซาร์ เกือบทุกเรื่อง ปรากฏในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยเป็นเลขทะเบียนรถยนต์ของคุณแม่ของ แอนดี ที่พากย์เสียงโดย ลอรี เมตคัล์ฟ
  • ตุ๊กตาหนุ่ม เคน ที่พากย์เสียงโดย ไมเคิล คีตัน ออกแบบตามตุ๊กตา เคน รุ่น แอนิมอล เลิฟวิน ที่ออกจำหน่ายในปี 1988
  • ชุดออกกำลังกายสีฟ้าของตุ๊กตา บาร์บี ที่พากย์เสียงโดย โจดี เบนสัน นั้น มีต้นแบบจากตุ๊กตา บาร์บี รุ่น เกรต เชป ที่ออกจำหน่ายในปี 1984
  • เสียงที่บันทึกไว้ในตัว วูดดี ที่พากย์เสียงโดย ทอม แฮงค์ส คือ "I'd like to join your posse, boys, but first I'm gonna sing a little song."
  • ลูกบอล ลูโซ ที่ปรากฏในภาพยนตร์ของ พิกซาร์ หลายเรื่อง ปรากฏในตอนจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยอยู่รวมกับบรรดาของเล่นอื่นๆ ในกระบะทรายที่สถานรับเลี้ยงเด็ก
  • ผู้กำกับ ลี อังก์ริช พากย์เสียง แจ็ก อิน เดอะ บ็อกซ์ ที่ตะโกนว่า "New toys!" ใส่ของเล่นของ แอนดี ตอนที่พวกเขามาถึงสถานรับเลี้ยงเด็ก ซันนีไซด์
  • ผู้สร้างใช้เวลา 2 ปีครึ่งในการเขียนบทภาพยนตร์และสตอรีบอร์ด
  • ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ตุ๊กตาหนุ่ม เคน ที่พากย์เสียงโดย ไมเคิล คีตัน สวมเสื้อผ้าทั้งหมด 21 ชุด
  • ในกระบวนการสร้างแอนิเมชัน ตัวละคร วูดดี ที่พากย์เสียงโดย ทอม แฮงค์ส มีจุดขยับบนใบหน้ามากถึง 229 จุด ขณะที่ บัซซ์ ไลต์เยียร์ ที่พากย์เสียงโดย ทิม อัลเลน มีทั้งหมด 215 จุด
  • ภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครทั้งหมด 302 ตัว
  • ผู้อำนวยการสร้าง จอห์น แลสซีเตอร์ ชื่นชอบแอนิเมชันของ ฮายาโอะ มิยาซากิ เขาจึงนำตัวละคร โตโตโระ จาก My Neighbor Totoro (1988) มาทำเป็นตุ๊กตาประกอบฉากในภาพยนตร์เรื่องนี้
  • รถไฟที่สร้างจากตัวต่อ เลโก ในฉากเปิดเรื่องนั้น เป็นรุ่นหนึ่งของตัวต่อ เลโก ที่มีการวางจำหน่ายจริงๆ
  • มีฉากที่เปิดเผยว่านามสกุลของ แอนดี ที่พากย์เสียงโดย จอห์น มอร์ริส คือ เดวิส มันเขียนอยู่บนประกาศนียบัตรจบการศึกษาชั้นมัธยมปลาย ซึ่งปรากฏบนจอขณะที่ แอนดี เดินไปดูภาพถ่ายสมัยเด็กของเขากับเหล่าของเล่นที่ติดอยู่บนกระดาน
  • ฉากที่ มิสเตอร์ โปเตโต เฮด ที่พากย์เสียงโดย ดอน ริกเคิลส์ วิ่งไปโดนเปียโนของเล่นนั้น ดนตรีที่เล่นออกมาจากเปียโนคือคอร์ดที่มีชื่อว่า Petrushka ซึ่งปรากฏอยู่ในบัลเลต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหุ่นเชิดที่มีชีวิตขึ้นมา ประพันธ์โดย อิกอร์ สตราวินสกี
  • หมายเลขบนรถไฟที่ปรากฏในช่วงต้นภาพยนตร์คือ 95 ซึ่งเป็นตัวเลขที่อ้างถึงปีที่ Toy Story (1995) ภาคแรกออกฉาย
  • รถบรรทุกสินค้าของร้าน พิซซา แพลเนต ซึ่งปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ของ พิกซาร์ เกือบทุกเรื่องนั้น ปรากฏในฉากย้อนอดีตที่ ลอตโซ ที่พากย์เสียงโดย เนด บีตตี และเพื่อนๆ ของเขากำลังโบกรถกัน นอกจากนี้ยังมีปฏิทินจากร้าน พิซซา แพลเนต ปรากฏอย่างชัดเจนในบางฉากอีกด้วย
  • ในฉากที่ วูดดี ที่พากย์เสียงโดย ทอม แฮงค์ส กลับมาที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ซันนีไซด์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนๆ เขาวิ่งผ่านถังที่มีตัวหนังสือติดไว้ว่า ของเล่น กาว และอื่นๆ ลักษณะตัวอักษรที่ผู้สร้างเลือกใช้นั้นคือตัวอักษรชื่อ Andy
  • เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของ พิกซาร์ ถัดจาก The Incredibles (2004) ที่มีการทำตัวหนังสือบรรยายใต้ภาพในบางฉาก
  • ผู้สร้างออกแบบตุ๊กตาถั่วฝักยาวโดยอ้างอิงจากตุ๊กตาผักและผลไม้ที่มีหน้าตาชื่อ เวจิมอลส์ ผลิตโดย ฟรีเมาน์เทน ทอยส์ ช่วงปลายยุค 70
  • เป็นภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกที่ใช้ระบบเสียง ดอลบี เซอร์ราวนด์ 7.1 ซึ่งแบ่งช่องเสียงออกเป็น 8 ช่อง ได้แก่ ด้านซ้าย ตรงกลาง ด้านขวา เอฟเฟกต์คลื่นต่ำ เสียงเซอร์ราวนด์ด้านซ้าย เสียงเซอร์ราวนด์ด้านขวา และอีก 2 ช่องเสียงที่เพิ่งเพิ่มขึ้นใหม่ คือเสียงเซอร์ราวนด์พื้นหลังด้านซ้ายและขวา
  • มีการใช้เสียงกรีดร้อง วิลเฮล์ม สครีม ในฉากภาพวิดีโอครอบครัวเก่าๆ ที่ตัวละคร แอนดี ที่พากย์เสียงโดย จอห์น มอร์ริส กำลังดูโทรทัศน์กับเหล่าของเล่น
  • ในฉากจบที่แสดงรายชื่อผู้สร้าง สุนัข สลิงกี ที่พากย์เสียงโดย เบลก คลาร์ก พูดว่า "Golly Bob howdy!" ซึ่งถือเป็นการอุทิศให้กับ จิม วาร์นีย์ ผู้พากย์เสียง สลิงกี ในภาคก่อนๆ ที่เสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากประโยคนี้เป็นประโยคดังของตัวละคร เออร์เนสต์ พี. วอร์เรลล์ ตัวละครที่โด่งดังที่สุดของ จิม
  • หมายเลขโทรศัพท์มือถือของ แอนดี ที่พากย์เสียงโดย จอห์น มอร์ริส ปรากฏในฉากที่เหล่าของเล่นโทรศัพท์หาเขาด้วยโทรศัพท์บ้านไร้สาย หมายเลขนั้นคือ 555-8133 ถือเป็นอีกฉากหนึ่งที่อ้างอิงถึง A133 หมายเลขห้องเรียนของแอนิเมเตอร์ของ พิกซาร์ เนื่องจาก 8 เป็นตัวเลขที่สามารถถอดรหัสออกมาเป็นตัวอักษร A ได้
  • ฉากเปิดเรื่องที่มีบรรยากาศแนวดินแดนตะวันตกนั้น เดิมเป็นความคิดที่ผู้สร้างจะใช้กับ Toy Story (1995) ภาคแรก ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจตัดมันทิ้งไป
  • ฉากที่ บาร์บี ที่พากย์เสียงโดย โจดี เบนสัน สำรวจเสื้อผ้าของ เคน ที่พากย์เสียงโดย ไมเคิล คีตัน เธอเรียกชุดนักบินอวกาศว่า มิสชัน ทู มาร์ส ซึ่งเป็นชื่อเครื่องเล่นชิ้นหนึ่งใน ทูมอร์โรว์แลนด์ ในสวนสนุกดิสนีย์เวิลด์
  • ตัวตลก ชักเคิลส์ ที่พากย์เสียงโดย บัด ลุกกีย์ นั้นเคยปรากฏตัวมาแล้วใน Toy Story (1995) ภาคแรก โดยปรากฏเป็นลายกระดาษห่อของขวัญบนของขวัญกล่องสุดท้าย

advertisement

วันนี้ในอดีต

  • เชือดก่อนชิมเชือดก่อนชิมเข้าฉายปี 2009 แสดง ใหม่ เจริญปุระ, รัตนบัลลังก์ โตสวัสดิ์, ดวงตา ตุงคะมณี
  • The Eye 2The Eye 2เข้าฉายปี 2004 แสดง Jesdaporn Pholdee, Shu Qi, Eugenia Yuan
  • Make It HappenMake It Happenเข้าฉายปี 2009 แสดง Mary Elizabeth Winstead, Tessa Thompson, Riley Smith

เกร็ดภาพยนตร์

  • Sabotage - เคต มารา และ อิสลา ฟิชเชอร์ เคยทดสอบบท ลิซซี ที่ภายหลัง มาลิน อเคอร์แมน ได้รับบทนี้ไป แต่ในที่สุดเธอก็ถอนตัวเนื่องจากตั้งครรภ์ และถูกแทนที่ด้วย มิเรล อีนอส อ่านต่อ»
  • Thanks for Sharing - กวินเน็ธ พัลโทรว์ ผู้รับบท ฟีบี้ ยอมรับว่ารู้สึกอายและลำบากใจที่จะต้องแสดงฉากนักเต้นเปลื้องผ้า อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

Pagalpanti Pagalpanti ชาย 3 คน ที่โดนตัดสินว่าเป็นผู้ล้มเหลวไปแล้วในสายตาคนอื่น กำลังวางแผนที่จะหาทางรวยไปกับแฟนสาวอีก 2 คน โดยการหลอก 2 กลุ่...อ่านต่อ»