เกร็ดน่ารู้จาก Resident Evil: Afterlife
เกร็ดน่ารู้
- เป็นภาคที่ 4 ของภาพยนตร์ชุด Resident Evil ที่สร้างจากวิดีโอเกมชุด เรซิเดนต์ อีวิล หรือ ไบโอฮาซาร์ด และเป็นภาคแรกที่ถ่ายทำในระบบ 3 มิติ
- ผู้ให้กำเนิดภาพยนตร์ชุดนี้ พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน กลับมารับหน้าที่เป็นผู้กำกับอีกครั้งในภาคนี้ หลังจาก 2 ภาคที่ผ่านมาอย่าง Resident Evil: Apocalypse (2004) และ Resident Evil: Extinction (2007) เขาเป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการสร้าง
- อาลิ ลาร์เทอร์ ผู้รับบท แคลร์ เรดฟิลด์ เล่าถึงหนึ่งในฉากผาดโผนที่เธอต้องแสดงเอง นั่นคือฉากที่เธอต้องถ่ายทำในโคลนที่มีความลึกกว่า 6 นิ้ว ซึ่งเธอหกล้มหน้าคะมำลงในกองโคลน เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอเห็นนักแสดงสมทบจำนวนมากกำลังล้มลุกคลุกคลานกันจ้าละหวั่น
- ช่างแต่งหน้าพิเศษ พอล โจนส์ ยืนยันว่าในภาคนี้ เซเบรุส สุนัขผีดิบ ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง หลังจากมีบทมาตลอดทั้ง 3 ภาคก่อนหน้า นอกจากนี้ พอล ยังรับหน้าที่สร้างผีดิบสายพันธุ์ใหม่ ทั้งผีดิบใต้ดินที่อยู่ในท่อระบายน้ำ ผีดิบน้ำที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานจนร่างกายเปื่อยยุ่ย และผีดิบซึ่งสามารถฉีกปากได้เหมือนดอกไม้
- ผู้กำกับภาพ เกลน แมกเฟอร์สัน ใช้กล้องโซนี่ เอฟ-35 ที่เรียกว่า เดอะ แฟนธอม จำนวน 2 ตัวในการถ่ายทำ มันคือกล้องรุ่นเดียวกับที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ Avatar (2009) พัฒนาโดยองค์กรนาซา เพื่อใช้บันทึกภาพการปล่อยตัวกระสวยอวกาศ สามารถถ่ายภาพได้ด้วยความเร็วถึง 1,000 เฟรมต่อวินาที ขณะที่กล้องธรรมดาถ่ายได้ 24 เฟรมต่อวินาที
- ผู้กำกับภาพ เกลน แมกเฟอร์สัน คิดว่าฉากที่กล้องโซนี่ เอฟ-35 หรือ เดอะ แฟนธอม ที่เขาใช้ ได้แสดงศักยภาพมากที่สุดคือฉากที่เกี่ยวกับน้ำ เช่น ฉากฝนตกในย่านชิบุยะ ที่เขาถ่ายทำด้วยความเร็ว 200 เฟรมต่อวินาที จนสามารถมองเห็นเม็ดฝนโปรยปรายได้อย่างชัดเจน
- ผู้กำกับภาพ เกลน แมกเฟอร์สัน ถ่ายทำโดยจัดวางกล้อง 2 ตัวไว้ข้างกัน ซึ่งเป็นวิธีถ่ายทำภาพยนตร์ 3 มิติทั่วไป นอกจากนี้ เขายังวางซ้อนกล้องระนาบบนและล่าง แล้วถ่ายทำด้วยวิธีสะท้อน โดยกล้องตัวแรกบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนกล้องอีกตัวถ่ายภาพเงาสะท้อน เพื่อนำภาพที่ได้มาปรับใช้ในระบบ ฟิวชัน 3 มิติ
- การทดลองถ่ายทำทำให้ผู้กำกับ พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน ค้นพบวิธีการถ่ายทำที่เอื้อประโยชน์สูงสุดแก่การสร้างภาพยนตร์ 3 มิติ นั่นคือไม่ต้องถ่ายภาพใกล้มากนัก และเน้นถ่ายทำแบบลองเทกโดยไม่ต้องตัดต่อมากนัก เพราะมีองค์ประกอบอื่นหลายอย่างที่สามารถเห็นได้ในแต่ละเฟรม
- มิลลา โจโววิช ผู้รับบท อลิซ, อาลิ ลาร์เทอร์ ผู้รับบท แคลร์ เรดฟิลด์ และ เวนต์เวิร์ธ มิลเลอร์ ผู้รับบท คริส เรดฟิลด์ ต่างก็พูดตรงกันว่า การถ่ายทำฉากต่อสู้ในแบบ 2 มิตินั้น ไม่จำเป็นต้องปะทะกับเพื่อนนักแสดงจริงๆ ก็ได้ แต่ในระบบ 3 มิติ การแสดงจะถูกถ่ายทำเอาไว้ทั้ง 360 องศาด้วยกล้อง 2 ตัว พวกเขาจึงจำเป็นต้องเตะต่อยให้โดนเพื่อนนักแสดงจริงๆ มิฉะนั้นผู้ชมจะเห็นทันทีว่ามีการหลบมุมกล้อง
- มิลลา โจโววิช ผู้รับบท อลิซ และภรรยาของผู้กำกับและผู้เขียน พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน มีส่วนร่วมในการเขียนบทภาพยนตร์ด้วย สิ่งที่เธอต้องการเป็นพิเศษในภาคนี้คือฉากผาดโผนที่เหมาะกับภาพยนตร์ 3 มิติ เช่น ฉากที่ อลิซ ขับเครื่องบิน และฉากที่ อลิซ กระโดดจากที่สูง ไม่ว่าจะเป็นในช่องลิฟต์ หรือฉากที่เธอวิ่งทะลุกระจกของตึกสูง 50 ชั้นพุ่งลงไปยังฉากด้านล่าง
- มิลลา โจโววิช ผู้รับบท อลิซ ถ่ายทำฉากวิ่งทะลุกระจกของตึกสูง 50 ชั้นพุ่งลงไปยังฉากด้านล่าง โดยใช้สลิงและฉากสีเขียว ในเวลา 3 นาฬิกาของคืนหนึ่ง โดยเธอจะต้องแสดงเป็นร่างโคลน 2 ตัว จึงต้องถ่ายทำทั้งท่าหันหน้าพุ่งทะลุกระจก และท่าหันหลังยิงผู้ร้ายแล้วเอาหลังพุ่งลงมา หลังจากถ่ายเสร็จทุกเทก เธอจะดูสิ่งที่เพิ่งถ่ายไปพร้อมคำนึงถึงความถูกต้องต่างๆ เช่น การต้องมีลมต้านจากการหล่นจากสูง และทิศทางการปลิวของผมหน้าม้าของเธอ
- เวนต์เวิร์ธ มิลเลอร์ ผู้รับบท คริส เรดฟิลด์ ที่ไม่เคยแสดงฉากยิงใครมาก่อน ต้องฝึกยิงปืนก่อนจะถ่ายทำฉากที่เขายิงเข้าที่ใบหูของ โบริส คอดโจ ผู้รับบท ลูเธอร์ เวสต์
- ทันทีที่ อาลิ ลาร์เทอร์ รู้ว่าตนต้องกลับมารับบท แคลร์ เรดฟิลด์ เธอก็เริ่มออกวิ่งเพื่อรักษาหุ่น รวมทั้งฝึกซ้อมกับคณะนักแสดงผาดโผน โดยเฉพาะเรื่องการใช้ปืน เพราะการไม่ได้จับปืนเป็นเวลานาน ทำให้เธอไม่คุ้นเคยกับรูปร่างและน้ำหนักของมัน จนทำให้ใช้ปืนได้ไม่สมจริง
- อาลิ ลาร์เทอร์ เล่าว่าภาพยนตร์ภาคนี้ เครื่องแต่งกายของตัวละคร แคลร์ เรดฟิลด์ เป็นชุดสีแดง เหมือนชุดเก่งของเธอในวิดีโอเกมชุด เรซิเดนต์ อีวิล หรือ ไบโอฮาซาร์ด
- เวนต์เวิร์ธ มิลเลอร์ เล่าว่าบทบาท คริส เรดฟิลด์ ของเขา เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมที่สุดในวิดีโอเกมชุด เรซิเดนต์ อีวิล หรือ ไบโอฮาซาร์ด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะปรากฏตัวในภาพยนตร์ เวนต์เวิร์ธ พยายามถ่ายทอดบท คริส โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการดูรูปของเขาในเกม ผสมผสานกับบทภาพยนตร์ของ พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน
- เวนต์เวิร์ธ มิลเลอร์ ผู้รับบท คริส เรดฟิลด์ เล่าว่า มีการถ่ายทำหลายช็อตที่มีมุมมองเหมือนในเกม Resident Evil 5 หรือ Biohazard 5 เช่น ฉากเด็ดของเรื่องที่ คริส ต้องต่อสู้กับ ชอว์น โรเบิร์ตส์ ผู้รับบท อัลเบิร์ต เวสเกอร์ และเนื่องจากการถ่ายทำเป็นระบบ 3 มิติ เวนต์เวิร์ธ ต้องยอมเจ็บจริง โดยเอาใบหน้ารับหมัดของ ชอว์น เข้าจริงๆ อีกด้วย
- ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องบางส่วนจากวิดีโอเกม Resident Evil Code: Veronica เมื่อปี 2000 ผสมกับ Resident Evil 5 เมื่อปี 2009
- ชื่อภาค Afterlife ของเรื่องนี้ เคยเป็นชื่อชั่วคราวของภาพยนตร์ภาคที่ แล้ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Resident Evil: Extinction (2007)
- เป็นภาพยนตร์คนแสดงที่ดัดแปลงจากวิดีโอเกมเรื่องแรกที่ถ่ายทำในระบบ 3 มิติ
- เป็นภาพยนตร์ชุด Resident Evil ภาคแรกที่จะฉายในโรงภาพยนตร์ ไอแมกซ์
- ในเกม Resident Evil 5 ชายร่างใหญ่ที่ถือขวานยักษ์มีชื่อเรียกว่า ดิ เอกซีคิวชัน เนอร์ แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาถูกเรียกว่า แอกซ์แมน รับบทโดย เรย์ โอลูโบเวล
วันนี้ในอดีต
Hancockเข้าฉายปี 2008 แสดง Will Smith, Jason Bateman, Charlize Theron
Public Enemy Number One (Part 1)เข้าฉายปี 2009 แสดง Vincent Cassel, Cecile De France, Gerard Depardieu
Terminator Genisysเข้าฉายปี 2015 แสดง Emilia Clarke, Arnold Schwarzenegger, Jai Courtney