เกร็ดน่ารู้จาก Burlesque

เกร็ดน่ารู้
  • ผู้กำกับและผู้เขียนบท สตีฟ แอนติน ต้องการใช้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดจิตวิญญาณของศิลปะการแสดงเบอร์เลสก์ และขจัดความเข้าใจผิดที่ว่าเบอร์เลสก์นั้นเหมือนระบำเปลื้องผ้า ความเข้าใจผิดนี้แพร่จากสหรัฐอเมริกาช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีที่มาจากคลับ มูแรง รูจ ในปารีส ประเทศฝรั่งเศสช่วงทศวรรษที่ 1890 แต่เดิมนั้น เบอร์เลสก์คือการแสดงตลกที่มีการร้องเพลง เต้นรำ และเล่าเรื่อง ด้วยน้ำเสียงล้อเลียนและยั่วเย้า แต่ไม่เคยเกินเลยไปกว่าการสื่อสารแบบสองแง่สองง่าม
  • ผู้สร้างพยายามโน้มน้าว แชร์ ให้มารับบท เทสส์ อย่างไม่ลดละ พวกเขาถึงขั้นไปขอร้อง แชร์ ตอนที่เธอไปบันทึกเสียงพากย์สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชัน The Zookeeper (2011) แล้วในที่สุดเธอก็ยอมหวนคืนสู่จอเงินหลังจากห่างหายไปนานถึง 7 ปี
  • ผู้กำกับ สตีฟ แอนติน เชื่อว่า แชร์ เหมาะสมกับบท เทสส์ เพราะ แชร์ เคยพูดเองว่าตนเคยรวยและเคยจนมาก่อน เหมือนกับ เทสส์ ที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนจะตกต่ำ ส่วน คริสตินา อากิเลรา ก็ยอมรับว่าเข้าใจตัวละคร เอลี ของเธอดี เพราะ เอลี มีความฝันและถูกปฏิเสธก่อนจะได้รับโอกาสในภายหลัง ตรงกับชีวิตจริงของ คริสตินา ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองหลายครั้งก่อนจะมีคนมาสนใจและได้แจ้งเกิด
  • จูลีแอนน์ ฮัฟ ผู้รับบท จอร์เจีย เป็นนักร้องและอดีตนักแสดงจากรายการเรียลิตี Dancing With the Stars
  • ผู้กำกับ สตีฟ แอนติน ชื่นชมการแสดงคาบาเรต์ของ อลัน คัมมิง ที่ เจฟเฟน เพลย์เฮาส์ ในลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทาบทาม อลัน มารับบท อเล็กซิส พนักงานเปิดประตูของโรงละคร เบอร์เลสก์ เลานจ์
  • ปีเตอร์ กัลลาเกอร์ ผู้รับบท วินซ์ คุ้นเคยกับการแสดงเบอร์เลสก์ดีอยู่แล้ว เนื่องจากแม่ยายของเขาแสดงอยู่ที่ ไดมอนด์ ฮอร์สชู ของ บิลลี โรส, ลาติน ควอเตอร์ และที่ เรดิโอ ซิตี นอกจากนี้คณะละครที่เขาเคยร่วมงานด้วยบนเวทีบรอดเวย์ก็เป็นคณะเบอร์เลสก์
  • อีริก เดน ผู้รับบท มาร์คัส ต้องจัดตารางการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เข้ากับตารางการถ่ายทำละครโทรทัศน์ Grey's Anatomy ของเขา เช่นเดียวกับ อลัน คัมมิง ผู้รับบท อเล็กซิส ที่ต้องจัดตารางการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ในลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ให้ชนกับการถ่ายทำละครโทรทัศน์ The Good Wife ในนิวยอร์ก การรับ 2 งานพร้อมกันเช่นนี้ ทำให้ อลัน ต้องแสดงสลับไปมาระหว่างบทคนเปิดประตูโรงละครซึ่งเพี้ยนสุดๆ กับบทนักวิเคราะห์การเมืองซึ่งอนุรักษ์นิยมสุดๆ
  • ผู้ออกแบบงานสร้าง จอน แกรี สตีล ผู้กำกับศิลป์ คริส คอร์นเวลล์ และทีมงานก่อสร้าง ใช้เวลา 6 สัปดาห์สร้างฉากโรงละคร เบอร์เลสก์ เลานจ์ ขึ้นที่พื้นที่สเตจ 23 ในโรงถ่าย โซนี่ ฉากนี้มีทั้งห้องสำนักงาน ทางเดิน และห้องแต่งตัวซึ่งมีทางเชื่อมกับตัวคลับและเวที โดยไม่มีผนังรื้อถอนได้หรือฉากแยกต่างหาก เพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนเป็นสถานที่ที่เปิดทำการจริงๆ
  • ผู้ออกแบบงานสร้าง จอน แกรี สตีล สร้างฉากโรงละคร เบอร์เลสก์ เลานจ์ โดยได้ต้นแบบมาจากปราสาทและคลับแบบยุโรปในภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ภัตตาคารหรูของฝรั่งเศสในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ ร้านอาหารแบบบิสโทร และ โอเปรา เฮาส์ ทำให้ได้ฉากย้อนยุคเหมือนโรงละครในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในยุค 20 ดูเก่าแก่และสง่างามด้วยสีแดงและทอง มีโคมระย้า และมีผ้าม่านที่ทำจากคริสตัล สวาร์รอฟสกี 80,000 เม็ดที่มีน้ำหนักรวมเกือบ 1.3 ตัน
  • คริสตินา อากิเลรา ผู้รับบท เอลี, คริสเตน เบล ผู้รับบท นิกกี และ จูลีแอนน์ ฮัฟ ผู้รับบท จอร์เจีย ล้วนเป็นสาวผมสีทอง ผู้กำกับ สตีฟ แอนติน และหัวหน้าแผนกทรงผม มาร์ติน แซมมวล จึงแปลงโฉม จูลีแอนน์ เป็นสาวผมแดง และให้ คริสเตน เป็นสาวผมสีเข้มพร้อมมีรอยสักร่วมสมัย 2-3 ที่
  • เนื่องจากตอนรับบทเป็น จอร์เจีย สาวผมทองอย่าง จูลีแอนน์ ฮัฟ ต้องทำผมเป็นสีแดง สแตนลีย์ ตูกชี ผู้รับบท ฌอน จึงรู้จักเธอในฐานะสาวผมแดง เมื่อทั้งคู่ได้พบและคุยกันในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ สแตนลีย์ จำ จูลีแอนน์ ไม่ได้ จนกระทั่งเธอแนะนำตัวเอง
  • ท่าเต้นของ จอร์เจีย ที่รับบทโดย จูลีแอนน์ ฮัฟ นั้นต้องสะบัดผมมาก โดยเฉพาะในเพลง Diamonds Are a Girl's Best Friend ทีมงานจึงต้องติดผมปลอมให้เธอแบบแน่นมาก และเมื่อแสดงจบแต่ละเทก พวกเขาต้องวิ่งเข้าไปดูว่าผมปลอมยังติดแน่นเหมือนเดิมหรือไม่ด้วย
  • หัวหน้าแผนกทรงผม มาร์ติน แซมมวล ออกแบบทรงผมของนักแสดงในแต่ละฉากโดยอ้างอิงถึงยุคสมัยในประวัติศาสตร์และละครเวทีที่หลากหลาย เช่น ในเพลง Wagon Wheel Watusi นักแสดงมีทรงผมที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุค 60 ส่วนในเพลง A Guy What Takes His Time นักแสดงมีทรงผมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุค 20
  • ในฉากสุดท้ายนั้น ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไมเคิล แคปแลน พยายามออกแบบชุดที่อลังการโดยใช้วัสดุที่ขยับสั่นได้มาร้อยเรียงกันแทนเนื้อผ้า หลังจากลองผิดลองถูก เขาได้ชุดที่ใช้คริสตัล สวารอฟสกี 15 สีจำนวน 250,000 เม็ด นำมาร้อยโยงกัน และได้ชุดโซ่สีทองซึ่งติดไว้กับชุดชั้นในรัดรูปที่ย้อมสีให้เหมือนสีผิวของนักเต้นผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังมีการนำแหวนยางมาทาเป็นสีทองและเสริมเข้าไปรวมกับโซ่ เพื่อให้ผู้สวมเคลื่อนไหวตัวได้มากขึ้น
  • คริสเตน เบล ผู้รับบท นิกกี สวมชุดรัดรูปลูกไม้สีดำระยิบระยับในเพลง Dr. Long John ชุดนี้มีโครงสร้างบางและเปิดเผยเนื้อหนังมาก จนผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไมเคิล แคปแลน เกรงว่า คริสเตน อาจไม่ยอมสวมมัน แต่จริงๆ แล้วเธอไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาแต่อย่างใด เช่นเดียวกับชุดของ คริสเตน ที่ดูเหมือนท่อนบนเปลือยเปล่าในเพลง Diamonds Are A Girl's Best Friend ซึ่ง ไมเคิล ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงของชุดชั้นในสตรี
  • ปีเตอร์ กัลลาเกอร์ ผู้รับบท วินซ์ ได้ร่วมงานกับนักออกแบบท่าเต้น เดนิส เฟย์ อีกครั้ง หลังจากเคยแสดงด้วยกันในละครเวที Guys And Dolls และ ปีเตอร์ ยังเคยร่วมงานกับ แชร์ ผู้รับบท เทสส์ ใน The Player (1992)
  • ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไมเคิล แคปแลน ทำหน้าที่ผู้ช่วยครั้งแรกในรายการ The Sonny and Cher Show ของ แชร์
  • นักออกแบบแสง เพ็กกี ไอเซนเฮาเออร์ กับ จูลส์ ฟิชเชอร์ เคยร่วมงานกับนักออกแบบท่าเต้น เดนิส เฟย์ และ โจอี พิซซี มาก่อนในภาพยนตร์ Chicago (2002) และเคยทำงานกับ อลัน คัมมิง ผู้รับบท อเล็กซิส ในละคร Cabaret
  • เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ คริสเตน เบล ผู้รับบท นิกกี ได้พบกับ แชร์ ผู้รับบท เทสส์ พวกเธอก็ต้องเข้าฉากที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดในเรื่องด้วยกัน และแม้ทั้งคู่จะยังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย แต่ก็ต้องพยายามจินตนาการว่าเป็นเพื่อนรักกันที่สนิทสนมกันมาก และ เทสส์ ยังเป็นคนที่ นิกกี เชิดชูมากมาหลายปีแล้ว ซึ่งถ่ายทำที่ลานจอดรถกลางแจ้ง
  • คริสตินา อากิเลรา ผู้รับบท เอลี ได้ร่วมแต่งเพลง 3 เพลงในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือเพลง E.X.P.R.E.S.S., Bound to You และเพลง Show Me How You Burlesque โดย คริสตินา เสนอตัวที่จะแต่งเพลงด้วยตัวเอง แต่ผู้กำกับ สตีฟ แอนติน วางเงื่อนไขไว้ว่าถ้าเขาไม่ชอบ เพลงนั้นก็จะไม่ได้อยู่ในภาพยนตร์ และในบางเพลง สตีฟ เป็นคนเขียนเนื้อหาหลักและบรรยากาศรวมๆ ของเพลง แล้วค่อยให้คนอื่นแต่งต่อ เช่น But I'm a Good Girl
  • จูลีแอนน์ ฮัฟ ผู้รับบท จอร์เจีย เล่าว่าเธอได้รับบาดเจ็บขณะแสดงฉากเพลง Diamonds Are A Girl's Best Friend ซึ่งเธอต้องไถลตัวลงมาตามผ้าม่านที่เป็นเม็ดเหล็ก แล้วผ้าม่านนั้นก็พันตัวเธอไว้แน่น จนเธอมีรอยช้ำทั่วตัวจากเม็ดโลหะพวกนั้น ส่วนนักเต้น ฌอน ฟาน เดอ วิลต์ เล่าว่าในฉากสุดท้ายที่สาวๆ ที่สวมชุดโซ่ทองคำไถลตัวลงตามแขนของเขา โซ่จากเสื้อผ้าของพวกเธอก็บาดเขาจนเป็นแผลเช่นกัน
  • ผู้สร้างใช้เวลาเตรียมงาน 2 เดือน นักแสดงและนักเต้นใช้เวลาซักซ้อม 2 เดือน จากนั้นก็เริ่มถ่ายทำกันโดยใช้เวลา 3 เดือน
  • ฉากแรกที่ อลัน คัมมิง ผู้รับบท อเล็กซิส ถ่ายทำ คือฉากแต่งงานของ จอร์เจีย ที่รับบทโดย จูลีแอนน์ ฮัฟ ที่ถ่ายทำในย่านในเมืองของลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในฉากนี้ อลัน ต้องเต้นกับ จูลีแอนน์ แม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งพบกันเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้นก็ตาม
  • เจสสิกา บีล และ ลินด์เซย์ โลแฮน เกือบได้รับบท นิกกี แต่สุดท้ายบทนี้ก็ตกเป็นของ คริสเตน เบล
  • นักแสดงชายจากภาพยนตร์ชุด Twilight อย่าง โรเบิร์ต แพตตินสัน, เคลแลน ลัตซ์ และ เทย์เลอร์ เลาต์เนอร์ ต่างก็เคยได้รับการพิจารณาให้รับบทเป็น แจ็ก แต่สุดท้ายแล้วบทนี้ก็ตกเป็นของเพื่อนนักแสดงจาก Twilight อีกคนหนึ่ง แคม จิกองเดต์
  • แพทริก เดมป์ซีย์, แซม เวิร์ตธิงตัน, เคซีย์ เอฟเฟล็ก และ เจมี ฟ็อกซ์ ต่างก็เกือบได้บท มาร์คัส แต่สุดท้ายบทนี้ก็เป็นของ อีริก เดน
  • รูปภาพของ เอลี ตอนอายุ 7 ปีกับคุณแม่ของเธอนั้น เป็นรูปภาพของ คริสตินา อากิเลรา ผู้รับบท เอลี กับคุณแม่ตัวจริงของเธอ เชลลี เคิร์นส์
  • แชร์ ผู้รับบท เทสส์ แสดงเพลง You Haven't Seen the Last of Me แบบสดๆ ด้วยตัวเองจริงๆ
  • เพลงดนตรีบรรเลงที่ เอลี ซึ่งรับบทโดย คริสตินา อากิเลรา ใช้เต้นในฉากคัดตัว เป็นดนตรีจากเพลง Nasty Naughty Boy เป็นเพลงของ คริสตินา เอง

advertisement

วันนี้ในอดีต

เกร็ดภาพยนตร์

  • Kiki's Delivery Service - สร้างมาจากหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง Kiki's Delivery Service เขียนโดย เอโกะ คาดาโนะ หรือฉบับภาษาไทยชื่อ กำเนิดแม่มดกล้าแก่น อ่านต่อ»
  • What If - แมรี อลิซาเบธ วินสเตต, เดบอราห์ แอน วอลล์, โรส เบิร์น และ รีเบกกา ฮอลล์ ล้วนเป็นนักแสดงที่ได้รับการพิจารณาให้รับบท ชานทรี ที่สุดท้ายแล้วรับบทโดย โซอี คาซาน อ่านต่อ»

เปิดกรุภาพยนตร์

The Hustle The Hustle เรื่องราวเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวของมิจฉาชีพตัวแม่ที่ใช้เสน่ห์หลอกลวงคนในสังคมชั้นสูง ซึ่งจะมาถ่ายทอดวิชา 18 มงกุฎให้กับมือ...อ่านต่อ»