SIAMZONE.COM

- ต้องดูภาค 1 ก่อน ถึง มาดู ภาค 2 เพราะ จะดูไม่รู้เรื่อง ที่มา ที่ไป ใครกัน บ้าง
-นางเอก พอแต่งตัว ดู สง่า สวย
-ดู แล้ว รู้สึก ได้อารมณ์ แบบเดียวกับ ภาคที่ 1 เลย น่ะ
-หนัง ภาค 2 เป้น สเต๊ป เดียวกับ ภาคที่1 เลย น่ะ
(เริ่มเรื่อง เข้าสนามฝึก ออกล่า)
-ภาค2 จะเน้น ไป ในทางของ เนื้อเรื่อง ถ้า จะดู ฉาก ไล่ล่ากัน ก้ มีอยู่ แต่ จะแตกต่างจาก ภาค1 อยู่
-โอเค ชอบ นะ * หนัง ความรู้สึก อารมณ์ แบบเดียวกับ ภาค 1 เลย น่ะ ครับ
( ถ้า ใคร ที่ชื่นชอบ ภาค1 อยู่ แล้ว)

ถ้ามีคะแนนคงให้ 9/10 ค่ะ
.
.
ภาคนี้เอฟเฟคเริดเว่อร์ มีเศร้า เขิน เครียด หลายรสหลายอารมณ์มาก แล้วดูเหมือนมันพลิกล็อก ยังไงก็จะรอดูภาค 3 นะคะ ^___^

เป็นแฟนพันธุ์แท้นิยายเรื่องนี้ค่ะ รอภาคนี้มาปีกว่า ถามว่าคุ้มกับการรอคอยไหม....

ภาคแรกเราเข้าไปดูแบบไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อน และภาคแรกก็ทำเราประทับใจมากๆๆๆ ถึงกับรอภาคต่อไปไม่ไหวต้องไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน

ภาคนี้มีเสนอเรื่องการเมืองเยอะขึ้นกว่าภาคก่อน เป็นการเสียดสีรัฐบาลและคนชั้นสูง เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นเยอะมากๆ ใครที่หวังฉากแอคชั่นก็ผิดหวังได้เลยเพราะเรื่องนี้ไม่ได้ขายฉากต่อสู้เลยสักนิด

สิ่งที่ชอบคือ
? สามารถจินตนาการฉากในสนามประลองได้จากหนังสือ รู้ว่า Heavensbee คุยอะไรกับลุงสโนว์บ้าง และรู้ว่าลุงสโนว์อยากฆ่า******** ด้วย 5555

? ในสนามประลองถ่ายนิ่งกว่าและไม่เวียนหัวเท่าภาคที่แล้ว

? ฉากเปิดตัวtributesบนรถม้า อลังมาก ชอบๆๆ

สิ่งที่ไม่ชอบหรือขัดใจ คือ
? ฉากสะเทือนใจ ตอนอ่านหนังสือเราเฟลฉากของ*****มากๆ T_T กับฉากของป้า*** แต่ในหนัง2ฉากนี้มันเฉยๆไปหน่อย แต่ฉากของหนูRueในเขต11ทำได้ดีทีเดียว

? สัญลักษณ์ Mocking Jay ให้ความสำคัญน้อยไปหน่อย ควรจะมีฉากที่บอกว่าแคตนิสคือMocking Jay เพราะไปเกี่ยวกับตอนสัมภาษณ์ เลยไม่อินเท่าในหนังสือ

? ตัดเรื่องของทวินกับบอนนี่ + ขนมปังที่ส่งมาตอนแข่ง ถึงตัดออกไปจะไม่มีผลเท่าไร แต่ถ้ามีก็จะทำให้หนังมันน่าตื่นเต้นขึ้น คนดูมีเรื่องให้คิดตาม

? แคตนิสรู้เรื่อง tick tock เร็วเกิ้นน

สรุป ใครที่ดูภาคแรกแล้วควรดูภาคนี้นะจ๊ะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูภาคแรกก็ไปหาดูก่อน ไม่งั้นงงแน่นอน หนังทำได้ดีจริงๆ ฉากสวย นักแสดงเก่ง เล่นดีทุกคน ประทับใจค่ะ^^ รอดูภาคต่อไป สำหรับเราที่คาดหวังจากในหนังสือมาเป็นตัวหนังมากไปหน่อยให้คะแนน 9/10 ค่า

สุดท้าย..... Don't forget who the real enemy is

ชอบๆ ส่วนตัวแล้วคิด การถ่ายทำต่่างจากภาคแรกเลย ภาคแรกเราคือผู้ดูจริงๆ เห็นความเป็นไปกับทุกคนแต่พอมาภาคนี้แล้ว เหมือนเราคือ แคทนิสเอง เพราะทุกอย่างมันดูเหมือนถูกจัดเตรียมไว้หมดแล้วเพียงแต่รอให้ แคทนิส เดินตามแผนเท่านั้นเองและเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่่า แคทนิส เชื่อฟังมาก (ประชด) แต่เหมือนว่าคนวางแผนเองก็รู้จักหรือเดาการตัดสินใจของ แคทนิส ได้ดี ภาคแรกว่าเดาว่าใครเป็นพระเอกยากแล้ว ภาคนี้ยากกว่าอีก ทั้งเกลและพีตา จะเข้าทำนองที่ว่ารูปหล่อแต่นิสัยไม่ดี หรือรูปไม่หล่อแต่นิสัยดีมาก ตัวเราซึ่งเป็นคนดูยังรุ้สึกว่าถ้าจะให้เลือกยังยากเลย แต่ก็พอกลางๆ เรืองเริ่มจะรู็้สึกว่้า พระเอกน่าจะเป็นคนนี้ แต่พอตอนจบกลับหันให้ต้องคิดอีกแบบ เลยคงต้องรอภาค 3 ต่อไป

เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์ บางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นหนังตามกระแส แต่ถ้าได้ดูและสังเกตุ คิดตามจะรู้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีแนวคิดมาจากสังคมปัจจุบัน ทั้งการแสดงเพื่อที่จะเอาตัวรอด การหลอกตาผู้ชมของสื่อ การเอารัดเอาเปรียบของมนุษย์และอีกหลายๆ อย่าง ที่นิยายเรื่องนี้เอามาเปรียบเปรย (ถ้ารอไม่ไหวคงต้องหามาอ่านแล้ว)