SIAMZONE.COM

หนึ่งคือคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า และอีกหนึ่งคือผู้ที่พระเจ้าลิขิต

สำหรับแฟนหนัง Ridley คงจะพบว่าหนังเรื่องนี้มันต่ำกว่ามาตรฐานหนังของ Ridley อยู่มากพอสมควร ไม่ว่าจะมองจากแง่มุมไหน พิจารณาว่านี่คือผู้กำกับที่สามารถใช้คำว่า "ตำนานที่ยังมีลมหายใจ" ได้อย่างสะดวกปาก แต่ถึงจะมีรอยรั่วขนาดใหญ่ไม่ว่าจะใช้อะไรก็ปิดไว้ไม่อยู่ ก็ยากจะปฏิเสธว่า มันเป็นหนังที่ดูสนุก ดูเพลินใจ กว่าหนังหลายๆเรื่องในช่วงเดียวกันนี้

สิ่งหนึ่งที่ต้องชื่นชมคงเป็นทางฝั่งของ CG ที่จัดหนัก จัดเต็ม จนอดคิดไม่ได้ว่า กรรมการออสการ์ ใช้อะไรมอง ถึงยอมให้หนังเรื่องนี้หลุดโผรายชื่อเข้าชิง Best Visual Effects เอาเข้าจริงๆแล้ว Visual Effects แทบจะเป็นพระเอกหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้

ทางด้านนักแสดง ที่ต้องขอชื่นชมคือ Christian Bale กับการสวมบทบาท Moses ออกมาได้อย่างมีมิติ มุมมอง ส่วนรายอื่นๆนั้นทำได้แค่มาตรฐาน และยังใช้บริการนักแสดงฝีมือเทพๆได้ไม่ดีพอ ไม่ว่าจะเป็น Joel Edgerton ในบท Ramses ที่ดูเบาบาง ทั้งๆที่หลายต่อหลายครั้งมองเห็นความพยายามของนักแสดงที่พยายามจะสร้างความจดจำ Sigourney Weaver, Ben Kingsley แทบจะจำไม่ได้ว่าเคยแสดงอยู่ในหนังเรื่องนี้

รวมถึงการตีความใหม่ ซึ่งมีสถานะไม่ต่างจาก Noah (แม้ว่า Noah จะมีภาษีที่เหนือกว่า) มันทำให้หนังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างน้อยก็ไม่ซ้ำทางกับหนังตำนานโมเสสเรื่องอื่นๆ

เดิมทีมีข่าวแว่วมาว่าหนังมีความยามกว่า 3 ชั่วโมง 20 กว่านาที แต่แล้ว หนังฉบับจริงกับมีแค่ 150 นาที ซึ่งนั่นหมายความง่าหนังสั้นกว่า Interstellar เสียด้วยซ้ำ และหากเทียบกับ ตำนาน ที่ถูกเล่าขานหรือจารึก ขณะดู จึงไม่ต่างจากการดู Exodus ในเว่อร์ชั่นความเร็วที่ 32x ไม่รู้ว่าจริงๆ เมื่ออกแผ่นมาแล้ว หนังจะมีเว่อร์ชั่น Director's cut หรือไม่ สังเกตุว่าหนังของ Ridley เว่อร์ชั่น Director's cut นั้นมักจะดูดีกว่าอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งหนังยักษ์อีพิคล้มอย่าง Robin Hood

แม้หนังจะมีข้อผิดพลาดแดงโร่ให้เห็น แต่การรับชมหนังเรื่องนี้กลับดูลื่นไหล สนุก ตื่นตาไปกับภาพที่น่าอัศจรรย์ อย่างที่คอหนัง Ridley น่าจะจินตนาการออกได้ ยิ่งฉากภัยพิบัติช่วงท้ายเรื่องนี่จัดหนัก จนแทบจะลืมข้อเสียไปจนหมดสิ้น..

-หนัง ทำออกมาได้ดี เลย ครับ
-กราฟฟิค ทำออกมาดี
-หนัง ฉาย นาน
-ฉากบู๊ ก็ โอเค ครับ (สำหรับ มันยังไม่สุด)

ตอนแรกก็หวังลุ้นๆว่ามันส์ระเบิดแน่แต่ก็ไม่เป็นอย่างนั้นแต่ที่รู้ๆอยู่แล้วว่าโมเสสกับรามาเสสแตกหักกันแน่ไม่มันส์แต่ลุ้นและน่าติดตามว่าคริสเตียน เบลจะเอาคืนยังไง ที่ชอบตอนตัวแทนพระเจ้าตัวน้อยๆบอกรอดูเฉยก็พอจัดภัยธรรมชาติให้ซะเลยน่าทึ่งจิงพวกโกงกินน่าจะโดนอย่างนี้บ้างนะรอแผ่นบลูเรอย่างเดวตอนนี้ ปล.คริสเตียน เบล ยังแสดงได้สุดยอดประทับใจจิงๆ 9/10

หนังก็ดูนุกได้สาระตั้งแต่ต้นเรื้องจนจบแบบเพลินๆเลย สมศักดฺ์ศรีผู้กำกับตุ๊กตาทองออสการ์คนนี้ ฉากอลังการสมจริงทุกฉาก คนดูอาจงงจริงๆถ้าไม่ได้ดูหนังเกี่วกับเรื่องนี้มาก่อน เริมก็เป็ดตัวโมเสสเลย จริงๆๆน่าจะบอกที่มาความสัมพันธ์ของโมเสศกับราโมเสสและราชวงศือิยิบเสียก่อน บทพี่สาวโมเสสและแม่ก็แทบไม่วางไว้ในเรืองเลย ใช้เด็กมาเป็นแมสเชนเจอร์แทนพระเจ้าก็เป็นการนำเสนอที่ดีดูไม่ขัดตาเท่าไหร่ ดาราก็แสดงดีทุกคนไม่เกินเหตุหรือดุดันเกินไป คงเป็นหนังชิงรางวัลออสการ์ 2015 ของผูกำกับวันทองคนนี้แน่นอน สนุกได้สาระพอสมควร อยากให่พวกโกงกินประเทศชาติหรึอพวกทุจริตคิดชั่วไปดูหนังเรื่องนี้จังอาจคอดได้บ้าง ให้ 9/จาก10 ครับ

หนังค่อนข้างมีปัญหา 2 เรื่อง คือ การเล่าเรื่อง มีหลายเหตุการณ์ตัดไปตัดมาไว รวมถึงการลำดับเวลา ทำให้ไม่สามารถพาอารมณ์ร่วมไปได้สุด และมุมมองการนำเสนอในสิ่งเหนือธรรมชาติของหนังซึ่งส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยอิน

เป็นที่น่าเสียดายว่า ทีมสร้างน่าจะทำหนังออกมาได้สนุกกว่านี้ ทั้งที่เป็นหนังขายบันเทิงตามสูตรสำเร็จ ด้วยทุนสร้างมหาศาล และการแสดงอันยอดเยี่ยมไร้ที่ติของนักแสดงนำชาย สุดท้ายก็เหมือนกับเป็นงานแก้มือจากเรื่อง Robin Hood ที่พยายามจะให้เหมือนวานขึ้นหิ้งอย่าง Gradiator

- ภาพ 3 มิติสวยอลังการมาก เอฟเฟกต์ตระการตา ตื่นตาตื่นใจเหมือนอยู่ในเกมที่สร้างขึ้นมาดีๆ เกมหนึ่งเลย (ตอนนกบิน แมลงบินรู้สึกอยากเอามือขึ้นมาปัด บางทีก็ไม่อยากหายใจเดี๋ยวจะสูดเอานกเอาแมลงเข้าไป)
- ชอบนักแสดง เสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะนักแสดงผู้หญิงที่ดูอียิปต์สุดๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นชาวอียิปต์ เลยกลายเป็นว่าคริสเตียน เบลคนเดียวที่หน้าตาโทนต่างจากพวก
- การดำเนินเรื่องไม่ได้เร้าใจอะไรมาก แต่ว่าประทับใจที่ตัวหนังไม่ได้บังคับเราให้ศรัทธาในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนดูแล้วรู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดความเชื่อ