SIAMZONE.COM

อันเนียน เป็นชายหนุ่มตาบอดผู้มีปัญหาในด้านการพูด เขาทำงานเป็นคนพิมพ์อักษรเบลล์ให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง อันที่จริงอันเนียนไม่ได้เกิดมาแล้วอาภัพอย่างที่ใครๆ เข้าใจ แต่เพราะอาการป่วยไข้ที่เกิดขึ้นกับเขา เมื่อตอนอายุได้สิบขวบ ส่งผลให้เขาต้องเป็นเช่นนี้ จนกระทั่งภายหลังจากพ่อแม่ของเขาได้เสียชีวิตลง เขาจึงถูกส่งมาอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ตาบอดแห่งนี้

แม้ว่าจะอาภัพ แต่ชีวิตของชายหนุ่มก็ไม่เคยสิ้นหวัง เขามักอาสาตัวเองทดลองยาใหม่ๆ ที่ใช้รักษาอาการตาบอดทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่เพียงเท่านั้นเขายังรู้จักภาษาที่เป็นสัญลักษณ์มากมาย และมีฝีมือการเล่นแซกโซโฟนที่หาตัวจับยาก ซึ่งเขาได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้เป็นพ่อก่อนที่จะตาบอด

วันหนึ่งอันเนียนโดนรถชน เขาพบว่าตัวเองล่องลอยไปในความฝัน สามารถกลับมาพูดและฟังได้อีกครั้ง ที่นั่นเขาได้พบกับชาย ในชุดดำซึ่งบอกกับเขาว่าเขาได้เสียชีวิตแล้วและกำลังถูกส่งไปยังปรโลก อย่างไรก็ดีอันเนียนยังพอมีโชคอยู่บ้าง เพราะเขาเสียชีวิต เป็นรายที่ 6 หมี่นล้านพอดี ทีนี้ตามกฏของปรโลก ทุกครั้งที่ยอดคนตายถึงหมื่นล้านเมื่อไหร่ คนคนนั้นก็จะมีโอกาสที่จะอธิษฐาน ขออะไรก็ได้

อันเนียนจึงขอที่จะกลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้งเพื่ออยู่กับคนรักผู้มีนามว่าออตั้ม ยมบาลเห็นชอบแต่ก็แจ้งเงื่อนไข ให้ทราบว่าเขาสามารถกลับไปยังโลกได้เพียง 5 วันเท่านั้น โดยเขาจะกลับไปในสภาพของคนใหม่ที่พูดได้ฟังได้ และจะต้องไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรับรู้เด็ดขาด ซึ่งอันเนียนก็รับปากแต่โดยดี

ต่อมาอันเนียนพบว่าตนเองได้กลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองในโรงพยาบาลอีกครั้ง วันนี้เป็นวันที่เจ็ดนับตั้งแต่เขาเสียชีวิต ที่นั่นเขาพบว่าข้าวของถูกแพ็คไว้ในกล่องอย่างเรียบร้อย จากนั้นเขาก็หยิบเอาเงินที่เขาเก็บไว้ก่อนตายออกมาใช้ ต่อมาอันเนียนได้ไปหาออตั้มคนรักของเขาที่ห้อง ความงดงามของเธอทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้ เขาแนะนำตัวเองกับเธอว่า เป็นพนักงานประกันชีวิต และสาเหตุที่มาหาเธอก็เพราะว่าชื่อของเธอปรากฏ ในเบี้ยประกันของอันเนียน ดังนั้นเขาจึงต้องตรวจสอบให้ละเอียด

ระหว่างที่สนทนากับเธอนั้นเขารู้สึกได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจ ของเธอที่มีต่อการตายของเขา ชายหนุ่มเพียรพยายามกับเธอ แต่ก็ต้องถูกขัดขวางจากยมบาลทุกครั้งไป เนื่องจากผิดเงื่อนไขที่ตั้งไว้ก่อนที่จะถูกส่งมายังโลกมนุษย์

ว่าแล้วเขาจึงหาทางใหม่ด้วยการเขียนจดหมายเล่าความจริงไปให้เธอ แต่ก็เหมือนเดิมเมื่อ ออตั้มแกะซองจดหมายออกแล้วพบว่า จดหมายที่ชายหนุ่มส่งมาให้เป็นเพียงกระดาษเปล่าเท่านั้น หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าชายหนุ่มคิดเกินเลยกับเธอ เธอจึงพยายามหลบหน้า

ระหว่างนี้หมอวู หมอหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีของออตั้ม ได้ชักชวนหญิงสาวออกไปทานข้าว สร้างความอิจฉาแก่อันเนียนเป็นอย่างมาก เขาจึงหาทางขัดขวางก่อนที่ความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง จะเกินเลยกว่าคำว่าเพื่อน อย่างไรก็ดียิ่งเขาทำเช่นนั้นมากเท่าไหร่ ทุกอย่างก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น

นานวันเข้าออตั้มเริ่มรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ประกันชีวิตผู้นี้รู้เรื่องเกี่ยวกับเธอเป็นพิเศษ ชายหนุ่มจึงแกล้งโกหกว่า เขารู้มาจากไดอารี่ ที่ชายหนุ่มเขียนไว้ก่อนตาย ออตั้มจึงขอไดอารี่เล่มนั้นจากเขา ซึ่งโอเนียนก็แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการไปซื้อไดอารี่เปล่า

จากนั้นก็ไปพบเธอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวว่าเธอไม่มีทางอ่านไดอารีเล่มนี้ได้เพราะพิมพ์ด้วยอักษรเบลล์ ดังนั้นเขาจึงขออาสาอ่านให้เอง อันเนียนได้ย้อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่แรกพบเธอจากความทรงจำที่เหลืออยู่ เรื่องราวที่เขาเล่ากระทบจิตใจของหญิงสาวมาก จนทำให้เธอต้องร้องไห้ด้วยความเสียใจ เธอขอร้องให้เขาหยุดก่อนจะวิ่งจากไป

ถึงตอนนี้อันเนียนต้องยืนอยู่บนขอบเหวแห่งการตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกทางเดินเส้นไหนดี ระหว่างเปิดเผยความจริงทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าออตั้มจะต้องเจ็บปวดอีกครั้งหนึ่ง หรือไม่ก็ยอมเจ็บปวดเสียเองกับการปล่อยให้เธอสมหวังในความรักกับหมอวู หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจตามติดเธอ เพื่อเก็บความประทับใจเกี่ยวกับเธอให้คงอยู่กับเขาให้มากที่สุด โดยเขาหวังว่าจะนำไปยังปรโลกด้วย

หลังจากกลับจากการติดตามออตั้ม อันเนียนได้เก็บตัวอยู่ในห้อง และเปิดวิทยุซึ่งขณะนั้นกำลังออกอากาศ รายการที่ชักชวนผู้ฟัง ถามความเห็น อันเนียนได้โทรไปให้ความเห็นของเขาด้วย โดยเขาได้แสดงทัศนะว่าคนเรานั้นจะเปลี่ยนแปลงเรื่องร้ายๆ ให้กลายเป็นดีได้อย่างไร และสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับคนที่ทำแต่ความดีได้อย่างไร

ทัศนะของเขาสร้างความประทับใจแก่ผู้ฟังจนถ้วนทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ออตั้มซึ่งฟังอยู่ด้วย คำพูดของชายหนุ่มทำให้เธอนึกถึงคำพูดเดียวกันนี้ของอดีตคนรัก ถึงตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกแล้วว่าอันเนียน และเจ้าหน้าที่ประกันชีวิตคนนั้นคือคนคนเดียวกัน

ในวันสุดท้ายที่อันเนียนจะมีชีวิตอยู่บนโลก ออตั้มได้มาที่ห้องของเขา แล้วพยายามคาดคั้นความจริงจากเขา ทีแรกชายหนุ่มพยายาม บ่ายเบี่ยง แต่หลังจากคิดได้ว่าไม่ว่าจะบอกหรือไม่บอก วันนี้เขาก็ต้องจากไปวันนี้อยู่ดี ดังนั้นเขาจึงเปิดเผยความจริงทั้งหมดกับเธอ แม้ว่าช่วงเวลาแห่งความจริงระหว่างเขากับเธอจะเหลืออยู่น้อยนิด แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว เช่นเดียวกับออตั้มที่เข้าใจแล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ที่เลวร้าย ให้กลายเป็นความสุขได้อย่างไร