โคลิน โดนใจ Pride and Glory ได้สวมบทตำรวจสองชีวิต

"โคลิน ฟาร์เรลล์" (Colin Farrell) นักแสดงหนุ่มชาวไอริส ที่เคยฝากผลงานสร้างชื่อมากมาย อาทิ "S.W.A.T." และ "Miami Vice" ต้องกลับมาจับปืนสวมบทบาทตำรวจอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง "Pride and Glory" ซึ่งรับบทเป็น จิมมี่ นายตำรวจที่มีส่วนพัวพันกับคดีการทุจริต โดย โคลิน ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขาว่า

ทำไมถึงเลือกเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้

"ผู้จัดการส่วนตัวของผมส่งบทภาพยนตร์มา ซึ่งพอผมอ่านแล้วก็รู้สึกชอบมันมาก ผมคิดว่า จิมมี่ เป็นตัวละครที่สามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี เขายังต้องใช้ชีวิตสองชีวิต เมื่ออยู่ในบ้านเขาคือสามีที่รักภรรยา แต่เมื่ออยู่บนท้องถนนแล้วเขาก็จะกลายเป็นสัตว์ป่า เขาไม่มีความลังเล และก็รู้ถึงสภาพความเป็นไปในโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้ายเป็นอย่างดี ซึ่งเขาก็ต้องทำทุกอย่างให้ตัวเองรอดอยู่ในสถานการณ์นี้ได้"

เตรียมตัวอย่างไรบ้างในการสวมบทเป็นตัวละครตัวนี้

"ผมไม่ต้องทำอะไรมากเลย ผมไม่มีความรู้สึกเหมือนช่างทาสีที่ต้องเสาะหาคิดค้นเฉดสีใหม่ๆ ขึ้นมา เพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีธีมที่แน่นอนในการเล่าเรื่อง ซึ่งก็ถูกใช้ในการปลุกความรู้สึกสนใจในแต่ละช่วงของหนังได้อย่างเหมาะสม แต่ผมก็ได้คุยกับผู้กำกับเหมือนกันนะว่าอย่าให้ตัวละครที่ผมเล่นนี้ ต้องทนทุกข์ทรมานกับบาปที่เขาก่อขึ้นมามากนักเลย"

การทำงานร่วมกับ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน

"ผมรู้จัก เอ็ดเวิร์ด (Edward Norton) มาก่อน และเมื่อผมรู้ว่าเขาจะมารับบทเป็น เรย์ ในเรื่องนี้ มันก็ยิ่งเป็นสิ่งล่อใจผมให้ตกลงรับเล่นบทนี้ คุณคงเคยเห็นการแสดงของเขาในเรื่อง Primal Fear มาแล้ว ผมว่าเขาเป็นนักแสดงที่เยี่ยมยอดมาก ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ร่วมแสดงหนังกับเขาให้เร็วกว่านี้"

ปืนที่ใหญ่ที่สุดที่คุณเคยถือ

"ปืนไรเฟิล คาลิเบอร์ 50 มม. พวกเราได้ยิงปืนจริงใส่สำรับไพ่จากระยะสี่ร้อยหลา ในระหว่างที่ผมฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในเรื่อง S.W.A.T. มันเที่ยงตรงอย่างไม่น่าเชื่อ"

คุณรู้สึกยังไงกับปืน

"ผมไม่ค่อยชอบปืน และสาเหตุที่ผมไม่ชอบก็คือผมชอบมัน เพราะว่าถ้าคุณเอาปืนมาใส่ไว้ในมือผม ผมก็จะรู้สึกเป็นเหมือนตัวเองเป็นพระเจ้า และผมก็เกลียดความจริงข้อนั้น (หัวเราะ) "

คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการแสดงให้เห็นถึงความรุนแรง

"สิ่งที่คุณเห็นนั้นมีอยู่ในบทภาพยนตร์แล้ว ก็อย่างที่ผมบอกแล้วว่ามันเป็นบทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก ทุกๆ รายละเอียดถูกอธิบายและปรากฏอยู่ในบทแล้ว ซึ่งทำให้ผมไม่ต้องทำอะไรไปมากกว่านำมันออกมาใช้ให้ดีที่สุด ผมจำได้ว่าเคยดูสารคดีเรื่องหนึ่ง ที่เกี่ยวกับตำรวจกังฉินที่ทำเรื่องเลวร้ายในเมืองนิวยอร์กยุค 80 โดยตอนนี้เขาก็ต้องชดใช้กรรมอยู่ในคุก ซึ่งคนสัมภาษณ์ถามเขาว่ารู้สึกอย่างไรที่มีคนเรียกคุณว่าไอ้คนชั่ว เขาตอบว่าผมไม่ชอบเลย เพราะผมไม่ใช่คนชั่ว ผมเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องทำในเรื่องชั่วๆ เท่านั้น"

มาร่วมเปิดโปงการทุจริตที่จะทำให้วงการตำรวจนิวยอร์กสั่นสะเทือนได้ใน Pride and Glory วันที่ 18 ธันวาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์