บาร์นีย์ บอกเล่าเรื่องราวอบอุ่นหัวใจใน Baby Steps

"บาร์นีย์ เชง" (Barney Cheng) แจ้งเกิดในฮอลลีวูดครั้งแรกในฐานะนักแสดง ตอนที่เขาได้รับบทสมทบในภาพยนตร์ของผู้กำกับ "วูดดี อัลเลน" (Woody Allen) เรื่อง "Hollywood Ending" จากนั้นเขาก็ได้รับบทสมทบในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง อาทิ "Wasabi Tuna" และ "Mission: Impossible III" นอกเหนือจากงานแสดงแล้ว บาร์นีย์ ยังมีความสามารถในการกำกับ เขียนบท และควบคุมงานสร้าง ภาพยนตร์สั้นของเขามีทั้งที่ได้รับรางวัลและออกฉายในเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลก มาตอนนี้ บาร์นีย์ ได้มีโอกาสทำภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกชื่อ "Baby Steps" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องของคู่รักเพศเดียวกันที่อยากมีลูกเพื่อให้คุณแม่ที่ไม่ยอมรับเรื่องรักร่วมเพศกลับมามีความสุขอีกครั้ง โดยเขาพร้อมแล้วที่จะมาบอกเล่าเบื้องหลังผลงานภาพยนตร์ชวนอบอุ่นหัวใจเรื่องนี้อย่างหมดเปลือก

ภาพยนตร์เรื่อง Baby Steps มีที่มาที่ไปอย่างไร

"มันเป็นเรื่องค่อนข้างส่วนตัวครับ เพราะภาพยนตร์อิงมาจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวผมและคุณแม่ ตอนที่ผมบอกคุณแม่ว่าผมเป็นเกย์ เรื่องมันนานมาแล้วครับ แต่ตอนนั้นระหว่างเราเต็มไปด้วยความขัดแย้งมากมาย โดยเฉพาะเรื่องการสร้างครอบครัว"

ใช้เวลาเขียนบทนานไหม

"ผมเขียนบทร่างแรกเสร็จในเวลา 2 สัปดาห์เท่านั้นเอง เพราะทุกอย่างมันไหลออกมาจากประสบการณ์ตรง ผมเขียนเมื่อสัก 5-6 ปีก่อนนะ ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ว่าจะได้สร้างเป็นภาพยนตร์หรือเปล่า จนกระทั่งผมได้การสนับสนุนจากสถาบันภาพยนตร์ไทรเบกา และ สวี่ลี่กง (Hsu Li-Kong) คนที่เคยเป็นผู้ควบคุมงานสร้างให้กับภาพยนตร์ยุคแรกๆ ของ อังลี (Ang Lee) ครับ จากบทภาพยนตร์ร่างแรก ผมก็แก้บทมาเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือเปล่า แต่ผมแก้บทตลอดเวลา แม้แต่ตอนถ่ายทำ หรือตอนตัดต่อ ผมแก้ให้มันลงตัวจนถึงนาทีสุดท้าย"

ประเด็นหลักในเรื่อง Baby Steps คืออะไร

"เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่ชาวจีนหัวโบราณ กับลูกชายหัวสมัยใหม่ซึ่งเป็นเกย์ การปะทะกันของสองวัฒนธรรม แต่นอกเหนือจากเรื่องการยอมรับจากครอบครัว ยังเป็นเรื่องการสร้างครอบครัวใหม่ด้วย เรื่องการรับเลี้ยงเด็ก ชายรักชายที่อยากสร้างครอบครัว"

ได้รับอิทธิพลในการกำกับภาพยนตร์มาการทำงานของผู้กำกับคนไหนบ้างหรือเปล่า

"ไม่มีเลยครับ ผมกำกับไปด้วยสัญชาตญาณล้วนๆ เลย มันง่ายตรงที่เรื่องราวทั้งหมดมันมาจากตัวผมเอง ผมรู้ว่าควรจะถ่ายทอดมันออกมาอย่างไร แต่ก็มีส่วนที่ยากก็คือผมตัดสินใจรับบทนำเอง ซึ่งมันยากมากที่คุณต้องแสดงต่อหน้ากล้อง แล้วคุณก็ต้องสั่งหยุดด้วยตัวเอง แล้วก็ต้องวิ่งมาดูจอหลังเล่นเสร็จแต่ละฉาก"

จำภาพยนตร์ชายรักชายเรื่องแรกที่ดูได้ไหม

"ผมจำไม่ได้ครับ ยังเด็กเกินที่จะจำ แต่ The Wedding Banquet ของ อังลี เป็นหนึ่งในบรรดาเรื่องแรกๆ ที่ได้ดูครับ"

ตอนนั้นคิดไหมว่าตัวเองจะกลายมาเป็นผู้สนับสนุนเรื่องสิทธิคนรักเพศเดียวกัน

"นึกไม่ถึงเลยครับ เรามากันไกลมากอย่างน่าตื่นเต้น ทุกวันนี้คนรณรงค์สิทธิ์ในการแต่งงานกับเพศเดียวกัน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว"

เป้าหมายสำคัญในการทำภาพยนตร์เรื่องนี้คืออะไร

"เอาเป็นว่า ผมจะบอกเป้าหมายในการทำงานของผมแทนก็แล้วกันครับ ในการทำงานผมต้องรับผิดชอบ 3 อย่าง อย่างแรก ในฐานะศิลปิน คุณจะต้องทำให้งานศิลปะของคุณเป็นงานที่ดี นั่นถือเป็นความรับผิดชอบครับ อย่างที่สอง คุณต้องทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิม สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมอยากให้คนดูและเกิดแรงบันดาลใจในการยอมรับความรักของเพศเดียวกันครับ อย่างที่สาม ผมต้องรับผิดชอบต่อนายทุน ผมหวังว่าอย่างน้อยๆ ภาพยนตร์ควรจะได้เงินกลับมาบ้างครับ"

Baby Steps มีกำหนดเข้าฉายให้ชาวไทยได้สัมผัสความรักบนความขัดแย้งของครอบครัวในโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป