อยากแนะนำTrackเด่นของBjorkให้ฟัง :D

4 ม.ค. 55 12:18 น. / ดู 1,488 ครั้ง / 9 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
สืบเนื่องจากที่คุณส่วนสวยเกินได้ทำรีวิวเพลงของBjorkขึ้นมา ด้วยความที่รักป้ามากเลยอยากจะทำบ้าง แต่ไม่ได้่จะรีวิวทีละแทรคนะ อยากจะพูดถึงภาครวมของบียอร์คในแต่ละอัลบั้มแล้วแนะนำแทรคเด่นๆให้ฟัง  อยากให้คนไทยรู้จักบียอร์คมากกว่านี้
1.Debut (1993)


หลังจากแยกวงกับThe Sugarcubesก็ถึงเวลาที่Bjorkจะออกอัลบั้มในฐานะศิลปินเดี่ยวสักที เพลงในอัลบั้มนี้ออกแนวAlternative Dance/Trip Hop ซึ่งถือว่าเป็นอัลบั้มที่Bjorkประสบความสำเร็จทั้งด้านการตลาดและศิลปะในการทำเพลง เพลงในอัลบั้มนี้ค่อนข้างจะน่ารัก ติดหู สำหรับแทรคที่อยากแนะนำคือ

Human Behaviourแทรคเปิดอัลบั้ม Alternative Danceน่ารักๆ

ฺBig Time Sensuality มี2เวอร์ชั่นคือAlbum Versionกับอันที่ตัดเป็นsingleเป็นremix version เป็นอีกแทรคที่ติดหูมาก ส่วนตัวชอบoriginal ver.มากกว่าremix

Play Dead อิเลคโทรนิก้าที่มีกลิ่นTrip Hopบางๆ เป็นอีกแทรคที่แนะนำให้ฟังในอัลบั้มนี้

2.Post (1995)

ถึงจะบ้าแค่ไหน ก็คงไม่มีใครอยากตั้งชื่ออัลบั้มของตัวเองว่า Debut II  (อาจจะยกเว้นCrystal Castlesที่ตั้งชื่ออัลบั้มตัวเองว่าCrytsal Castlesทั้ง2อัลบั้ม - -) อัลบั้มนี้ในความหมายของBjorkคือ Post Debutนั้นคืองานของเธอหลังจากการDebutนี้เอง อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่มีอิธิพลที่หลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นPop,Techno,Psychedelic,Progressive หรือTrip Hop แต่ก็ยืนพื้นไว้ด้วยElectronicaสำหรับอัลบั้มนี้จะเป็นอัลบั้มที่คุณจะได้เห็นอัจฉริยภาพของBjorkที่ผมนับถืออย่างเต็มที่กับการนำอิธิพลของเพลงหลายๆแนวมารวมกันในเพลงเดียวได้ และเป็นอัลบั้มที่ดนตรีฟังดูมีความสุขเป็นอัลบั้มสุดท้ายของเธอ

แทรคที่แนะนำคือ:
Hyperballad มีคนกล่าวไว้ว่า99%ของแฟนคลับเธอจะรักเพลงนี้หรือพูดอีกนัยนึงคือเพลงชาติประจำแฟนคลับBjorkก็ว่าได้ สำหรับผมเพลงนี้เป็นเพลงโปรดตลอดกาลเลย กับซาวด์ElectronicaระนาบไปกับAmbientที่เบาบาง ท่อนจบที่ป่วงได้ใจก่อนจะตัดออกไปด้วยเสียงเคื่องสายที่บรรเลงอย่างเบาบางประหนึ่งได้ขึ้นสวรรค์

It's Oh So Quiet ได้อารมณ์Broadwayมาแต่ไกลสำหรับเพลงนี้เอาเป็นว่าป้าแกกรี๊ดได้โคตรสะใจจจจจจ!!!

You've Been Flirting Again หวานมากลอยไปกับเสียงเครื่องสาย ไม่รู้จะบรรยายยังไงต้องฟังเอง

Isobel เพลงที่หลายๆคนชอบ alternative danceกลิ่นอายtribal

Possibly Maybe เพลงเศร้าช้าๆมีกลิ่นของทั้งtechno,pop,ambient,psychedelic

หรือถ้าใครชอบProgressiveแนะนำให้ฟังArmy of MeและEnjoy
แก้ไขล่าสุด 4 ม.ค. 55 20:55 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | lllsss | 4 ม.ค. 55 12:23 น.

สาเหตุที่แยกอัลบั้มที่เหลือออกมาในอีกpostนึงนั้นเพราะว่าก้าวต่อไปในชีวิตของBjork เธอได้ทิ้งคราบทุกๆอย่างที่เธอเคยทำ เธอได้ละทิ้งดนตรีที่น่ารักติดหูทั้งหลายออกไป และหลังจากอัลบั้มที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ มีคนเคยบอกไว้ว่า มันจะเป็นตัวตัดสินเลยละว่าคุณจะรักผู้หญิงคนนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน เอาละ มาเริ่มกันเลยครับ

3.Homogenic (1997)



ตั้งแต่เพลงจากอัลบั้มนี้ไปมันเหมือนกับว่า Bjorkจะยืนอยู่ณที่ของเธอและเป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องวิ่งตาม เพลงดนตรีสดใสจากDebutและPostจะเป็นสิ่งที่คุณไม่มีวันจะได้ยินอีกแล้ว มีนักวิจารณ์เพลงท่านหนึ่งยกย่องอัลบั้มนี้ไว้ว่า หากไม่ใช่อัลบั้มอิเลคโทรนิกที่ดีที่สุดในทศวรรษก็เป็นอัลบั้มอิเลคโทรนิกที่ดีที่สุดตลอดกาล

ปกอัลบั้มนี้ก็สื่อถึงความไม่เป็นมิตรของเธอหลังจากนี้แล้วละ เสื้อผ้าที่เธอใส่มาจากอัจฉริยะผู้ล่วงลับAlexander McQueenและถ่ายโดยช่างภาพที่เก่งที่สุดคนนึงของโลก Nick Knight สำหรับคำว่าHomogenicนั้นไม่มีความหมายที่แน่นอนแต่ก็อาจแปลได้ว่า"แยกกันเพื่อเป็นหนึ่งเดียว" และนี้เป็นอัลบั้มแรกที่บียอร์คเลิกใช้ทีมงานชุดเดิมและเป็นProducerเองในทุกๆแทร็ค เพลงในอัลบั้มนี้ยืนพื้นด้วยElectronicaและตบท้ายด้วยเสียงบรรเลงชั้นดีจากViolin แทร็กที่อยากจะแนะนำคือ

Hunter: Electronicaตบท้ายด้วยTrip Hopและเสียงร้องบาดอารมณ์ของบี

Joga: Electronicaที่ตบท้ายด้วยเสียงบรรเลงสวยๆจากเครื่องสาย ช่วงคั่นระหว่างเพลงนั้นทำProgammingได้ดีมาก ฟังแล้วอย่างกับอันเชิญเทพเจ้ามาบรรเลงดนตรีให้ เป็๋นเพลงที่ยิ่งใหญ่มากๆ

Unravel: Dark Ambientหลอนๆ ประชดกระชันความรัก เป็นเพลงแรกๆที่ทำให้ชอบBjork ใช้ภาษาได้สวยมาก โดยเปรียบเปรยว่าการที่ถูกคุณทิ้งไป ทำให้หัวใจฉันสลายช้าๆ จอมปีศาจได้เก็บเศษของมันไป และความรักของฉันไม่เหลืออีกแล้ว OMG!!!สุดยอดดดด

Bachelorette อีกแทรคที่อลังการมากๆ เต็มไปด้วยอารมณ์ แอบรู้สึกว่ามันเป็นภาคต่อของJoga

All Neon Like Electronica,TechnoระนาบไปกับAmbient

PlutoใครมาฟังBjorkกรี๊ดในเพลงนี้แล้วจะะรู้ว่าIt's Oh So Quietมันงั้นๆไปเลย

All Is Full Of Love เพลงมี2เวอร์ชั่น หรืออาจจะ3นี้แหละแต่เคยฟังแค่สอง คือSingle VersionกับAlbum Version ในSingle Versionนั้นเพลงจะติดหูกว่า มาในแนวElectronicaระนาบAmbient(มากกว่าHyperballad) แต่สำหรับสำหรับAlbum Ver.นั้นเป็นAmbientที่บางเบาพาคุณล่องลอยไปในความว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยความรักอย่างไม่มีวันจบสิ้น all is full of love......all is of love...all is full of love...all is full of love คุณไำม่จำเป็นที่จะต้องเสพกัญชาหรอกเพื่อจะรู้สึกว่าทุกอย่างมันล่องเลย แค่ฟังเพลงนี้ก็พอแล้ว....

4.Vespertine (2001)

เป็นอัลบั้มที่ถูกlistอยุ่ใน1001อัลบั้มที่คุณต้องฟังก่อนตาย หลายๆคนยกย่องให้อัีลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุึดของเธอ ถ้าถามผมว่าอัลบั้มไหนเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดของเธอ ผมลังเลระหว่างHomogenicกับVespertineนะ เพราะทั้งสองอัลบั้มก็มีCharacterที่เด่นชัดแตกต่างกันไป

ผลงานที่เปรียบเสมือนลมหนาวที่ทั้งอบอุ่นและในเวลาเดียวกันก็เย็นยะเยือกไปถึงขั้วกระดูก ยืนพื้นด้วยelectronicaอีกเช่นเคย คลอไปกับเครื่องสาย เสียงประสานและmicrosound ไม่ว่าจะเป็นเสียงกรีดไพ้ในhidden placeหรือการเดินบินหิมะในAurora อัลบั้มนี้Bjorkคุมบังเหียนเองทั้งหมดและได้ชักชวนศิลปินอิเลคโทรนิกที่ฝีมือprogammingดีมากๆชื่อว่าmatmosมาช่วยในส่วนmicrosound ดนตรีในอัลบั้มนี้ละเมียดละไมมากๆ และในจุดๆนี้ผมคิดว่าBjorkได้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดในการทำงานของเธอ สำหรับแทรคที่อยากแนะนำคือ

Cocoon แทรคที่เย็นยะเยือก หลอนได้ใจ มีmicrosoundที่ละเอียดมากๆต้องชมทั้งหัวคิืดและฝีมือของBjorkและMatmos

It's Not Up To You เพลงที่น่าจะฟังง่ายที่สุดเพลงนึงของเธอ ลมหนาวงที่อบอุ่นจะค่อยๆพัดคุณให้ลอยไป

Undo ดินแดนลึกลับที่คลอไปด้วยลมหนาวเบาๆ ก่อนจะสาดถาโถมใส่ด้วยลมที่เย็นยะเยือก และปกคลุมคุณไว้ด้วยหิมะ

Aurora เพราะมากกกกกกกกก!!!!!อยากให้ทุกคนฟัง มีคนเคยบอกว่าถ้าBjorkทำแนวนี้ต่อไป Enyaคงเสียวสันหลัง

Pegan Poetry ม่านหลอกที่จะล่อลวงคุณ เสียงของBjorkตอนร้องว่า I love him...I love him....พาผมหลอนหลุดไปอีกโลกทุกที

Unisonเพลงที่ปิดท้ายอัลบั้มได้ดีมากๆ เริ่มมาแบบเงียบๆก่อนจะเพิ่มรายละเอียดดนตรีอันแพรวพราวเข้าไปในช่วงกลางของเพลง และจบลงแบบทิ้งความรู้สึกไฮๆไว้

5.Medulla (2004)


ถึงจะโดนเพื่อนด่าว่าบ้ามาตลอดยังไงที่ทนฟังบียอร์คได้...ก็มันชอบจริงๆนี้แหละ แต่ว่าอัลบั้มนี้เป็นอัีลบั้มที่ไม่กล้าพูดเต็มปากว่าทนฟังได้หรือว่าชอบ อัลบั้มมันhigh conceptจัด Bjorkบอกว่าเธอถ่ายทอดความกลัวจากการที่เธอโดนกักที่สนา่มบินคนเดียวจากการเข้าใจผิด ก็ลองคิดดูสิว่าอัลบั้มนี้มันจะป่วงขนาดไหน..... อัลบั้มนี้Bjorkตัดสินใจละทิ้งเครื่องดนตรีทุกชนิดไม่ว่าจะจริงหรือสังเคราะห์แต่ขอท้าทายคุณด้วยการใช้เสียงจากร่างกายของตนให้มากที่สุด สำหรับแทรคที่อยากจะแนะนำคือ

Who Is It เพลงน่ารักบวกกับเอมวีที่น่ารักมาก ฟังง่ายและติดหูที่สุดจากอัลบั้มนี้แล้ว

Ocenia เพลงที่เธอไปแสดงเปิดOlympic เป็นperformanceที่อลังการมากๆ ตัวเพลงที่ยิ่งใหญ่ รวมเป็นหนึ่งกัีบมารดามหาสมุทร ในกรณีที่ใครอยากรู้ เพลงนี้บียอร์คได้ใช้เสียงปลาวาฬมาทำทำนองด้วย

Desired Constellation Dark Ambient มีเครื่องดนตรีเพียงชนิดเดียวและล่องลอยไปในความเจ็บปวดกับน้ำเสียงของเธอ

Triump of a Heart เพลงปิดอัลบั้มที่แดนซ์ได้ใจ คลอไปด้วยเสียงกลองและบีทบอกซ์ และฮามากเนื่องจากได้ยินเธอร้องว่า "ว้าย ชักกระตุก ว้าย"

Vokuro เศร้ามากเพลงนี้ไม่ได้เข้าถึงยากเกินไป แต่ก็ไม่ง่าย เป็นการถ่ายทอดอารมณ์ที่Highมา่กๆ คลอไปกับแค่เสียงคอรัสหลอนประสาทและเสียงของบียอร์คเอง เพลงนี้เธอร้องเป็นภาษาไอซ์แลนด์บ้านเกิดของเธอ

แนะนำว่าใครอยากประสาทแตกไปฟัง Ancestorsและแทรคอื่นๆในอัลบั้มนี้ได้เลยครับบบบ 

6.Volta (2007)

อัลบั้มนี้ป้าป่วงกลับมาพร้อมกับTimbalandและใครอีกสักคนนี้แหละ ไอเดียในการทำอัลบั้มการจากการที่บียอร์คอยากกลับมาทำเพลงน่ารักสดใสอีกครั้ง และด้วยการร่วมงานกับTimbaland อัลบั้มนี้จึงมีความพอพมากขึ้นมาก เป็นอัลบั้มที่ผิดหวังมากที่สุึดจากผู้หญิงคนนี้ รู้สึกว่าcharacterในเพลงต่างๆของอัลบั้มมันไม่ค่อยเชื่อมกัน แข็งแรงไม่พอ แต่ก็ยังมีแทรคที่อยากให้ฟังอย่าง

Earth Intruders: Tribal Danceเก๋ๆ

Wanderlust:เพิ่มระดับความแรงต่อจากEI เพลงมันไม่ได้ฟังยากแต่ไม่ค่อยติดหูเท่าไหร่

I See Who You Are: เสียงพิณญี่ปุ่นที่พาในเคลิ้มและล่องลอยไปในความฝัน ชอบรองลงมาจากDeclare Independence

Dull Flame Of Desire: บัลลาดในแบบของเธอจบเพลงด้วยเสียงกลองมโหระทึกที่ยิ่งใหญ่

Declare Independence:ชอบที่สุดแล้วในอัลบั้มนี้ Indrustial Rockมันๆ Bjorkแหกปากได้โคตรสะใจ ปลุกอารมณ์ได้ดีมาก

7.Biophilia (2011)



อัลบั้มHigh Conceptจัดๆ เมื่อบียอร์คอยากทำเพลงในiPadเพื่อให้ออกมาเป็นเพลงที่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ซาวด์ของอัลบั้มก็เลยออกแนวminimal นิตยสารNMEได้จัดให้Biophiliaอยู่ในลำดับ36ของอัลบั้มที่ดีที่สุดในปี2011 โดยส่้วนตัวไม่ได้ชอบแต่ก็ไม่ได้ไม่ชอบอัลบั้มนี้ เป็นความรู้สึกเฉยๆมากกว่า แต่ก็เป็นอัลบั้มที่ชอบที่สุดอัลบั้มนึงที่ซื้อมาในปีนี้ (อาจเพราะว่าเป็นBjork) รู้สึกว่าเป็นอัลบั้มที่ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้แย่ อาจจะเพราะด้วยความminimalของมัน แต่พอแยกแทรคแล้วก็รู้สึกว่ามีชอบอยู่หลายแทรค เอาเถอะ....หลังจากพล่ามวนไปวนมาแล้ว แทรคที่อยากให้ฟังคือ

Moon เพลงที่เน้นเสียงของบียอร์คเอง คลอไปกับพิณอาจไม่ใช่แทรคเปิดอัลบั้มที่วูบวาบแต่ก็ไม่ใช่แทรคที่ึควรมองข้าม

Crystalline เพลงminimalจบท้ายด้วยbreakbeat เนื้อหาว่าด้วยการเกิดคริสตัล ผสมdrum and bass เป็นเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้ม

Cosmogonyคราวนี้เธอมาพาคุณไปลอยในจักรวาล แทรคที่ทinimalและambientmี่สุดในอัลบั้ม หลังจากพาคุณไำปรู้จักกับคริสตัลแล้้ว Bjorkเลยแต่งเพลงว่าด้วยการกำเนิดจักรวาลบ้าง

Virus เสียงsynthenizer, percussion,syn. drum เข้ามาประกอิบกันเกิดเป็นดนตรีของความรักที่ชวนฝัน เป็นแทรคที่เพราะมากๆ

Mutual Core เป็นแทรคที่ตอนแรกไม่ได้คิดว่าพิเศษอะไรเลยเปิดมาด้วยdark ambientหลอนๆ คิดว่าจะเป็นแค่แทรคธรรมดา แล้วพอมาเปลี่ยนอารมณ์ด้วยdnbกับ breakbeat  ก็ต้องขอคาราวะป้างามๆอีกสักหลายร้อยที แม่เจ้า!!!บีทสุดยอดกมา่ก

Nattura แทรคที่อยู่ในDeluxe Edition เมื่อBjorkมาร่วมงานกับThrom Yorkeแห่งRadiohead สองคนบ้ามาทำงานด้วยกันจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งที่คูณจะได้ฟังก็คือ การเปิดตัวด้วยเสียงฟ้าฝน และตามมาด้วยเสียงกลอง ที่คลอไปกับเสียงหลอนๆของทอมในbackground ผสมกับเสียงร้องของบีตลดอเกือบ4นาทีของเพลง  มีเพื่อนบอกว่าฟังแล้วเหมือนโดนตามฆ่า แนะนำว่าฟังรอบเดียวแล้วหยุดก็พอเพราะไอเดียการทำเพลงมันดีอยู่ แต่ถ้าฟังหลายรอบแล้วจะเครียด 

เมื่อก่อนเคยชอบฟังเพลงตามกระแสมากๆเป็นแค่คอพอพทั่วๆไป จนมาเจอป้าบียอร์คนี้แหละ มันรู้สึกเหมือนได้หลุดไปยังโลกนึงเลย มันทำให้เรารู้สึกว่าการฟังเพลงมันมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ ก็เหมือนกับตัวตนบียอร์คนั้นแหละ เราได้รู้จักกับตัวตนที่หลากหลายของเธอผ่านเพลงของเธอ

และมันทำำให้ผมแอบรู้สีกขอบคุณเธอในฐานะศิลปินที่ผมชอบที่สุดที่ทำให้หูของผมมันกว้างมากๆ ทำให้ผมรู้จักศิลปินต่างๆที่มีเidentityเป็นของตัวเองมากมาย ทำให้กลายเป็นคนที่ชอบฟังเพลงจริงๆ ฟังไปหมดเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็น The Knife, Postishead,Massive Attack,Iamamiwhoami,Radiohead,CocoRosie,Dear Euphoria,Blackmore's Night,Tori Amos,Kuedo,Jonsi....มันเยอะจนขี้เกียจเขียนหมด

มุมต่างๆของเสียงเพลงก็คงเหมือนกับตัวเราที่มีหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะมีความสุข เศร้า เพ้อฝัน เก็บกด หรือจะเกรี้ยวกราด

อยากกราบป้าแกงามๆสักล้านทีก่อนที่จะจบกระทู้นี้ไป

แก้ไขล่าสุด 4 ม.ค. 55 20:55 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | StefaNi_Ate_MY_HearT | 4 ม.ค. 55 12:53 น.

รักเธอที่เธอเป็นตัวของตัวเอง รัก Bjork

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | diapers | 4 ม.ค. 55 16:49 น.

ขอบคุณที่มาแนะนำเพลงป้าบียอร์คให้ฟังนะครับ 

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | เลเซอร์บีม | 4 ม.ค. 55 18:58 น.

ถ้าไม่มีพลูโตกับแพแกนโพเอทรี่นี่โกรธมาก 

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | `Far|East|Judgment | 4 ม.ค. 55 20:45 น.

เพิ่งรู้ว่านางมีอัลบัมเยอะ และนานขนาดนี้  /กราบ ~

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | หญิงหาร | 4 ม.ค. 55 21:05 น.


กะเหรี่ยงใส่ชุดกิโมโน ??
นับถือค่ะ เริ่สส !!!

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | TheSiszwon | 4 ม.ค. 55 21:36 น.

เพลงของ  Bjork ค่อนข้างแปลก แต่เราว่ามีเสน่ห์มากก
เวาลาเกิดอารมติส ๆ ต้องฟังเพลงแนวนี้แล ฮ่า ๆ

ขอบคุณจขกท. นะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | 'Bitch' | 4 ม.ค. 55 21:48 น.

ตำนานมากก

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | Blissful | 8 ม.ค. 55 20:30 น.

ชอบเพลง It's oh so quiet ที่สุดแล้ว

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google