มาเล่าให้ฟังและความคิดเห็นต่อ "ทริคก้าวเท้าซ้าย"

หลายๆวันก็ลืมทำ จนมาวันนี้ ก็เลยลองทำดูเมื่อเช้า
ก่อนออกจากบ้านก็ทำตามทริคนั่นแหล่ะ ถ้าไม่อยากอ่านยาว ก็ข้ามไปที่ท้ายๆเลยนะ
ในระหว่างที่ขับรถออกมาก็คิดว่า...จะมีโอกาสมั้ยนะ
จอดรถปุ๊บก็คิดว่าเขาคงจะจอดรถไว้อีกที่ ไม่ได้จอดไว้ตรงที่ใกล้ๆ เราหรอก
พอมาถึงห้อง เขามาถึงก่อน แล้วก็เหมือนเดิม ทำเฉย ไม่รู้จักกัน
เวลาที่เขาหันมาทางเรา เราก็คิดว่าเขาคงไม่ได้มองหน้าเราหรอก
อาจจะหันมาดูเพื่อนอะไรมากกว่า (ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเอง)
และก็คิดว่า ทริคคงไม่ได้สำเร็จสำหรับเราหรอก อะไรประมาณนี้

พอตอนเลิกเรียน ก็เดินออกมาจากห้อง
ตอนที่เดินลงบันไดมา เขาก็เดินตามมาข้างหลังติดๆ แล้วก็คุยกับเพื่อนเขา
เราก็ไม่ได้สนใจ เราก็คุยกับเพื่อนเรา จนไปถึงที่จอดรถ
ในตอนแรกคิดว่าเราจะไม่ได้จอดข้างๆรถเขาแล้วไง
แต่พอดีเราจำรถได้ แบบ...เฮ้ย!!! อะไรจะขนาดนี้ มาจอดใกล้ๆกันได้ยังไง
(ความจริงแล้วมีรถอีกคันนึงจอดกั้นเอาไว้ ทำให้เรามองไม่เห็นรถของเขา พอรถคันนั้นออกไปมันก็เลยเป็นช่องว่างระหว่างรถเรากับรถเขาพอดี)
แล้วเขาก็เดินมาติดๆพอดี เห็นท่าไม่ดี (เรากลัวเกิดความอึดอัดแล้วก็กดดัน)
ถือโอกาสตอนที่เขากำลังคุยกับเพื่อน รีบขับรถออกมาก่อน
กลัวว่าต้องเผชิญหน้ากันไง (จะกลัวทำไมเล่า!! โอกาสมาแล้วแท้ๆ)
พอขับอยู่บนถนน ก็มองกระจกหลังว่าเขาจะขับตามมามั้ย
ยิ่งไกลออกไป ยิ่งมองไม่เห็น ก็เลย ช่างเถอะ ไม่เจอก็ดีเหมือนกัน
แต่พอมาติดไฟแดงเท่านั้นแหล่ะ รถเขาจอดอยู่ข้างหลังรถเขา
(แต่แปลนะ ที่ไม่มาจอดข้างๆ ทำไม?)
พอไปเขียว เขาก็ขับมาตามเราเรื่อยๆ (ก็ไปทางเดียวกันไง เลยต้องใช้เส้นทางเดียวกัน)
แล้วทีนี้ ขับมาเจอด่านตำรวจ (-*-) ตำรวจก็เรียกเข้ามาตรวจใบขับขี่
เราก็เอาให้ตำรวจดู รถเขาก็เหมือนกัน (เรามองกระจกหลัง)
คิดในใจว่า...ไม่ได้แล้ว มันใกล้เกินไป เขาจะเข้าใจเราผิดรึเปล่า
ก็เลยรีบๆให้ตำรวจตรวจ แล้วก็รีบขับรถออกไปก่อนเขา แล้วเราก็ไม่ได้มองกลับไปอีกเลย

เฮ้อ (ขอโทษทีนะ ยาวไปหน่อย)

สำหรับเรา เราคิดว่าทริคก้าวเท้าซ้าย มันได้ผลเกือบ 70% เลยนะ
(ไม่ได้งมงาย)
เราว่า 70% ที่พูดมานั้นน่ะ มันเหมือนเป็นโอกาสที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับเขา
ส่วนที่จะได้คุยหรือไม่ หรือการที่จะได้อยู่ใกล้ชิด มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่ามันเอื้อต่อเราขนาดไหนมากกว่า
อีก 30% คือ ต้องแล้วแต่จังหวะจริงๆ ถ้าทำได้ถูกจังหวะ เราจะได้ใกล้ชิดเขามากๆ
เหมือนโชคเข้าข้างอะไรประมาณนี้

คนที่รู้สึกว่า ทำแล้วไม่ได้ผล ลองคิดดูถึงเรื่องของโอกาสนะ
ไม่อยากให้งมงายกับทริคนี้มาก
ถ้าไม่เพิ่งทริคแต่มีโอกาส เราก็จะได้ใกล้ชิดเขาเหมือนกัน

ขอบอกอีกนิด ถึงคนที่กำลังแอบรัก แอบชอบ แอบมองใครอยู่
ถ้าอยากใกล้ชิดเขา อยากรู้จักเขา อย่าเอาแต่อายเหมือนเรา
เขาจะคิดยังไงก็ช่าง แต่อย่างน้อย มันก็คือมิตรภาพดีๆที่จะเกิดขึ้นกับคนสองคน
เมื่อโอกาสมันมาถึงแล้ว รีบคว้าเอาไว้เลย อย่าปล่อยให้มันหลุดลอยไป
เป็นกำลังใจให้ทุกคนจ้า ^^