[Review ง่ายๆ] Electra Heart "--Marina & The Diamonds

วิจารณ์ตามความคิดและหูที่ได้ฟังนะครับ ไม่ได้เก่งเรื่องดนตรี ^^ (8/10) เราก็ไม่ค่อยรู้ว่าเธอเป็นมายังไงหรอกนะครับ เนื่อฃจากไม่ใช่แฟน แต่แค่ลองๆติดตามฟังเพลง นิดๆหน่อยๆ ปรากฏว่าเธอมีอัลบั้มมาแล้ว 1 อัลบั้ม คือ The Family Jewels ที่มีเพลงเด่นๆ อย่าง Hollywood และ Oh No! พอมาอัลบั้มที่ 2 อย่าง Electra Heart ก็เริ่มเข้าสู่กระแสหลักมากขึ้น และที่กำลังฮิตกันคือ การสร้าง บุคลิกขึ้นมา (Alter Ego) อย่างบียอนเซ่ก็มีอีกบุคลิกคือ "ซาช่า เฟียร์ซ" เลดี้กาก้าก็มีบุคลิกผู้ชายคือ "โจ เคเดอร์โรน" นิกกี้ก็มีบุคลิกอย่า "โรมัน โซแลนสกี้" เป็นต้น มารีน่าจึงคิดสร้างบุคลิกบ้าง และใช้ชื้อบุคลิกว่า "Electra Heart" แบบชื่ออัลบั้มเลยครับ

Electra Heart อัลบั้มนี้เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเอ็มวี โดยใช้ประสบการณ์ของมารีน่าเป็นต้นแบบ เล่าเรื่องราวของ Electra Heart ออกมา


นี่คืออีกบุคลิกของมารีน่าครับ เราเรียกกันว่า Electra Heart เธอย้อมผมสีบลอนด์แพลตินั่ม แต่ทิ้งให้รากผมเป็นสีน้ำตาลดำ ทาลิปสติกและอายไลเนอร์สีอ่อนๆ แต่ทาหนาๆ Electra จึงกลาเยป็นว่าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ย้อนยุคที่มีตัวจริงๆ โดยใช้ต้นแบบอย่าง มารีรีน มอนโรว ที่เพอเฟ็ค และมีความเป็นวัฒนธรรมอเมริกาเป็นต้นแบบ

Bubblegum Bitch (8/10) เปิดอัลบั้มด้วยการริฟกีต้าร์แรงๆ ใช้ธีมเพลง Rock-Dance ยุค 90s เลยครับ เล่าเรื่องผ่านไดอารี่ย์ เป็นเพลงที่น่าจดจำ และติดหูจำง่ายดีครับ

Primadonna (10/10) เพลงไฮไลต์ของอัลบั้มครับผม ฟังครั้งแรกนึกว่าเสียงของ เคที่ เพอร์รี่ ได้โปรดิวเซอร์อย่าง Dr. Luke  นี่เองทำให้เพลงติดหูน่าฟังและดึงดูดขนาดนี้ เพลงนี้มีธีมยุค 50s ของอเมริกา ครับผม กับแนวเพลงเข้ากับกระแสเพลงตอนนี้เลยครับ เป็นแทร็คแรกที่ได้ฟัง แล้วรู้สึกชอบมากๆครับ เป็น The Best Track ของ อัลบั้มนี้เลย

Lies (8.5/10) ได้โปรดิวเซอร์อย่าง ดร.ลุค อีกแล้วว ผสานพลังกับ Diplo เลยได้เพลง บัลลาด ดับสเต็ป 808 ดรัม และเสียงเปียโน กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว

Homewrecker (11/10) แทร็คที่ชอบที่สุดในอัลบั้มเลยครับ มันช่างแปลก มีเสนห์ และดูหรูหราอย่างไม่น่าเชื่อ กับเสียงสังเคราะห์ซินเธอร์ไซเซอร์ ที่ฟังดูแล้วเจ็บปวดจริงๆ เนื้อเพลงก็กล่าวถึงคนนึงที่มาแย่งสามีเธอไป และมันช่างน่าเจ็บใจอย่างยิ่ง



Starring Role (7.5/10) เพลงนี้ชนหลายกลุ่มยกให้เป็น Bitch-Anthem ไปแล้วครับ มีกลิ่นอายของดับสเต็ป แนวคล้าย Lie เนื้อหาเพลงและน้ำเสียงที่เจ็บปวดช่างเข้ากันกับเพลงมากๆครับ

The State of Dreaming (7/10) ได้แรงบรรดาลใจมาจากมารีรีน มอนโรวครับ เสียงกีต้าร์ที่น่าดึงดูด กับเสียงของวงดนตรีบรรเลง

Power & Control (8.5/10) และ Living Dead (9/10) เป็นแทร็คแนวเดียวกันครับ แทร็คแรกเริ่มด้วยเมโลดี้ที่น่าค้นหา กับท่อนฮุคที่ติดหูชวนฟัง แต่สำหรับแทร็ค 2 อีกหนึ่งแทร็คโปรดของเราครับ ลงตัวไปซะหมดทุกอย่างเลย ทั้งสองแร็คใช้ธีมยุค 80s ครับ



Teen Idle (7/10) ไม่มีอะไรจะกล่าวมากครับ ติดหูดี น่าฟัง แต่บางคนอาจลบทิ้งไปเลยก็ได้ครับ กล่าวถึงชีวิตเซ็คซ์ ความจริงที่น่ารังเกียจ การกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง

Valley Of The Dolls (9.5/10) เป็นแทร็คที่อ่อนแอที่สุดในอัลบั้มเท่าที่ฟังมาครับ แต่ผมกลับชอบซะงั้น เป็นแทร็คที่เหงาหงอยดีครับ

Hypocrates (6.5/10) ใครได้ฟังอัลบั้มเก่าอย่าง The Family Jewels จะรู้ว่าเพลงนี้เหมือนเพลงเหลือจากอัลบั้มเก่าเลบครับ เป็นมิดเทมโป อัลเทอร์เนทิฟ ป๊อบ ง่ายๆ ฟังสบายๆ



Fear and Loathing (6.5/10) เป็นอีกแทร็คที่สวยมากๆ และหลอนสุดๆ กับ 6 นาที  ไม่มีอะไรจะพูดกับแทร็คนี้ครับ แต่เสียงเธอใสมากๆ ปิดอัลบั้มได้โอเคครับ

Radioactive (7/10) หลุดมาอยู่ในเดอร์ลุคซ์ มีบีตคล้ายๆเพลง We Found Love เป็น ดาร์ก พ๊อพที่ติดหูอีกเพลงนึงครับ

Sex Yeah (5/10) เป็นเพลงแนวความสัมพันธ์ทางเพศและแนวเพลงตามความต้องการของอุตสาหกรรมเพลงป๊อบเลยครับ ส่วนตัวเฉยๆ แต่มันติดหูท่อนที่ร้อง เซ็กซ์ๆๆๆๆๆ



Lonely Heart’s Club (3/10) ซ้ำซากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

Buy The Stars (7/10) เสียงร้องคลอไปกับเสียงเปียโนเป็นเพลงปิดอัลบั้มจริงๆ ที่สวยเพราะมากๆครับ



อัลบั้มนี้ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีเลยทีเดียวนะครับ ถ้าเบื่อกระแสหลักๆ อย่าฟังเพลงกระแสรองๆ ก็มาฟังอัลบั้มนี้ได้ครับ