ถ้าคุณเปลี่ยนระบบการศึกษาและกฎใหม่ได้ อยากให้เป็นแบบไหน ?
แต่เราอยากรู้ว่า เด็กไทย คิดแบบไหน หึหึ
เชิญเม้นท์
.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...
มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย xinling
- #HOWTO ปรับสีให้หน้าขาวๆปากแดงแบบที่แม่เกาแม่จีนชอบแต่ง😘 (ตกแต่งภาพ)
- / ปรับสีภาพสวยๆ 5 แนวด้วยโฟโต้ชอป❤️⚡️🌼💧 / #coloring #psd (ตกแต่งภาพ)
- 可爱的大头 howto ∞ ทำภาพหัวโตแจ้มแดงน่ารักๆ♡ (ตกแต่งภาพ)
- グレーブルー psd - greyblue ! (ตกแต่งภาพ)
- HOW TO MIX (ตกแต่งภาพ)
- psd - summer time☀ download now (ตกแต่งภาพ)
- กระทู้โดย xinling ทั้งหมด
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
การศึกษา
* ก็แบบเอกชน เพราะมันทำทรงผมได้สบาย == แถมเอกชนเจริญกว่าแบบรัฐบาลอีก
เรียนก็เก่งกว่า โทคโนโลยีก็ไฮโซกว่า
- ผมซอยได้ ยาวได้ ย้อมได้(พอประมาณ) สกินเฮดได้ รากไซรได้ บลาบลา
- เรียนวันละสี่ห้าคาบหรืออาจจะน้อยกว่านี้ มีกิจกรรมให้ทำบ่อยๆ
- ถุงเท้าใส่ข้อสั้นได้
- เครื่องประดับได้ทุกรูปแบบแต่อย่าเยอะ -_-
- ไม่กดเกรดเด็กจนเกินไป จนทำให้ติดศูนย์เยอะแยะบลาบลา
- ไม่มีการเรียนชด มีเหตุกาณ์จำเป็นก็คือหยุดไปเลยห้ามชด
- ไม่จำเป็นต้องถือกระเป๋านร. ให้นำเป้หรือนำกระเป๋าผ้ามาได้
- นำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาช่วยสอน
- ไม่ให้การบ้านเยอะกว่าที่เรียน
- ครูเข้าใจเด็ก ไม่หัวโบราณจนเกินไป
- คาบว่างครูผู้สอนห้ามนำไปสอน หรือจะสอบเพิ่มเติมอะไรก็แล้วแต่
หนึ่งเปอร์เซนต์ที่อยากให้เป็น เราได้แค่เพ้ออะนะ
ก็เข้าใจเรื่องกฎ, บางร.ร.ก็ทำเกินไปก็จริง
แต่ทำตามกฎสักนิดไม่ได้หรือไง ? ถ้างั้นประเทศชาติก็ไร้ระเบียบสิ ?
ปัจจุบันแค่นี้ยังไร้ระเบียบไม่พออีกหรอ ? เห็นไหม เดินไปไหนผู้คนก็ทำตามใจแต่ตัวเอง เห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตัวเอง, เราก็ไม่รู้ว่าที่เราพูดจะไปทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า
แต่สังคมไทยเราเปลี่ยนไปมากจริงๆ, อีกอย่าง... คนไทยรักสบายเกินไปนะ
[ ปล.ขอโทษถ้าสิ่งที่พูดมาทำให้ไม่พอใจ / เราแค่พูดความจริงจากที่เห็นและสังเกต
ปลและปล. ไม่ได้ดราม่าและหัวข้อกระทู้ ถ้าคุณเปลี่ยนระบบการศึกษาและกฎใหม่ได้ อยากให้เป็นแบบไหน ?]
สามารถไว้ผมทรงอะไรก็ได้ ยกเว้นทรงหมวกกันน็อคนะ...เราว่ามัน...เอ่อ...
ให้โรงเรียนทุกโรงเรียนเลิกเรียนตอน 12.00 น.
ห้ามมีการบ้านเกิน10อย่างต่อสัปดาห์
- ห้ามครูสั่งการบ้านนักเรียนเกินวันล้ะ 3 คน
- รายงานที่สั่งจะต้องพิมได้ไม่ใช่แค่เขียน
- ห้ามให้การบ้านเยอะกว่า 5 หน้า
- เอาคะแนนจากการสอบ เพราะวัดระดับรู้จริงๆ
- เริ่มเรียนเวลา 11.30 น . และเลิก 17.30 น
เม้นท์บ้าง -___-;
ของเรายาวมากกกกกนะ.
คือเราอยากให้เรียนพื้นฐานทุกวิชาแค่ถึงม.3
แล้ว ม.4 ก็เริ่มเรียนตามที่เราอยากทำอาชีพ
แบบ โตขึ้นสมมุติเราอยากเป็นเชฟ ก็เริ่มเรียนทำอาหารไปเลย
คือเด็กจะได้ไม่เบี่ยงเบนว่าแบบ เอ้ยไม่อยากเป็นแล้ว
เราว่าม.3น่าจะเริ่มมีความฝันได้แล้วแหละ
เรียนที่เราต้องการทำ ไม่ใช่แบบ สูตรฟิสิกอะไร โตไปตรูจะเป็นนักร้อง
ไรเงี้ย คือ สรุป เรียนที่ตัวเองอยากทำเป็นอาชีพ
เราว่าถ้าทำเงี้ยคือเด็กจะไม่เครียดอ่ะ ทำในสิ่งที่รักที่ชอบไรงี้
เว่อร์โพด
ประเทศอื่นเค้าใช้ระบบอื่นได้เพราะคนส่วนใหญ่ประเทศเค้าเจริญและมีวินัยกว่าคนในประเทศเราไงจ้ะ แค่กฎในโรงเรียนยังไม่ทำตามเลย แล้วโตไปจะไปมีระเบียบได้ไง เรื่องทรงผมถ้าตัดแล้วไม่ตายก็ตัดไปเถอะค่ะ ถ้าไม่ไหวก็ไปเอกชนเถอะ แต่ผมยังตัดไม่ได้ แล้วอย่างอื่นจะไปหวังอะไร...
แล้วถ้าประเทศไทยไม่มีการสอบแข่งขัน ลองคิดดูนะว่าถ้าคุณจบไปแบบเพลนๆ ไม่มีความรู้วิชาอะไรเด่นมากมาย ไปสู้อะไรกับเค้าไม่ได้ แล้วจะหวังให้ได้งานดีๆ เงินเดือนหกหลักอัพหรอ ? ที่ไม่อยากแข่งเพราะขี้เกียจก็บอกมาเถอะค่ะ เพราะถ้าไม่มีการแข่งขันก็ไม่มีการพัฒนาหรอกเนอะ
ห้ามตัดผมติ่ง เกลียดมาก สั้นสุดอยากให้ไว้เเค่คอก็ได้ เกลียดผมติ่งมาก จะมีประเทศไหนเขาตัดผมบ้าๆบออย่างนี้กันมั่งปะ?
ผมก็เกรียน ตอนเรียนรด ตัดผมติ่งกับเกรียนมันก็ไม่ต่างกันหรอก คือมันทุเรศเหมือนกัน
แต่มันก็ฝึกระเบียบวินัยนะครับ บางครั้งเราก็ต้องทำสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำบ้างน่ะ คุณคห 20
ขอแค่เด็กนักเรียนมีความรับผิดชอบ และมีระเบียบวินัยในตัวเองก็พอ
ขนาดโรงเรียนเรากฎเยอะ ยังมีเด็กแหกกฎกันเลย แล้วชอบวิ่งหนีเวลาเจอฝ่ายบุคคล
เราแค่อยากให้ระบบการสอบแอดมิดชั่นไม่ใช้ GPAX เท่านี้ก็พอ
เพราะแต่ละโรงเรียนมีระบบการให้เกรดไม่เหมือนกัน โรงเรียนไหนปล่อยเกรดเด็กก็ได้เปรียบไป โรงเรียนไหนกดเกรดเด็กก็เหนื่อย เอาแบบไม่ใช้เกรดนั่นแหละ ยุติธรรมที่สุดแล้ว
ส่วนเรื่องทรงผม เราอยู่มา 6 ปี ไว้สั้นมาไม่ได้มีปัญหาอะไร ใกล้จะจบแล้วก็ได้ไว้ผมตามที่อยากไว้แล้วแหละ คิดในข้อดีว่าเขากำลังฝึกความอดทนของเรา คนที่มองหน้าเราทุกวันเขาก็ชินแหละ พวกเพื่อนๆ คุณครู มีบ้างที่ต้นเดือนหัวเราะกันบ้าง
เราบ่นแบบนี้มาตั้งแต่อยู่ม.1 แต่ก็ไม่เห็นว่าเขาจะเปลี่ยนสักทีน่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เขาไม่ฟังอะไรเราหรอก (โรงเรียนอื่นๆ ที่เขาได้ไว้ผมยาวก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ดีไป)
ส่วนเรื่องสั่งการบ้านก่อนสอบไม่กี่วันนั้น....โนคอมเม้นนะ
ทรงผม - ซอยได้ หน้าม้าได้ แต่ต้องมัด (ถ้าผมยาว) ห้ามทำสี!
ชุดนักเรียน - ชอบชุดนักเรียนเดิมที่เรียบร้อยอยู่แล้วนะ! แต่กระโปรงขอยาวแค่เท่าเข่าก็พอ บางโรงเรียนให้ยาวลงมาเลยเข่าเยอะไป ตลก - -; อยากให้นักเรียน(หญิง)ใส่เสื้อกล้ามไปเรียนด้วย บางคนเสื้อบางมากแล้วใส่ชั้นในสีฉูดฉาด น่าเกลียด
เวลาเรียน - อยากให้เรียนวันละ 5-6 คาบพอ รู้สึกว่าเรียนเยอะไปอัดกันเกินไปสมองหนูรับไม่ไหว
ครู - ถ้าครูผู้หญิง(บางคน)อยากให้หยุดลำเอียงไปทางผู้ชาย!! อยากให้ครูที่สอนมีวิธีการพูดที่น่าฟัง อย่างน้อยขอเสียงร่าเริงนิดนึง ไม่ใช่เสียงยานนนนนนนนน! หนูจะหลับค่ะ และอยากให้เข้าใจเด็กให้มากกว่านี้!
การเรียน - อยากให้สอนอะไรที่ได้ใช้!!! หรือสอนแค่ที่จะสอบก็พอ..อย่างอื่นหนูคงไม่ได้ใช้
การบ้าน - ควรให้แต่พอดี.. ไม่ใช่สั่งมาเยอะๆ! เด็กอดหลับอดนอนทำ ตื่นสาย ไปสาย! โดนหักคะแนนอีก - -;
สอบ - กรุณาอย่าออกยากกว่าที่คุณครูสอนค่ะ!
ผู้อำนวยการ - กรุณาอย่าหน้าเงินค่ะ!
เปลี่ยนระบบการศึกษาไทยอาจเป็นเหมือนความฝัน(ลมๆแล้งๆ)
แต่การเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนของเด็กไทยกลับยิ่งเหมือนเป็นความฝัน(ลมๆแล้งๆ)เสียมากกว่า(ส่วนหนึ่งก็เพราะครูด้วย)
เรียนแบบไทยก็ไม่เอา ว่าหนักเกิน
ชิลด์ๆแต่เน้นคุณภาพแบบต่างชาติก็ไม่น่ารอด เพราะเด็กไทยติดนิสัยมักง่ายจากการศึกษาไทยเรียบร้อยแล้ว ยิ่งชิลด์กลายเป็นว่ายิ่งเหลิง ไปกันใหญ่เลยทีนี้
ปล.แต่คนที่ตั้งใจมุ่งมั่นจริงๆ ก็มีให้เห็นอยู่ประปรายนะ
เราอะไรก็ได้ แต่ขออย่างเดียว ช่วยสอนอะไรที่กูใช้ได้จริง
ในชั่วโมงสอนให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เรียนหนักเป็นอับดับต้นต้นของโลก
แต่การศึกษาหรือความฉลาด ติดอันดับที่รองสุดท้ายในเอเชีย
เราว่านะ ก่อนที่จะเปลี่ยนระบบการศึกษา
ให้เปลี่ยนนิสัยทั้งครูอาจารย์ เด็กนักเรียน หรือแม้กระทั่งผู้ปกครองก่อนดีกว่า
ครูอาจารย์ ครูบางคน ย้ำนะว่าแค่บางคน เลิกเหอะนิสัยที่สนับสนุนเด็กที่เก่งกว่า เหยียดเด็กที่ไม่ค่อยเก่งหรือไม่เก่งเลย บางคนที่ดบราณเกินไปก็ขอให้ตามสมัยบ้าง เด็กสมัยนี้ไม่ได้เหมือนสมัยก่อน ส่วนครูผู้ชายก็ขอให้มีจรรยาบรรณของความเป็นครูบ้าง ให้เด็กมีอะไรกับตัวเองแลกเกรด? จริงๆ มีอีกเยอะ ให้พูดคงยาว ..
เด็กนักเรียน ก็นะ บางครั้งก็คืออยากให้ยอมรับบ้างในกฎกติกา สิ่งที่ทำแล้วไม่เสียหายก็ทำไปเหอะ แต่ในฐานะที่เป็นเด็กนร. คนหนึ่งเหมือนกัน เราโคระตะสงสัยเรื่องไว้ผมติ่งเลย
ผู้ปกครอง หลายๆ ท่านก็ยังไม่เข้าใจถึงระบบการศึกษาไทยเนอะ คอนแต่จะยัดให้ลูกตัวเองเรียนอย่างเดียว ทั้งๆ ที่เรียนที่โรงเรียนมาก็เต็มแล้ว สำหรับบางกรณีเท่านั้นนะ และสำหรับบางท่านก็ไม่ยอมรับในสิ่งที่ลูกหลานนั้นอยากจะเป็นในอนาคต สนแต่ว่าลูกจะต้องเรียนตามแบบที่ตัวเองต้องการให้ลูกเป็น
รู้ละว่านอกประเด็น แต่โทษนะที่คิดอย่างนี้
การศึกษา
-มียูนิฟอร์มเพื่อความดูเป็นนักเรียนและไม่เป็นการอวดฐานะ อย่างที่ปัจจุบันเป็น แต่คงไม่ต้องติ่งเกรียน แค่ห้ามทำสีหรืออะไรไม่เรียบร้อยก็พอ
-กระจายการศึกษาให้ได้ก่อน ให้ทุกๆโรงเรียนมีบทเรียนและเกณฑ์การให้คะแนนไม่ต่างกัน(อย่างบางทีเกรดที่เตรียมอุดม อาจจะทำได้ยากกว่าโรงเรียนอื่น นักเรียนเตรียมที่เก่ง แต่เกรดไม่ถึงสอบตรงก็เสียเปรียบเด็กโรงเรียนอิ่น)
-ขึ้นเงินเดือนครู ครูเป็นอาชีพที่เงินเดือนค่อนข้างต่ำ ทำให้คนเก่งๆไปทำอย่างอื่น มีครูน้อยคนที่จะได้คุณภาพและไม่เอาเปรียบเด็กจริงๆ
-เปลี่ยนระบบเอ็นทรานซ์ซะ ควรทำให้เป็นมารตฐานกว่านี้ ทำให้นักเรียนมั่นใจในผลคะแนนที่ออกมามากกว่านี้ และควรมีความยุติธรรมในการเข้ามหาวิทยาลัย
-เด็กไทยเรียนเยอะ แต่ทำไมประเทศอื่นนำเรา เพราะว่าเราเรียนเยอะไปหมด จับต้องไม่ได้ซักอย่าง เรียนครึ่งวันพอ อีกครึ่งวันให้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ชอบไปซะ จะได้เป็นชิ้นเป็นอัน หาตัวเองให้ได้ตั้งแต่ยังเล็ก ดีกว่าอัจจุบันไปเข้ามหาลัยแล้วออกมาซิ่วใหม่
-เปลี่ยนวิธีเรียนในห้องเรียน ให้เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไม่ใช่แค่จำแต่ในตำรา เด็กไทยเลยคิดไม่ค่อยเป็น
หลักสูตรอะไรก็ได้ที่สอนแล้วพอโตขึ้นเอาไปใช้ได้ 100%
อย่างน้อยก็ต้อง 90% ก็ยังดี
- สอนในส่วนที่จะไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ ไม่ใช่สอนเพื่อจะไปใช้สอบ
- ไว้ผมทรงอะไรก็ได้ ขอให้เรียบร้อย .
- มีคาบว่างให้ นร. ได้ทำการบ้านบ้าง
- เลิกด่าเด็กโดยที่เด็กไม่ได้ทำผิดซักที . (ครูมั่นไส้ เลยด่าประจำ )
- เวลามีการทดลอง พาไปแล็บบ้างง . ไม่ใช่เรียนอยู่ในห้องสี่เหลื่ยม . (เด็กวิทย์-คณิต จะรู้ดี .)
- เคร่งกฏให้มากกว่านี้ . อย่าสองมาตรฐาน .
ปล . รร.กึ่งเอกชน - รัฐบาล
- ครูต้องกระตือรือร้นในการสอน ถึงเดกไม่อยากเรียนยังไงคุณก็ต้องเข้าสอน เพราะมันเป็นหน้าที่ของคุณ อย่าอ้างว่า ต้องไปประชุมอย่างนี้อย่างนู้น บางที กุเดินไปหน้าห้องพักครูเห็นนั่งส่องกระจกอยู่ก็มี
-เรียนไปตายเหรอ 10 คาบ เรียนันละ 4-5 คาบก็พอแล้ว
-ชมรมเสริมน้่าจะเป็นอะไรที่จริงจังกว่านี่ ไม่ใช่เช็คชื่อกลับ ไม่งั้นทำหา พ่อ . . . ง เมิ . .ง หรอ
-ให้ไว้ทรงผมอะไรก็ได้ เพราะทรงผมมันไม่เกี่ยวไม่ได้ใช้สมองในการเรียนอยู่แล้ว
-เครื่องแบบนร.ให้ปรับน่ารักกว่านี้อีกนิดนึง ชุดนศ.ผู้หญิงให้กระโปรงยาวคลุมเขา สั้นไปมันเสี่ยงต่อการโดนข่มขื่น
-คุณครูไม่ให้การบ้านนร.เยอะไป และคาบเรียนไม่ต้องเยอะเกินไป
-คุณครูห้ามต่อว่านร. ถ้านร.พูดในความเป็นจริง
ขอที่เรียนไปเเล้วใช้ได้จริงๆอ่ะ
เด็กศิลป์-ภาษามาติว ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ เพื่อ ?
เเถวยังกดเกรดคณิตศาสตร์อีกต่างหากโรงเรียนเรา
- ไม่ต้องตัดผมติ่ง ! ทรงผมไม่เกี่ยวกับการเรียน . ถ้าไว้ผมติ่งแล้วเราจะฉลาดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยเราจะไว้เลย เหอะ !
- เรียนสิ่งที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ( ปัจจุบันที่เรียนอยู่ คืออยากจะทราบว่าเรียนเพื่ออะไรค่ะ ? นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มั้ย . )
- มีคาบว่างให้นักเรียนได้พักสมองบ้าง เราเรียนวันล่ะ 9 คาบ ทุก อาทิตย์นึงมีคาบว่างแค่ 1 คาบ เจริญค่ะเหอะ . เรียนกันจนสมองบวม .
- ควรจะเรียนวะล่ะ 4 - 5 คาบก็พอ เลิกสักบ่ายสองบ่ายสามก็ยังดี ให้เด็กพักผ่อนบ้าง .
..เรียน เพื่อไปปรับใช้ ไม่ใช่เอาไปโยนไว้ในห้องสอบ
..5 คาบต่อวันก็ไม่น่าจะเครียด
...วิชาบางวิชา เรียนไปทำไม หลักสูตรบางวิชา เรียนไปทำไม
..วิทย์คณิตศิลป์คำนวนภาษามีสิทธิและเสรีภาพ เท่ากัน
..หลักสูตรภาษาอังกฤษเคร่งครัด และภาษาที่สาม
..รวมกลุ่มผู้มีความสนใจเดียวกันอยู่ร่วมกัน
..การศึกษาไม่ใช่นั่งอยู่กับโต๊ะเก้าอี้ในห้องแคบๆ
..อิสระทางความคิด
..ใครยกพวกตีกันก็ไล่ออกไล่ออก !
..ขอเกรด สดสด ไม่ใช่คะแนนเอาหน้า
..ผมทรงอะไรก็ได้ ขอแค่ไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน
..ปรับเครื่องแต่งกายให้น่ารักขึ้นกว่านี้อีกนิดก็ได้
..ทุกโรงเรียนมีศักยภาพเท่ากัน เฮ
จะอะไรกันกับผมติ่ง เราก็ติ่งนะ ไม่เห็นเป็นไรเลย
ถ้าเรื่องผมขอแค่ยาวสักคางพอ ห้ามซอยทำสีเหมือนเดิม
ติ่งแค่ 3 ปีเป็นไรไปตัดๆไปเหอะ
อย่างอื่นไม่ว่าแต่เรื่องเรียน 5-6 คาบพอมั้ง รร.เราตั้ง 9 คาบ
-ทรงผมห้ามไว้ยาวเกินระดับกระเพาะอาหารตัวเอง ห้ามโกรกสีผม ใส่เยลระหว่างเทอม ชอล์กก็ห้าม ถ้ามีรด. ยึดกฎรด.
-กำไลได้ ริสแบนด์ได้ นาฬิกาข้อมือได้ แหวนห้ามเกินสองวง
-แต่งหน้าทาปากได้แต่โทนสีนู้ดเท่านั้น
*****บังคับใช้ทั้งชายและหญิงเหมือนกันเพื่อความเสมอภาค********
-เริ่มเรียนหลังเก้าโมง (6-8โมงให้รถคนทำงาน 10โมงให้รถสิบล้อ) เลิกเรียนบ่ายโมง ถ้ามีเรียนพิเศษให้เรียนถึงบ่ายสองโมงครึ่ง (4โมงเย็นรถทำงานติดเอี้ยด) มีเวลาเรียนสามชั่วโมง มีเวลาพักชั่วโมงนึง (น้อยขนาดนี้พอใจไหม) แต่เพิ่มวันเสาร์นะคะแบบในเรื่องโดราเอมอน วิชาหลักๆก็เรียนไปชั่วโมงเต็มๆ วิชาเรื่องไกลตัวก็เรียนสักสี่สิบนาทีพอ
-รวมวิชาสังคมทุกสาระไว้ด้วยกัน เรียนทีละน้อยๆเมื่อเรียนให้นำมาประยุกต์ทุกสาระรวมกัน เช่น เรื่องอาเซียน ก็ไล่ไป ภูมิประเทศในอาเซียน เศรษฐกิจการปกครอง ประวัติความเป็นมา ศาสนาที่นับถือ เรียนแบบนี้สักสามชั่วโมงต่อสัปดาห์
-วิชาเรื่องไกลตัว เรียนแต่น้อยๆๆ
-ภาษาอังกฤษ เน้นไวยากรณ์น้อยลง เพิ่ม ฟัง พูด อ่าน เขียน
-เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้
-การบ้านที่เป็นโปรเจ็คใหญ่เล็ก ต้องมีกำหนดรายงานความคืบหน้า จะได้ไม่เป็นดินระเบิดพอกหางหมู
-เวลาสอบเน้นวิเคราะห์(แต่ปลายต้องปิด) ไม่ท่องจำ ไปเรียนแน่นๆโหดๆในมหาวิทยาลัย
-ปัญหาเด็กตีกัน แว้นๆ หน้าที่ของสังคมรอบข้าง ตำรวจ ฯลฯ ไม่ได้โยนขี้แต่โรงเรียนช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้ว
*********
-ถ้ามีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางฐานะ (เช่นนางเอบ้านจนทำหัวฟู ส่วนนางบีรวยจัดทำผมแบบกาก้าแล้วตบกัน) ให้ดำเนินการถึงที่สุด
-ห้ามมีเซก ถ้าทนไม่ไหว Fap หรือ Schick เอาเอง
-เอาโอเน็ทแกะแพะออก ประเทศอื่นเข้ามหาลัยก็บุญโข อย่างอเมริกาจบไฮสกูลก็หากินได้เหลือเบือแล้ว
*********ถ้ากฎระเบียบที่ง่ายแสนง่ายยังทำไมได้ แล้วต่อไปเจอกฎแข็งๆหินๆ จะรับไหวเหรอ
ก็ไม่อะไรมากครับ ความรู้ที่เรียนก็ให้ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เรื่องมากหรือน้อยนั้นอยู่กับที่นักเรียน ไม่ใช่เรียนเพื่อสอบอย่างแน่นอน
เรื่องกฎระเบียบก็ไม่เคร่งจนเกินไป คนเรามีกฎเป็นของตัวเองทุกคน ถ้าทำจนเกินที่จะเรียกว่านักเรียน เช่นทำสีผม เจาะมากเกินไป มีรอยสัก จะดำเนินการอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
ส่วนเรื่องผู้สอน ที่คุณครูอาจารย์ทุกท่านทั้งหลายที่บ่นๆกันว่า เด็กโง่ เด็กไม่ฟัง เด็กดื้อ เด็กเรียนแล้วติดศูนย์ ร. ลองพิจารณาตัวเองดูนะครับว่าสอนยังไงให้เด็กเป็นอย่างนั้น
เราขอแค่{?}ไว้ผมยาวได้ ตัดหน้าม้าได้ ซอยได้ก็พอ
แต่ถ้าทำแล้วต้องรวมเก็บให้หมดเวลาไปโรงเรียน ให้ครูทุกคนมีความยุติธรรม
เพราะที่โรงเรียนเรากลางเดือนแล้วยังมาจับผมอีก แต่ที่แค้นไปมากกว่านั้นคือ
มาจับแต่ห้องเรา กฎโรงเรียนม.ปลายไว้ได้เท่าปากล่าง แต่นี่จับตัดขึ้นปากบน
แค่เราอยู่ห้องสุดท้ายแล้วมันผิดตรงไหน ลำเอียง!!!! เริ่มดราม่า
ถ้ามันเปลี่ยนกฎของร.ร ได้ก็ดี แต่ใครๆก็คิดเสมอว่า กฎ มันมีไว้ให้ แหก แล้วแบบนี้มันจะดีเหรอ
(ไม่ได้ดราม่าเน้อ แต่เท่าที่เห็นในชีวิตจริงเท่านั้น รวมถึงตัวข้าพเจ้าเอง)
ถ้าเปลี่ยนได้นะ อาจไม่ได้หมายถึงกฎ แต่อาจเป็ยพฤติกรรมบ้าง
1. เพิ่มการเรียนการสอนที่มีเนื้อหามากกว่านี้หน่อย เด็กไทยที่เรียนรัฐ ตาม เอกไม่ทัน
2. เรื่องกระเป๋าตราโรงเรียนไม่มีปัญหา แต่กระเป๋าผ้า ขอเรื่องนี้อะไรก็ได้อย่าบังคับ
3. การสอนภาษาอังกิต ไวยากร ไม่ต้องมากกรุณาเน้น ที่การสนทนาประจำวัน หรือ แวดวงท่องเที่ยวและธุรกิจ
4. เรื่องผม เด็ก ม. ไว้ยาวไปเลย ไม่ต้องตัด ซอยได้ แต่ห้ามทำสี ทำสีมาอาจดูไม่เรียบร้อยละลานตาเกินไป
5. กรุณาสอนให้เด็กไทย เลิกเป็นคนขี้เีกียจ ขี้โกง อย่างน้อยครูก็เป็นเหมือนแม่คนที่2 เพราะหลายชั่วโมงเราอยู่ ร.ร เป็นส่วนใหญ่
6. เรื่องการบ้าน แน่นอนเด็กหลายหัวสมองและปัญญาต่างกัน ไม่ต้องสั่งมากนัก สั่งมากมาย แค่เรียนใน ชม.ยังมึน แล้วมาเจอการบ้าน แทนที่จะเรียนดี จะแย่ก่อน
7. การเรียนการสอนในระบบคอมพิวเตอร์ หลาย ร.ร คงมีปัญหา เครื่องไม่พอ ติดไวรัส พังบ้างรอซ่อม งบประมาณที่ให้มาหายไปไหนคะ หรือเอาไปแบ่งกันแล้วปล่อยให้นักเรียนนั่งง่าวหาคอมไม่เจอ
8.ก่อนที่ร.ร จะรับราชการครูเข้ามา กรุณาตรวจสอบด้วย เรื่องความสามารถของครู ต้องสอนให้เข้าใจ เน้นให้ถูกต้อง และรู้ว่าต้องทำตัวให้นักเรียนเคารพอย่างไร (หลายๆคนคงคิดเรื่องนี้บ้างเหมือนกันใช่ใหม)
9.กิจกรรมไม่ต้องมากหรอก มีทัศนศึกษา เค้าค่าย ลูกเสือ ผู้นำ พุทธบุตร กีฬาสี ประกวดนี่นั่น ไม่ต้องมากก็ได้ เน้อนเรียน จะดีกว่า เพราะในตอนนี้เด็กไทยน้อยมากที่จะอ่านหนังสือเรียน ส่วนมาก จะเอาแต่เรียนในคาบ
10. อันนี้เป็นของครูๆทั้งหลาย กรุณาสอนให้เด็กๆเข้าใจในบทเรียนด้วยหาอย่างอื่นมาเสริมบ้าง อย่าให้นักเรียนนั่งง่วง หรือเอาแต่สั่งให้ทำนั่นนี่ ไม่อธิบาย แล้วหายหัวไปเลย หรืออย่าเอาแต่เล่นแชร์ หาเงินใช้ เข้าใจนะว่าเงินเดือนครูมันอาจไม่พอในสมัยนี้แต่อย่าเอาพฤติกรรมที่ไม่สมควรมาทำให้เด็กมันเห็น แล้วเอาไปใช้บ้าง หรืออย่านั่งเม้ามอย เรื่องคนนั้นนี้เรื่อยเปื่อยติดลม จนไม่เป็นอันสอน หรือเอาแต่หาครูหนุ่มแล้วติดพันธ์ แล้วอย่างนี้จะให้เด็กมันเคารพ ไหมคะ เชื่อว่าต้องมีบ้างบางร.ร
11. การดูแลเด็กในปกครอง ดูให้ถี่ถ้วนด้วย ไม่ใช่ใครหายไปเป็นอาทิต์แล้วมาตามถึงตอนนั้นก็เอาแต่ถามว่าทำ ทำไม ไม่เรียนมีอะไร หรือจับแขวนลอยเลย จะบ้าเหรอนี่ครูหรือ ใครน่ะ จะตัดอนาคตเด็กมันดื้อได้ไงคะ
12. อันนี้ แนะสำหรับเด็กที่มีปัญหากับครูผู้สอน อย่างแรก ไม่ต้องเถียง เก็บัมนไว้จนสุดขีด แล้วค่อยระเบิดมันออกมา ตอนที่สุดจะทน คือพูดให้ครูเขาคิดบ้าง มันอาจไม่ดีเท่าไร แต่อาจต้องใช้ พอเรียนจบค่อยไปขอคมา เอาแบบตบหัวแล้วลูบหลัง
เอาเป็ว่า ที่บ่นมา ไม่ใช่กฎซะหมดหรอก แต่เป็นพฤติกรรมที่มีให้เห็นทั่วไปตัว จขคห.เองก็ประสบมาเช่นกัน
อ้อ อีกอัน ไอนักเรียน ที่ตบตีกันทั้งหลาย เขาให้มาเรียนค่ะ ไม่ใช่มาหาเรื่องกัน
ส่วนใหญ่ก็เรื่องชู้สาว น่าเบื่อนะดูๆ แล้วไม่ต้องสร้างสีสันแบบนี้ก็ได้ แหมแล้วเดี๋ยวนี้ เด็กไทย ไวไฟจะตาย มาเรียนค่ะ ไม่ใช่มาหา สา มี
ลืม ค่ะ เรื่อง O-A net GAT-PAT รวมถึงสอบNT อะไรนักหนาคะ แค่สอบที่ ร.ร ก็กบาลแตก เจอพวกนี้อีก เอาโล่เลยเหรอ กรุณานึกถึงหัวสมองเด็กด้วย
มีเรื่องบ่นแค่นี้ค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงคิดคล้ายๆกัน แต่หลายๆคนคงไม่ชอบ หลายคน หลายเหตุผลนะคะ
อย่าว่ากันนะ ไม่ได้มาดราม่า จขคห. แค่อยากบ่นมานานมา
ขอโทษมากๆด้วยนะคะ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google