[ 20 เรื่องราว ] คำสาปเรือ Titanic อัปปาง
ว่าเกิดจากคำสาป มัมมี่ที่อยู่ในรูปของสินค้าในเรือแห่งนี้ ..
จะขอแบ่งเป็น 20 เรื่องราว เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการทำความเข้าใจ
1. พ่อค้าที่ขาดจิตสำนึก นามว่า "เมอร์เรย์" ได้รับการ เสนอขายสินค้าชิ้นหนึ่ง จาก นักโบราณคดีอเมริกัน ที่ผอมซูบ ติดยา คนนึง ,เมอร์เรย์เอ่ยปากขอดูสินค้า ก่อนจะตัดสินใจ ,ทันทีที่เมอร์เรย์เห็นหีบพระศพเคลือบด้วยทองคำเหลืองอร่ามตระการตาเข้าเท่านั้น เขาก็ถึงกับอ้าปากค้าง ไม่คาดคิดว่าจะพบสิ่งมีค่ามหาศาลเช่นนี้ ต่อหน้าต่อตา
2. นักโบราณคดีชาวอเมริกัน เล่าว่าหีบพระศพใบนี้ ค้นพบที่วิหารอะมอนรา ในธีบีส ,ซึ่งเป็นบริเวณที่เก็บพระศพของบรรดาเจ้าหญิงอียิปต์โบราณมากมาย สำหรับโลงพระศพที่อยู่ต่อหน้า เมอร์เรย์ คาดว่าน่าจะมีอายุประมาณ 1,600 ปีก่อนคริสตศักราช
3. เมอร์เรย์ตัดสินใจซื้อในทันที.. แต่ นักโบราณคดีชาวอเมริกันได้พูดขึ้นมาว่า "แต่มันมีอาถรรพณ์หน่อยนะ เพราะมีคำสาปแช่งจารึกไว้ด้วย" นักโบราณคดีอเมริกันบอกกับเมอร์เรย์..
4. เมอร์เรย์ไม่เสียดายเงินก้อนใหญ่ที่เขาจ่ายให้นักโบราณคดีผู้นั้นแม้แต่น้อยเลย ..ด้วยว่ามูลค่าของหีบพระศพที่เขาได้มามีค่ามากกว่ามากนัก คำสาปแช่งที่นักโบราณคดีอเมริกาบันทึกไว้ให้จึงไม่ได้ทำให้เขาสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย.
5. คำสาปแช่งนั้นมีความว่า "มันผู้ใดบังอาจรบกวนสถานที่ซึ่งเป็นที่ร่างของข้าได้สถาปนาไว้ในอาณาจักรแห่งลุ่มน้ำไนล์ มันผู้นั้นจะต้องพบกับภัยพิบัติอันน่าสยดสยองทุกวัน มันต้องตายทุกคน" !!
6. เมอร์เรย์ไม่เชื่อเรื่องคำสาป เขานำหีบพระศพของเจ้าหญิงโบราณไปให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโบราณคดีในกรุงไคโรอีกหลายท่านพิสูจน์ว่า เป็นหีบพระศพสมัยไหน? ของเจ้าหญิงองค์ใด? แม้ว่าคำตอบที่เขาได้รับจะไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด แต่กลับมีคำชมว่าเขามีสายตาเฉียบคม สามารถซื้อหีบพระศพโบราณได้ในราคาที่นับว่าถูกมากเมื่อเทียบกับมูลค่าที่แท้จริง
7. หลังจากนั้นได้มีข่าวๆ หนึ่งแทรกเข้ามารบกวนความรู้สึกของเขาไม่น้อย นั่นคือ นักโบราณคดีอเมริกันที่เพิ่งขายหีบพระศพใบนี้ให้ ได้เสียชีวิตอย่างลึกลับ หลังจากที่รับเช็คเงินสดจากเขาไปได้ไม่กี่ชั่วโมง หรือว่าคำสาปจะเป็นจริง?
8. เมอร์เรย์ ไม่เชื่อว่าจะมีความเร้นลับอะไรในศตวรรษที่ 20 ได้อีก สิ่งที่เขาต้องรีบกระทำขณะนี้คือ การส่งหีบพระศพไปเก็บไว้ที่บ้านในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สมัยนั้นไม่มีการขนส่งใดดีกว่าทางเรือ เมอร์เรย์ จึงติดต่อว่าจ้างให้บริษัทเดินเรือมาจัดการขนหีบห่อที่เขาจัดการบรรจุไว้เรียบร้อยไปขึ้นเรือก่อนการเดินทาง แต่ว่าสามวันหลังจากนั้น ก็มีเหตุเกิดขึ้นเมื่อเขาออกไปซ้อมยิงปืนทางตอนเหนือของแม่น้ำไนล์ จู่ๆ ปืนเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้แขนของเมอร์เรย์เป็นแผลเหวอะหวะ แพทย์ต้องตัดแขนเขาทิ้งตั้งแต่ข้อศอกลงไป เมอร์เรย์ กลายเป็นคนพิการอย่างที่ไม่น่าจะเป็น
9. ด้วยสาเหตุบังเอิญที่น่าพิศวงยิ่ง อุบัติเหตุคราวนี้ทำให้ต้องปล่อยหีบพระศพเดินทางไปล่วงหน้า ส่วนตัวเขาจำเป็นต้องอยู่พักฟื้นในอียิปต์สักพักจนแน่ใจว่าอาการไม่กำเริบแน่ จึงค่อยตามไปภายหลัง
10. หลังจากนั้น เมื่อบาดแผลค่อยยังชั่ว เมอร์เรย์ ก็รีบเดินทางไปอังกฤษทันที แต่ระหว่างการเดินทางอยู่ในเรือ ปรากฏว่าเพื่อนของเขาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งหีบพระศพ 2 คน และหญิงรับใช้ชาวอียิปต์ของเขาอีก 1 คน จู่ๆ ก็พร้อมใจกันตายโดยไม่ทราบสาเหตุ พอไปถึงอังกฤษ เมอร์เรย์ ก็รีบจัดการนำหีบพระศพออกจากโกดังท่าเรือกลับบ้าน
11. เมื่อถึงที่บ้านเมอร์เรย์ ตัดสินใจเปิดหีบออกดูพระศพ ทันทีที่ฝาโลงเปิดออกเผยให้เห็นมัมมี่ของเจ้าหญิงเท่านั้น..!! เมอร์เรย์ ถึงกับผงะ ,ก็มัมมี่ของเจ้าหญิงที่เขาเห็นเวลานี้ แตกต่างไปจากที่เคยเห็นซะแล้ว มันดูเหมือนใบหน้าของคนยังมีชีวิตอยู่จริง กำลังจ้องมองเขาเขม็งด้วยแววตาอาฆาตแค้น คราวนี้ เมอร์เรย์ ปักใจเชื่อว่าคำสาปมีจริงเต็มร้อย เขาคิดว่าสิ่งที่นักโบราณคดีอเมริกันเตือน เริ่มสำแดงเดชให้ประจักษ์ ความหวาดกลัวพุ่งเข้าจับขั้วหัวใจ เขาต้องคิดหาวิธีใดวิธีหนึ่งที่จะนำหีบพระศพไปให้พ้นตัว แต่ใครล่ะจะมาเป็นผู้รับเคราะห์แทน ในที่สุด
12. ก็มีเพื่อนหญิงที่เคยร่วมชั้นเรียน สนิทสนมกับเขามาตั้งแต่เด็ก ยินยอมรับเอาหีบพระศพไปเก็บไว้...
เพื่อนหญิง ของ เมอร์เรย์ ไม่ต้องรอนานเลย บรรดาคำสาปที่ติดอยู่กับมัมมี่โบราณก็เริ่มแผลงฤทธิ์ เริ่มด้วยแม่ของเธอเสียชีวิตกระทันหัน แล้วเธอเอง ก็ถูกสามีทอดทิ้ง แล้วต่อมาก็ล้มป่วยด้วยโรคประหลาด เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นซ้อนๆ กันทำให้เธอรีบนำหีบพระศพมาคืนให้ เมอร์เรย์
13. เมอร์เรย์ กลัวคำสาปมาก ไม่ต้องการเก็บหีบพระศพไว้เช่นกัน จึงมอบต่อให้พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังกฤษ ทางพิพิธภัณฑ์รีบนำมาจัดแสดงทันทีโดยจัดสถานที่วางหีบพระศพให้เหมือนบรรยากาศอียิปต์โบราณ แล้วเปิดให้นักท่องเที่ยวซื้อบัตรเข้าชม ,ไม่มีใครคาดว่าเหตุการณ์สยองขวัญจะเกิดขึ้นจนได้ ขณะที่นักท่องเที่ยวคนหนึ่งกำลังถ่ายภาพหีบพระศพอยู่นั้น เขาได้ล้มตึงชักดิ้นชักงอขาดใจตายคาที่โดยไม่มีท่าทีมาก่อน นอกจากนี้นักอียิปต์วิทยาผู้แตะต้องหีบพระศพเพื่อการจัดแสดง
ก็นอนตายตาเหลือกอยู่บนเตียงในห้องนอน คล้ายกับตกใจกลัวอะไรบางอย่างสุดขีดจนหัวใจวายกระทันหัน
14. หนังสือพิมพ์อังกฤษเอาข่าวนี้ไปตีพิมพ์ กลายเป็นข่าวดังทำให้ประชาชนหวาดกลัว ไม่มีใครอยากเฉียดเข้าไปใกล้หีบพระศพเลย ,ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังกฤษ จึงตัดสินใจมอบหีบพระศพใบนี้ให้พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
ซึ่งทางนิวยอร์คก็ยอมรับอย่างยินดี โดยให้ทางอังกฤษจัดส่งโดยเรือที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุด และใหญ่ที่สุดในสมัยนั้นคือ "เรือไททานิค"
15. เรือไททานิค เป็นเรือที่ลือกันว่า "ไม่มีวันจม" และถือว่าเป็นเรือที่หรูหราที่สุด หากจะขนย้ายหีบพระศพไปกับเรืออย่างเปิดเผยก็กลัวผู้คนจะแตกตื่น เลยจำเป็นต้องกระทำอย่างเป็นความลับ ทางฝ่ายขนส่งจัดการบรรจุหีบพระศพใส่ลังอย่างดี แล้วนำไปซ่อนไว้ใต้ท้องเรือ
16. ไม่มีผู้โดยสารทราบเลยแม้แต่คนเดียวว่า มีหีบพระศพอียิปต์โบราณที่มีอาถรรพณ์บรรทุกมากับเรือด้วย ผู้ที่รู้เรื่องนี้ดีก็คือ บริษัทผู้จัดส่งเท่านั้น
17. เรือไททานิคเที่ยวแรกออกเดินทางจาก South Hamton มู่งสู่ New York กระทั่งถึงวันที่ 15 เมษายน ค.ศ.1912 ,ทั่วโลกก็ตะลึงงันกับข่าว "เรือไททานิคชนภูเขาน้ำแข็งอับปางลงกลางมหาสมุทรแอตแลนติค มีผู้โดยสารเสียชีวิตถึง 1,498 คน"
18. ไม่มีผู้ใดทราบแน่ชัดว่าเรือไททานิคที่มีอุปกรณ์เดินเรือทันสมัย ทำไมถึงอับปางเร็วยิ่งนัก หรือทำไมถึงต้องพุ่งเข้าชนภูเขาน้ำแข็งเข้าอย่างจัง ,แต่บริษัทผู้รับจ้างขนหีบพระศพและบริษัทประกันภัยเท่านั้นที่ทราบอยู่เต็มอกถึง เหตุที่เรือไททานิคชนภูเขาน้ำแข็งจนมีผู้เสียชีวิตมากมาย
19. หรือจะเป็นเพราะคำสาปของเจ้าหญิงอียิปต์โบราณ "อาเมน-รา" ที่ทำให้เรือไททานิคต้องคำสาป และถูกทำลายด้วยมนต์ตราโบราณอายุนับพันปี
20. เจ้าหญิงองค์นี้คงต้องการที่อยู่ที่สงบ ปราศจากการรบกวนของผู้คน เธอจึงเลือกท้องน้ำที่ลึกที่สุดซึ่งจนกระทั่งบัดนี้ ยังไม่มีการกู้เรือมาได้เพราะความลึกของท้องน้ำทะเล
ขอบคุณข้อมูลจาก : oknation
ขอบคุณภาพประกอบ : Google
ปล. เนื้อหาในกระทู้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาพยนต์.. ตั้งบอร์ดนี้ถูกแล้วเนอะ ?
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
อ่า ดีใจจังมีคนอ่านแล้วชอบด้วย
ตอนแรกก็คิดอยู่นานว่าจะตั้งดีมั้ย....
เพราะก่อนหน้านั้นเคยไปตั้งที่เว็ปบอร์ดนึง..
ปรากฏว่าไม่มีใครสนใจอ่านเลยครับ
มันคงเยอะจนไม่น่าอ่าน ..
มาตั้งที่นี่ผมเลยแยกเป็นข้อๆให้มันแลดูน้อย
คำสาปของอียิปต์น่ากลัวมาก
มีอีกเรื่องเหมือนกัน ที่เป็นคำสาปของฟาโรห์อียิปต์
เรื่องนั้นก็น่ากลัวไม่แพ้กัน
จากที่อ่านมาในตอนหลังไม่ได้กล่าวถึงชะตากรรมของ**ตา เมอร์เรย์ เลยย.
ไม่รู้ตาย หรือไม่ตายหรือยังไง แต่ปัจจุบันนี้เขาคงตายแล้วหละนะคับ 555
เจ้าหญิงองค์นี้คงต้องการที่อยู่ที่สงบ ปราศจากการรบกวนของผู้คน เธอจึงเลือกท้องน้ำที่ลึกที่สุดซึ่งจนกระทั่งบัดนี้ ยังไม่มีการกู้เรือมาได้เพราะความลึกของท้องน้ำทะเล
- เรานึกว่ากู้ได้แล้วนะเนี่ย โธ่มันคงลึกมากกกกๆ แน่ๆเลยอะ
ชอบหนังเรื่องนี้ที่สุดอะ ดูกี่รอบก็ร้องไห้ทุกรอบ
งั้นตอนนี้ก็ยังอยู่หรอ.
แล้วก็ยังไม่มีใครไปค้นหา ยังเป็นปริศนาต่อไปหรอ!! อยากรู้ความจริง รอคนพิสูจน์
คำสาปอียิป
ข้อสุดท้าย
งั้นก้ไม่ต้องกู้แหละ ดีแล้ว ปล่อยให้ท่ายอยู่ที่สงบตลอดไปเถอะ
(เดี๋ยวมีคนบริสุทธิ์ต้องมาตายอีก) กลัว TT
ชอบอ่านเกี่ยวกับคำสาปอียิปต์มากอะ แต่เขาไม่ควรจะไปรบกวนตั้งแต่แรกแล้วไม่งั้นคงไม่เกิดเรื่องยังงี้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google