เรื่องดีๆมีสาระ : "อย่าหนีนะ เจ้าเด็กขี้ขโมย"

31 ธ.ค. 55 11:16 น. / ดู 1,882 ครั้ง / 30 ความเห็น / 24 ชอบจัง / แชร์
"อย่าหนีนะ เจ้าเด็กขี้ขโมย"


เสียงผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งตะโกนลั่น
พร้อมกับมีเด็กคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งวิ่งผ่าน
ฉันกับแม่ที่กำลังซื้อเนื้อหมูในตลาดไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งแม่และฉันหันไปดูทันเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น
แค่แวบเดียว แม่ถามฉันว่า

' อ้าวนั่นป้าร้านขายของไม่ใช่เหรอ '

' ใช่จ้ะแม่ แกวิ่งไล่ใครกันละ '

ป้าคนนั้นชื่อว่า ' ป้าหนอม ' เป็นแม่ค้าขายของชำ
สารพัดอย่างในตัวตลาดในอำเภอที่ฉันอยู่มีฐานะ
จัดว่าดีกว่าแม่ค้าคนอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน
และเป็นที่รู้จักกันว่าแกเป็นคนที่ขี้เหนียวอย่างร้ายกาจ
แถมปากจัดที่สุดในตลาดอีกด้วย ใครต่อราคาของ
มากเกินไปหรือถามราคาแล้วไม่ซื้อป้าแกจะโวยวาย
ชนิดต้องรีบเผ่นออกจากร้านแทบไม่ทันทีเดียว

เสียงเอะอะดังมากขึ้นฉันหันไปมองป้าหนอมจับข้อมือ
เด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 12-13 ขวบไล่เลี่ยกับฉัน
ซึ่งกำลังดิ้นรนอยู่ และป้าแกกำลังจะลงไม้ลงมือ
แม่จึงเดินเข้าไปถาม

' พี่หนอม มีไรหรอคะ '

' ก็คุณเด็กเวรนี่นะสิ มันมา ทำทีขอซื้อยาแก้ปวดกับยาธาตุ
พอฉันหยิบส่งให้ มันก็วิ่งหนีมาเลย เงินก็ไม่จ่าย '

พูดจบป้าหนอมก็ตบหัวเด็กคนนั้นอย่างแรงหนึ่งที
และคงจะมีตามมาอีกหลายทีแน่ถ้าแม่ฉันไม่ห้ามไว้

' ตายแล้วพี่หนอม อย่าถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยนะ แล้วนี่จะทำไงต่อ '


แม่รีบตัดบทเพราะเห็นว่าเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่

' เรียกตำรวจมาเอามันไปเข้าคุกนะสิ เสียนิสัย
พ่อแม่ไม่สั่งสอนยังเด็กตัวแค่นี้ก็รึจะเป็นขโมยซะแล้ว
ต่อไปก็คงต้องปล้นเขากินหละ '


ฉันสะกิดแม่ทันทีพร้อมกับมองพลางส่ายหัวน้อยๆ
ทำนองว่าอย่าไปยุ่งดีกว่าแม่มองฉันแล้วมองเด็กคนนั้น ซึ่งท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้แม่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
แล้วหันไปพูดกับป้าหนอมว่า

' อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลยนะพี่หนอมเด็กมันคงอยากซื้อยา
แต่ไม่มีเงินนะ เอาเป็นว่าฉันจ่ายให้ละกันนะกี่บาทกันละ '


ในที่สุดเรื่องก็จบลงโดยการที่แม่ยอมจ่ายเงินค่ายา
แก้ปวดกับยาธาตุแล้วแม่ก็จูงเด็กคนนั้นออกมาจากตลาด
แต่ป้าหนอมยังไม่วายเตือนแม่

' ใจดีกับเด็กขี้ขโมยแบบนี้ ระวังจะเสียใจทีหลังนะเธอ '

แม่ไม่ได้ตอบอะไรแต่พอเดินห่างจากร้านพอสมควรแ ล้วก็ถามว่า

' ทำไมหนูขโมยของป้าเขาละ '

เด็กคนนั้นเงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองแม่ แล้วตอบสะอึกสะอื้นว่า

' แม่ผมปวดท้องมากเลยครับ แล้วแม่ก็ไม่มีเงินไปหาหมอผมก็เลยต้อง... '

แม่มองหน้าเด็กคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยืนผลไม้ที่ซื้อมาให้เด็ก
คนนั้นถุงหนึ่ง แล้วบอกว่า

' ทีหลังอย่าขโมยของใครนะ ถ้าไม่มีเงินมาขอเงินน้าไปซื้อก็ได้นะ
น้าชื่อสมพรเปิดร้านเย็บผ้าอยู่ใกล้ๆนี่เองถามคนแถวนี้ก็ได้ รู้จักน้า
แทบทุกคนเลยแหละ เอ้า...เอา ส้มไปฝากคุณแม่ซิคนป่วยนะต้อง
กินผลไม้มากๆ จะได้หายไวๆ รู้มั้ย '


แม่เสริมพร้อมกับยิ้ม เด็กคนนั้นอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรับส้ม
พร้อมกับพูดขอบคุณแม่แล้วเดินจากไป

หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน ฉันก็ถามแม่ทันที

' ทำไมแม่ต้องช่วยเด็กคนนันด้วยละ รู้จักกันหรอจ้ะ '

แม่ยิ้มแล้วตอบฉันว่า

' ไม่รู้จักหรอก แต่แม่เห็นเด็กคนนั้นรับจ้างหาบขนมขาย
อยู่แถวบ้านเราน่ะลูก แต่แกคงจำแม่ไม่ได้หรอกแม่ซื้อขนม
แกอยู่ไม่กี่ครั้งเอง '

' แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องช่วยเหลือเขาถ้าเขาเป็นขโมยนี่แม่ '


ฉันถามต่อ แม่มองหน้าฉันแล้วพูดว่า

' แม่เชื่อว่าเด็กที่เคยหาเงินด้วยตัวเองมาก่อนตั้งแต่อายุเท่าๆกับลูก
จะต้องเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบรู้คุณค่าของเงินทุกบาท
ทุกสตางค์ว่ากว่าจะได้มามันเหนื่อยยากขนาดไหนและคนที่มี
ความรับผิดชอบนะ จะไม่มีทางขโมยของใครนอกจากจะจำเป็นจริงๆ
เมื่อเขาไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้วเท่านั้น '


ฉันฟังแล้วก็ถามแม่ต่อว่า

' แล้วต่อไปถ้าเขามาขอเงินแม่ไปซื้อยาอีก แม่จะให้เขารึเปล่า '

' ให้สิลูกถ้ามันไม่มากไม่มายอะไร

' แล้วแม่ไม่เสียดายเงินหรอบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือน
บ้านป้าหนอมเขานะแม่ '

' ถึงแม่จะไม่มีเงินทองมากนักแต่การที่ได้ช่วยเหลือคน
ที่กำลังลำบากน่ะ มันทำให้แม่มีความสุขแล้วยังได้บุญอีกด้วยนะ
แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว ไม่อยากได้อะไรตอบแทนหรอก '


แล้วแม่ก็พูดต่ออีกว่า

' จำไว้นะลูก คนเรานะต้องรู้จักให้อภัยและให้โอกาสคน
อื่นแก้ตัวเสมออย่างเด็กคนนั้น..แม่มั่นใจว่าแกทำไปเพราะ
รักคุณแม่ของแกจริงๆ แม่ถึงช่วยแกเอาไว้ '


แล้วแม่ก็พูดต่อว่า

' ลูกอาจจะบอกว่าขโมยเป็นสิ่งทีผิด ใช่...แม่ไม่เถียงแต่บางครั้ง
คนเราก็ต้องมองด้านอื่นๆบ้าง อย่าคิดแต่เรื่องทรัพย์สินเงินทอง ตอนนี้ลูกอาจจะยังฟังไม่เข้าใจ แต่แม่เชื่อว่าสักวันลูกจะเข้าใจเองแหละ '


หลังจากนั้น ฉันกับแม่ก็หันไปคุยเรื่องอื่นๆกันต่อ ฉันเองไม่เคยคิดเรื่องนี้
อีกเลย จนเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้ฉันต้องย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีก
ครั้งทั้งน้ำตา ว่าคำพูดของแม่ในครั้งนี้ถูกต้องที่สุดจริงๆ



หลังจากนั้นฉันเรียนจบระดับปริญญาตรีจากสถาบันราชภัฏ
แห่งหนึ่งในตัวจังหวัด แล้วฉันก็ได้งา นทำในโรงงานในตัวจังหวัดนั้นเอง เงินเดือนก็พอประมาณ สามารถเลี้ยงดูแม่ได้โดยไม่ขัดสนนัก
ฉันก็เลยขอร้องให้แม่หยุดรับจ้างเย็บผ้าเพราะอยากให้แม่พักผ่อนบ้าง
หลังจากทำงานหนักมาเกือบ 20 ปีเพื่อส่งฉันเรียน แม่ยอมปิดร้าน
แต่ก็ยังรับงานเล็กๆ น้อยๆของเพื่อนบ้านมาทำบ้างโดยไม่คิดเงิน
แม่บอกว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยจะรู้สึกเบื่อ ฉันก็เลยต้อง
ยอมตามใจแม่

ฉันทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี แม่ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายเริ่มจาก
ปวดหัวบ่อยขึ้น ช่วงแรกๆไม่กี่วันก็หายหลังจากนั้นก็เริ่ม
เป็นนานขึ้นเรื่อยๆ ฉันบอกให้แม่ไปหาหมอแล้วฉันก็พาแม่
ไปหาหมอในเมืองหมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่ทำงานหนัก
มากเกินไปหมอให้ยามาชุดหนึ่งพร้อมกำชับให้พักผ่อนมากๆ
จะได้หายเร็วๆ

หลังจากกินยาตามที่หมอสั่งอาการปวดหัวของแม่ก็หายไป
ฉันเริ่มสบายใจขึ้น แต่หลังจากไปหาหมอได้ประมาณหนึ่งเดือน
แม่ก็เริ่มกลับมาปวดหัวอีกคราวนี้เป็นหนักมากกว่าครั้งที่แล้ว
ยาที่เคยกินแล้วได้ผลมาก่อนก็ไม่ได้ผลเลย

ฉันกังวลใจมากพอถามหมอหมอก็บอกว่าต้องไปตรวจ
ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯเพราะว่าเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า
โรงพยาบาลต่างจังหวัด

หลังจากนั้นฉันรีบพาแม่ไปกรุงเทพฯทันที
ไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งหลังจากหมอตรวจแล้วบอกว่า
มีเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัดโดยด่วน หากปล่อยทิ้งไว้อาจไปทับ
เส้นประสาททำให้เป็นอัมพาตได้ หรือถ้าผ่าตัดไม่ทันก็อาจร้ายแรง
ถึงขั้นเสียชีวิต ฉันตกใจมากของให้หมอผ่าตัดให้ทันทีแต่หมอบอกว่า
โรงพยาบาลที่มีหมอผ่าตัดสมองที่มีความพร้อมที่จะผ่าตัดเนื้องอก
ในสมองเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากกว่า

ดังนั้นหมอจึงต้องส่งตัวคนไข้ไปยังโรงพยาบาลนั้น ฉันก็ตกลง
หลังจากถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลดังกล่าวแล้ว
แม่ก็ถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดทันที ขณะที่ฉันรออย่างกังวลใจ
อยู่ด้านนอก ทั้งเรื่องอาการป่วยของแม่และจากคำพูดของหมอ
ที่ทิ้งท้ายไว้ก่อนส่งตัวแม่มาที่โรงพยาบาลแห่งนี้

หมอบอกให้ทำใจไว้บ้าง เพราะการผ่าตัดสมองเป็นการผ่าตัดที่เสี่ยงมาก
โอกาสที่คนไข้จะเสียชีวิตมีมาก แม้การผ่าตัด
จะประสบความสำเร็จก็ตาม อีกเรื่องก็คือค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสมอง
ค่อนข้างสูง เป็นหลักแสนบาท เมื่อรวมกับค่ายาระหว่างพักฟื้น คิดแล้วน่าจะต้องใช้เงินราวๆ ห้าแสนบาท

ฉันได้ยินแล้วแทบลมจับ ฉันจะไปหาเงินห้าแสนบาทมาจากไหน
ลำพังเงินเก็บของฉันกับแม่ยังมีไม่ถึงห้าหมื่นบาทเลย แต่ยังไงฉันก็ต้องรักษาแม่ให้หายส่วนเรื่องเงินไว้คิดทีหลัง

หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นลงเป็นโชคดีของแม่ทีการผ่าตัด
ประสบผลสำเร็จและไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆทางโรงพยาบาล
บอกให้พักฟื้นประมาณหนึ่งเดือนก็สามารถไปพักฟื้นที่บ้านได้

ทางโรงพยาบาลแจ้งรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาให้ฉัน ปรากฏว่า
เป็นเงินจำนวนไม่ถึงหนึ่งพันบาทเป็นค่าติดต่อประสานงานเท่านั้น

ฉันแปลกใจมากจึงสอบถามกับนางพยาบาล นางพยาบาลบอกว่า
คุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดและเป็นเจ้าของไข้ บอกไม่ให้คิดเงินกับฉันและแม่ โดยที่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ทราบสาเหตุ

ฉันจึงขอพบคุณหมอคนนั้นเพื่อขอบคุณ นางพยาบาลบอกว่าหลังจากเสร็จคุณหมอก็ถูกส่งตัว
ไปต่างประเทศทันทีเพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ
ผ่าตัดสมองที่อเมริกา แต่คุณหมอได้ฝากจดหมายไว้ให้ฉันกับแม่

โดยกำชับกับทางโรงพยาบาลให้ฝากให้ฉัน พร้อมกับใบเสร็จค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของทางโรงพยาบาลในวันที่แม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้

เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันกับแม่ก็เปิดอ่านจดหมายของคุณหมอคนนั้น

เมื่ออ่านจบทั้งฉันและแม่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกัน


เนื้อความในจดหมายมีดังนี้

ข้าพเจ้านายแพทย์เดชา ทองวิจิตร แพทย์ผู้ผ่าตัด นางสมพร ภู่จันทร์
ขอสรุปค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดทั้งหมดดังนี้
ค่าผ่าตัด 0 บาท
ค่ายาทั้งหมด 0 บาท
ค่าใช้จ่ายอื่นที่เหลือ 0 บาท
รวมเป็นเงินทั้งหมด 0 บาท
ป.ล. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้รับแล้ว เมื่อยี่สิบปีก่อนด้วย ยาแก้ปวด ยาธาตุ ส้มหนึ่งถุง
ขอให้สุขภาพแข็งแรงไปอีกนานๆ นะครับคุณน้า

นายแพทย์เดชา ทองวิจิตร
แก้ไขล่าสุด 31 ธ.ค. 55 11:18 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | `;$-แม่สิบเอ็ดโมง.* | 31 ธ.ค. 55 11:34 น.

น้ำตาแทบจะไหลอ่ะ ...  หาบทความดี ๆ แบบนี้มาอีกนะค้ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | ตัวส้ม'' | 31 ธ.ค. 55 12:11 น.

เรื่องนี้ในขายหัวเรา ะ. ชอบ ชอบ

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Seungkrit. | 31 ธ.ค. 55 13:10 น.

เคยอ่านเรื่องที่มันเป็นนม 1 แก้ว ทำนองแบบนี้
แต่อ่านอีกทีก็ยังอดซึ้งไม่ได้ ฮ่า

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | อย่ามองตรงนั้น | 31 ธ.ค. 55 13:20 น.

ซึ้งมากค่ะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | `ศูนย์หนึ่งสาม | 31 ธ.ค. 55 14:02 น.

อ่านกี่ครั้งก็ยังซึ้ง 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | nomugglesallowed | 31 ธ.ค. 55 15:00 น.

อ่านกี่รอบกี่รอบก็ชอบเรื่องนี้ 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | ปลาของเหมียวน้อย | 31 ธ.ค. 55 15:59 น.

เป็นบทความที่ดีมากๆ
อ่านแล้วซึ่งเลย

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | `Double'z.|Joker| | 31 ธ.ค. 55 17:28 น.

โอยย อ่านแล้วขนลุก
ชอบอะไรแบบนี้อ่ะ ได้ข้อคิดดี

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | CMHflamer:3 | 31 ธ.ค. 55 17:36 น.

แอบแล้วจะร้องไห้T^T

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | angxhowy. | 31 ธ.ค. 55 17:45 น.

ซึ้ง หาบทความแบบนี้มาอีกนะคะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | .doties | 31 ธ.ค. 55 18:11 น.

ชอบคุณหมอมาก

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | JesSiCa#KaI | 31 ธ.ค. 55 18:20 น.

อ่านแล้วก็ยังซึ้งอ่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | `นี่โหน่งนะ.(?) | 1 ม.ค. 56 10:12 น.

เป็นบทความที่ดีมาก น้ำตาแอบซึม 

ไอพี: ไม่แสดง

#14 | -'dinojiri<3; | 1 ม.ค. 56 13:50 น.

ซึ้งกินใจจบ.

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | hnjr_ | 1 ม.ค. 56 14:44 น.

เราเคยดูในฟ้ามีตา โครตซึ้ง ><'

ไอพี: ไม่แสดง

#16 | อนุวิเศษ'Super,Jr. | 1 ม.ค. 56 18:44 น.

ร้องไห้ ..

ไอพี: ไม่แสดง

#17 | AYO/of\Rocker... | 1 ม.ค. 56 19:54 น.

ซึ้งมากเลยครับ ทำดีได้ดี

ไอพี: ไม่แสดง

#18 | .อัญชลี% | 2 ม.ค. 56 04:18 น.

ขอบคุณนะ

ไอพี: ไม่แสดง

#19 | P.S.Ko!5** | 2 ม.ค. 56 19:23 น.

same 3
เคยอ่านแล้วชอบมาก

ไอพี: ไม่แสดง

#20 | choompooh | 3 ม.ค. 56 20:34 น.

อ่านแล้วซึ้งมาก ขนลุก

ไอพี: ไม่แสดง

#21 | YS'AุTTAํCKX_ | 3 ม.ค. 56 21:13 น.

อ่านตอนจบแล้วขนลุกเลยอะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#22 | 'น้องแพร_ดอกสะเดา' | 4 ม.ค. 56 19:53 น.

เคยอ่านละ 
แต่ไม่ใช่อันนี้อะ คล้ายๆกัน 

ไอพี: ไม่แสดง

#23 | อุอิ | 4 ม.ค. 56 22:20 น.

อ่านกี่ครั้งๆก็ซึ้งทุกครั้ง 

ไอพี: ไม่แสดง

#24 | Janine | 5 ม.ค. 56 18:09 น.

ซึ้งมาก 

ไอพี: ไม่แสดง

#25 | 'บ้าบอ'::คอแตกกก | 6 ม.ค. 56 01:37 น.

สาระมีอยู่จริง

ไอพี: ไม่แสดง

#26 | `tstymon(?) | 6 ม.ค. 56 02:14 น.

ไอพี: ไม่แสดง

#27 | ชานยอลออนนี่(?) | 7 ม.ค. 56 20:07 น.

ซึ้งมากกกกกกกกT^T เดาเนื้อเรื่องถูกด้วยอ่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#28 | ป.ปัง | 11 ม.ค. 56 20:41 น.

หลงเสิร์ทในgoogle เพื่อหาชื่อนี้ อ่านแล้วซึ้งอ่า เป็นหมอแบบนี้แหละ จาก**ากจนมาเพื่อช่วยเหลือคนจริงๆ ค่าใช้จ่ายก็ต้องเข้าใจกัน (เดี๋ยวนี้คนเป็นหมอ เป็นเพราะพ่อแม่อยากให้เป็น ส่วนมากมีแต่คนรวยๆ เรียนสูงๆตั้งแต่ไหนแต่ไร)  ซึ้งมากอ่า 

ไอพี: ไม่แสดง

#29 | -[]($N)? | 24 ม.ค. 56 22:17 น.

ซึ้งจริงๆ ชอบอ่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#30 | `ซีเคร็ตมายา.? | 31 ม.ค. 56 21:22 น.

แปะนะครับบบบบบบบบ

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google