นี่คือกระทู้รวมเรื่องมีสาระ No.68

21 ม.ค. 56 19:49 น. / ดู 1,329 ครั้ง / 9 ความเห็น / 9 ชอบจัง / แชร์
สวัสดีจ้า...นี่คือกระทู้รวมเรื่องมีสาระ No.68
ที่จะนำสาระมาให้เพื่อนๆได้รู้กันนะจ้ะ

เริ่มเลยจ้า




หมีขาวขั้วโลก หรือที่ชาวเอสกิโมเรียกว่านานูก (Nanuuq) เป็นหมีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มหมีด้วยกัน อาศัยเฉพาะในเขตขั้วโลกเหนือ และค่อนข้างจำเพาะอยู่ในพื้นที่ที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีเท่านั้น มีการปรับตัวให้อาศัยในสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นได้ โดยการที่มีไขมันสะสมใต้ผิวหนังหนาถึง 4 นิ้วเพื่อรักษาความอบอุ่นในร่างกาย มีใบหูที่เล็กกว่าหมีทั่วไปเพื่อช่วยลดอัตราการคายความร้อนผ่านใบหู อีกทั้งภายในเส้นขนของมันยัง “กลวง” ช่วยให้สามารถเปลี่ยนรังสีอุลตร้าไวโอเลตให้เป็นความร้อนได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์



สมุนไพร ฮว่านง็อก (HOAN-NGOC)
เป็นต้นสมุนไพรถือกำเนิดในประเทศเวียดนามผู้นำเข้ามาใช้เป็นกลุ่มทหารผ่านศึกสมัยสงครามเวียดนามกระถางแรกมีราคาถึง 70,000 บาท นำมากินใบสด ๆ แก้โรคต่าง ๆ
เป็นต้นไม้ชนิดใบอ่อนปลายแหลม ส่วนล่างของใบจะหยาบสีเขียวเข้ม ด้านบนสีเขียวอ่อนเป็นต้นไม้ที่มีใบมากสักหน่อย แตกกิ่งก้านทรงพุ่มได้ดีการขยายพันธุ์เพียงตัดยอดปักชำลงดินก็เกิดรากตั้งตัวได้เร็ว ย้ายลงปลูกในกระถางใส่ปุ๋ยพรวนดินรดน้ำก็จะเจริญงอกงาม




เมอแรงค์สวิส (Marängsviss)
เป็นขนมหวานที่ทำขึ้นเพื่อรับประทานในราชสำนักสวีเดน แต่ในปัจจุบัน เมอแรงค์สวิสได้กลายมาเป็นขนมหวานโบราณที่นิยมรับประทานกันในทุกโอกาส เมอร์แรงค์สวิสเป็นที่ยอมรับเรื่องรสชาติที่อร่อย หอม หวาน ประกอบด้วยไอศรีม เมอแรงค์ชิ้นเล็ก ๆ กล้วยสไลซ์ วิปครีม และชอคโกแล๊ตร้อน นอกจากนี้ยังมีการใส่ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น สตอร์เบอรี่ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ อีกด้วย
ขนมดังกล่าวอาจคิดค้นขึ้นในประเทศสวีเดน แต่ แต่ถูกนำมาเผยแพร่โดย Werner Volgeli เชฟชาวสวิส ที่มีชื่อเสียงในสวีเดน




Ravenna ราเวนนา
ตั้งอยู่แคว้น Emilia-Romagna ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี เคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันตะวันตกในปี คศ.402 สิ้นสุดลงในปี คศ.554 ต่อมาเป็นเมืองหลวงของออสโตรกอธ
มีอายุประมาณ 1,500 ปี มีสถานที่ที่ขึ้นเป็นมรดกโลกอยู่ 8 สถานที่ ลักษณะเด่นของแต่ละสถานที่ประด้วยภาพที่ทำจากโมเสค ที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีความสวยงามจึงทำให้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรกดโลก หนึ่งในสถานที่แนะนำสำหรับเที่ยวปี 2013 จาก National Geographic

ภาพประกอบ: ภาพโมเสคในโบสถ์ ที่ตั้งอยูในเมืองราเวนนา




หมากฝรั่ง คาดว่ามาจากชาวอินเดียนแดงที่ชอบเคี้ยวยางไม้บางชนิด และแพร่หลายกันมากในหมู่ชาวอินเดียนแดงด้วยกัน แต่จากหลักฐานต่อจากนั้นมีว่า ทหารผู้ที่ริเริ่มการเคี้ยวหมากฝรั่ง มีชื่อว่า นายพล อันโตนิโอ โลเปซ เดอ ซานตาอันนาแห่งกองทัพเม็กซิโก ได้นำยางของต้นไม้ป่าในเม็กซิโกมาด้วย ต่อมาโทมัส อดัมส์ นักถ่ายภาพและนักประดิษฐ์ได้ทราบเรื่องการเคี้ยวยางไม้นี้ จึงทดลองนำมาทำเป็นหมากฝรั่งเป็นครั้งแรก โดยหมากฝรั่งในยุคแรกๆของโทมัสเป็นเม็ดกลมๆเล็กๆ ไม่มีรสชาติต่อมาจึงเริ่มมีการดัดแปลงรูปแบบเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม แบนๆ



สารพัดประโยชน์ของข้าวโพดสีม่วง"
ข้าวโพดสีม่วงถูกพัฒนาสายพันธุ์มาจากข้าวโพดสีม่วงผสมกับข้าวโพดข้าวเหนียว โดยในข้าวโพดสีม่วงยังพบ "สารแอนโทไซยานิน" ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระระดับสูง ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง (ชนิดเนื้องอก) ช่วยเสริมสร้างการทำงานของเม็ดเลือดแดง ลดการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด ควบคุมระดับน้ำตาล ช่วยชะลอความแก่ชราและความเสื่อมสภาพของดวงตา รวมถึงยังสามารถลดอัตราการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย




การแข่งบอลของชาวมายานั้นถูกจำลองมาจากเกมส์การแข่งขันของเทพเจ้าในตำนาน โดยพวกเขาจะจัดการแข่งขัน บริเวณลานศิลา โดยใช้ลูกยางขนาดแข็งเท่ากระโหลกมนุษย์ และใช้สะโพกและไหล่ในการรับ - ส่ง ลูกบอลเพื่อให้เข้าห่วงที่แขวนอยู่บริเวณกำแพงด้านข้าง โดยมีกติกาว่าผู้แพ้จะต้องถูกสังหารเพื่อบูชายัญ เพราะ เชื่อว่าเลือดของผู้ัแพ้จะหล่อเลี้ยงโลกนำเทพเจ้าแห่งข้าวสาลี (เทพเจ้าสูงสุดของชาวมายา) ให้กลับคืนมา



'ไขมันสีน้ำตาล' (Brown Fat) เป็นไขมันชนิดสลายไขมันที่พบมากในร่างกายของเด็กแรกเกิด สำหรับสร้างพลังงานความร้อนเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น อันที่จริงมีอยู่ในร่างกายของคนทุกเพศทุกวัย โดยโปรตีน 'พีอาร์ดีเอ็ม 16' และ 'บีเอ็มพี 8 บี' ที่อยู่ในอาหารประเภทนมเนย ถั่ว และเนื้อสัตว์ สามารถแปลงเซลล์ไขมันสีขาวให้กลายเป็นไขมันดีสีน้ำตาล ช่วยกระตุ้นระบบเมทาบอลิกในสมองและเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย ทำให้การเผาผลาญไขมันส่วนเกินดีขึ้น รวมถึงลดความเสี่ยงของโรคอ้วน โรคเบาหวานในเด็กได้อีกต่างหาก



telepresence robot
เราอาจจะคุ้นเคยกับการประชุมระยะไกล แต่เทคโนโลยี telepresence robot ของหุ่นยนต์ “บีม” ถูกพัฒนาโดยติดหน้าจอแสดงผลเข้ากับขาล้อเลื่อนซึ่งสามารถควบคุมได้แม้ว่าจะอยู่คนละสถานที่ เพื่อให้เจ้าของบีม สามารถ “เห็น” “ได้ยิน” และ “เดิน” เท่าที่ล้อจะเลื่อนไปได้ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ประกอบการบางรายนำไปใช้งานบ้างแล้ว เช่น การตรวจงานในต่างประเทศ การตรวจดูพนักงานขาย และการนำเข้าไปใช้ในโรงพยาบาลต่างๆ




อุโมงค์แห่งความรัก (Tunnel Of Love)
หนึ่งในสถานที่โรแมนติคทีสุดสำหรับคู่รัก เป็นอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยใบไม้สีเขียว ตั้งอยู่บนรางรถไฟส่วนตัวของโรงงาน ในเมืองคลีเวน ประเทศยูเครน สาเหตุที่ได้ชื่อว่าเป็น "อุโมงค์แห่งความรัก" เนื่องจากคู่รักนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นิยมมาเดินเป็นคู่ ๆ ในอุโมงค์แห่งนี้


(C) กระทู้นี้จากสำรวจโลก

เตรียมพบกับกระทู้ต่อไปได้เลย
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

อยากไปอุโมงค์สวยมาก 

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | น้องถั่วคนงาม | 21 ม.ค. 56 19:58 น.

เห็นอุโมงค์ นึกว่าทางรถไฟที่แบบยังใช้อยู่ 

สวยมาก 

แก้ไขล่าสุด 21 ม.ค. 56 19:59 | ไอพี: ไม่แสดง

#3 | ใครนะใครนั่นสิใคร | 21 ม.ค. 56 20:25 น.

ทู้แหกกันเลยทีเดียว
ขอบคุณมากคะแปะไว้ๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | This_kiss_(Blow_me) | 21 ม.ค. 56 21:02 น.

ขอบคุณนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | .ราชินีบีสเปียร์ | 21 ม.ค. 56 21:23 น.

เราชอบหีขาวมากๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | bellbjvip | 21 ม.ค. 56 22:03 น.

คห. 5   

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | .1810OิCT๋ | 21 ม.ค. 56 22:49 น.

ขอบคุณสำหรับสาระค่ะ 



- คห.5 หายไปไหนคะ รีบมาแก้เลยย 

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | `b2st.4nia<3/nudang. | 22 ม.ค. 56 22:19 น.

#5 *หมี* ใช่ปะ555555555

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | KOPoom_13 | 8 ก.พ. 56 20:50 น.

ขอบคุณค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google