Review ลดน้ำหนักง่ายๆ สบายๆ 10 วัน ลด 4.5 กิโล!!! ! (ลงแล้วจ้า)
19 ก.พ. 56 09:25 น. /
ดู 120,940 ครั้ง /
96 ความเห็น /
58 ชอบจัง
/
แชร์
hashtag:
#ลดน้ำหนัก
แนะนำตัวจ้าา
พี่ชื่อ พี่น้ำผึ้ง
มาแล้วจ้าาาาา
โทษทีนะจ๊ะทีให้รอกัน พี่เพิ่งเลิกเรียนจ้า ตอนแรกกะจะอาบน้ำเข้านอน แต่นึกขึ้นได้ว่าค้างโพสอยู่ ขึ้นลุกมาโพสก่อน
เมื่อกี้มีสอบ ตายไปเลยจ้าาา ช้าไปนิสนึงเนาะ
.........
วันนี้... เป็นการเปิดกระทู้ครั้งแรก ซึ่งก่อนที่จะสมัครก็นั่งเข้ามาคลิกๆ ดูตามกระทู้ต่างๆ ใน SZ จนอยากจะสมัครสมาชิก เพราะชอบเข้ามาดูกระตู้ลดน้ำหนัก และรีวิวต่างๆ ซึ่งตอนหน้านี้พี่ก็เคยมีID แต่มันนานมาแล้ว ลืมรหัส LOL ก็เลยสมัครID ขึ้นมาใหม่ พอสมัครเสร็จก็กะจะตั้งกระทู้ แต่ไม่สามารถต้องเป็นสมาชิกครบ 10 วันก่อนก็เลยรอ ซึ่งก็พยายามคิดว่าทำไงดีกว่าระหว่างรอ ปิ๊ง!!! ! ลดความอ้วนนี่แหละ เพราะช่วงที่ผ่านมาทานเยอะมาก เยอะจนออกแก้ม
ขอบอกก่อนนะจ๊ะว่า...
1. พี่เป็นคนน้ำหนักขึ้นไว แล้วก็ลงไว
2. พี่เป็นคนไม่ชอบข้าวข้าวเยอะ ทานแต่ละครั้งคนนั่งใกล้ๆ นึกว่าเอามาดม LOL กินกลับซะมากกว่า
3. พี่เป็นคนเผาผลาญร่างกายดี เหงื่อออกง่าย
4. ลดครั้งนี้พี่ไม่ได้ออกกำลังกาย (แต่ถ้าใครเป็นคนลดยาก แนะนำให้ออกกำลังควบคู่นะจ๊ะ)
5. ปัจจุบันน้ำหนัก 50.2 ช่วงนี้กินเยอะก็เลยขึ้น จริงๆ น้ำหนักจะประมาณ 47-48 ประมาณนี้
.........
วิธีลดน้ำหนักมีหลากหลายวิธี เพียงแต่เลือกวิธีที่เหมาะกับเราเป็นพอ สำหรับครั้งนี้พี่เลือกจะควบคุมอาหารแบบนับแคลอรี่... เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยน lifestyle ของตัวเองใหม่ พี่เคยทำหลายๆ วิธี ทำจนเหนื่อย ออกกำลังกาย ลดแป้ง ลดน้ำตาล แต่ก็นะพอมันลดก็กลับมาตามใจปากตัวเองเหมือนเดิม
วิธีการสำหรับการลดน้ำหนักแบบยั่งยืน ขอเพียงมีความตั้งใจเป็นพอ
1. เลิกการลดความอ้วนแบบผิดๆ ที่กินวันละมื้อ หรือไม่ก็กินน้อยครั้งจนไม่สนใจร่างกายตัวเองเลย สูตรลดความอ้วนหลายๆ วิธีที่เราเคยปฏิบัติอาจจะได้ผล แต่พอเราหยุด แล้วเกิดกิเลสเวลาเพื่อนมาชวนไปทานของอร่อยๆ หรือตบะแตกเวลาเห็นของที่ล่อตาล่อใจชวนลิ้มก็กระหายที่จะรับประทานมันจนน้ำหนักที่เราอุสาอดแทบตายก็กลับมาขึ้น เพิ่มเหมือนเดิม ล้วแบบนี้เราจะทำไปเพื่ออะไร?
2. ต้องใจเย็นๆ ไม่รีบร้อน เพราะเราจะต้องค่อยๆ ปรับให้ร่างกายเราชิน ไม่ใช่เอ๊ะอ๊ะก็โวยวาย ไม่เป็นได้ผลเลย น่าเบื่อ เซ็ง ไม่ทำมันแหละ... ถ้าคิดแบบนี้ หยุด คุณเหมาะกับคำนี้ที่สุด เข้าใจ?
3. ศึกษาเพิ่มความรู้ ความรู้คุณหาได้ทั่วไป ชอบใช่มั้ยกับการอ่านนิตรสาร ลองดูคอรั่มสุขภาพสิมีดีทั้งนั้น
4.รู้จักวางแผนการรับประทานให้แต่ละมื้อ คนทั่วไปจะรับประทานอาหารต่อวัน 1,500-2,000 แคลอรี่ แต่ถ้าจะลดความอ้วนคุณควรรับประทารอาหารไม่เกิน 1,200 แคลอรี่ต่อวัน ถ้าคุณสามารถทำได้ เตรียมพร้อมรับหุ่นสุขภาพดีได้เลยจ้า
5. เวลาทานอาหารที่จานให้ลองใช้จานใบเล็กๆ มันจะทำให้เรารู้สึกว่าอาหารในจานเยอะ ทำให้เราจะทานแค่พอ ประมาณ
6.เข้านอนเร็ว เพราะจะไม่ทำให้รู้สึกหิว อีกทั้งทำให้เรามีเวลาพักผ่อนร่างกายมากขึ้นด้วย
7.งดน้ำหวานทุกชนิดและทานแต่พออิ่ม
.........
ขั้นตอนที่พี่ปฏิบัติมีดังนี้
1. รับประทานอาหารครบ 3 มื้อ หรืออาจจะ 4 มื้อต่อวันแล้วแต่ความชอบ
2. แบ่งถ้าจะรับประทานหรือไหนหนักที่สุด จะทานกี่แคลอรี่ไม่ให้เกิน 1,200 แคลอรี่ต่อวัน สำหรับพี่เลือกมื้อเที่ยงเป็นมื้อหนัก ช่วงนี้จัดเต็มเลยยยย แต่ต้องดูแคลอรี่ด้วยนะ ใช่ว่าจัดเต็มเลยกินจุกกินจิบเต็มไปเลย แบบนี้ไม่ไหวนะ
3. ตื่นเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้ว แล้วก็ทำภารกิจให้เป็น เพราะไม่อย่างนั้นจะมันจะดูดซึมนำกลับมาใช้ดี ไม่โอเค หลังจากนั้นก็ทานอะไรเบาๆ ช่วงเช้าที่จะทาน 200-300 แคลอรี่ เช่น นมถั่วเหลืองหวานน้อยก็แค่ 80 แคลอรี่ ไข่ต้ม 1 ฟอง 75 แคลอรี่ ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น รวมแล้วก็ไม่เกิน 300 แคลอรี่ อิ่มจบสำหรับมื้อเช้า
4. มื้อเที่ยงก็ ทานพวกก๋วยเตี๋ยวแต่ละกินเส้นหมี่เพราะไม่มันมาก ส้มตำบ้าง สุกี้บ้าง เพราะมื้อนี้ยกให้เป็นมื้อจัดหนักก็ทานไป ประมาณ500 แคลอรี่ บวกลบไม่เกิน100 แล้วก็ปิดท้ายด้วยฝรั่ง เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินสูงแต่แคลอรี่ต่ำ ดีนักแล
5.มื้อเย็น จำไว้เลยว่าห้ามทานหนัก 16.30 น. ทานอะไรที่เบาๆ แต่เราอยู่ท้อง ไม่ใช่ทานของเบาๆ ต่อตกเย็นรีบเข้า7-11 หรือค่ำหน่อยก็ฝากท้องกับพวกบะหมี่อะไรแบบนี้ ไม่เอานะจ๊ะ ส่วนตัวพี่จะทานพวกลูกชิ้นเต้าหู้ปลาอ่ะแล้วก็น้ำผลไม้ 1 กล่องและก็ตามด้วยฝรั่ง 1 ลูกเหมือนเดิม
6. สรุปเอาง่ายๆ ใน 1 วัน แบ่งเอาได้เลยว่าจะทานช่วงไหนเท่าไร แต่รวมแล้วไม่ควรเกิน 1,200 แคลอรี่ต่อวัน ถ้าให้คิดว่าทำแค่นี้จะลดหลอค่ะ ลดได้จริงหลอ พี่แนะนำว่าถ้าน้องไม่แน่ใจในตัวเองก็อาจจะเพิ่มการออกกำลังกายไปได้ แต่สำหรับตัวพี่เป็นคนลดไวลงไว ร่างกายเผาผลาญดี แต่นับแต่แคลอรี่พี่เอาอยู่แล้วอะจ๊ะ
.........
น้ำหนักแต่ละวัน...
แบบว่า ยังงงตัวเองอยู่ว่าชั้นทำไปได้ยังไง OMG
วันที่ 1 น้ำหนักที่จัดเต็มอยู่ที่ 50.2
วันที่ 2 น้ำหนักก็ยังทรงตัว 49.9
วันที่ 3 น้ำหนักเริ่มลง 49.2
วันที่ 4 น้ำหนักขึ้น อร๊ายยยชั้นทำอะไรผิด ขึ้นเป็น 49.4
วันที่ 5 น้ำหนักลงเหลือ 48.8
วันที่ 6 น้ำหนักลงอีกแล้ว 47.7
วันที่ 7 น้ำหนักมันลงแล้ว 47.0
วันที่ 8 น้ำหนักลดเหลือ 46.5
วันที่ 9 น้ำหนักลง 45.9
วันที่ 10 น้ำหนัก45.7
วันที่ 11 ชั่งล่าสุดตอนไปเรียน 45.2
ช่วงนี้เป็นตราชั่งไม่ได้ต้องรีบวิ่งเข้าหาทั้งที LOL
จริงๆ ที่จะถ่ายรูปน้ำหนักของเวลาละวันไว้ แต่มันไม่ครบทุกวันอ่ะ เกรงใจคนรอบข้าง ชัดบ้างเบลอบ้าง อาย แบบว่าชั่งน้ำหนักยังจะถ่ายหน้าปัดอีกก็เลยคิดว่าไม่ลงดีกว่า
.........
ลองดู เผื่อได้ผล
ร่างกายแต่ละคนระบบเผาผลาญไม่เหมือนกัน อาจจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ต้องรีบร้อน
ทำไปเรื่อยๆ น้ำหนักจะค่อยๆลดลงเองนะจ๊ะ อย่ารีบ!!! ! เข้าใจนะ TAKECARE
#ลดน้ำหนัก
พี่ชื่อ พี่น้ำผึ้ง
โทษทีนะจ๊ะทีให้รอกัน พี่เพิ่งเลิกเรียนจ้า ตอนแรกกะจะอาบน้ำเข้านอน แต่นึกขึ้นได้ว่าค้างโพสอยู่ ขึ้นลุกมาโพสก่อน
เมื่อกี้มีสอบ ตายไปเลยจ้าาา ช้าไปนิสนึงเนาะ
.........
วันนี้... เป็นการเปิดกระทู้ครั้งแรก ซึ่งก่อนที่จะสมัครก็นั่งเข้ามาคลิกๆ ดูตามกระทู้ต่างๆ ใน SZ จนอยากจะสมัครสมาชิก เพราะชอบเข้ามาดูกระตู้ลดน้ำหนัก และรีวิวต่างๆ ซึ่งตอนหน้านี้พี่ก็เคยมีID แต่มันนานมาแล้ว ลืมรหัส LOL ก็เลยสมัครID ขึ้นมาใหม่ พอสมัครเสร็จก็กะจะตั้งกระทู้ แต่ไม่สามารถต้องเป็นสมาชิกครบ 10 วันก่อนก็เลยรอ ซึ่งก็พยายามคิดว่าทำไงดีกว่าระหว่างรอ ปิ๊ง!!! ! ลดความอ้วนนี่แหละ เพราะช่วงที่ผ่านมาทานเยอะมาก เยอะจนออกแก้ม
ขอบอกก่อนนะจ๊ะว่า...
1. พี่เป็นคนน้ำหนักขึ้นไว แล้วก็ลงไว
2. พี่เป็นคนไม่ชอบข้าวข้าวเยอะ ทานแต่ละครั้งคนนั่งใกล้ๆ นึกว่าเอามาดม LOL กินกลับซะมากกว่า
3. พี่เป็นคนเผาผลาญร่างกายดี เหงื่อออกง่าย
4. ลดครั้งนี้พี่ไม่ได้ออกกำลังกาย (แต่ถ้าใครเป็นคนลดยาก แนะนำให้ออกกำลังควบคู่นะจ๊ะ)
5. ปัจจุบันน้ำหนัก 50.2 ช่วงนี้กินเยอะก็เลยขึ้น จริงๆ น้ำหนักจะประมาณ 47-48 ประมาณนี้
.........
วิธีลดน้ำหนักมีหลากหลายวิธี เพียงแต่เลือกวิธีที่เหมาะกับเราเป็นพอ สำหรับครั้งนี้พี่เลือกจะควบคุมอาหารแบบนับแคลอรี่... เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยน lifestyle ของตัวเองใหม่ พี่เคยทำหลายๆ วิธี ทำจนเหนื่อย ออกกำลังกาย ลดแป้ง ลดน้ำตาล แต่ก็นะพอมันลดก็กลับมาตามใจปากตัวเองเหมือนเดิม
วิธีการสำหรับการลดน้ำหนักแบบยั่งยืน ขอเพียงมีความตั้งใจเป็นพอ
1. เลิกการลดความอ้วนแบบผิดๆ ที่กินวันละมื้อ หรือไม่ก็กินน้อยครั้งจนไม่สนใจร่างกายตัวเองเลย สูตรลดความอ้วนหลายๆ วิธีที่เราเคยปฏิบัติอาจจะได้ผล แต่พอเราหยุด แล้วเกิดกิเลสเวลาเพื่อนมาชวนไปทานของอร่อยๆ หรือตบะแตกเวลาเห็นของที่ล่อตาล่อใจชวนลิ้มก็กระหายที่จะรับประทานมันจนน้ำหนักที่เราอุสาอดแทบตายก็กลับมาขึ้น เพิ่มเหมือนเดิม ล้วแบบนี้เราจะทำไปเพื่ออะไร?
2. ต้องใจเย็นๆ ไม่รีบร้อน เพราะเราจะต้องค่อยๆ ปรับให้ร่างกายเราชิน ไม่ใช่เอ๊ะอ๊ะก็โวยวาย ไม่เป็นได้ผลเลย น่าเบื่อ เซ็ง ไม่ทำมันแหละ... ถ้าคิดแบบนี้ หยุด คุณเหมาะกับคำนี้ที่สุด เข้าใจ?
3. ศึกษาเพิ่มความรู้ ความรู้คุณหาได้ทั่วไป ชอบใช่มั้ยกับการอ่านนิตรสาร ลองดูคอรั่มสุขภาพสิมีดีทั้งนั้น
4.รู้จักวางแผนการรับประทานให้แต่ละมื้อ คนทั่วไปจะรับประทานอาหารต่อวัน 1,500-2,000 แคลอรี่ แต่ถ้าจะลดความอ้วนคุณควรรับประทารอาหารไม่เกิน 1,200 แคลอรี่ต่อวัน ถ้าคุณสามารถทำได้ เตรียมพร้อมรับหุ่นสุขภาพดีได้เลยจ้า
5. เวลาทานอาหารที่จานให้ลองใช้จานใบเล็กๆ มันจะทำให้เรารู้สึกว่าอาหารในจานเยอะ ทำให้เราจะทานแค่พอ ประมาณ
6.เข้านอนเร็ว เพราะจะไม่ทำให้รู้สึกหิว อีกทั้งทำให้เรามีเวลาพักผ่อนร่างกายมากขึ้นด้วย
7.งดน้ำหวานทุกชนิดและทานแต่พออิ่ม
.........
ขั้นตอนที่พี่ปฏิบัติมีดังนี้
1. รับประทานอาหารครบ 3 มื้อ หรืออาจจะ 4 มื้อต่อวันแล้วแต่ความชอบ
2. แบ่งถ้าจะรับประทานหรือไหนหนักที่สุด จะทานกี่แคลอรี่ไม่ให้เกิน 1,200 แคลอรี่ต่อวัน สำหรับพี่เลือกมื้อเที่ยงเป็นมื้อหนัก ช่วงนี้จัดเต็มเลยยยย แต่ต้องดูแคลอรี่ด้วยนะ ใช่ว่าจัดเต็มเลยกินจุกกินจิบเต็มไปเลย แบบนี้ไม่ไหวนะ
3. ตื่นเช้า ดื่มน้ำ 1 แก้ว แล้วก็ทำภารกิจให้เป็น เพราะไม่อย่างนั้นจะมันจะดูดซึมนำกลับมาใช้ดี ไม่โอเค หลังจากนั้นก็ทานอะไรเบาๆ ช่วงเช้าที่จะทาน 200-300 แคลอรี่ เช่น นมถั่วเหลืองหวานน้อยก็แค่ 80 แคลอรี่ ไข่ต้ม 1 ฟอง 75 แคลอรี่ ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น รวมแล้วก็ไม่เกิน 300 แคลอรี่ อิ่มจบสำหรับมื้อเช้า
4. มื้อเที่ยงก็ ทานพวกก๋วยเตี๋ยวแต่ละกินเส้นหมี่เพราะไม่มันมาก ส้มตำบ้าง สุกี้บ้าง เพราะมื้อนี้ยกให้เป็นมื้อจัดหนักก็ทานไป ประมาณ500 แคลอรี่ บวกลบไม่เกิน100 แล้วก็ปิดท้ายด้วยฝรั่ง เพราะฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินสูงแต่แคลอรี่ต่ำ ดีนักแล
5.มื้อเย็น จำไว้เลยว่าห้ามทานหนัก 16.30 น. ทานอะไรที่เบาๆ แต่เราอยู่ท้อง ไม่ใช่ทานของเบาๆ ต่อตกเย็นรีบเข้า7-11 หรือค่ำหน่อยก็ฝากท้องกับพวกบะหมี่อะไรแบบนี้ ไม่เอานะจ๊ะ ส่วนตัวพี่จะทานพวกลูกชิ้นเต้าหู้ปลาอ่ะแล้วก็น้ำผลไม้ 1 กล่องและก็ตามด้วยฝรั่ง 1 ลูกเหมือนเดิม
6. สรุปเอาง่ายๆ ใน 1 วัน แบ่งเอาได้เลยว่าจะทานช่วงไหนเท่าไร แต่รวมแล้วไม่ควรเกิน 1,200 แคลอรี่ต่อวัน ถ้าให้คิดว่าทำแค่นี้จะลดหลอค่ะ ลดได้จริงหลอ พี่แนะนำว่าถ้าน้องไม่แน่ใจในตัวเองก็อาจจะเพิ่มการออกกำลังกายไปได้ แต่สำหรับตัวพี่เป็นคนลดไวลงไว ร่างกายเผาผลาญดี แต่นับแต่แคลอรี่พี่เอาอยู่แล้วอะจ๊ะ
.........
น้ำหนักแต่ละวัน...
แบบว่า ยังงงตัวเองอยู่ว่าชั้นทำไปได้ยังไง OMG
วันที่ 1 น้ำหนักที่จัดเต็มอยู่ที่ 50.2
วันที่ 2 น้ำหนักก็ยังทรงตัว 49.9
วันที่ 3 น้ำหนักเริ่มลง 49.2
วันที่ 4 น้ำหนักขึ้น อร๊ายยยชั้นทำอะไรผิด ขึ้นเป็น 49.4
วันที่ 5 น้ำหนักลงเหลือ 48.8
วันที่ 6 น้ำหนักลงอีกแล้ว 47.7
วันที่ 7 น้ำหนักมันลงแล้ว 47.0
วันที่ 8 น้ำหนักลดเหลือ 46.5
วันที่ 9 น้ำหนักลง 45.9
วันที่ 10 น้ำหนัก45.7
วันที่ 11 ชั่งล่าสุดตอนไปเรียน 45.2
ช่วงนี้เป็นตราชั่งไม่ได้ต้องรีบวิ่งเข้าหาทั้งที LOL
จริงๆ ที่จะถ่ายรูปน้ำหนักของเวลาละวันไว้ แต่มันไม่ครบทุกวันอ่ะ เกรงใจคนรอบข้าง ชัดบ้างเบลอบ้าง อาย แบบว่าชั่งน้ำหนักยังจะถ่ายหน้าปัดอีกก็เลยคิดว่าไม่ลงดีกว่า
.........
ลองดู เผื่อได้ผล
ร่างกายแต่ละคนระบบเผาผลาญไม่เหมือนกัน อาจจะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่ต้องรีบร้อน
ทำไปเรื่อยๆ น้ำหนักจะค่อยๆลดลงเองนะจ๊ะ อย่ารีบ!!! ! เข้าใจนะ TAKECARE
#ลดน้ำหนัก
แก้ไขล่าสุด 27 ส.ค. 58 17:28 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
สนใจมากค่ะตอนนี้กำลังลดน้ำหนักแบบนับแคลอรี่อยู่
ออกกำลังกายนิดหน่อย น้ำหนักก็ลงค่ะแต่ก็ค่อยๆลง
เข้ามารอดูวิธีอยากลง4.5โลมั่ง
แก้ไขล่าสุด 19 ก.พ. 56 17:47 | ไอพี: ไม่แสดง
ควบคุมอาหารช่วยได้จริงๆค่ะ ลดลงแบบเยอะมากๆ
คือเป็นคนไม่ได้เผาผลาญดีเว่อด้วยนะ
เคยทำตามที่จขกท.แนะนำ ลดเยอะค่ะ
ขนาดเราไม่สม่ำเสมอมากมายอะไร 1 เดือนจาก 62 เหลือ 59
ถือว่าเยอะนะคะ ไม่ออกกำลังกาย ควบคุมแบบสบายๆไม่ได้ตั้งใจมาก
สู้ๆนะคะ ตอนนี้เรา 63 แล้วจ้ะ กินไม่ยั้ง555555555
ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google