แม่ของเพื่อนเสียชีวิต.. จะปลอบใจเพื่อนยังไงดี.. ช่วยหน่อยนะ T_T
ก่อนหน้านี้ท่านก็ป่วยหนักค่ะ แต่ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว กลับมาทำงานมาอยู่บ้านเหมือนเดิมแล้ว
แต่อยู่ๆอาการก็มาเริ่มหนักและแย่ลงเรื่อยๆ ล่าสุดเพิ่งจากไปเมื่อคืนนี้เองค่ะ

ตอนนี้อายุก็เพิ่ง 15 เอง แม่เสียตอนนี้ ถือว่าไปเร็วมากเลยนะ
ภายนอกมันก็ดูไม่เศร้ามากหรอก แต่มันก็ดูซึมๆกว่าเดิมเยอะอ่ะ
และเพื่อนคนนี้เป็นคนที่สนิทที่สุดด้วย สนิทที่สุดในชีวิตแล้ว คบกันมาหลายปี
ตอนที่แม่ของมันเสีย มันก็บอกเราเป็นคนแรกเลย (ดีใจมากที่มันเลือกจะบอกเรา)
เฮ้อออออออออ...
เพื่อนๆสยามโซนช่วยเราหน่อยนะคะ เรารักเพื่อนคนนี้มากๆ ไม่อยากเห็นมันเศร้านาน


ปล.ยืมยูสค่ะ สมัครไม่ได้
.... กระทู้นี้ย้ายมาจากห้องเบ็ดเตล็ด ...
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ผมว่านะถึงจะคุยเรื่องสนุกๆ ยังไงเพื่อนก็ไม่สามารถหายเศร้าได้หรอกอย่างน้อยๆก็ได้นิดหน่อย พยายามปลอบใจเพื่อนแบบจริงว่าแม่ไปสบายแล้ว อย่าเศร้าเลย ไม่งั้นแม่จะไปไม่สงบนะ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ
พ่อเพื่อนเรากเพิ่งเสียไป
เราไม่ปลอบนะว่า พ่อไปสบายแล้วไรเงี้ย
เพราะเพื่อนคนอื่นไปปลอบมันแบบนี้มันร้องโฮเลยเพราะเหมือนไปซ้ำเติมว่า
พ่อตายแล้วนะๆๆ
เราปลอบประมาณว่า สู้ๆนะ แกยังมีฉัน มีอะไรปรึกษาได้อะไรแบบนี้มากกว่า
ยังไงดีล่ะ ถ้าเราคิดะปลอบเค้า ก็ต้องห้ามพูดตรงจุดจนเกินไปน่ะ
เพราะบางครั้งเราก็พูดออกไปแบบไม่รู้ตัว
แต่ว่าสิ่งที่ดีที่สุดเราคิดว่าคือเวลาค่ะ เวลาจะช่วยเยียวยาเอง
ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
พ่อเราเสียเมื่อปี 52 เราอายุ 14 ปี
ตอนนั้นซึ้งเลย ซึ้งมาก ไม่มีใครปลอบใจเลย
คนที่ต้องการมากที่สุดตอนนั้นคือแม่ แต่แม่ไม่รับสายโทรศัพท์เรา
เราได้แต่นอนร้องไห้อยู่คนเดียว ทำอะไรไม่ไ่ด้ ศพพ่อเราอยู่อีกอำเภอ
ต้องบอกให้น้าแถวบ้านพาไปหาพ่อ
กว่าจะติดต่อแม่ได้ก็อีกวันนึง
.
เพื่อน จขกท.โชคดีนะ ที่ยังมีคนคอยปลอบ
จขกท.จะปลอบยังไงก็ได้ ทำยังไงก็ได้ให้เค้ารุ้สึกว่า ยังมีคนอื่นอยู่
ปลอบเค้าให้เค้าดีขึ้น บอกว่า ยังมีเราอยู่ แม่ไปสบายแล้ว
ยังมีพ่อ ยังมีเพื่อน หรืออะไรบลา ๆ
.
เชื่อเรา .. ถ้าเค้าเข้มแข็งมากพอ ไม่นานเค้าก็จะทำใจได้
จะมีก็แค่คิดถึงเ้ท่านั้นเอง
เราเก็บน้ำตาไว้ร้องวันสุดท้าย ร้องแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวจริง ๆ
เราว่าปลอบยังไงก็ไม่หายเศร้า
ต้องให้เพื่อนจขกทร้องไห้และผ่านช่วงเวลานั้นไปก่อน
เชื่อว่าเวลาจะรักษาและเยียวยาเพื่อนของจขกทได้เองค่ะ
ถึงแม้ว่ามันจะยากสักหน่อยแต่การที่ปล่อยให้เพื่อนจขกทอยู่กับตัวเองไปก่อน
โดยที่จขกทคอยดูอยู่ห่างๆ สักวันความเศร้าจะจางไปเองแม้ว่าไม่หายไปหมดจากใจก็ตามค่ะ
พ่อของน้องชายเรา เป็นญาติกันค่ะ (น้องเราอายุ 15นะ๗
เขาก็เสีย เราก็แบบไม่ปล่อยให้น้องเขาอยู่เงียบๆคนเดียวบ่อยๆ
โทรไปหา พาไปกินข้าว เดินเล่น เข้าร้านเกม พาไปทำบุญ = =;555555555
เราก็แบบ บอกมันเสมอๆว่า ถ้าอยากร้องก็ร้องออกมานะ
อย่าเก็บไว้ ยังมีพี่อยู่นะ อะไรงี้
แต่สุดท้ายเวลาจะช่วยรักษาได้ดีที่สุดนะ
ตอนนี้เราก็แค่ทำหน้าที่เพื่อนที่ดี ที่ยังอยู่ข้างๆเสมอก็พอจ้า
พ่อเราก็เสียตอนอายุ 13 เอง (ปี 54 ช่วงน้ำท่วม) เสียด้วยสาเหตุแบบเดียวกันเลย
เราต้องปล่อยให้เค้าร้องไห้ แต่อย่าปล่อยให้เค้าอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวแล้วเค้าจะคิดอะไรเครียดๆ มาก
ทำให้เค้ารู้สึกว่า... เออ มีคนที่รักเรา ห่วงใยเราอยู่นะ อยู่เคียงข้างเราอยู่
เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาค่ะ
พ่อเราก็เพิ่งเสียตอน 54 ค่ะ
คล้าย ๆ เพื่อน จขกท เลย
พ่อเราเป็นลูคีเมีย เวลาเพื่อนปลอบเราจะยิ่งร้องไห้ค่ะ
แต่เพื่อนสนิทเราไม่พูดถึงไม่ปลอบไม่อะไรทั้งนั้น
แต่เพื่อนเราจะอยู่กับเรามากขึ้น แล้วก็ชวนเราไปเที่ยวบ่อย ๆ
พยายามชวนเราเรียน ตอนนั้นเรามอห้าอะค่ะ เรียนพิเศษแหลกลาน
เม้าท์เรื่อง ผช บ้าง ก็หายเศร้า ที่สำคัญที่สุด คือ เวลา เท่านั้นค่ะ
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google