5 อันดับตำนานสยองขวัญ มอชอ .
อันดับที่ 4 เปรตวงเวียนหอนาฬิกา
หอนาฬิกาเป็นสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวมอชอ มันตั้งตระหง่านโดดเด่นตรงสี่แยกคณะวิศวกรรมศาสตร์ แม้หอนาฬิกาทนี้จะทาสีใหม่แล้ว ทว่า เรื่องราวลี้ลับเก่าๆก็ยังคงถูกเล่าขานเรื่อยมา ว่ากันว่าบริเวณกลางวงเวียนนี้..มีเปรตตนหนึ่งอาศัยอยู่ เเละเมื่อพูดเรื่องเปรต ก็หนีไม่พ้นการ ลองของ ของเหล่านักศึกษา เชื่อกันว่าหากอยากพบเปรตตนนี้ จะต้องรอจนเสียงนาฬิกาตีครบ 12 ครั้ง นั่นก็คือเวลาเที่ยงคืนนั้นเอง จากนั้น ให้ขับรถทวนเข็มนาฬิกาทั้งสิ้นสามรอบ!! ว่ากันว่า เมื่อขับวนรอบแรกๆนั้น จะรู้สึกคล้ายมีลมเย็นหวิวๆผิดปกติ ทันใดนั้นเมื่อขับวนจะครบรอบที่สามเราก็ต้องหักหลบเสาต้นหนึ่ง ที่จู่ๆก็มาตั้งกลางถนนที่มาจากไหนไม่รู้!! เเละนั่นก็คือ ผีเปรตที่มาปรากฏตัวให้เห็นเด่นชัดกลางถนน หากผีเปรตยังไม่มาที่ถนนอีก ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป ให้ลองแหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบนหอนาฬิกา เเล้วเพื่อนๆจะพบกับเปรตที่นั่งแกว่งขาห้อยลงมาและแสร้งยิ้มอย่างมีความสุขที่มีคนอุตส่าห์ลองของเข้ามาแวะทักทายกันซะถึงที่ !!!
อันดับ 3 วิญญาณสาวในห้องสีชมพู
หอสีชมพู เป็นอีกตำนานสุดสยองของหอหญิงที่เกิดจากคดีการทำแท้งของนักศึกษาคนหนึ่ง ที่พลาดพลั้งไปมีอะไรกับผู้ชายแล้วเกิดตั้งท้องขึ้นมา รู้อีกทีก็ปาเข้าเดือนที่4แล้ว แต่ไม่อยากให้พ่อแม่และเพื่อนๆรู้เพราะกลัวเสียอนาคต รวมถึงตัวเองก็ไม่มีเงิน เเละแฟนก็ไม่รับผิดชอบ เธอจึงตัดสินใจทำแท้งด้วยตัวเองในคืนหนึ่ง ว่ากันว่าเลือดของเธอ สาดกระเด็นไปตามผนังห้อง สุดท้ายเธอตกเลือดตายคาห้องพัก!! เพื่อนที่เข้ามาเห็นถึงกับช็อคแล้วย้ายหนีไป ผู้ดูแลหอพักอยู่ในตอนนั้นได้สั่งช่างให้เข้ามาทาสีขาวทับรอยเลือด แต่พอเช้ารุ่ง รอยเลือดสีจางๆนั้นก็ได้โผล่มาให้เห็นอีก ทางหอพักจึงตัดสินใจนำสีชมพูไปทาทั่วทั้งห้องแทน จนกลายเป็นชื่อเรียกห้องสีชมพูตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันห้องนี้ เป็นห้องที่ปิดตายมีเพียงซอกประตูเท่านั้นที่พอส่องเข้าไปข้างในได้ เล่ากันว่า เคยมีคนอยากรู้อยากเห็นว่าทำไมห้องนั้นถึงปิดล็อค จึงลองสอดสายตามองเข้าไป เเละก็ได้พบกับหญิงสาวที่ร้องไห้อยู่บนเตียงคนเดียว !! ว่ากันว่าจนถึงทุกวันนี้ ยังคงมีคนได้ยินเสียงเปิดปิดประตูจากห้องนั้นและได้ยินเสียงอาบน้ำในห้องน้ำรวม แต่เมื่อเข้าไปอาบน้ำต่อกลับไม่พบร่องรอยของน้ำในห้องน้ำห้องไหนเลย สร้างความตื่นกลัวขนหัวลุกของชาวหอนั้นอย่างสุดๆ
จนถึงทุกวันนี้ ห้องนั้นก็ยังคงปิดตาย สร้างบรรยากาศเย็นเยียบ จนใครๆ ก็หวาดกลัวที่จะเยื้องกรายผ่านไป
อันดับ 2 ขบวนเจ้านาง วงเวียนมนุษย์
ในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลเข้าพรรษา ชาวหอในต่างเก็บข้าวของเพื่อกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว ห้องหลายๆห้องปิดล็อค โถงทางเดินมืดสนิท เเละห้องน้ำเงียบเชียบวังเวง เหลือนักศึกษาไม่กี่คนที่ติดงาน หรือจำเป็นต้องอยู่อ่านหนังสือต่อเพราะยังสอบไม่ครบทุกวิชา เเละในช่วงวันหยุดนั้นเอง
ชาวหอในต่างรู้กันดีว่ามันเป็นคืนต้องห้าม ที่ทุกคนไม่ควรย่างก้าวออกจากหอพักเด็ดขาด!! นี่ไม่ใช่ระเบียบหอพัก แต่มันคือคืนปล่อยผีนั่นเอง บรรดาผีต่างๆจะออกมาเดินในค่ำคืนนั้นเป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าพวกเขา เดินขบวนแห่เทียนพรรษาใหญ่โต เหล่าผีจะค่อยปรากฏเลือนรางตั้งแต่กลางวงเวียนมนุษย์ ระหว่างนั้นก็จะมีการร้องรำครื้นเครงกันทั้งขบวนแห่ ล้วนเเต่งกายงดงาม เหล่าหญิงสาวสวมชุดล้านนนาออกมาฟ้อนรำกรีดกรายสวยงาม แต่พวกเขา กลับไม่มีหัว ขบวนอันน่าสะพรึงกลัวนั้น จะไปสิ้นสุดที่หอ 8 เหลี่ยม บ้างก็ว่าเป็นขบวนเหล่านี้เป็นขบวนของเจ้านางฝ่ายเหนือท่านหนึ่งที่เคยถูกตัดสินโทษ ตัดศรีษะตรงหอเเปดเหลี่ยม หากชาวมอโพลสงสัยว่ามีผีประเภทไหนออกมาเดินขบวนกันบ้าง ก็คงไม่พลาดที่จะไปแอบส่องตามพุ่มหญ้าในช่วงคืนก่อนเข้าพรรษาของทุกปี ซึ่งรับรองได้เลยคร๊าฟว่า เด็ดจริงคร้า
อันดับ 1 ป๊อกป๊อก ครืด
เเละก็มาถึงอันดับหนึ่ง ตำนานสยองขวัญของชาวมอชอที่ดังกระฉ่อนไปทั่วประเทศ จนผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องมหาลัยสยองขวัญจับไปยำอยู่ในภาพยนตร์สั้นซะ ป๊อก ป๊อก ครืด ถูกเล่าต่อกันมายาวนานส่งผลให้ข้อมูลผิดเพี้ยนไปมาก จนไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดที่หอพักแห่งใดกันแน่ ทีมงานมอโพลได้ออกไปขุดค้นเรื่อง ได้ความว่า ป๊อก ป๊อก ครืด เป็นเรื่องราวของรูมเมทหญิงสองคน ในช่วงสอบซัมเมอร์ เมื่อตกหัวค่ำเพื่อนคนหนึ่งเกิดไม่สบายขึ้นมา เพื่อนอีกคนหวังดี จึงอาสาจะออกไปซื้ออาหารมาดูเเล เมื่อเวลาผ่านไป เพื่อนที่รออยู่ในห้องตื่นและลุกขึ้นมาอ่านหนังสือในอาการสลึมสลือ ฝนเริ่มตกลงมาโปรยปราย รูมเมตที่ออกไปซื้ออาหารยังไม่กลับมา ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียง ป๊อก ป๊อก.. ป๊อก ครืดดดด มา จากทางบันใด เสียงนั้นเหมือนกับคนกำลังแบกของหนักๆแล้วลากเข้ามาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าห้องพักของเธอ และมีเสียง ป๊อกๆ ๆ เคาะประตูตามมา เธอจึงเดินกล้าๆกลัวๆไปเปิดประตู ก็พบเพียงถุุงราดหน้าแขวนอยู่ที่ประตูและเห็นรอยน้ำเป็นทางจากบันไดมาที่ห้อง เธอได้เเต่มองถุงราดหน้าอย่างประหลาดใจ นึกสงสัยว่าเหตุใดเพื่อนจึงยังไม่กลับมา ครุ่นคิดอยู่เช่นนั้นทั้งคืน ก็ผลอยหลับไปด้วยพิษไข้ที่ยังไม่หายดี
จนกระทั่งรุ่งเช้า ก็มีคนมาเคาะประตูบอกว่า รูมเมตของเธอเสียชีวิตแล้ว!! บ้างก็ว่าถูกข่มขืน บ้างก็ว่าก็ถูกรถชน แต่ที่แน่ๆแขนขาทั้งสองข้างขาดออกจากกันจากอุบัติเหตุข้างต้น
เชื่อกันว่าเสียงประหลาดเมื่อคืนนั้น เป็นเพราะความหวังดีของเพื่อน ที่พยายามพยุงตัวเองทั้งที่แขนขาใช้การไม่ได้ เพียรใช้ส่วนหัวที่ค่อยๆลากตัวเข้ามา คิดแล้วมันน่า บรื้ออออออ จริงๆ YY
จบไปเเล้วนะคร๊าฟกับตำนานสุดสยองของชาวมอชอ กระผมนั่งพิมพ์บทความนี้ตอนดึกๆราวตีสาม รู้สึกขนลุกจนทนไม่ไหวเเล้ว ขอตัวไปสวดมนต์ก่อนนอนก่อนนะคร๊าฟ ถ้าเพื่อนๆชาวมอโพลมีตำนานอะไรมาเเลกเปลี่ยน อย่าลืมมาเล่าให้กันฟังด้วยนะคร๊าฟ แต่ตอนนี้ กระผมกลัวจนขนลุกซู่ ขอลาไปก่อนนะคร๊าฟฟฟ พบกันใหม่กับบทความครั้งหน้า ฟิ้ววววว!
(c)http://morpoll.nmmass.com/?p=522
ซ้ำขออภัยเน้อ
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ห้องสีชมพูกับป็อกครืดนี่ได้ยินบ่อย แต่อันอื่นที่เพิ่งมารู้ก็ทำเอาขนลุกเหมือนกัน
แต่ก็ยังเป็นมหาลัยที่อยากเข้าอยู่ดี
ยืมยูส
ป๊อกป๊อก ครืด มีจริงๆ เพราะเรานี่ละ นอนห้องนั้น!!! จำไว้ห้องที่อยู่ฝั่งซ้าย 412 312 212
ห้องพวกนี้ถ้าเข้าไปอยู่ จะได้ยินเสียงคนเคาะประตู ตอนกลางคืน แต่เป็น ประตูด้านหลังตรงราวตากผ้า ที่ใครๆก้เคาะไม่ได้ เพราะมันมี ตะแกง กั้นไว้!!!
ส่วน ขบวนเจ้านาง
วงเวียนมนุษย์
แทบจะทุกคน ที่ไม่นอนหอ ตอนแรกเราไม่รู้ เพื่อนบอก เขาย้ายออกกันหมดละแก!! ห้ามอยู่หอ กูขอร้อง!! เราเลยจำเป็นต้องย้ายไปนอนกับเพื่อนช่วงเข้าพรรษา เขาบอกว่า มันมี 2 ขบวน ขบวนไม่มีหัวและอีกขบวนขบวนไม่มีเงา ขบวนเดินตั้แต่ประตู ปตท ไปถึงห้องแปดเหลี่ยมที่กักผี ให้ผีวนเวียนอยู่ในนั้น เขาบอกว่า ถ้าใครเห็นแม่นาง จะต้องตายหรือหายไป รู้สึกมีนักศึกษาวิจิตรหายตัวไปหลังจากที่ลองเอากระจกส่องในที่ต่างๆเพื่อหาขบวน
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google