10 ตำนานน่ากลัวในนิยายที่กลายเป็นเรื่องจริงซะงั้น!??[P.1] [กระทู้นี้ยาวมาก]

20 เม.ย. 56 16:04 น. / ดู 1,940 ครั้ง / 15 ความเห็น / 11 ชอบจัง / แชร์
Freddy Krueger



        เฟรดดี้ ครูเกอร์ เป็นสัตว์ประหลาดสมมุติที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์สยองขวัญครั้งแรกในชื่อนิ้ว เขมือบ A Nightmare on Elm Street (1984) โดยรูปร่างของมันเป็นปีศาจ ที่ร่ายกายที่เห็นเนื้อหนังไหม้ไฟ ใส่ชุดสีแดงลายทางสีดำ ใส่หมวกเหมือนขอทาน มาพร้อมกับกรงเล็บเหล็กยาวแหลมเหมือนใบมีดโกนที่นิ้ว มีนิสัยอารมณ์ขันอยู่ตลอดเวลา และเกลียดที่จะเห็นคนอื่นมีความสุข โดยมันมีความสามารถพิเศษคือมันสามารถเข้าไปในความฝันของคนอื่นได้ และมันจะหลอกหลอนหรือฆ่าเจ้าของฝันจนตาย หากเจ้าของความฝันหนีมันไม่พ้นจะไม่มีโอกาสตื่นในโลกแห่งความจริงอีกเลย โดยวิธีป้องกันมีทางเดียวเท่านั้นคือการถ่างตาไม่ให้นอนหลับเฟรด ดี้มีประวัติไม่แน่นอนเพราะเปลี่ยนไปเรื่อย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือเขาตายเพราะถูกเผาทั้งเป็น และเฟรดดี้ได้กลายเป็นตัวร้ายในภาพยนตร์ตลอดกาลในจิตใจของคนอเมริกันและคน ทั่วโลกติดอันดับต้นๆ และภาพยนตร์ที่มีเฟรดดี้ปรากฏก็มีมากมายหลายภาค จนมันได้กลายเป็น “แฟรนไชส์” ที่ฮิตติดอันดับเรื่อยมา
        เฟรดดี้เป็นผลงานของ เวส คราเวน(Wes Craven) โดยแรงบันดาลใจของเขานั้นคือเขาไปเจอบทความหนึ่งเกี่ยวกับโรคชนิดหนึ่งที่ เกิดขึ้นในแถบบ้านเรานั่นก็คือ “โรคไหลตาย” ซึ่ง มันเป็นโรคลึกลับชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นที่คนถึงแก่ความตายอย่างปัจจุบันทันด่วน คือก่อนเข้านอนปกติ พอเช้ากลับพบว่าเสียชีวิตโดยไม่ลืมตาตื่นดูโลกอีกเลย โรคนี้เป็นที่ฮือฮามาก ในอเมริการู้จักโรคนี้เมื่อทศวรรษที่ 1970 ในกลุ่มอพยพชาวกัมพูชาที่ลี้ภัยมายังประเทศสหรัฐเป็นจำนวนมาก และหนังสือพิมพ์ยุคนั้นได้ตีข่าวว่ากลุ่มชาวอพยพกัมพูชาปฏิเสธในการนอนหลับ เพราะไม่อยากเจอฝันร้ายที่เกิดจากประสบการณ์เขมรแดงเรืองอำนาจหลอกหลอน ไม่เพียงเท่านั้นหลายคนที่นอนหลับได้เสียชีวิตระหว่างนิทรา ซึ่งในขณะนั้นเจ้าหน้าที่การแพทย์ไม่เคยเจออาการชนิดนี้มาก่อน โดยสาเหตุของอาการนิดนี้ไม่แน่ชัดว่าเกิดมาจากสาเหตุใดกันแน่ ทั้งๆ คนที่เกิดอาการยังเป็นคนหนุ่ม(อายุระหว่าง 19-57 ปี) ร่างกายแข็งแรง ไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆ มาก่อน

Vampires



        แวม ไพร์ เป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์เพื่อความเป็นอมตะ จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้และกลัวกระเทียม

        เรื่อง ราวของแวมไพร์ มีมากมาย ที่เป็นนิทานพื้นบ้านและวรรณกรรม และมีนอกจากนี้ยังมีกรณีที่เกิดขึ้นจริงอีกด้วย โดยกรณีที่โด่งดังคือกรณีของชายที่ชื่อ อาร์โนลด์ โพส(Arnold Paole) หนุ่มร่างกำยำล่ำสันซึ่งเป็นทหารที่เข้าประจำหมู่บ้านที่หลายคนเชื่อว่าเขา เป็นแวมไพร์ โดยเรื่องราวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านเมดูเอ็นยาหมู่บ้านแถบกอสโซวา (เตอร์กิชเซอร์เบีย) โดยตำนานเล่าว่า เขาถูกทำร้ายโดยผีดูดเลือดระหว่างทาง เมื่ออาร์โนลด์ถูกผีดูดเลือดกัดคอหอยจนบาดเจ็บ เขารู้สึกเจ็บแค้นผีดูดเลือดตัวนั้น จึงหาวิธีกำจัด โดยเดินทางยังสุสานที่ฝังศพผีดูดเลือดและทำพิธีแก้อาถรรพณ์ โดยขุดศพผีดูดเลือดขึ้นมา เจาะเลือดของมันชโลมกาย และกินดินหลุมศพของมันเข้าไปแต่ผลสุดท้ายนายอาร์โนลด์ก็ไม่พ้นความตายได้ เมื่อวันหนึ่งเขาได้ขับเกวียนเข้าไปในไร่ แล้วเกิดอุบัติเหตุพลัดตกจากเกวียน ศีรษะพาดพื้นอย่างแรงตายคา เขาตายเมื่อปี 1726 หลังจากอาร์โนลด์ตายแล้ว ก็เกิดเหตุการณ์สยองขวัญเกิดขึ้นในหมู่บ้าน เมื่อมีผู้พบเห็นนายอาร์โนลด์ออกมาตะเวนไปตามที่ต่างๆ ด้วยร่างกายแข็งทื่อ เขียวคล้ำทั้งตัว ชาวบ้านต่างหวาดผวา อาร์โนลด์ผีดูดเลือดที่ออกจากหลุม ตระเวรหาเหยื่อไปเรื่อย ผลคือทำให้ชาวบ้านเคราะห์ร้ายต้องเอาชีวิตสังเวยอย่างน้อย 16 คนในหมู่บ้าน จนชาวบ้านทนไม่ไหวจึงรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ แล้วยกโขยงไปในสุสานประจำหมู่บ้านจัดแจงขุดศพอาร์โนลด์เพื่อขึ้นมาพิสูจน์ ความจริงครั้นแล้วทุกคนต้องผงะ และตกใจกลัวกับภาพทีอยู่ตรงหน้าเมื่อซากศพอาร์โนลด์ยังเปล่งปลั่งด้วยเลือด ฝาด ที่มุมปากมีเขี้ยวยาวแหลมคมงอกออกมาด้วย และมีเลือดที่ปากไหลเป็นทางยาวและเมื่อแสงแดดจัดจ้าส่องเข้ามาในโลงศพ อาร์โนลด์เบิกตากว้างรีบพลิกตัวหลบแดดทันที ชาวบ้านก็ไม่รอช้า ต่างเฮโลขุดศพผู้ตกเป็นเหยื่อผีดูดเลือดอีกสี่ศพมาด้วยแล้วช่วยกันเอาไม้ เสี้ยนปักอก ใช้ค้อนตอกจนมิด เลือดสดๆ ทะลึกออกมากลิ่นเหม็นคาวคลุ้งไปทั่ว ผีดิบทั้งห้าบิดกายอย่างเจ็บปวด ส่งเสียงอืออาในลำคอก่อนที่สงบนิ่งไปเมื่อผีดูดเลือดสงบ ชาวบ้านก็ตัดหัวเอากระเทียมยัดปาก และเผาศพจนมอดไหม้เป็นขี้เถ้าแต่เรื่องนี้ยังไม่จบ อีกหกปีต่อมาหมู่บ้านเมดูเอ็นยาก็ประสบกับเหตุการณ์สยดสยองอีกครั้ง เมื่อมีชาวบ้าน 13 คนตายในระหว่าง 6 สัปดาห์ โดยปราศจากสาเหตุ เมื่อทางการทราบข่าวจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจข้อเท็จจริงเหล่านี้ร่วมกับชาว บ้านผลสรุปว่า ผีดูดเลือดอาร์โนลด์นอกเหนือจากล่าคนแล้วยังจับสัตว์มาดูดเลือดอีกด้วย และทิ้งซากเอาไว้ และเมื่อชาวบ้านพบซากสัตว์ดังกล่าวจึงนำไปทำอาหาร และได้รับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว จนกลายเป็นผีดูดเลือด แพร่เชื้อออกไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จบนั่นเอง

Werewolf



        ผู้ คนส่วนมากมักกลัวมนุษย์หมาป่า พอๆ กับแวมไพร์ เพราะพวกมันมีพฤติกรรมคล้ายกัน คือ ดื่มกินเลือดและเนื้อของมนุษย์เป็นอาหาร โดยที่เชื่อว่า บุคคลที่เป็นมนุษย์หมาป่าจะกลายร่างเป็นหมาป่าในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง พร้อมเขี้ยวยาวน่ากลัว และสามารถกลับเป็นมนุษย์อีกครั้งเมื่อพระจันทร์ลาลับ เรื่องราวของมนุษย์หมาป่าถูกเล่ามาช้านานแล้ว  ในสมัยโบราณมีหลายรายถูกประหารชีวิตเพราะเชื่อว่าเขาเป็นมนุษย์หมาป่า หนึ่งในนั้นคือกรณีของปีเตอร์ สตัมป์(Peter Stumpp) ฆาตกรต่อเนื่อง 18 ศพจากโคโลญ ประเทศเยอรมัน เมื่อปี 1589 เขาเล่าให้ศาลฟังว่าเขามีเข็มขัดวิเศษทำให้เขาสามารถกลายเป็นมนุษย์หมาป่า ได้ อย่างไรก็ตามไม่มีใครเคยเห็นเข็มขัดองเขา ส่วนปีเตอร์ถูกทรมานและถูกประหายโดยการใช้ล้อทับตายในที่สุด แต่กรณีที่โด่งดังและโหดที่สุดเป็นของการ์นิเย่(Garnier Gilles) เด็กหนุ่มแห่งหมู่บ้าน St. Bonnot ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นฆาตกรต่อเนื่องกินเนื้อคน ที่เขามีปัญหาเรื่องอาหารการกิน และในเวลานั้น จู่ๆ ก็มีเด็กหลายรายหายไป หรือบางรายก็รอดมาได้ และให้การว่า ถูกโจมตีโดยมนุษย์หมาป่า จนกระทั้งเย็นวันหนึ่งกลุ่มคนงานที่กลับจากเดินทางจากเมืองใกล้เคียงได้พบ กับการ์นิเย่กำลังสวาปามร่างเด็กที่ตายแล้ว ส่งผลทำให้เขาถูกจับกุมตัวในที่สุด ในเขาได้สารภาพในชั้นศาลว่าเขา ตัวเองนี่แหละที่เป็นมนุษย์หมาป่า ตัวจริง เสียงจริง เขาสามารถแปรงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้เพื่อง่ายต่อการล่า สาเหตุที่ฆ่าเด็กนั้นนั้นก็เพื่อนำมาเป็นอาหารแก่เขาและภรรยาเพราะเด็ก มนุษย์ล่าง่ายกว่าสัตว์ทั่วๆ ไป โดยเหยื่อของเขาฆ่าอย่างน้อยสี่ราย อายุระหว่าง 9-12 ปี ในเดือนตุลาคม 1572 โดยเหยื่อรายแรกคือเด็กสาวอายุ 10 ปี ที่เขาลากเธอในขณะอยู่ไร่องุ่น เขาฉีกเสื้อผ้าของเธอออกแล้วกินเนื้อจากต้นขาและแขนของเธอ ส่วนเนื้อบางส่วนเอามันกลับบ้านไปให้ภรรยา สุดท้ายการ์นิเย่ก็ถูกประหารด้วยการเผาทั้งเป็นเมื่อ 18 มกราคม 1573

Zombie



        ซอม บี้ เป็นคำเรียกของคนที่ตายไปแล้วแต่กลับมาเดินเหินได้ราวกับมีชีวิตอีกครั้งตาม ความเชื่อของลัทธิวูดู เรื่องราวในลัทธิวูดูนั้นกล่าวถึงซอมบี้ว่าถูกควบคุมด้วยเวทมนตร์ให้ทำงาน ใช้แรงงานให้พ่อมด แต่ภาพลักษณ์ของซอมบี้ในวัฒนธรรมสมัยใหม่ซึ่งปรากฏผ่านสื่อต่างๆนั้นต่างจาก ในลัทธิวูดูมาก โดยสาเหตุสำคัญนั้นมาจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Night of the Living Dead

การ ทดลองที่สามารถคืนชีพได้นั้นปัจจุบันสามารถทำได้จนสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือการทดลองของนักวิทยาศาสตร์จากศูนย์การวิจัยกู้ชีพซาฟาร์ แห่งมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก (Pittsburgh's Safar Centre for Resuscitation Research) สหรัฐฯ ได้พัฒนาเทคนิคการถ่ายเลือดและเติมสารละลายน้ำเกลือที่เป็นน้ำแข็งและเย็นยะ เยือกลงไปในเส้นเลือดดำ เพื่อรักษาสภาพและฟื้นชีวิตที่ตายไปแล้วให้กลับฟื้นคืนมาใหม่ได้เป็นผล สำเร็จ โดยการชุบชีวิตครั้งแรกได้ทดสอบกับ “สุนัข” จำนวน หนึ่งซึ่งตายแล้วตามนิยามทางการแพทย์ คือหยุดหายใจและหัวใจไม่เต้นหรือไม่มีกิจกรรมใดๆ เกิดขึ้นในสมอง และสภาพศพอยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าศูนย์องศา อุณหภูมิร่างกายเหลือเพียง 7 องศาเซลเซียส  แม้ ว่าสุนัขน้อยเหล่านี้จะตายแล้วในทางการแพทย์แต่เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ยังอยู่ในสภาพดี เส้นเลือดต่างๆ และเนื้อเยื่อที่เสียหายสามารถซ่อมแซมได้ด้วยการศัลยกรรม  โดยกระบวนการคืนชีพทางวิทยาศาสตร์นี้สามารถทำได้โดยการช็อตด้วยไฟฟ้าระหว่าง กระบวนการแทนที่เลือดด้วยน้ำเกลือ

แต่ว่าอีก 3 ชั่วโมงต่อมาเลือดของสุนัขที่สิ้นใจก็ถูกแทนที่ด้วยน้ำเกลือและได้ออกซิเจน เต็มที่ 100% บรรดาสุนัขๆ ก็ฟื้นคืนชีพมาเป็น “สุนัขซอมบี้”  การ ทดลองนี้นับว่าเป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง โดยนักวิทยาศาสตร์พยายามทำให้ผู้ป่วยกลับฟื้นชีวิตได้ อย่างน้อยเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม แต่ก็มากพอสำหรับการรักษาชีวิตผู้บาดเจ็บจากสงคราม หรือเหยื่อที่ถูกแทง ถูกยิง เพราะพวกเขาจะเจ็บปวดและขาดใจจากการเสียเลือดมากผลที่ได้ทำให้ทางศูนย์มีแผน จะนำเทคนิคนี้ไปทดสอบใช้ในมนุษย์ภายในปีหน้า อีกทั้งเชื่อว่าภายใน 10 ปีจะสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ขัดขวาง “การตาย” ของมนุษย์ได้ในบางกรณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมรภูมิรบ

Frankenstein



        แฟรง เกนสไตน์ เป็นนวนิยายยอดนิยมเรื่องหนึ่ง เขียนโดย แมรี เชลลีย์ จัดพิมพ์ครั้งแรก ณ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1818 โดยเนื้อเรื่องของแฟรงเกนสไตน์มีอยู่ว่า มีชายคนหนึ่งชื่อ วิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ ได้ไปศึกษาที่เยอรมนี เขาสนใจในเรื่องการใช้ไฟฟ้ากับร่างกายของมนุษย์ จึงนำชิ้นส่วนจากศพหลายๆ ศพ มาเย็บเข้าด้วยกันและช็อตด้วยไฟฟ้า ทำให้ซากศพนั้นมีชีวิตขึ้นมา เป็นอสุรกายที่มีร่างกายใหญ่โต แต่เมื่ออสุรกายนั้นมีชีวิต วิคเตอร์ก็เกิดกลัวอสุรกายนั้นขึ้นมา จึงได้หนีไปและทิ้งให้อสุรกายตนนั้นมีชีวิตอย่างเดียวดาย โดยไม่ยอมรับมัน อสุรกายจึงขอร้องให้วิคเตอร์สร้างอสุรกายแบบมันขึ้นมาอีก 1 ตน แต่วิคเตอร์ก็ไม่ยอม มันจึงเริ่มฆ่าคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวิคเตอร์เพื่อให้วิคเตอร์รับ รู้ความรู้สึกของความโดดเดี่ยวบ้าง จนวิคเตอร์เสียชีวิต อสุรกายก็เสียใจมาก เพราะมันได้สูญเสียเพื่อนคนแรกและคนสุดท้ายในชีวิตของมันไป

ความ จริงแล้วเรื่องราวการทำศพมาต่อกันเป็นรูปร่างคนนั้นมีมากมาย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกนาซีก็เคยมีการทดลองที่ว่านี้เหมือนกัน แต่กรณีที่โด่งดังที่สุดคือกรณีของ  Vladimir Demikhov(1916 – 1998)  เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยกายภาพมีชื่อเสียของโซเวียต เคย เป็นหมอทหารรัสเซียในสงครามโลกครั้งที่ 2  ที่ มีความเชี่ยวชาญเรื่องการผ่าตัดสมอง และการปลูกถ่ายอวัยวะ เขาเป็นที่รู้จักกันดีในโครงการปลูกถ่ายหัวสุนัขเมื่อ 1950 เขาได้แสดงผลงานวิจัยของเขา มันคือสุนัขสองหัว โดยหัวของลูกสุนัขได้ถูกใส่เข้าไปในส่วนคอของสุนัขเชพเพิร์ดขนาดใหญ่ โดยหัวที่สองจำเป็นต้องดื่มนม(แม้ว่าทุกๆ หยดจะเข้าปากและรั่วตรงรอยต่อก็ตาม)แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องในเดียวกับ สุนัขตัวใหญ่ อย่างไรก็ตามสุนัขสองหัวนี้ก็ตายเพราะร่างกายรับไม่ไหวและเนื้อเยื่อเข้ากัน ไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามผลงานของเขาได้กลายเป็นรายบันดาลใจในการปลูกถ่ายอวัยวะใน เวลาต่อมา

(c)http://atcloud.com
แก้ไขล่าสุด 20 เม.ย. 56 16:26 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | อะไรนิ่งๆ | 20 เม.ย. 56 16:38 น.

รู้สึกว่า Frankenstein น่าสงสารยังไงไม่รู้ 

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | dick-Alma | 20 เม.ย. 56 16:49 น.

สงสารหมา**

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | |+เยสมาลอร์ด.;) | 20 เม.ย. 56 17:06 น.

cm1. / cm.2
ช่าย อ่านแล้วก็น่าสงสารนะ ไม่รู้เรื่องอะไรแท้ๆ รู้ตัวอีกทีมีสองหัวซะละ 

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | ตัวส้ม'' | 20 เม.ย. 56 18:00 น.

ยาวจริงขอแปะไว้อ่านก่อน

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | `;$-แม่สิบเอ็ดโมง.* | 20 เม.ย. 56 18:02 น.

same 1  น่าสงสารแฟรงเกนสไตล์อ่ะ
ว่าไปแล้วก็อยากอ่านเรื่อง แฟรงเกนสไตล์ 

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | |+เยสมาลอร์ด.;) | 20 เม.ย. 56 18:28 น.

cm4. เราเตือนคุณแล้ว 

cm5. เราเคยอ่านนะ น่าสงสารมากๆ ถ้าหาเจอ เราจะเอาลงมาให้อ่านนะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#7 | Bernadette. | 20 เม.ย. 56 20:02 น.

เห็นเขาบอกว่าคนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้แม้ปราศจากร่างกาย = =;
อันนี้เราอ่านมา รู้สึกจะเป้นการทดลองของรัสเซียอ่ะ #ไม่เกี่ยวกับกระทู้

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | `เฮอร์เซมอะเกิร์ล | 20 เม.ย. 56 20:53 น.

ชอบมากเลยล่ะ จขกท. 
หมาป่านึกถึง wolf children 

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | :atnym* | 20 เม.ย. 56 21:06 น.

สงสารหมาน้อย Frankenstein

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | อานฮียอนคนแมน_LEGGO | 20 เม.ย. 56 23:31 น.

เฟรดดี้ ครูเกอร์ เรื่องนี้เราเคยดูนะ  มันฆ่าเราได้ในความฝันอ่ะ หลอนๆดี

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | pkbOO | 20 เม.ย. 56 23:40 น.

เฟรดดี้ ครูเกอร์ คือตอนเด็กกลัวมากอ่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | |+เยสมาลอร์ด.;) | 21 เม.ย. 56 00:03 น.

cm7. มันคงจะแปลว่าความรู้สึกนึกคิดของเรา
มันไม่ได้ตายไปตามร่างกายของเรามั้ง  เรามั่ว 555555

cm8. ขอบใจจ้าาาา 

cm9. เนอะ 

cm10. เราว่าเฟรดดี้เท่ดีนะ 

cm11. โตมาเราก็ยังกลัว 555555555.

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | Bernadette. | 21 เม.ย. 56 12:12 น.

#12  แบบว่าเหมือนเขาตัดหัวหมาแล้วทดลองอ่ะ
ว่าถ้าเกิดให้อาหารให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ร่างกายต้องการครบถ้วนจะยังอยู่ได้ไหม
แล้วปรากฏว่ามันอยู่ได้จ้า แบบนักวิทยาศาสตร์เดินผ่านยังกระดิกหูให้เลย
แต่เราจำไม่ได้แล้วว่าไปอ่านมาจากไหนอ่ะ 55555555

ไอพี: ไม่แสดง

#14 | |+เยสมาลอร์ด.;) | 21 เม.ย. 56 14:06 น.

cm13. เห้ย เจ๋งอ่ะะ สุดยอดดดด  หาอ่านมั่งดีกว่า

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | KOPoom_13 | 23 เม.ย. 56 20:31 น.

แปะค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google