10 ตำนานเรื่องเล่าลึกลับที่ชวนขนหัวลุก [อ่านเหอะมันไม่ยาวอย่างที่ิคิดหรอก'0']

20 เม.ย. 56 23:53 น. / ดู 10,724 ครั้ง / 28 ความเห็น / 17 ชอบจัง / แชร์
Top 10 Urban Legends & Myths
แปลง่ายๆว่า 10 สุดยอด ตำนานเมืองและเรื่องลีกลับ 
แต่เรากลัวมันไม่น่าสนใจเลยตั้งชื่อมันไว้เว่อๆไปงั้นอ่ะ
555555555 อย่าโกรธเรานะ 
Urban Legends มีความหมายว่า ตำนานเมืองเรื่องเล่าที่มีอยู่ในเมืองนั้นๆ โดยเรื่องเล่านั้นอาจเป้นนิทานหรือตำนานร่วมสมัยที่ทันสมัย เป็นความเชื่อที่ไม่มีหลักฐาน หากแต่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงและถูกนำมาเล่าปากต่อปากใส่สีตีไข่ให้มันสมจริง โดยตำนานส่วนใหญ่จะมีองค์ประกอบของความลึกลับ สยองขวัญ น่ากลัว และตลก ส่วนมากมักเป็นคำเตือนที่แฝงด้วยคำสอนต่างๆ ตัวอย่างเช่นที่ประเทศญี่ปุ่นมีตำนานเรื่องผีฮานาโกะในห้องน้ำโรงเรียนตอนกลางคืน หรือผีสาวปากฉีดที่ดักทำร้านเด็กหลังเลิกเรียน เป็นต้น

        ตำนานเมืองมีอยู่ทั่วโลก  แต่คุณเคยได้ยินตำนานเมืองของประเทศอเมริกาหรือเปล่าคะ และต่อไปนี้เราขอเสนอตำนานเมืองที่มีชื่อเสียงของอเมริกาที่สยองน่าขนหัวลุกพร้อมกับชวนหัวในเวลาเดียวกัน 


10.The Automatic 4.0



เป็นหนึ่งในตำนานเมืองที่เป็นเรื่องเล่าของมหาวิทยาลัยเขตตั้งแต่ปี 1970 และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และซีรีย์อเมริกาเรื่อง Dead Man on Campus 1998 (ภาพยนตร์ห่วยได้คะแนน 15% ของมะเขือเทศเน่า) โดยเล่ากันว่าหากในโรงเรียนหรือมหาลัยแห่งใดมีเด็กนักเรียนเพื่อนร่วมฆ่าตัวตายปัจุบันทันด่วน จะได้รับเกรดเฉลี่ย 4.0 ของภาคเรียนการศึกษาโดยอัตโนมัติทันที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการปลิดชีพของวิทยาลัย(ใจดีพิลึก) ตำนานนี้มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยในเวลาต่อมาเช่นเกิดฆาตกรรมหรืออุบัติเหตุ แต่ยึดหลักพื้นฐานของเพื่อนร่วมห้องตาย= เกรดดีทั้งหมด(หมายถึงเกรด A นะไม่ใช้ D) แน่นอนเรื่องนี้ไม่เป็นจริงแน่นอนและเชื่อว่าที่มานั้นมาจากการเล่าเล่นๆเอาตลกของนักศึกษา


9.Mr. Rogers Was a Navy Seal



เฟร็ดโรเจอร์ส(1928-2003) เป็นชาวอเมริกันนักแต่งเพลงและผู้จัดรายการโทรทัศน์ Mister Rogers' Neighborhood รายการเด็กที่ฮิตในช่วง 1968-2001 ด้วยบุคลิกเป็นคนอ่อนโยนเสียงเบาอ่อนหนุ่มและความตรงไปตรงมาทำให้หลายคนต่างติดใจรายการของเขา และเขาพยายามเรียกร้องรัฐบาลให้สนับสนุนรายการเด็กมากกว่าจะไปทำสงครามเวียดนาม โดยจุดเด่นของเขาก็คือการรวมเสื้อแขนยาวสีแดงแล้วไปปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์อยู่เสมอ และเนื่องด้วยช่วงที่เขาทำรายการเป็นช่วงสงครามเวียดนามพอดี จึงข่าวลือว่าเขาเป็นเครื่องจักรสงหารในสงครามเวียดนาม ที่ว่ากันว่าเขาฆ่าพวกเวียดกงเป็นจำนวนมาก  สามารถฆ่าคนด้วยมือเปล่า จนเขามีบาดแผลเต็มตัวจนต้องสวมเสื้อแขนยาวปกปิดบาดแผลและปกปิดรอยสักสุดโหดนี้เอาไว้แม้ว่าอากาศจะร้องเพียงใดก็ตามซึ่งข่าวลือนี้ไม่เป็นจริงเพราะประวัติเขาเปิดเผยแล้วว่าเขาไม่เคยทำหน้าที่ทางการทหารใดๆ มาก่อนเลย หากข่าวลือก็เริ่มขึ้นอีก ในปี 1990 ว่าเขาเป็นทหารในสงครามเกาหลี


8.Bloody Mary



บลัดดี้ แมรี่ เป็นผีหรือแม่มด เป็นตำนานพื้นบ้าน(ช่วงปี 1970) ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เป็นพิธีที่มักทำเล่นกันในห้องน้ำที่มืดๆ โดยการเรียกเธอสามครั้ง(หรือหลายครั้ง แต่ความเชื่อปัจจุบันบอก 13 ครั้ง)และความเชื่อนี้พิธีกรรมการละเล่นหลายแบบ แต่โดยรวมๆ คือต้องเข้าไปในห้องน้ำ ปิดไฟและยืนกระจกในที่มืด และเรียกชื่อของเธอสามครั้ง แต่ตอนนี้จะต่างตรงที่อาจมีอะไรเสริมเข้ามา เช่นต้องสวดมนต์ร้อยครั้ง. ต้องเที่ยงคืน, น้ำไหล, ใช้เทียนไข และแมรี่จะปรากฏในกระจกเป็นผีผู้หญิงลางๆ บางทีกระจกจะกลายเป็นสีแดง หรือมีเสียงกรีดร้อง โดยประวัติของแมรี่นั้นค่อนข้างหลากหลายบางคนบอกว่าเธอเป็นแม่มด, หญิงที่สูญเสียลูกจนต้องฆ่าตัวตาย หรือเป็นฆาตกร  เป็นต้นและตำนานของเธอก็ถูกดัดแปลงมากมาย เช่น เป็นพิธีทดสอบความกล้าหากยอมแพ้แมรี่จะเอาชีวิต หรือเป็นรูปแบบพยากรณ์อย่างเช่นปอกแอปเปิลหน้ากระจกตอนเที่ยงคืน ร้องเพลงในคืนพิเศษแล้วมองผ่านกระจกอย่างเร็วๆจะเห็นหน้าของเนื้อคู่ลางๆ เป็นต้น


7.JFK and the Jelly Doughnut Speech



Ich bin ein Berliner เป็นมุกตลกของชาวอเมริกันและเยอรมัน และถูกนำไปแพร่หลายในอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย ส่วนไทยเรานำประโยคนี้มาใช้สอนภาษาอย่างสนุกสนาน

มุก Ich bin ein Berliner นั้นมาจากประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนนาดี้ ที่ไปกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าฝูงชนใจกลางกรุงเบอร์ลินตะวันตกในช่วงสงครามเย็นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1963 เขาได้ขึ้นไปตึกที่ทำการเทสบาลและพูดประโยคสุดแสนคลาสสิกภาษาเยอรมันต่อหน้าประชาชนชาวเยอรมันที่อยู่ที่นั่นว่า"Ich bin ein Berliner." ซึ่งแปลว่า " ผมเป็นชาวเบอร์ลิน" เพื่อแสดงเจตจำนงในการเผชิญหน้ากับสหภาพโซเวียต หากแต่กระนั้นประโยคนี้มันมีอีกความหมายหนึ่ง เนื่องจากคำว่า Berliner เป็นชื่อขนมของเยอรมัน ที่มีลักษณะคล้ายโดนัท ดังนั้นชาวเยอรมันหลายคนจึงเขาใจประโยคนี้ว่า “ผมเป็นโดนัท” และจากนั้นเป็นต้องมามุกนี้ก็ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายที่เยอรมันและสหรัฐอเมริกา(โดยการใช้คำว่าเบอร์ลินสองความหมายให้เข้าใจต่างกัน)


6.Cokelore



โค้ก หรือ โคคา โคล่า เครื่องดื่มยอดนิยมที่ผมเขียนถึงมันหลายครั้งแล้วและหลายปีที่ผ่านมาเรื่องราวของมันถูกเล่าขานเป็นตำนานความเชื่อมากมาย โดยตำนานที่มีชื่อเสียงก็เช่นหากกินขนม Pop Rocks(ขนมที่เป็นเม็ดๆ กินแล้วซ่าและเปรี้ยวในปาก)พร้อมโค้กจะทำให้กระเพาะอาหารพังได้ หรืออีกตำนานเล่าว่าโค้กจะทำให้ฟันผุเนื่องจากกรดโวดาละลายฟัน หรือว่าโค้กมีส่วนผสมของโคเคนซึ่งเป็นยาเสพย์ติดต้องห้ามซึ่งเรื่องโคเคนนี้เป็นจริงและมันได้สร้างภาพลบของโค้กต่อเนื่อง จนกระทั้งมีการเปลี่ยนสูตรใหม่ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ในอินเตอร์เน็ตโค้กถูกนำอ้างว่าเป็นเครื่องดื่มที่สามารถทำลายกระเพาะและอวัยวะภายในของคุณได้ โดยใจความบอกว่าถ้าคุณวางT-boneสเต็กในชามมันจะละลายเมื่อเวลาผ่านไป 2 วัน เพราะโค้กมีค่าความเป็นกรดด่างถึง pHอยู่ 2.8  มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน4วัน(เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะpHของโค้กมีค่า 2.5 ซึ่งใกล้เคียงกับมะนาว หรือ เลมอน มีค่าpH2.4 หรือ ส้ม มีค่าpH3.5)


5.The Good Samaritan



ชาวสะมาริตันผู้ใจดีเป็นเรื่องราวที่ปรากฏในไบเบิ้ลที่เล่าถึงชายที่มีน้ำใจรักษาคนบาดเจ็บจากคนปล้นระหว่างทาง และคำนี้ก็ได้กลายเป็นตำนานของชาวอเมริกันที่เล่าถึงคนรวยปลอมตัวเป็นคนจนหรือแกล้งทำเป็นเดือดร้อนรอให้คนอื่นมาช่วยเหลือและตอบแทนแก่ผู้ช่วยเหลือเหล่านั้นด้วยรางวัลที่มีค่าอย่างมหาศาล โดยส่วนมากตำนานจะเอาคนดังที่ปลอมตัวเป็นคนจน เช่นบิลล์ เกตส์ หรือ แนท คิง โคล(นักเปียโน, นักแต่งเพลงและนักร้องเพลงแจ๊ซชาวอเมริกัน) โดยพวกเขาจะทำเป็นรถเสียและรอให้คนมาเปลี่ยนยางให้ หากมีคนมาช่วยพวกเขาจะขอที่อยู่ของเพื่อส่งรางวัลไปให้ และไม่กี่สัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้พัสดุว่าเขาได้รับเงิน 10,000 ดอลลาร์ พร้อมกับลงนามผู้ส่งเป็นชื่อบุคคลดัง อีกตำนานอาจมีการดัดแปลงเช่นผู้ขอความช่วยเหลืออาจเป็นกษัตริย์หรือเจ้าหญิงประเทศใดประเทศหนึ่งปลอมตัวมาเพื่อขอความเชื่อเหลือ และคำว่าชาวสะมาริตันผู้ใจดีนี้เป็นคำที่โดนใจคนอเมริกันที่สุด เป็นคำที่สื่อมวลชนชอบใช้ ค่าที่มันจับจิสร้างจินตนาการให้ผู้อ่านผู้ฟังมากที่สุดคำหนึ่ง และมักถูกใช้เป็นชื่อของสมาคม คลินิก บ้านพักผู้ยากไร้ในที่ต่าง ๆ


4.Walt Disney Is Cryogenically Frozen



เคยดูภาพยนตร์ซีรีย์เรื่องหนึ่งใน CN ไหมครับ ที่เด็กชายคนหนึ่งได้รับอุบัติเหตุจนต้องมีการผ่าตัดเปลี่ยนสมอง โดยสมองที่มาเปลี่ยนนั้นเป็นสมองเจ้าของสวนสนุกที่นำถูกนำมาแช่เย็นเก็บรักษาเอาไว้ และเมื่อทำการเปลี่ยนเขาก็พบว่าเขาสามารถเห็นตัวการ์ตูนในจินตนาการที่มีแต่เขาที่มองเห็นได้(จำชื่อเรื่องไม่ได้ครับใครก็ได้ช่วยบอกที)

เรื่องนี้มาจากเรื่องเล่าในตำนานของวอลต์ ดิสนีย์ ผู้กำเนิดมิกกี้เมาส์และพรรคพวก โดยมีเรื่องเล่าของเขาว่าเป็นหลังเขาตาย ได้มีคนนำศพของเขา(หรือสมองของเขา)แช่แข็งไว้ด้วยเทคโนโลยี Cryonics ด้วยความหวังว่าเทคโนโลยีในอนาคตจะสามารถนำเขากลับมามีชีวิตได้ โดยที่มาของตำนานนี้มาจากวันที่เขาตายเมื่อปี 1966 ไม่มีงานศพ(มีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเขาร้องขอไม่ให้มีงานศพ) ไม่เปิดเผยสาเหตุการตาย(มีการเปิดเผยความจริงในเวลาต่อมาว่าเขาตายด้วยโรคมะเร็งปอด) อีกทั้งด้วยความมีชื่อเสียงและนักประดิษฐ์เขาชอบเรื่องไซไฟ นำไปสู่การสร้างตำนานอันยาวนานนี้
แก้ไขล่าสุด 21 เม.ย. 56 00:13 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | |+เยสมาลอร์ด.;) | 20 เม.ย. 56 23:54 น.

3.The Sewer Alligator



จระเข้ในท่อระบายน้ำ เป็นเรื่องเล่าที่โด่งดังในปี 1920 และ 1930 โดยเป็นเรื่องของจระเข้ที่อาศัยในท่อระบายน้ำแห่งมหานครนิวยอร์ก โดยเรื่องเล่านี้เล่าสืบทอดกันมาไม่ขาดสาย และไม่ปรากฏแห่งที่มา โดยมีเรื่องเล่ากันว่ามีครอบครัวหนึ่งรวยมากกลับมาจากการพักร้อนในฟลอริดา และไม่สนใจกฎหมายในนิวยอร์ก พวกเขาได้ซื้อสัตว์เลี้ยงเป็นของขวัญให้เด็ก โดยเป็นจระเข้ และเลี้ยงมันในห้องน้ำ ปรากฏว่ามันโตขึ้นดุร้ายขึ้นจนพวกเขาเลี้ยงไม่ไหวและเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับคนในครอบครัว พวกเขาเลยทิ้งมันในท่อระบายน้ำอุจจาระโยทิ้งที่ท่อคอห่าน แต่ปรากฏว่ามันไม่ตายและรอดชีวิตจากการกินหนูและขยะ มันเจริญเติบโตจนมีขนาดใหญ่อย่างน่ากลัว และวันดีคืนดีมันจะโผล่หัวออกมาจากท่อระบายน้ำอุจจาระเข้ามางับหรือทำอันตรายต่อผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา(นอกจากนี้มันยังมีเรื่องเล่าเสริมอีกว่ามันเป็นจระเข้เผือกเพราะว่ามันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สัมผัสแสงแดด และสูญเสียการมองเห็น และบางที่ก็เล่าว่าเป้นจระเข้ที่หลุดออกจากสวนสัตว์) ในปี 1930 มีหนังสือพิมพ์ออกมาเขียนว่าพบจระเข้ในรอบนิวยอร์กและมีบางคนอ้างว่าเห็นตำรวจเดินลงเข้าไปท่อระบายน้ำพร้อมอาวุธล่าสัตว์ แม้เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่ก็ตามแต่กระนั้นท่อระบายน้ำในมหานครนิวยอร์กถือได้ว่าเป็นสถานทีน่ากลัวที่ไม่มีใครอยากลงไปอยู่ดี


2.The Vanishing Hitchhiker



เป็นหนึ่งในตำนานที่เก่าแก่ที่และฮิตที่สุดในช่วงปี 1981 ไม่เพียงแต่อเมริกาเท่านั้นยังเป็นหลายประเทศทั่วโลกด้วย  อาจจะแตกต่างไปบ้างในบางพื้นที่ แต่ส่วนหลักๆ เหมือนกัน เกี่ยวกับผีผู้หญิงที่ชอบโบกรถ โดยเล่ากันว่าหากคืนมีคนกำลังขับรถในถนนที่ร้างผู้คน จู่ๆ เขาจะเห็นผู้หญิงสาววัยรุ่น กำลังโบกรถอยู่ข้างทางตามลำพัง เขาจึงแวะรับเธอขึ้นรถมาด้วย และเมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่หญิงสาวต้องการ เมื่อเขาหันไปเพื่อบอกลาเธอ เธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับจากเบาะหลัง ด้วยความสับสน เขาเลยกดออดที่หน้าบ้านของเธอ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ก็พบว่าหญิงสาวที่ว่านั้นได้รับอุบัติเหตุรถยนต์ตายก่อนหน้าแล้วที่จุดที่เขารับรพเธอในขณะที่เธอพยายามกลับบ้าน ล่ะหญิงสาวที่เขาเจอก็คือผีนั่นเอง และเรื่องเล่านี้อาจมีหลายส่วนที่เปลี่ยนไปบ้าง เช่น กลางคืนที่ว่าอาจฝนตก และตัวหญิงสาวอาจตัวเปียกปอน เขาจึงให้เธอยืมเสื้อแจ๊คเก็ตของเขาให้กับเธอและเมื่อถึงบ้านที่หมาย(บางที่ก็เป็นสุสาน) เธอกลับหายไปพร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตของเขา ด้วยความข้องใจ ชายคนนั้นจึงลงจากรถไปเคาะประตูบ้านหลังนั้น  ก็พบว่าเธอได้เมื่อ 10 ปีมาแล้ว และเมื่อวันรุ่นขึ้นเขาไปหลุมฝังศพของเธอก็พบเสื้อแจ๊คเก็ตของเขาวางพับประณีตเรียบร้อยอยู่หน้าหลุมฝังศพของเธอ


1.The Kidney Heist



เป็นตำนานที่แพร่หลายที่สุดในโลกออนไลน์ รายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์ โดยสมมุติว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 1997 มีอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่น่ากลัวออกอาละวาดในเมือง โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวหรือนักเดินทางที่กำลังผ่อนคลายโดยไปที่ร้านหรือบาร์เพื่อดื่มกินเครื่องดื่ม และระหว่างดื่มกินจะมีคนแปลกหน้ามาพูดคุยทำความสนิทสนมและคนแปลกหน้าจะเอาเครื่องดื่มให้เหยื่อคนนั้นดื่ม หลังจากนั้นเหยื่อคนนั้นจะเกิดอาการมึนงง และง่วงนอน จนหมดสติไป ก่อนที่จะตื่นขึ้นในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งที่ห้องพักโรงแรมหรือบ้านร่างแห่งหนึ่ง  และมีโทรศัพท์อยู่ถัดไปและเมื่อเหยื่อโทร 911 แพทย์ก็มาถึงก็พบว่าที่ร่างกายของเหยื่อมีรอยผ่าตัดและตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าไตถูกขโมยไป และไตที่ว่านั้นได้ถูกนำไปขายในตลาดขายอวัยวะมืดในราคาแพงลิบลิ่ว และนี้คือตำนานเมืองที่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงจนถึงขั้นมีการร้องเรียนต่อมูลนิธิไตแห่งชาติว่าควรตรวจสอบไตว่าไตไหนเป็นไตที่ถูกขโมยมา และเรื่องขโมยไตนี้ก็โด่งดังในประเทศไทยด้วย โดยเนื้อหาเปลี่ยนเป็นผู้ป่วยไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำการผ่าตัด และผู้ป่วยก็พบว่าไตหาย เป็นต้น

(c)http://www.clipmass.com


มันไม่ยาวอย่างที่คิดแต่มันยาวกว่าที่คิดใช่มั้ยล่ะ 55555.
วันนี้เราตั้งหลายกระทู้เบย เราคึก !
แต่ก็ขอบคุณที่อ่านจนจบนะ 

แก้ไขล่าสุด 20 เม.ย. 56 23:56 | ไอพี: ไม่แสดง

#2 | ``หลงพาร์ทฮาจิเบย์;$ | 20 เม.ย. 56 23:56 น.

ถ้าตื่นมา เห็นตัวเองมีรอยเย็บละก็ .........

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | ``พระแม่ดีเลย์;฿. | 21 เม.ย. 56 00:02 น.

บอกตรง ตกใจ bloody mary .. แต่เราชอบเรื่องนางมาก เคยดูหนังแล้วมีเรื่องนางโผล่เข้าไปด้วย
The Kidney Heist เคยเห็นออกทรูอยู่ครั้งนึงเรื่องนี้ จำลองเหตุการณ์ให้ดู น่ากลัว

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | moku;. | 21 เม.ย. 56 00:05 น.

เห็นภาพ The Kidney Heist
แล้วเสียวสันหลัง 

ไอพี: ไม่แสดง

#5 | อานฮียอนคนแมน_LEGGO | 21 เม.ย. 56 00:16 น.

Bloody Mary อันนี้ของเค้าดีจริง  เราเคยเห็นใน Youtube ที่มีฝรั่งไปลองของอ่ะ บรึ๋ย น่ากลัวว ถ้าเราลองทำบ้าง นางจะตามมาหลอกถึงไทยมั้ยนะ? QAQ

ไอพี: ไม่แสดง

#6 | FBI | 21 เม.ย. 56 00:44 น.

หลังสามทุ่ม เราจะไม่อ่านเรื่องผีค่ะ *กดปิดกระทู้

แก้ไขล่าสุด 2 ต.ค. 56 00:54 | ไอพี: ไม่แสดง

#7 | PEEK-A-B00! | 21 เม.ย. 56 03:08 น.

ตอนเช้าจะมาอ่าน..

ไอพี: ไม่แสดง

#8 | :LA$TBO$S_` | 21 เม.ย. 56 08:09 น.

เข้ามาดูรูปแล้วจบเลยค่ะ ไม่ใ่ช่กลัว แต่มันยาวเกิน 

ไอพี: ไม่แสดง

#9 | dick-Alma | 21 เม.ย. 56 08:34 น.

แต่ละเรื่องแจ่มๆ ทั้งนั้น  ขอบคุณมากค่ะที่หามาลง

ว่างๆแล้วมาลงให้อ่านอีกนะ XoXo

ไอพี: ไม่แสดง

#10 | Anymore. | 21 เม.ย. 56 08:58 น.

แปะไว้ก่อนนะจ๊ะ  

ไอพี: ไม่แสดง

#11 | นาทีที่อมยิ้ม | 21 เม.ย. 56 09:12 น.

Bloody Mary aน่ากลัวนะ ไม่กล้าลองจ้า เดี๋ยวมา

ไอพี: ไม่แสดง

#12 | @twitter | 21 เม.ย. 56 09:45 น.

จระเข้ในบ่ออึชีวิตหนอชีวิต..

ไอพี: ไม่แสดง

#13 | คุริกิโกะกู้ว | 21 เม.ย. 56 11:37 น.

ขอบคุณจ้าา 

ไอพี: ไม่แสดง

#14 | ตัวส้ม'' | 21 เม.ย. 56 12:02 น.

The Automatic 4.0 ถ้างั้นเพื่อนเราต้องเสียสละทีละสองคนแล้วล่ะ 555

ไอพี: ไม่แสดง

#15 | อย่ามโน | 21 เม.ย. 56 12:46 น.

Dead Man on Campus นี่เราเคยดู ส่วนตัวว่ามันสนุกดีนะ

ไอพี: ไม่แสดง

#16 | BADAPPLE* | 21 เม.ย. 56 13:06 น.

ไม่ยาวไปจ้ะ
เป็นความรู้เนอะ

ไอพี: ไม่แสดง

#17 | `เฮอร์เซมอะเกิร์ล | 21 เม.ย. 56 13:53 น.

เดี๋ยวมาอ่านเน้อคะ ตอนนี้อ่านไปเรื่องสองเรื่องก่อน
ขอบคุณนะคะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#18 | -VivaLaVida. | 21 เม.ย. 56 14:23 น.

ตกใจบัลดีแมรีอ่ะ 55555

ไอพี: ไม่แสดง

#19 | `;$-แม่สิบเอ็ดโมง.* | 21 เม.ย. 56 14:30 น.

เราอ่านไป 5 เรื่องละ ขอแปะไว้เดี๋ยวมาอ่านต่อนะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#20 | byunsanun. | 21 เม.ย. 56 15:42 น.

จัน น  น เอาน้ำแข็งมาถูหลังฉันซิ ...

ไอพี: ไม่แสดง

#21 | CHANYEOL | 21 เม.ย. 56 17:05 น.

ลงอีกเน้อออออออออ

ไอพี: ไม่แสดง

#22 | ~[หมาป่ากับกระต่าย]~ | 21 เม.ย. 56 17:40 น.

อันสุดท้ายอ่ะ เหมือนจะเคยดูรายการซักรายการนึง เค้าบอกว่า มันเป็นไปได้ยากที่จะทำ ถ้าเกิดว่าเป็นโรงพยาบาลเล็กๆ่อ่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#23 | LittleQ | 21 เม.ย. 56 19:00 น.

The Kidney Heist ทำเอาเสียวหลังเลย

ไอพี: ไม่แสดง

#24 | inw:PWG5 | 21 เม.ย. 56 23:33 น.

The Kidney Heist ไตหาย  แบบว่าคนทำนี้เลวอ่ะเห็นแก่เงิน ของ ของใครเค้าก็หวง

ไอพี: ไม่แสดง

#25 | `ศรีสยามงามตะไท | 22 เม.ย. 56 16:37 น.

เป็นโรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการค่ะ
ปัจจุบันปิดตัวลงแล้ว และมีรพ.อื่นเข้ามาแทน

ไอพี: ไม่แสดง

#26 | @cxh'11 | 22 เม.ย. 56 17:19 น.

เลื่อนลงมาตกใจบลอดดี้แมรี่

ไอพี: ไม่แสดง

#27 | คานิ.๔๓ | 22 เม.ย. 56 17:42 น.

Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary Bloody Mary 

ไอพี: ไม่แสดง

#28 | KOPoom_13 | 23 เม.ย. 56 20:40 น.

ตกใจรูปแมรี่

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google