[ fic GRI ] miracles don't exist.

24 มิ.ย. 56 21:03 น. / ดู 1,276 ครั้ง / 1 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
title : ---------
couple : GD x VI
Category: Drama
writer



---------




'อย่ายุ่งกับผมได้มั้ย !'  เสียงเล็กๆยังคงสะท้อนก้องอยู่ในหัวผมไม่หยุด ทั้งที่ผมออกมาจากคอนโดของเขาได้สักพักแล้ว 
วันนี้ควรจะเป็นวันที่มีความสุขของเขาสิ วันนี้มันเป็นวันเกิดเขานะ ผมนี่บ้าจริงไปวุ่นวายกับคนรักจนเกินไปหรอ แค่อยากทำให้มีความสุข กลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้
..

ร่างที่เหมือนไร้วิญญาณของ ' ควอน จียง' กำลังเดินออกไปตามถนนที่มีเพียงแสงจากเสาไฟเท่านั้นที่รู้ว่าเขายังอยู่บนโลกใบนี้  แต่หากจะมีใครล่วงรู้จุดหมายปลายทางของชายผู้นี้ แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าจุดหมายคือที่ไหน ..  อากาศที่หนาวเหน็บไม่สามารถทำให้เขาสะทกสะท้านได้เลย มีแต่เพียงเสียงตวาดจากคนรักที่ทำให้เขาหลุดลอยจากโลกความเป็นจริงได้เพียงเท่านี้
รถเบนซ์สีดำคันโตขับมาจอดเทียบข้างในขณะที่เขากำลังเดินอย่างไร้ปลายทาง แต่สติของชายหนุ่มก็ไม่ได้กลับเข้าที่อยู่ดี จนคนบนรถต้องเดินลงมาดึงข้อมืดเล็กเอาไว้ "ไ.อห่.า ! นี่ได้ยินที่กูเรียกมั้ย"  มือหนาดึงข้อมือเล็กแรงๆให้เจ้าตัวรู้สึก หากแต่คนตัวเล็กได้แต่เพียงพยักหน้าตอบว่ารับรู้ถึงการมาของเพื่อนสนิท  "เป็นอะไรว.ะเนี่ย ทะเลาะกันมาอีกแล้วรึไง"  ชายผู้มาเยือนถามซ้ำด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่เขาก็ได้แต่เพียงพยักหน้ารับ
....ยองเบ เพื่อนที่ผมปรึกษาแทบจะทุกเรื่องเวลาที่กลุ้มใจ มันมักจะมีคำแนะนำดีๆให้ผมเสมอ แต่ในตอนนี้ผมไม่อยากบอกอะไรใครเลย ผมอยากอยู่คนเดียว ผมได้แต่พยักหน้ารับทุกอย่างที่มันถาม .....
"ไปบ้านกูก่อน ค่อยว่ากัน" พูดจบไม่ว่าเปล่าพลางฉุดดึงเพื่อนรักของเขาให้ขึ้นไปบนรถให้เรียบร้อยก่อนที่ร่างที่ล่องลอยของควอนจียงจะได้โต้เถียงหรือขัดขืนเสียอีก
รถหรูสีดำขับอย่างไม่รีบร้อนไปตามถนนยามค่ำคืน ภาพสถานที่ที่เขาเคยมีความสุขกับคนรักของเขาต่างแล่นเข้ามาในหัว ตลอดสองปีที่ผ่านมา เขารู้นิสัยของอีซึงฮยอนดี ว่าเป็นคนอารมณ์ค่อนข้างรุนแรง แม้ว่าจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้มันรุนแรงจนเขาตั้งตัวไม่ทันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากคนรักของเขา ..ดวงตาที่เคยว่างเปล่ามาตลอดทางเริ่มมีน้ำคลออยู่ภายใน ก่อนที่น้ำใสๆนั้นจะร่วงลงเปรอะแก้ม

.. ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะเขามานานเท่าไหร่แล้วนะ..

เมื่อมีหยดแรกที่ไหลลงมา หยดต่อๆไปก็ตามลงมาไม่ขาดสาย ชายหนุ่มผู้ซึ่งเข้มแข็งในสายตาใครหลายคนกำลังร้องไห้ แม้แต่เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างกายเขาในตอนนี้ยังอดเวทนากับภาพตรงหน้าไม่ได้ ยองเบได้แต่เพียงตบบ่าเขาเป็นการปลอบโยน



- อีซึงฮยอน -
ร่างเล็กนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่หลังจากตวาดคนรักไป .. เขาพูดแรงไปรึเปล่านะ ..
ผมแค่เหนื่อยจากการทำงาน เหนื่อยจากภาระหน้าที่ ไหนจะยังเรื่องที่ผมได้ฟังจากเพื่อนมาอีก อะไรน่ะหรอ  นอกใจยังไงล่ะ เพื่อนในมหาลัยผมเห็นว่าพี่เขาไปทานข้าวกับผู้หญิงคนนึง หลายเดือนมาแล้ว แถมยังเทียวไปหาถึงโรงพยาบาลแทบทุกวัน ใช่ครับ เธอเป็นหมอที่ค่อนข้างหน้าตาดีเลยทีเดียว มันน่าโมโหมั้ยล่ะครับ

.. มือเล็กหยิบรูปที่เพื่อนแอบถ่ายมาได้จากโรงพยาบาล แสดงถึงความสนิทสนมของคนในรูปเป็นอย่างดี คนตัวเล็กกัดฟันกรอด พร้อมกลอกตาไปมาก่อนจะขยำรูปในมือจนยับเยิน ราวกับหากรูปนี้แหลกสลายคามือเขาแล้วคนในรูปจะเจ็บปวดไปด้วย ..

เขาควรจะทำอะไรต่อไปดี  แล้วป่านนี้ไม่รู้พี่เขาไปไหนแล้ว ห่วงก็ห่วง โมโหก็โมโห ดึกป่านนี้แล้วจะเป็นอะไรรึเปล่า

.. ซึงริเดินลงมาข้างล่างยังคงเห็นรถเบนท์ลีย์สีขาวของคนรักอยู่ .. "ไปไหนของเขาเนี่ย โถ่โว้ย! " คนตัวเล็กเตะเข้าไปที่ประตูรถคันหรูไปทีนึง รถมันไม่ได้รู้สึกเจ็บกับเขาหรอก มีแต่เขาที่เจ็บอยู่คนเดียว  ท่าทางกระวนกระวายด้วยความเป็นห่วงอีกคนที่ติดต่อไม่ได้ทำให้รปภ.ต้องเดินเข้ามาถามไถ่ และเขาก็ได้รู้ว่า ควอนจียง เดินหายออกไปโดยฝากกุญแจไว้กับรปภ.  เมื่อเขาได้กุญแจรถมาก็รีบขับไปตามทางที่คิดว่าคนรักของเขาจะไปปรากฏตัวอยู่ไหนสักที่ ที่พวกเขาเคยไปด้วยกัน แต่ทว่าสถานที่เหล่านั้นกลับว่างเปล่า ไร้วี่แววของบุคคลที่เขาตามหาอยู่ 
ร่างบางหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นกดดูเวลา "ตีสี่แล้วหรอ "  ริมฝีปากเล็กถอนหายใจออกมากับความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะขับรถกลับคอนโดเพื่อพักผ่อน ได้แต่เพียงคาดหวังว่าตื่นมาพรุ่งนี้จะพบเจอ 'พี่จียง' คนที่เขารักมากที่สุดนอนกอดเขาอยู่ดั่งเช่นทุกเช้า ..

---------




สี่เดือนผ่านไป




ร่างเล็กตื่นมาบนเตียงใหญ่ที่ปกติต้องมีอีกคนที่จะกอดเขาอยู่ทุกเช้า สี่เดือนที่ผ่านมาเขาต้องทนอยู่คนเดียว หลังจากวันนั้น เขาก็ไม่พบเจอจียงอีกเลย โทรหาก็ไม่มีการตอบรับ ไปหาที่ห้องก็ไม่มีใครอยู่ จนตอนนี้เขาเริ่มท้อแท้แล้ว

หรือว่าเขาจะโดนทิ้งแล้วจริงๆ ?


ใบหน้าเล็กส่ายหน้าไปมาเพื่อสลัดทุกอย่างออกไปจากหัว วันนี้เขามีแต่งานๆๆๆๆ ที่ต้องทุ่มเท ไหนจะงานเลี้ยงลูกค้าคืนนี้อีก

คิดพลางดึงร่างกายตัวเองเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระให้เสร็จก่อนจะไปดำเนินกิจวัตรประจำวัน ...

ในงานเลี้ยงลูกค้า ณ ผับใจกลางเมือง
ร่างเล็กในชุดสูทดูสุภาพกำลังนั่งคุยกับลูกค้าอย่างออกรสชาติ ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบไปเห็น เขาคนนั้น ..






"พี่ยองเบ .."

พูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาจนแทบจะโดนเสียงเพลงภายในร้านกลบไป  เขาจำได้ทันทีว่าคนๆนี้เป็นเพื่อนสนิทกับคนรักของเขา ถ้าเข้าไปถามอาจจะได้ข่าวอะไรบ้าง 

.. ซึงริขอตัวจากลูกค้าอย่างสุภาพก่อนจะก้าวเท้ายาวๆไปหาเป้าหมาย ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าของชายผู้หนึ่งที่ดูไม่สนุกกับบรรยากาศในร้านเอาเสียเลย

"พี่ครับ" เสียงใสเรียกคนรู้จักให้ผู้ที่ถูกทักทายรู้ตัว
" อะ อ้าวว ซ ซึงฮยอน มาทำอะไรที่นี่ "  ยองเบพูดเสียงตะกุกตะกัก เมื่อพบผู้มาเยือนอย่างบังเอิญ 
"ออกมาคุยกับผมหน่อยสิครับ ที่นี่คงเสียงดังเกินไป"  ไม่ว่าเปล่าร่างเล็กที่น่าจะเหนื่อยมาทั้งวันกลับมาแรงลากชายร่างกำยำออกมาจนถึงข้างนอกร้านได้ ..

"พี่ครับ พี่เห็นพี่จีบ้างมั้ย ผมตามหามาหลายเดือนแล้ว .." ซึงริเปิดประเด็นทันที ว่าพลางมองอีกคนอย่างคาดคั้นคำตอบ
" เอ่อ ..คือ .." 
"ว่าไงครับพี่ เห็นพี่จียงบ้าง ม มั้ย ฮึกก .." เสียงคนตัวเล็กเริ่มเปลี่ยนไปจากแข็งกร้าวกลายเป็นเสียงที่อ้อนวอนปนเสียงสะอื้น
 
เขาเพียงแค่ต้องการรู้ความเป็นไปของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขาก็เท่านั้น


"เอ่อ..ไปดูเองดีกว่าครับ มันอยู่ที่บ้านพี่น่ะ"  พูดจบก็เดินนำร่างเล็กขึ้นรถเบนซ์สีดำขลับไป


เมื่อรถคันโตขับมาจอดเทียบหน้าบ้านหลังใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพียงบ้านพักตากอากาศซะมากกว่า เพราะที่นี่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก

ชายหนุ่มผู้อ่อนใจเดินนำน้องชายที่ต้องการพบคนรักมายังห้องเล็กๆห้องหนึ่ง

ภายในห้องนั้นมีเตียงสีขาวดูสะอาดตากับคนที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีนอนอยู่บนนั้น พร้อมทั้งสายระโยงระยางเต็มไปหมด ร่างบนเตียงซีดเสียจนแทบจะไม่มีเลือดกำลังตัวสั่นเทิ้มอยู่ใต้ผ้าห่ม  เมื่อเห็นเช่นนั้นซึงฮยอนแทบจะพรวดพราดเข้าไปหาบุคคลที่เขาโหยหาแทบจะทัน

เพียงแต่สะดุดชะงักกับ หญิงสาว คนที่เขาเคยเห็นในรูปที่ยืนเฝ้าอาการของคนบนเตียงอยู่



"เธอเป็นใครน่ะ .."  คำถามแรกที่ออกจากปากเขาเมื่อมายืนในห้องเล็กๆห้องนี้


หญิงสาวหันมาหาผู้ถามก่อนจะเอ่ยปากตอบ



"ฉันเป็นญาติเขาค่ะ แล้วก็เป็นหมอของเขาด้วย " หญิงสาวยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อนให้กับผู้มาเยือนก่อนจะขอตัวออกไปจากห้องให้ชายทั้งสามได้อยู่กันตามลำพัง

ซึงฮยอนเดินเข้ามานั่งลงตรงข้างกายคนรักที่หายใจรวยระรินภายใต้เครื่องช่วยหายใจ


"พี่เขาเป็นอ อะไร ครับ ฮึกก ..พี่ยองเบ "

ร่างบอบบางที่มองคนรักไม่วางตาเริ่มสะอึกสะอื้นอีกครั้งเมื่อเห็นสภาพคนรัก

"มะเร็ง ..ระยะสุดท้าย .. ตั้งแต่วันนั้นมันไม่ยอมไปหาหมออีกเลย ไม่กินยาไม่กินข้าวซดแต่เหล้า เอาแต่พร่ำพูดว่า เราไม่รักมันแล้ว เราเบื่อมันแล้ว แล้วก็บังคับให้พี่สัญญาว่าจะไม่บอกเรา "  ยองเบอธิบายให้คนตัวเล็กที่สะอื้นจนตัวโยนอยู่ข้างเตียง

"วันนี้เป็นวันครบรอบสองปีใช่มั้ย มันบอกให้พี่ไปเอานี่จากคนที่ร้านนั้น " ยองเบเอ่ยก่อนจะหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงเข้มมายื่นให้ซึงฮยอน  เขารับมันมาทั้งน้ำตา พอเปิดกล่องเล็กนั่นดู ธารน้ำตายิ่งไหลลงอาบแก้มใสไม่หยุด

"ฮึก .. ฮือออ ค คนบ้า พี่มันบ้า ฮึก ก บ้า ที่สุดเลย "

ภายในกล่องเล็กๆเป็นแหวนทองคำขาวสองวงซึ่งเป็นขนาดนิ้วของเขาและคนที่นอนอยู่เตียง ภายในสลักชื่อของเขาทั้งสองคนเอาไว้ เป็นแหวนดีไซน์เรียบๆที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของอีซึงฮยอนเลยก็ว่าได้

"มันคงอยู่ได้ไม่พ้นคืนนี้แล้วล่ะ .. " ยองเบเอ่ยขัดขึ้นด้วยเสียงที่แผ่วเบา ราวกับจะสื่อว่าทั้งหมดเป็นความผิดของอีซึงฮยอน ที่ทำให้เพื่อนเขาเป็นแบบนี้


" ไม่จริง .. ฮึก ไม่จริงใช่มั้ย พี่.. " เสียงเล็กชะงักลงเมื่อมือเย็นเฉียบของร่างบนเตียงเอื้อมมาจับข้อมือตัวเองไว้

" ซึงริ .. "  เสียงแหบพร่าเอ่ยเรียกชื่อคนรักอย่างโหยหา



" หายโกรธ ..พี่แล้ว ช ใช่มั้ย..  " ควอนจียงเอ่ยถามคนตัวเล็กที่ร้องไห้ไม่หยุด


" ฮึกก .. คนบ้า ทำไม ต้องทำขนาดนี้ " มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำใสบนสองแก้มออก


" ไม่โกรธ ไม่โกรธพี่เลย ฮึก .. ผมรักพี่นะครับ ผมขอโทษ พี่ !!"

ร่างเล็กร้องเสียงหลงเมื่ออยู่มือที่จับข้อมือเขาไว้ก็ร่วงหล่นอยู่บนเตียง เสียงเครื่องวัดคลื่นหัวใจก็ร้องบอกภาวะฉุกเฉิน



..อย่าพึ่งจากผมไปแบบนี้ ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ไม่เคยรู้เลยว่าพี่ต้องรองรับอารมณ์ผมแค่ไหน ขอโทษที่โมโหใส่ ขอโทษที่ละเลย ได้โปรด .. กลับมายืนข้างๆผม กลับมากอดผม บอกรักผมทุกเช้า กลับมาคอยเป็นห่วงเวลาผมกลับดึก พระเจ้าครับ ..อย่าพรากเขาไปจากผมเลย ..

หญิงสาวคนนั้นรีบรุดเข้ามาประถมพยาบาลให้คนป่วยแทบจะทันที เธอขอให้เราทั้งคู่ออกไปรอนอกห้องก่อน


เหมือนว่าทุกอย่างจะสายไปเสียแล้ว ไม่นานหญิงสาวที่เข้าไปช่วยปั๊มหัวใจด้วยวิธีต่างๆนานาก็เดินออกมาบอกข่าวร้ายกับเขา


อีซึงฮยอนวิ่งเข้าไปในห้องทันที ก็พบกับร่างซีดเซียวที่มีใบหน้าเปื้อนยิ้มบางๆแม้จะสิ้นลมไปแล้ว เขาโผเข้ากอดร่างที่ไร้วิญญาณของคนรัก ทั้งเขย่าทั้งตะโกนใส่ราวกับมันจะทำให้คนรักฟื้นกลับคืนมา



.. บอกผมสิว่าเขายังอยู่กับผม เขายังไม่ทิ้งผมไป อยู่ให้ผมรัก อยู่ให้ผมได้ทำหน้าที่คนรักที่ดี อยู่เพื่อผม เขายังอยู่ บอกผมสิ.. พี่ครับ ผมรักพี่ ได้ยินผมมั้ย กลับมาเถอะนะครับ ให้ผมได้ดูแลพี่บ้าง ได้โปรด..



คนเรามักไม่ค่อยใส่ใจคนใกล้ตัว เขาอาจจะรักและเป็นห่วงเราแทบบ้า พอถึงเวลาที่จะเสียเขาไปตลอดกาลถึงได้นึกได้ ว่ารักเขามากขนาดไหน


the end .
แก้ไขล่าสุด 24 มิ.ย. 56 21:48 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | StRAYd09; | 24 มิ.ย. 56 21:19 น.

เอาตอนต่อไปมาเลยหนา.. 
*ปูเสื่อรอ*

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google