วิจารณ์ Insidious: Chapter 2 (สปอยล์แหลก)
10 ต.ค. 56 20:31 น. /
ดู 10,985 ครั้ง /
9 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
Insidious: Chapter 2
By Bigtum
***บทความชิ้นนี้เปิดเผยเนื้อหาของหนัง***
: บทเรียนที่ 2 ของนักถอดจิต
สองเรื่องในปีเดียวเลยนะคุณเจมส์ วาน ที่สามารถกระตุกขวัญคนดูไปกับบรรยากาศหลอนๆในหนังผีของคุณได้เนี่ย หากพิศมัยหนังสยองขวัญ เชื่อว่าหลายคนคงยกตำแหน่งเจ้าพ่อหนังผีที่ครองใจคนดูมากที่สุดประจำปี 2013 ให้กับผู้กำกับคนนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะผลงานก่อนหน้าทั้ง The Conjuring และล่าสุดอย่าง Insidious: Chapter 2 ต่างก็มาพร้อมกับความหลอนที่สร้างความประทับใจ ให้รู้สึกเสียวสันหลังกันเล่นๆ โดยที่ผียังไม่โผล่ออกมาด้วยซ้ำ เอาล่ะ จะเริ่มเข้าสู่โหมดสปอยล์แล้วนะ ขอเตือนว่าไปดูหนังก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านทีหลังยังทันนะตอนนี้!
ใน The Conjuring จะเห็นว่ามุขเบสิคๆอย่างเสียงปรบมือเปาะเเปะนั้นสามารถเอามาเล่นให้น่ากลัวได้ ใน Insidious ภาคนี้ ก็เอาของเล่นประดิษฐ์มือง่ายๆจากสมัยเด็กๆ มาเล่นให้น่ากลัวได้อีกเเล้วเช่นกัน มันคือโทรศัพท์กระป๋อง ที่เจาะรูร้อยเชือกใส่เข้าไป ดึงสายตึงๆแล้วก็คุยกัน เบสิคป่ะล่ะ! แต่ใครเล่าจะคิดว่ามันจะถูกนำมาใช้เป็นมุขหลอนๆให้ตัวละครเด็กในเรื่องสื่อสารกับวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในตู้ ฉากนี้ผู้เขียนชอบมากๆ เค้าจัดการซัดเราด้วยมโนภาพแห่งจินตนาการ ความมืดจากในตู้ทำให้เรารู้สึกขนลุกเย็นวาบได้ง่ายๆ ก่อนจะตบท้ายด้วยภาพสุดช็อคซึ่งเป็นใครก็ต้องขวัญกระเจิงแน่ๆ ถ้าได้เจอเเบบนี้
อีกมุขที่ทำให้ต้องสะดุ้งสุดตัว คือฉากในโรงพยาบาลที่เด็กอยู่ในห้องผู้ป่วย กำลังเล่นซนไปจับเครื่องมือเเพทย์ จู่ๆก็... มาแบบไม่ให้ตั้งตัวอย่างนี้ หัวใจจะวายสิครับ! สะดุ้งจริงๆฉากนี้ นั่นยังไม่นับรวมพวกรถเข็นเด็ก วิทยุฟังเสียงในบ้านที่มีมาตั้งแต่ในภาคแรก สิ่งของเหล่านี้ดูจะเป็นความจงใจและเป็นประโยชน์อย่างมากในการเพ่งสมาธิแล้วหลอกให้กลัว หนังดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบในภาคที่เเล้ว เราได้รู้แล้วว่า จอร์ช แลมเบิร์ต (เเพทริก วิลสัน) อดีตตอนเด็กเค้ามีความสามารถพิเศษอะไร หลังจากที่ไปช่วยลูกชายคนกลางอย่าง ดัลตั้น (ไท ซิมพ์กินส์) ให้กลับมาจากโลกแห่งฝันร้าย
หนังทิ้งท้ายให้เห็นว่างานนี้จอร์ชไม่ได้กลับมาคนเดียว แต่ได้พาบางสิ่งที่ชั่วร้ายกลับมาด้วย พร้อมกับการตายของเอลลิส (ลิน เชย์) หญิงสาวผู้ที่มาทำพิธีกรรมช่วยเหลือครอบครัวของจอร์ช สำหรับ Chapter 2 หนังเปิดความหลอนด้วยการย้อนกลับไปในอดีตสมัยตอนที่จอร์ชยังเด็กๆ เผยให้เห็นว่าทำไมนักถอดจิตขั้นเทพอย่างเค้าถึงถูกปิดญาณจนสูญเสียความทรงจำในส่วนนี้ และที่เด็ดสุดในภาคนี้คือตัวจริงของหญิงแก่สวมผ้าคุมหัวที่ตามติดจอร์ชมานั้น รู้อดีตแล้วจะต้องผวา รวมทั้งวิญญาณร้ายตัวใหม่สุดโหด ที่ดุยิ่งกว่าตัวเดิม งานนี้บรรยากาศสยองขวัญแบบหนังผีในยุคเก่าๆมาครบ
คนเขียนบทหนังคือ ลีห์ แวนเนลล์ คนที่แสดงเป็นผู้ช่วยพิธีกรรมถอดจิต ผู้ชายคนที่ใส่แว่นที่มากับตาอ้วนมีหนวดเจ้าของฉากตลกๆนั่นแหละ บทหนังของเค้าฉลาดมาก เข้าใจเชื่อมโยงต่อติดเรื่องราวของภาคที่แล้วกับภาคนี้ได้อย่างแยบยลกลมกลืน ซึ่งงานยากของเเวนเนลล์และเจมส์ วาน (เขียนบทร่วม) คือภาคต่อไป ว่าเค้าจะเอาอะไรมาเล่นต่อ เเละต้องไม่ให้มาตรฐานตกต่ำลงด้วย แต่ดูจากตอนจบของภาคสองก็อาจจะพอมองเห็นเค้าลางได้เป็นนัยๆอยู่ ส่วนอันนี้สำคัญมาก ใครที่ยังไม่เคยดูภาคเเรกให้หามาดูด่วน เพราะมันเชื่อมโยงถึงกัน โดยเฉพาะในแง่อรรถรสแล้วคนที่ดูภาคแรกมาจะเก็ตมุขและดูสนุกกว่าแน่ๆ
หลังจากไปเป็นเอ๊ด วอร์เรน นักปราบผีวิทยา ใน The Conjuring แพทริก วิลสันกลับมารับบทเดิม จอร์ช แลมเบิร์ต หัวหน้าครอบครัวที่ไปช่วยลูกชายคนกลางที่หาทางกลับบ้านไม่ได้หลังถอดจิตไปติดอยู่ที่โลกวิญญาณอันแสนน่ากลัว วิลสันยังคงเยี่ยมกับบทผู้เป็นพ่อที่ห่วงใยครอบครัว และดูน่ากลัวยามเมื่อถูกวิญญาณร้ายสิงสู่ครอบงำ เจ้าหนูไท ซิมพ์กินส์ ในบทดัลตั้นลูกชายคนกลาง เด่นขึ้นกว่าเดิม เพราะมีภารกิจให้ต้องทำมากกว่านอนอยู่บนเตียงเฉยๆแบบภาคแรก โรส เบิร์น ให้การแสดงออกที่น่าเชื่อถือและน่าสงสาร ในบทแม่ผู้ตัองรับมือกับความเฮี้ยนของวิญญาณที่มาคุกคามครอบครัว
ส่วนทีมนักล่า ท้า ผี ยังคงเป็นสีสันที่ช่วยเติมเต็มให้ลุ้นสนุกขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ตลกที่ "เยอะ" เหมือนภาคก่อน เช่นเดียวกับดนตรีประกอบที่ยังใช้ของเดิม กับซาวด์ดนตรีโทนแหลมบาดหูอันคุ้นเคย มากระตุ้นต่อมความหวาดกลัว เข้ากันได้ดีเหลือเกินกับภาพสยองขวัญในอดีตที่ค่อยๆคลายปมออกมา ให้เห็นความป่วยอันแสนวิปริตของตัวละครต้นกำเนิดเรื่องราว ที่เหมือนหยิบเอาจิ๊กซอว์ไปเชื่อมกับรอยต่อของภาคที่เเล้วแบบเนียนสนิท จากที่เคยเป็นของฮิตในปี 2010 ในที่สุดเจมส์ วาน ก็ทำให้ผลงานหนังภาคต่อเรื่องนี้ เป็นของฮิตของปี 2013 ได้อีกครั้ง ผลบุญจากภาคแรกและอานิสงส์จาก The Conjuring นี่เฮี้ยนจริงๆว่ามั้ย?
ระดับความหลอน "B+"
By Bigtum
***บทความชิ้นนี้เปิดเผยเนื้อหาของหนัง***
สองเรื่องในปีเดียวเลยนะคุณเจมส์ วาน ที่สามารถกระตุกขวัญคนดูไปกับบรรยากาศหลอนๆในหนังผีของคุณได้เนี่ย หากพิศมัยหนังสยองขวัญ เชื่อว่าหลายคนคงยกตำแหน่งเจ้าพ่อหนังผีที่ครองใจคนดูมากที่สุดประจำปี 2013 ให้กับผู้กำกับคนนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะผลงานก่อนหน้าทั้ง The Conjuring และล่าสุดอย่าง Insidious: Chapter 2 ต่างก็มาพร้อมกับความหลอนที่สร้างความประทับใจ ให้รู้สึกเสียวสันหลังกันเล่นๆ โดยที่ผียังไม่โผล่ออกมาด้วยซ้ำ เอาล่ะ จะเริ่มเข้าสู่โหมดสปอยล์แล้วนะ ขอเตือนว่าไปดูหนังก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านทีหลังยังทันนะตอนนี้!
ใน The Conjuring จะเห็นว่ามุขเบสิคๆอย่างเสียงปรบมือเปาะเเปะนั้นสามารถเอามาเล่นให้น่ากลัวได้ ใน Insidious ภาคนี้ ก็เอาของเล่นประดิษฐ์มือง่ายๆจากสมัยเด็กๆ มาเล่นให้น่ากลัวได้อีกเเล้วเช่นกัน มันคือโทรศัพท์กระป๋อง ที่เจาะรูร้อยเชือกใส่เข้าไป ดึงสายตึงๆแล้วก็คุยกัน เบสิคป่ะล่ะ! แต่ใครเล่าจะคิดว่ามันจะถูกนำมาใช้เป็นมุขหลอนๆให้ตัวละครเด็กในเรื่องสื่อสารกับวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในตู้ ฉากนี้ผู้เขียนชอบมากๆ เค้าจัดการซัดเราด้วยมโนภาพแห่งจินตนาการ ความมืดจากในตู้ทำให้เรารู้สึกขนลุกเย็นวาบได้ง่ายๆ ก่อนจะตบท้ายด้วยภาพสุดช็อคซึ่งเป็นใครก็ต้องขวัญกระเจิงแน่ๆ ถ้าได้เจอเเบบนี้
อีกมุขที่ทำให้ต้องสะดุ้งสุดตัว คือฉากในโรงพยาบาลที่เด็กอยู่ในห้องผู้ป่วย กำลังเล่นซนไปจับเครื่องมือเเพทย์ จู่ๆก็... มาแบบไม่ให้ตั้งตัวอย่างนี้ หัวใจจะวายสิครับ! สะดุ้งจริงๆฉากนี้ นั่นยังไม่นับรวมพวกรถเข็นเด็ก วิทยุฟังเสียงในบ้านที่มีมาตั้งแต่ในภาคแรก สิ่งของเหล่านี้ดูจะเป็นความจงใจและเป็นประโยชน์อย่างมากในการเพ่งสมาธิแล้วหลอกให้กลัว หนังดำเนินเรื่องต่อจากตอนจบในภาคที่เเล้ว เราได้รู้แล้วว่า จอร์ช แลมเบิร์ต (เเพทริก วิลสัน) อดีตตอนเด็กเค้ามีความสามารถพิเศษอะไร หลังจากที่ไปช่วยลูกชายคนกลางอย่าง ดัลตั้น (ไท ซิมพ์กินส์) ให้กลับมาจากโลกแห่งฝันร้าย
หนังทิ้งท้ายให้เห็นว่างานนี้จอร์ชไม่ได้กลับมาคนเดียว แต่ได้พาบางสิ่งที่ชั่วร้ายกลับมาด้วย พร้อมกับการตายของเอลลิส (ลิน เชย์) หญิงสาวผู้ที่มาทำพิธีกรรมช่วยเหลือครอบครัวของจอร์ช สำหรับ Chapter 2 หนังเปิดความหลอนด้วยการย้อนกลับไปในอดีตสมัยตอนที่จอร์ชยังเด็กๆ เผยให้เห็นว่าทำไมนักถอดจิตขั้นเทพอย่างเค้าถึงถูกปิดญาณจนสูญเสียความทรงจำในส่วนนี้ และที่เด็ดสุดในภาคนี้คือตัวจริงของหญิงแก่สวมผ้าคุมหัวที่ตามติดจอร์ชมานั้น รู้อดีตแล้วจะต้องผวา รวมทั้งวิญญาณร้ายตัวใหม่สุดโหด ที่ดุยิ่งกว่าตัวเดิม งานนี้บรรยากาศสยองขวัญแบบหนังผีในยุคเก่าๆมาครบ
คนเขียนบทหนังคือ ลีห์ แวนเนลล์ คนที่แสดงเป็นผู้ช่วยพิธีกรรมถอดจิต ผู้ชายคนที่ใส่แว่นที่มากับตาอ้วนมีหนวดเจ้าของฉากตลกๆนั่นแหละ บทหนังของเค้าฉลาดมาก เข้าใจเชื่อมโยงต่อติดเรื่องราวของภาคที่แล้วกับภาคนี้ได้อย่างแยบยลกลมกลืน ซึ่งงานยากของเเวนเนลล์และเจมส์ วาน (เขียนบทร่วม) คือภาคต่อไป ว่าเค้าจะเอาอะไรมาเล่นต่อ เเละต้องไม่ให้มาตรฐานตกต่ำลงด้วย แต่ดูจากตอนจบของภาคสองก็อาจจะพอมองเห็นเค้าลางได้เป็นนัยๆอยู่ ส่วนอันนี้สำคัญมาก ใครที่ยังไม่เคยดูภาคเเรกให้หามาดูด่วน เพราะมันเชื่อมโยงถึงกัน โดยเฉพาะในแง่อรรถรสแล้วคนที่ดูภาคแรกมาจะเก็ตมุขและดูสนุกกว่าแน่ๆ
หลังจากไปเป็นเอ๊ด วอร์เรน นักปราบผีวิทยา ใน The Conjuring แพทริก วิลสันกลับมารับบทเดิม จอร์ช แลมเบิร์ต หัวหน้าครอบครัวที่ไปช่วยลูกชายคนกลางที่หาทางกลับบ้านไม่ได้หลังถอดจิตไปติดอยู่ที่โลกวิญญาณอันแสนน่ากลัว วิลสันยังคงเยี่ยมกับบทผู้เป็นพ่อที่ห่วงใยครอบครัว และดูน่ากลัวยามเมื่อถูกวิญญาณร้ายสิงสู่ครอบงำ เจ้าหนูไท ซิมพ์กินส์ ในบทดัลตั้นลูกชายคนกลาง เด่นขึ้นกว่าเดิม เพราะมีภารกิจให้ต้องทำมากกว่านอนอยู่บนเตียงเฉยๆแบบภาคแรก โรส เบิร์น ให้การแสดงออกที่น่าเชื่อถือและน่าสงสาร ในบทแม่ผู้ตัองรับมือกับความเฮี้ยนของวิญญาณที่มาคุกคามครอบครัว
ส่วนทีมนักล่า ท้า ผี ยังคงเป็นสีสันที่ช่วยเติมเต็มให้ลุ้นสนุกขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ตลกที่ "เยอะ" เหมือนภาคก่อน เช่นเดียวกับดนตรีประกอบที่ยังใช้ของเดิม กับซาวด์ดนตรีโทนแหลมบาดหูอันคุ้นเคย มากระตุ้นต่อมความหวาดกลัว เข้ากันได้ดีเหลือเกินกับภาพสยองขวัญในอดีตที่ค่อยๆคลายปมออกมา ให้เห็นความป่วยอันแสนวิปริตของตัวละครต้นกำเนิดเรื่องราว ที่เหมือนหยิบเอาจิ๊กซอว์ไปเชื่อมกับรอยต่อของภาคที่เเล้วแบบเนียนสนิท จากที่เคยเป็นของฮิตในปี 2010 ในที่สุดเจมส์ วาน ก็ทำให้ผลงานหนังภาคต่อเรื่องนี้ เป็นของฮิตของปี 2013 ได้อีกครั้ง ผลบุญจากภาคแรกและอานิสงส์จาก The Conjuring นี่เฮี้ยนจริงๆว่ามั้ย?
ระดับความหลอน "B+"
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
เราก็ว่าน่ากลัวนะ เพิ่งไปดูมาเมื่อวาน
ไม่ได้หลอนมากอ้ะ แต่เมื่อคืนนอนไม่หลับเลย
เสียงประกอบหลอนจริง
เราว่าที่น่ากลัวสุด คือฉากเปิดเรื่องกับฉากจบเรื่อง
โคตรตกใจ ให้อารมณ์หนังสยองขวัญสมัยก่อนมาก
ไอพี: ไม่แสดง
ถือว่าน้อยนะครับ ที่จะมีหนังผีภาคต่อที่เรียกได้ว่าดีกว่า หรือเทียบเท่ากับภาคแรกได้สมน้ำสมเนื้อ ไม่ได้ดร็อปลงไปเลย หนำซ้ำยังใช้วิธีการเล่นกับความรู้สึกคนดูแบบไม่ต้องเอฟเฟคมากเรื่องมากราว ผมซึ่งเป็นคนตกใจยาก เดาจังหวะหนังได้ก็ยังมีตกใจเป็นระยะ แต่ไม่ถึงกับกรี๊ดออกมานะครับ เรียกได้ว่าภาคนี้คลายปมที่มีในภาคแรกหลายๆอย่างเลยทีเดียว ไม่ค้างคา จะค้างคาก้อีตอนท้ายหน่อยนึงยังจะอุตสาห์ทิ้งทวนเผื่ออีกแน่ะ
สรุปว่าสนุกครับ ชอบทั้ง 3 เรื่องเลย Insedious 1-2 // Conjuring (ชอบช็อตปรบมือแปะๆมาก)
ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google