วิจารณ์ Inside Llewyn Davis ทำไมต้อง คน กีตาร์ แมว?
12 ม.ค. 57 14:11 น. /
ดู 1,714 ครั้ง /
4 ความเห็น /
0 ชอบจัง
/
แชร์
Inside Llewyn Davis
By Bigtum
: คนขี้แพ้ที่ยังไม่ละทิ้งความฝัน
หนังอินดี้ดนตรีโฟล์กของหนึ่งชาย
กับลวดลายดีดกีตาร์อารมณ์ผัน
จากสรัางสรรค์งานสร้างชื่อกับคู่หู
มาอดสูเพราะเพื่อนจากดิ้นลำพัง
เมื่อถึงวันก้าวเดินต่อก็ต้องไป
ชีวิตนี้หาที่ซุกหัวนอนได้
แต่ต้องไหว้ขอพึ่งพาเพื่อนอาศัย
ครั้นให้เดินทางไกลก็จะจำใจ
อดทนไว้งบมีน้อยคอยโบกเอา
ครั้นจะกล่าวถึงแมวเหมียวเหลียวหันไป
เวรแล้วไหมมันวิ่งหนีซี้แล้วเรา
แมวของเขาเหาขึ้นหัวกลัวขึ้นใจ
ขืนปล่อยไว้ไซร้พาลพาดวงซวยเลย
งานด้านภาพจัดว่าได้ความคลาสสิค
มีกิมมิคยุค 60 ชวนหลงใหล
ต่อให้เพลงเศร้าขมขื่นสักเพียงไร
ให้ฟังไว้ความเรียบง่ายแสนงดงาม
Inside Llewyn Davis คือผลงานกำกับ/เขียนบทของสองพี่น้อง โจล และอีธาน โคเอน ที่บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งในยุค 1961 ที่ชื่อ เลวิน เดวีส (ออสการ์ ไอเเซ็ค) ซึ่งเปิดเรื่องด้วยการร้องเพลงโฟล์กในแกสไลท์ คาเฟ่ ก่อนจะย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นาน แน่นอนว่าไม่ได้นำเสนอออกมาเป็นหนังชีวประวัติ เเต่เป็นเหมือนหนังโร้ดมูฟวี่มากกว่า ซึ่งการเดินทางในช่วงเวลาสั้นๆของผู้ชายคนนี้ก็เหมือนกับการบอกให้รู้ว่า ในความ "ขี้แพ้" ของเค้าก็ยังมีจุดดี จุดเด่น ที่มันน่าสนใจอยู่เหมือนกันนะ มีมุมให้ได้เก็บไปคิด เก็บไปวิเคราะห์ ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เหมือนกับไฟที่มอดยาก ทั้งที่เชื้อเพลิงก็ร่อเเร่จะหมดอยู่รอมร่อแท้ๆ
พูดถึงเรื่องพรสวรรค์แล้ว เลวินมีเหลือเฟือไม่แพ้ใครๆ แต่ด้วยความอีโก้สูงในเรื่องศาสตร์ศิลป์ทางดนตรีของเขาเนี่ยแหละ ที่ทำให้ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กระทบมาจนถึงปัจจัยหลักอย่างการหาที่ซุกหัวนอนไปวันๆ ยังดีที่นักร้องหญิงที่เคยเป็นกิ๊กเก่าอย่าง จีน (แครี่ มุลลิเเกน) ให้ที่พึ่งพิงอาศัยชั่วคราว ด้วยการให้นอนที่โซฟา ซึ่งก็เหมือนไม่เต็มใจ เพราะเธอแสดงอาการโมโหใส่เลวินอยู่ตลอดเวลาเพราะเหตุผลบางอย่าง และแฟนปัจจุบันที่เป็นคู่หูทางดนตรีอย่าง จิม (จัสติน ทิมเบอร์เลก) ก็ใจกว้างพอที่จะให้เลวินเข้ามามีส่วนร่วมในผลงานเพลงด้วย ซึ่งก็ทำให้เลวินมีรายได้เข้ามาก้อนหนึ่ง ต่ออายุได้ขึ้นมาอีกนิด
งานของพี่น้องโคเอนเรื่องนี้ดูแล้วแตกต่างจากหนังดังที่สร้างชื่อเรื่อง No Country for Old Men อยู่มาก เป็นงานประดิษฐ์ที่มาพร้อมกับความบ้านๆ ไม่ได้หวือหวาจัดจ้าน แต่ว่าก็ได้ใจในแบบจริงใจตรงไปตรงมา ออสการ์ ไอเเซ็ค กับการแสดงที่ทำให้เราเชื่อว่าหมอนี่ไม่ใช่คนเลวร้าย ทั้งที่วีรกรรมที่ไปก่อให้แก่คนรอบข้างนั้นโคตรจะเลวร้ายสุดๆ ก็คือมันเลวนั่นแหละ แต่เป็นความเลวที่สามารถให้อภัยได้ เป็นพวกขาดจิตสำนึกในเรื่องใหญ่ แต่ดันไปมีจิตสำนึกในเรื่องเล็กๆอย่างการตามหาแมว เข้าใจว่าที่หนังใส่แมวเข้ามาก็เพื่อเป็นการสำนึกผิดของตัวละคร เหมือนเป็นการไถ่โทษ จุดนี้เเหละที่บอกว่าถึงจะเลว แต่ก็เป็นคนเลวที่เราเกลียดไม่ลง
นอกจากนี้เรื่องเพลงที่ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของหนังนั้น ยังมาพร้อมกับอารมณ์ขันกวนๆที่เสียดสีสถานะของตัวละครในขณะนั้นได้อย่างคมคาย ไม่ว่าจะเป็นฉากเปิด-ปิด ฉากร้องเพลงให้พ่อ หรือฉากร้องเพลงในสถานที่ต่างๆก็ตาม แม้จะเป็นดนตรีโฟล์กจากยุค 60s แต่เนื้อหาของเพลงนั้นถือว่าไม่ธรรมดา เมื่อมันให้อารมณ์หวานอมขมกลืน ซึ่งนายเลวินนี่ก็ชอบจัง แต่ละเพลงที่ร้องออกมาจากปากเค้านี่มันช่างขมขื่น จะตอกย้ำความเป็นพวกขี้เเพ้ไปไหน แต่ก็ยอมรับแหละว่ามันถูกจริตกับหู ฟังแล้วไพเราะในแบบฉบับที่ควรค่าแก่การตามหาซาวน์แทร็คมาฟัง
"คน กีตาร์ แมว" คือชื่อไทยของหนัง ที่หากแค่ได้ยินแต่ชื่อก็อาจทำให้นึกไม่ออกว่าจะเป็นหนังแบบไหน แต่ถ้ามองอีกแง่นึงนั้น ก็ถือว่ามาแบบซื่อๆตรงๆเหมาะสมกับหนังดี อีกหนึ่งผลงานที่มาพร้อมกับตัวละครของคนล้มเหลวที่นำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ เพราะบางทีพวกเราก็ดูตัวละครที่ประสบความสำเร็จกันมาเยอะแล้ว ลองเปลี่ยนมาดูแง่มุมชีวิตแบบนี้บ้างก็ถือว่าไม่เลวนะ
ระดับคะเเนน "B+"
ติดตามอ่านรีวิวเรื่องอื่นๆได้อีก อาทิ Jack Ryan: Shadow Recruit, Jackass Presents: Bad Grandpa ได้ที่
https://www.facebook.com/pages/The-.........101573433344532
By Bigtum
: คนขี้แพ้ที่ยังไม่ละทิ้งความฝัน
หนังอินดี้ดนตรีโฟล์กของหนึ่งชาย
กับลวดลายดีดกีตาร์อารมณ์ผัน
จากสรัางสรรค์งานสร้างชื่อกับคู่หู
มาอดสูเพราะเพื่อนจากดิ้นลำพัง
เมื่อถึงวันก้าวเดินต่อก็ต้องไป
แต่ต้องไหว้ขอพึ่งพาเพื่อนอาศัย
ครั้นให้เดินทางไกลก็จะจำใจ
อดทนไว้งบมีน้อยคอยโบกเอา
ครั้นจะกล่าวถึงแมวเหมียวเหลียวหันไป
เวรแล้วไหมมันวิ่งหนีซี้แล้วเรา
แมวของเขาเหาขึ้นหัวกลัวขึ้นใจ
ขืนปล่อยไว้ไซร้พาลพาดวงซวยเลย
งานด้านภาพจัดว่าได้ความคลาสสิค
มีกิมมิคยุค 60 ชวนหลงใหล
ต่อให้เพลงเศร้าขมขื่นสักเพียงไร
ให้ฟังไว้ความเรียบง่ายแสนงดงาม
Inside Llewyn Davis คือผลงานกำกับ/เขียนบทของสองพี่น้อง โจล และอีธาน โคเอน ที่บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งในยุค 1961 ที่ชื่อ เลวิน เดวีส (ออสการ์ ไอเเซ็ค) ซึ่งเปิดเรื่องด้วยการร้องเพลงโฟล์กในแกสไลท์ คาเฟ่ ก่อนจะย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นาน แน่นอนว่าไม่ได้นำเสนอออกมาเป็นหนังชีวประวัติ เเต่เป็นเหมือนหนังโร้ดมูฟวี่มากกว่า ซึ่งการเดินทางในช่วงเวลาสั้นๆของผู้ชายคนนี้ก็เหมือนกับการบอกให้รู้ว่า ในความ "ขี้แพ้" ของเค้าก็ยังมีจุดดี จุดเด่น ที่มันน่าสนใจอยู่เหมือนกันนะ มีมุมให้ได้เก็บไปคิด เก็บไปวิเคราะห์ ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้เหมือนกับไฟที่มอดยาก ทั้งที่เชื้อเพลิงก็ร่อเเร่จะหมดอยู่รอมร่อแท้ๆ
พูดถึงเรื่องพรสวรรค์แล้ว เลวินมีเหลือเฟือไม่แพ้ใครๆ แต่ด้วยความอีโก้สูงในเรื่องศาสตร์ศิลป์ทางดนตรีของเขาเนี่ยแหละ ที่ทำให้ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กระทบมาจนถึงปัจจัยหลักอย่างการหาที่ซุกหัวนอนไปวันๆ ยังดีที่นักร้องหญิงที่เคยเป็นกิ๊กเก่าอย่าง จีน (แครี่ มุลลิเเกน) ให้ที่พึ่งพิงอาศัยชั่วคราว ด้วยการให้นอนที่โซฟา ซึ่งก็เหมือนไม่เต็มใจ เพราะเธอแสดงอาการโมโหใส่เลวินอยู่ตลอดเวลาเพราะเหตุผลบางอย่าง และแฟนปัจจุบันที่เป็นคู่หูทางดนตรีอย่าง จิม (จัสติน ทิมเบอร์เลก) ก็ใจกว้างพอที่จะให้เลวินเข้ามามีส่วนร่วมในผลงานเพลงด้วย ซึ่งก็ทำให้เลวินมีรายได้เข้ามาก้อนหนึ่ง ต่ออายุได้ขึ้นมาอีกนิด
งานของพี่น้องโคเอนเรื่องนี้ดูแล้วแตกต่างจากหนังดังที่สร้างชื่อเรื่อง No Country for Old Men อยู่มาก เป็นงานประดิษฐ์ที่มาพร้อมกับความบ้านๆ ไม่ได้หวือหวาจัดจ้าน แต่ว่าก็ได้ใจในแบบจริงใจตรงไปตรงมา ออสการ์ ไอเเซ็ค กับการแสดงที่ทำให้เราเชื่อว่าหมอนี่ไม่ใช่คนเลวร้าย ทั้งที่วีรกรรมที่ไปก่อให้แก่คนรอบข้างนั้นโคตรจะเลวร้ายสุดๆ ก็คือมันเลวนั่นแหละ แต่เป็นความเลวที่สามารถให้อภัยได้ เป็นพวกขาดจิตสำนึกในเรื่องใหญ่ แต่ดันไปมีจิตสำนึกในเรื่องเล็กๆอย่างการตามหาแมว เข้าใจว่าที่หนังใส่แมวเข้ามาก็เพื่อเป็นการสำนึกผิดของตัวละคร เหมือนเป็นการไถ่โทษ จุดนี้เเหละที่บอกว่าถึงจะเลว แต่ก็เป็นคนเลวที่เราเกลียดไม่ลง
นอกจากนี้เรื่องเพลงที่ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของหนังนั้น ยังมาพร้อมกับอารมณ์ขันกวนๆที่เสียดสีสถานะของตัวละครในขณะนั้นได้อย่างคมคาย ไม่ว่าจะเป็นฉากเปิด-ปิด ฉากร้องเพลงให้พ่อ หรือฉากร้องเพลงในสถานที่ต่างๆก็ตาม แม้จะเป็นดนตรีโฟล์กจากยุค 60s แต่เนื้อหาของเพลงนั้นถือว่าไม่ธรรมดา เมื่อมันให้อารมณ์หวานอมขมกลืน ซึ่งนายเลวินนี่ก็ชอบจัง แต่ละเพลงที่ร้องออกมาจากปากเค้านี่มันช่างขมขื่น จะตอกย้ำความเป็นพวกขี้เเพ้ไปไหน แต่ก็ยอมรับแหละว่ามันถูกจริตกับหู ฟังแล้วไพเราะในแบบฉบับที่ควรค่าแก่การตามหาซาวน์แทร็คมาฟัง
"คน กีตาร์ แมว" คือชื่อไทยของหนัง ที่หากแค่ได้ยินแต่ชื่อก็อาจทำให้นึกไม่ออกว่าจะเป็นหนังแบบไหน แต่ถ้ามองอีกแง่นึงนั้น ก็ถือว่ามาแบบซื่อๆตรงๆเหมาะสมกับหนังดี อีกหนึ่งผลงานที่มาพร้อมกับตัวละครของคนล้มเหลวที่นำเสนอออกมาได้อย่างน่าสนใจ เพราะบางทีพวกเราก็ดูตัวละครที่ประสบความสำเร็จกันมาเยอะแล้ว ลองเปลี่ยนมาดูแง่มุมชีวิตแบบนี้บ้างก็ถือว่าไม่เลวนะ
ระดับคะเเนน "B+"
ติดตามอ่านรีวิวเรื่องอื่นๆได้อีก อาทิ Jack Ryan: Shadow Recruit, Jackass Presents: Bad Grandpa ได้ที่
https://www.facebook.com/pages/The-.........101573433344532
แก้ไขล่าสุด 17 ม.ค. 57 14:10 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google