ARM•° [คลัง] ตำนานสยองขวัญ UP !! Bloody Mary.

17 มี.ค. 57 19:54 น. / ดู 16,509 ครั้ง / 243 ความเห็น / 98 ชอบจัง / แชร์


ยินดีต้อนรับเข้าสู่กระทู้
บางสิ่งบางอย่างรอบๆตัวคุณ
อาจมีบางสิ่งแอบแฝงอยู่ อยู่ที่ว่า ..
มัน จะปรากฎตัวให้เห็นหรือไม่ แค่นั้น
สิ่งที่คิดว่ามันคือ ตำนาน ไม่มีจริง อาจไม่ใช่อีกต่อไป
ที่แห่งนี้ จะเปิดเผยความลึกลับให้ได้ชม
 


สารบัญ

Suicidemouse ......... ......... ......... ......... ......... ......... ..... คห. 10

Tomino Hell ......... ......... ......... ......... ......... ......... ..... ...... คห. 21

Username 666 ......... ......... ......... ......... ......... ......... ..... คห. 35

Horror Combo ......... ......... ......... ......... ......... ......... ...... . คห. 44

Squidward ......... ......... ......... ......... ......... ......... ..... ...... คห. 51

Abandoned by Disney ......... ......... ......... ......... ......... ........ คห. 63

The Elevator Game ......... ......... ......... ......... ......... ........ คห. 69

Horror Combo 2 ......... ......... ......... ......... ......... ......... ....... คห. 81

The Bath Game ......... ......... ......... ......... ......... ........ .... คห. 88

Horror Combo 3 ......... ......... ......... ......... ......... ......... ....... คห. 97

The Grinning Man ......... ......... ......... ......... ......... ........ . คห. 107

The expressionless ......... ......... ......... ......... ......... ......... ... คห. 112

Closet Game ......... ......... ......... ......... ......... ......... ....... คห. 119

The Licked Hand ......... ......... ......... ......... ......... ......... ..... คห. 127

The Haunted House Part1 ......... ......... ......... ......... ......... คห. 136

The Haunted House Part2 ......... ......... ......... ......... ......... .... คห. 148

The Haunted House Part3 ......... ......... ......... ......... ......... คห. 150

Slender man ......... ......... ......... ......... ......... ......... ......... ..... คห. 162

The Hands Resist Him ......... ......... ......... ......... ......... .... คห. 169

ตำนานสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ by #Prynce.P......... ......... ......... ......... คห. 179

Jeff the killer ......... ......... ......... ......... ......... .... ......... .... คห. 180

Horror Combo 4 ......... ......... ......... ......... ......... ......... ...... .. คห. 189

The Haunted House Part4 ......... ......... ......... ......... ......... คห. 192

SCP ......... ......... ......... ......... ......... ......... ...... ........ .... ....... คห. 198

The Haunted House Part5 ......... ......... ......... ......... ......... คห. 206

Horror Combo 5 ......... ......... ......... ......... ......... ......... ...... .. คห. 207

Elisa lam ......... ......... ......... ......... ......... ......... ..... ......... คห. 218

Cursed movies ......... ......... ......... ......... ......... ......... ...... ..... คห. 226

Real Life Scary Stories ......... ......... ......... ......... ......... ..... คห. 233

Bloody Mary ......... ......... ......... ......... ......... ......... ...... ...... .... คห. 240



เฉลยเรื่องข้อความ จาก Horror Combo  คห.69
เฉลยเรื่อง The Tundra จาก Horror Combo 2 คห.97

แก้ไขล่าสุด 26 ธ.ค. 57 10:13 | เลขไอพี : ไม่แสดง

มุมสมาชิก กระทู้ล่าสุดโดย Anymore.

แสดงกระทู้ล่าสุดโดยเปิด มุมสมาชิก และเลือกแสดงกระทู้ที่ตั้ง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

ขณะนี้แสดงแค่ 100 ความคิดเห็นล่าสุดเท่านั้น
คลิกที่นี่เพื่อดูความคิดเห็นทั้งหมด

#142 | .อุแม่จ้าว | 6 พ.ค. 57 23:56 น.

แปะก่อนนะค้าบบ
กลางคืนแล้วหลอน 

ไอพี: ไม่แสดง

#143 | :h์8y้0ุu๋ | 7 พ.ค. 57 11:07 น.

น่ากลัวจริมๆ 

ไอพี: ไม่แสดง

#144 | FaTtY..Emily | 7 พ.ค. 57 11:46 น.

เพิ่งจะมาเจอคลังนี้ชอบมากกก ขอบคุณมากค่าาไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อนหลอนดี

ไอพี: ไม่แสดง

#145 | Mrs.Wang | 7 พ.ค. 57 13:48 น.

อ่านไปก็ฮาไปหลอนไป55

ไอพี: ไม่แสดง

#146 | kkkkkk | 7 พ.ค. 57 14:19 น.

หลอนอะขอบคุณมากๆค่าา

ไอพี: ไม่แสดง

#147 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 7 พ.ค. 57 17:20 น.

เอาอีกกกกกกกกก อ่านรวดเดียวครบทุกเรื่องเลย ฟิน 

เอาอีกกกกกกกกก อ่านรวดเดียวครบทุกเรื่องเลย ฟิน 

ไอพี: ไม่แสดง

#148 | Anymore. | 7 พ.ค. 57 19:20 น.

   


The Haunted House Part2


    เรื่องที่สาม ผีกดออดหน้าบ้าน
เคยได้ยินเรื่องที่ว่า ถ้ามีคนมากดออดบ้านเวลาตี3 คนในบ้านห้ามทักไหม ผมเจอมาแล้ว คืนนั้นตี3 มีคนมากดออดที่บ้านผมผมก็ลงไปดูด้วยความที่ผมรู้เรื่องพวกนี้เยอะ ผมเลยไม่ถามว่าไคร เพราะนั้นคือการตอบรับให้วิญญานเข้าบ้าน ผมเปิดประตูออกไปดูเลย ปรากฏว่าไม่มีไคร แล้วผมก็ขึ้นไปนอนโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ผมได้ทำการ "ทัก" ที่มากกว่าการพูดว่านั้นไครไปแล้วโดยการเปิดประตูให้เลยทีเดียว "โถเอยไอเราก็แค่คิดว่าห้ามถามว่าไครเฉยๆ" วันรุ่งขึ้นมันเอาเลยครับ ข้าวของในบ้านผมย้ายที่หมด พัดลมไปอยู่กลางบ้าน เก้าอี้ล้ม ข้าวของสลับที่หมด ผมกับที่บ้านตกใจ เกิดอะไรขึ้น นึกว่าขโมย แต่ดูแล้วไม่มีอะไรหาย


    พอเปิดตู้เย็นถึงกับช็อคเลยครับ ของที่อยู่ในช่องแช่แข็งย้ายมาอยู่ในช่องธรรมดาของที่อยู่ในช่องธรรมดาไปอยู่ในช่องแช่แข็งหมด ที่บ้านผมกินน้ำเป็นขวดแก้วอะครับ น้ำแตกหมดทุกขวดเพราะเย็นจัด ของที่อยู่ในช่องฟิตแล้วมาอยู่ช่องปกติก็เน่า + ละลายหมด ทันไดนั้นผมได้กลิ่นไหม้แล้วได้ยินเสียง วี๊ดดดดดดดด ผมรู้ทันทีเสียงจากเครื่องทำน้ำร้อนผมรีบไปดู ปรากฏว่ามีควันออกจากเครื่องทำน้ำร้อน ผมจึงรีบดึงออก พอตรวจดูปรากฏว่ามีคนเสียบปลั๊กโดยที่ในเครื่องไม่มีน้ำทำให้เครื่องไหม้ ต่อด้วยได้ยินเสียงเครื่องไมโครเวฟทำงาน อืด.... ผมก็รีบก้มไปปิดและดึงปลั๊กออกทันที

    พอเปิดไมโครเวฟก็เจอช้อนเงินกะซ้อมอยู่ข้างในเต็มไปหมด ผมเริ่มรับมือไม่ไหวเลยไปปลุกแม่ให้มาช่วยรับสถานการณ์ พอเล่าให้แม่ฟังแม่บอกว่าไม่น่าใช่ตัวที่อยู่ในบ้านเราเพราะมันไม่เคยทำแบบนี้ ผมนึกขึ้นได้เรื่องเมื่อคืนก็เล่าให้ฟังแม่ผมบอก ไอบ้า แกเปิดประตูให้อะยิ่งกว่าทักเขาอีก แม่เลยตะโกนลั่นบ้านว่า เมิงหยุดเดียวนี้ เดียวกุจะไปทำบุญให้แต่ถ้าเมิงไม่เลิกก็อย่าเอาเลยบุญอะ แล้วแม่ผมก็ไปทำบุญโดยให้ผมอยู่บ้านดูสถานการณ์กลัวบ้านไฟไหม้..  แล้วหลังจากนั้นก็สงบไม่มีอะไรรุนแรง แต่ เหมือนเดิมครับ มันก็ไม่ไปไหนมันก็อยู่ในบ้านผมต่อเลย - -

    เนื้อหาเพิ่มเติม  ความอดทนสิ้นสุดลง
    หลังจากเหตุการเรื่องที่ สาม ดูเหมือนผีในบ้านผมมันจะได้ใจ มันเที่ยวหลอกคนนั้นคนนี้ไปทั่ว จนคนใช้บ้านผมต้องลาออกไป และไม่ว่าจะจ้างไครมาใหม่เขาก็จะโดนหลอกจนหนีไปทุกครั้ง การงานพ่อผมก็แย่ลงๆ ทำไรก็ไม่ขึ้น แม่ผมก็ค้าขายไม่ได้เลย จนแม่ผมทนไม่ไหว ตะโกนด่าผีอีกเช่นเดิม พวกเมิงมาขออยู่ทำไมไม่ช่วยเหลือกุบ้าง หวยอะเคยบอกกุสักงวดไหม(พอถึงตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ผมถึงให้อยู่ จะเอาหวยนี้เองโถ)


    แม่ผมพูดต่อกุให้อยู่ทำบุญให้ก็ดีแล้วพวกเมิงยังจะก่อความเดือดร้อนอีก มาหลอกลูกกุมั่ง หลอกลูกค้ามั่ง หลอกพนักงานมั่ง ต่อไปนี้กุขอสั่งเลยว่าให้พวกเมิงอยู่ได้แค่ชั้น 3 ของบ้าน ห้ามลงมาเด็ดขาด ไม่งั้นก็ออกไป (บ้านผมมี3ชั้นครึ่ง มีชั้น1 ชั้น ลอย ชั้น2 และชั้น3) ผมรีบสกิดแม่ แม่ๆ ชั้น 3 มันห้องพระไม่ใช่เหรอ แม่บอกช่างมันอยู่ได้ก็อยู่อยู่ไม่ได้ก็เรื่องของมัน (โหดแท้ ชั้น3 ผมจะแบ่งเป็น 2ห้องห้องแรกถ้าเดินขึ้นไปก็จะเจอเลยคือห้องเก็บของ ห้องต่อไปคือห้องพระ และเป็นห้องนอนคนใช้ด้วย) ตั้งแต่นั้นมาเหมือพวกมันจะเชื่อฟังพอควรเหตุการแปลกเริ่มน้อยลง แต่ได้อย่างอื่นมาแทน พวกผมนอนห้องเดียวกันหมด ซึงอยู่ชั้น2  อยู่ใต้พวกมันพอดี .  .  .  .  .และความกวนตินก็เกิดขึ้นต่อเนื่อง

    เรื่องที่สี่ ผีเล่นลูกแก้ว
เนื่องจากด้วยคำสั่งประกาศิตของแม่ผม พวกผีทั้งหมดก็ไปอยู่ชั้น3 บนห้องนอนของครอบครัวผม ผมคิดว่าพวกมันคงอยากประท้วงมันเลยหาวิธีที่ผมถือว่ากวนทีนและน่ารำคาญที่สุดใน 3 โลก ทุกคืน เวลา 5ทุ่มเป็นต้นไป เวลาที่บ้านผมกำลังจะหลับกัน ก็จะได้ยินเสียง คนดีดลูกแก้ว ดัง กิ๊ก . . . . . . . . กิ๊ก . . . . . กิ๊ก . . . กิ๊ก . . กิ๊ก กิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนเงียบไป (ใครเคยดีดลูกแก้วในบ้านจะเข้าใจ) มัน จะเล่น อยู่แบบนั้น ทั้งคืน ขอย้ำว่า ทั้งคืนจริงๆ ครับจนเช้า ครอบครัวผมต้องทนฟังเสียงเล่นลูกแก้วทั้งคืนทุกวันนานหลายปีเลยครับ วันไหนแม่ผมทนไม่ได้ก็เอาไม้กวาด กระทุงเพดานและก็พูดว่า เงียบๆโว้ย คนจะนอน สินสุดเสียงแม่ มานก็เล่นทันทีครับ กิ๊ก    กิ๊ก    กิ๊ก



แก้ไขล่าสุด 7 พ.ค. 57 19:31 | ไอพี: ไม่แสดง

#149 | #Prynce.P | 7 พ.ค. 57 20:32 น.

ต่อค่ะ ต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#150 | Anymore. | 8 พ.ค. 57 19:26 น.

   


The Haunted House Part3


    เรื่องที่ห้า ผีชั้น 3
เนื่องจากชั้น 3 เป็นห้องเก็บของและห้องพระ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผมจะต้องขึ้นไปบ่อย
ไปหาของมั่ง ไปเปลี่ยนน้ำพระทุกวันพระมั่ง ถามว่าทำไมเป็นผม เพราะมีผมกะแม่แค่ 2 คนในบ้านที่กล้าพอจะขึ้นไปชั้น 3 ผมเคยลองให้เพื่อนๆผมมาเที่ยวบ้านและบอกให้ขึ้นไปหยิบของชั้น 3 โดยที่ผมไม่เล่าอะไรให้มันฟังทั้งสิ้น ทุกคนได้แต่ยืนอยู่หน้าประตูทางขึ้นชั้น 3 โดยไม่มีไครกล้าขึ้นไปสักคน ทุกคนจะบอกว่า ไม่รู้ทำไมแต่ขามันไม่ขยับร่างกายบอกว่าอย่าขึ้นไป มันก็ถามชั้น 3 มีอะไรผมก็จะเล่าให้ฟังทุกคนและทุกคนก็จะด่าผม - - ผมแค่อยากให้เพื่อนได้ประสบการณ์ดีๆ

    กลับมาเข้าเรื่อง ทุกครั้งที่ผมขึ้นไปชั้น 3 บรรยากาศ มันน่าขนลุกมาก ขนาดผมเป็นคนไม่กลัวนะ เหมือนอากาศมันมีน้อยๆ หายใจไม่ค่อยสะดวก ผมต้องเดินผ่านห้องเก็บของเพื่อไปเปลี่ยนน้ำในห้องพระ ระหว่างทางก็ต้องเดินผ่านของเก่ารุ่นคุณปู่คุณย่ามากมาย แต่มีอยู่สิ่งนึงที่เตะตาผมที่สุดคือชั้นกระจกส่องหน้า เก่าแก่พอควร 50 กว่าปีได้ ซึ่งทุกครั้งที่ผมเดินผ่านถ้าผมหันไปมองผมจะเห็นชายชราอยู่ในกระจกทุกครั้ง ในลักษณะแบบเต็มหน้า คือไม่ได้เห็นเป็นตัวเล็กๆ หรือเงาลางๆนะครับ เต็มหน้าเลยครับ

    ผมเห็นครั้งแรกผมตกใจและก็ทำเป็นไม่เห็น เดินผ่านไป และทุกครั้งที่ผมเดินผ่านถึงผมจะไม่หันไปมองผมก็รู้ได้ว่าเขามองผมอยู่ตลอด ขนผมจะลุกชูชันทุกครั้งที่ไปเปลียนน้ำพระ พอผ่านไปได้ก็จะเจอประตูทางเข้าห้องพระ ซึงจะไม่เคยปิด และจะเปิดไฟในห้องนี้ไว้ตลอด ไม่เคยปิดยกเว้นหลอดขาด พอเข้าห้องพระได้ ก็จะเจอกับสิ่งศักสิทมากมาย ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกอุ่นใจเลยแม้แต่น้อยเพราะอะไรนะรึ ห้องพระนี้แหละที่แรงที่สุดในบ้านผมเลย อยู่ได้ไม่เกิน 5 นาทีครับ รีบเปลี่ยนรีบไป เหมือน ไอพวกวิญญานพวกนี้มันไม่ได้กลัวพระเท่าไหร - - อันนี้รู้สึกเองครับ

    ตรงห้องพระจะมีประตูเปิดไปที่ระเบียงเล็กๆ และที่ระเบียงเล็กๆจะมีพญาครุช 1องค์ แม่ผมนำมาตั้งไว้แก้อาถรรภ์ทางสามแพร่ง โดยวางพญาครุช ไว้ตรงกับซอยตรงข้ามเดะๆและหันหน้าต่อสู้กับอาถรรนั้นตรงๆ เชื่อไหม ทุกครั้งที่ผมขึ้นไปจงอยปากของพญาครุชกุดลงๆทุกวันเหมือนท่านก็สู้ให้อยู่นะแต่แรงเกิน หลังจากที่ผมทำธุระเสร็จก็ถึงเวลากลับ ไอขากลับเนี่ยขอบอกครับมันน่ากลัวกว่าขามาเยอะ วิ่งได้วิ่งอะครับ มันเหมือนตัวหนักๆ เหมือนมีคนดึงแบบไม่ให้ไปๆ

    ทางเดินสั้นๆก็กลายเป็นยาวเดินแสนยาวนานกว่าจะถึงบันใดลง ต้องเดินผ่านคนแก่ที่กระจกอีก 1 รอบ พอถึงบันใดลงปุป ประตูทางขึ้นชั้น 3 ที่ตอนแรก ผมเปิดแล้วเอาของวางกันไม่ให้ปิดอยู่นั้น มันจะปิดเองดัง  ปั้ง!!! ต่อหน้าต่อตาผมทุกครั้งที่ผมเดินถึงบันใด (ผมมั่นใจว่าถ้าไม่ใช่ผม ถ้าเป็นคนอื่นสติแตกไปแล้ว) มันจะปิดเองทุกครั้งที่ผมเดินถึงบันใดทางลงชั้น 3 ไม่ว่าผมจะเอาไรไปวางขวางไม่ให้มันปิดก็ไม่ได้ผล ผมก็จะรวบรวมสติให้ตัวผมนั้นไม่ตกใจ โดยการพูดออกไปว่า ปิดหาพ่อเมิงเหรอกุถือของอยู่กุจะเปิดยังไง แล้วก็เอื้อมมือไปเปิด พอก้าวลงมาชั้น2 เท่านั้นอากาศก็กลับมาเป็นปกติ ตัวที่แสนหนักอึงของผมก็เบาลงผมสูดหายใจได้เต็มปอดอีกครั้ง แล้วผมก็จะอุทานในใจว่า เฮ้อ..รอดและเรา ทุกครั้ง


    เรื่องที่หก ผีช่วยชีวิต
ตอนนั้นผมน่าจะอยู่ ม.3 วันนั้นเป็นวันเสา ผมนอนเล่น อยู่ในห้องคนเดียว อยู่ดีๆผมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สบายหนักมาก หายใจไม่ออกตัวร้อนมากเหงื่อออกทั่วตัว ไม่มีแรงจะขยับไปไหน ตอนนั้นรู้สึกอย่างเดียวเลยว่าตายแน่ๆ จะตะโกนให้แม่ช่วยก็ไม่มีเสียง ผมได้แต่นอนนิ่งๆและก็พูดในใจว่าไครก็ได้ช่วยผมด้วยผมยังไม่อยากตาย ทำไมตอนนั้นผมถึงคิดว่าผมจะตายก็ไม่รู้ แต่ตอนนั้นผมไม่ไหวแล้วจริงๆ และผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตู แอ๊ดดดด...ด
ผมใช้แรงทั้งหมดมาที่เปลือกตาเพื่อลืมตาขึ้นมาดูว่าไครมา ผมลืมตาได้แค่ข้างเดียว แต่ก็ไม่เห็นมีไครเข้าห้องมา แต่ผมกลับได้ยินเสียงคนกำลังเดินเข้ามาหาผม เดินใกล้ๆเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนั้นผมไม่สนอะไรทั้งนั้นเพราะผมไม่ไหวแล้ว และบริเวรเตียงที่อยู่ข้างๆผมก็ยุบลงไป เหมือนมีคนมานั่ง ข้างๆผม

    ผมพูดในใจว่าช่วยผมด้วย ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกว่ามีคนเอามือที่เย็นเชียบมาวางที่ปลายเท้าผม แล้วค่อยๆลูบขึ้นมาหาหัวผม ตรงไหนที่มือเขาลูบผ่านผมจะรู้สึกเย็นสบายทันดี พอมาถึงช่วงตัวผมรู้สึกได้ว่าเวลาเขาลูบผ่านมันรู้สึดีมากๆ เย็นสบายตัว จนมาถึงหัว ผมก็หายไข้ทันที เดียวนั้นเลยครับ และผมก็เด้งตัวขึ้นมาสำรวจตัวเอง เฮ้ย หายแล้วจริงๆด้วย ไม่น่าเชื่อ ผมก็มองไปที่ร่องที่ยุบลงไปมันยังยุบอยู่ เหมือนเขายังนั่งอยู่ผมก็ขุกเข่าแล้วกราบเขาทันทีไม่ว่าเขาจะเป็นไครเป็นอะไร แต่เขาช่วยชีวิตผม ผมขอบคุณมากครับ และรอยยุบก็หายไป ตั้งแต่นั้นผมรู้เลยว่า ผีดีๆก็มีนะเฮ้ยในบ้านเราเนี่ย


    เรื่องที่เจ็ด ในบ้านหลังนี้ มีตัวผม 2 คน
ไม่ว่าใครเพื่อนที่มาบ้านหรือแม้กะทั้งคนในบ้านผมเอง ก็จะเจอ เหตุการณ์ประหลาด คือ เขาจะเจอ ผมมี 2 คน ครั้งแรกที่มีการเจอผม 2 คนนั้นคือตอน ม.ต้นเพื่อนผมมาเที่ยวบ้าน มันชื่อ ไอกบ ผมกับกบ ก็สนิดกันมาก มีครั้งนึงมันมาเยี่ยมบ้านผม ซึง ไม่ค่อยมีเพื่อนผมยอมมาหาผมที่บ้านเท่าไหรเพราะมากี่คนก็เจอทุกคน  พอกบมาถึงผมก็ให้มันนั่งเล่นเกมส์ไปก่อนส่วนตัวผมเดินขึ้นไปห้องนอนไปเปลี่ยนเสื้อ พอผมเดินลงมาผมได้ยินเสียงไอกบคุยกะใครบางคนอยู่ อย่างสนิทสนม ผมยืนฟังอยู่นาน ผมก็งงว่ามันพูดกะใครวะ ยุคผมตอนนั้นไม่มีมือถือนะครับมีแต่เพจเจอร์ พอผมเดินไปหามัน ผมกำลังจะถามว่าเมิงคุยกะไครวะมันก็พูดสวนผม มาเลยว่า ไหนละน้ำกุ ผมงง ผมบอกน้ำไรของเมิง มันบอกก็มะกี้ที่เมิงยืนอยู่ตรงตู้เย็นแล้วถามกุว่ากุจะเอาน้ำไหมอะ กุบอกเอา ไหนละน้ำกุ ผมบอกกุขึ้นไปข้างบนมาตั้งแต่เมิงเข้าห้องอะไปเปลี่ยนเสื้อเพิ่งลงมากุยังไม่ได้คุยอะไรกะเมิงเลย กุกำลังจะถามเนียว่าเมิงคุยกะไคร กบบอกไม่ได้คุยห่านไรละเมิงยืนคุยกะกุอยู่ตั้งที่ที่ตู้เย็นอะ ผมบอก มันไปทันทีกบกุดีใจกะเมิงด้วยกุว่าเมิงเจอและละ เท่านั้นแหละ ไอกบไม่พูดอะไรแล้วเก็บของกลับบ้านเลย และก็ไม่มาอีกเลย เจอกันที่โรงเรียนมันด่าผมใหญ่ทำไมเมิงไม่เตือนกุก่อน ผมบอกก็กุไม่รู้มานจะมามุขนี้นี้มุขใหม่มันนะ


    คนที่เจอต่อมาคือ น้องสาวผม ตอนนี้ผมเรียนจบและกำลังจะพาน้องๆออกไปหาไรกินแถวบ้านผมก็เดินขึ้นไปชั้นบนไปห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อพอเปลี่ยนเสร็จผมก็เปิดประตูห้องไปเจอน้องสาวผมยืนอยู่หน้าห้องพอดี พอน้องผมเห็นผมออกมาจากห้อง นางก็ร้องกรี๊ดเสียงดังลั่นน้ำตาไหลตัวสั้นแบบช็อคสุดๆผมเขย่าตัวน้องผมถามว่าเป็นไรๆเฮ้ยใจเย็นๆมีอะไรบอกมาตั้งสติ น้องผมบอกว่า มะกี้หนูเพิ่งคุยกับพี่พี่เพิ่งเดินลงไปข้างล่างหนูบอกพี่ว่าหยิบของขึ้นมาให้ด้วยแล้วพี่ก็ตอบว่า เออ แล้วหนูก็เดินขึ้นมาชั้น2เพือจะเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อแล้วพี่ก็เปิดประตูออกมา  ออกมาได้ไง ออกมาได้ไงอะ แล้วก็ร้องไห้ใหญ่

    มะกี้พี่อยู่ข้างล่างอะ น้องคุยอยู่เลย ผมก็บอกน้องว่า ออกจากห้องรับแขกพี่ก็เดินขึ้นมาเลยและก็ไม่ได้คุยอะไรกับน้องไม่ได้ยินน้องถามอะไรและก็ไม่ได้ตอบอะไรด้วย ผมเรียกน้องชายผมให้มาอยู่กับน้องสาวและตัวผมก้วิ่งไปชั้น1เพื่อหาไอตัวนั้นว่ามันอยู่ไหนมาหลอกน้องผมได้จะต่อยสักหมัด(ถ้าต่อยโดน) แต่ก็ไม่มีอะไรเลย ทุกวันนี้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องเล่าทุกครั้งที่ครอบครัวผมมากินข้าวด้วยกัน ตอนนั้นผมยังคิดอยู่ว่าน่าจะแกล้งน้องผมโดยการบอกว่าแน่ใจเหรอว่าคนที่ออกจากห้อง เป็นพี่ . . . . . . . .


    คนต่อมาที่เจอ ตอนนั้นผมเปิดร้านเกมส์ที่ชั้น 1 ก็จ้างคนคุ้มร้านซึงก็เป็นพวกเพื่อนๆกะน้องๆแถวบ้านทั้งนั้น มีคืนนึงผมตืนมาตอนตี 3 ผมหิวมากก็เลยเดินลงมาเพื่อจะไป 7-11 พอผมเดินลงไปถึงร้านเท่านั้นแหละ ไอน้องผมที่เป็นคนคุ้มร้านมานก็ทำหน้า ช็อคสุดๆมองผมตาข้างตลอด ผมก็บอกเมิงเป็น ยิ้มอาราย กุจะไป 7-11 เมิงจะเอาไรไหม มานก็ยังมองผมด้วยอาการอึ้งอยู่ ผมบอกเห้ยเป็นห่านไรกุจะไป 7-11 ตกลงเมิงจะเอาไรไหม แล้วมันก็บอกผมว่า พี่กลับมาตอนไหนทำไมผมไม่เห็น ผมบอกกลับมาไรกุเพิ่งลุกจากที่นอนแล้วลงมาเนีย เท่านั้นแหละมานหน้าซีด ขนลุกจนเห็นได้ชัด มันบอกว่าเมื่อ กี้เนีย ผมเพิ่งลงมาแล้วก็ถามมันว่าจะไป 7-11 จะเอาไรไหม . . . . . . .  ผมบอกมันอีกครั้งว่ากุเพิ่งลงมา ผมก็ถามว่าไอคนที่เมิงคุยอะมันใส่ชุดไร มันก็บอกว่า ก็ชุดนี้อะ ผมก็บอกมันไปว่าแล้วเมิงฝากมันซื้อไรปะละ มันบอกเปล่า ผมบอกดีละที่ไม่ฝากถ้าฝากเดียวมันก็เอามาให้ 555 แล้วผมก็ไป

    จริงๆเหตุการที่มีคนเห็นผม มี 2คน มีอีกหลายเหตุการณ์แต่ผมจำได้บ้างไม่ได้บ้าง และจะมีคนเห็นก็ต่อเมื่อผมอยู่ในบ้านเท่านั้นและก็มีแต่ผมที่มี 2 คน นอกนั้นคนในบ้านก็ปกติ  แล้วคุณละ มั่นใจรึเปล่าว่าคนที่นั่งเล่าให้คุณฟังเป็นผมจริงๆ



ไอพี: ไม่แสดง

#151 | pchi | 8 พ.ค. 57 23:14 น.

เพื่อนแนะนำทู้นี้มาค่ะ ตามอ่านหมดทุกเรื่องละ
สนุกดีไม่ค่อยรู้สึกกลัวเท่าไร เราออกจะโรคจิตนิดนึง555555
มาอัพอีกนะคะ รออยู่เย้!
*มีแต่เกมประหลาดๆอะ อยากลองเล่น55555

ไอพี: ไม่แสดง

#152 | sweed'nsuck | 9 พ.ค. 57 11:09 น.

ชอบเรื่องผมมีสองคนอะโอ้ยยยย 

ไอพี: ไม่แสดง

#153 | 9XN3 | 9 พ.ค. 57 12:59 น.

น่ากลัวอ่ะ .. แต่ก็อ่านทุกตอน ดูทุกคลิปจนจบจนได้
หรือเราจะกลายเป็นโรคจิตไปแล้ว ?
ชอบบบบบบ อัพบ่อยๆน้า ติดตาม

แก้ไขล่าสุด 9 พ.ค. 57 13:24 | ไอพี: ไม่แสดง

#154 | Mrs.Wang | 9 พ.ค. 57 13:58 น.

กำ อ่านไปจะหลอนหรือจะฮาดี555555555

ไอพี: ไม่แสดง

#155 | Chibiia | 9 พ.ค. 57 16:15 น.

The Haunted House อ่านไปอ่านมายิ้ม กรรม

ไอพี: ไม่แสดง

#156 | สาคูพี่คริส; | 9 พ.ค. 57 23:55 น.

โฮรรรร อ่านตอนกลางคืน จะร้องไห้ TT

ไอพี: ไม่แสดง

#157 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 10 พ.ค. 57 01:18 น.

เด็ดค่ะ ทู้นี้ อ่านตอน1.17น.
555555555 ฟินเว่อร์ เอาอีก อัพเยอะๆ
รออยู่นะคะ อ่านในมือถือเลยนะเนี่ยะ
น้องแย่งโน๊ตบุ้ค..แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการอ่านเลย 

ไอพี: ไม่แสดง

#158 | สวีดัส | 11 พ.ค. 57 00:44 น.

อูยยย แปะค่ะ
หลอนน แต่อยากอ่าน 

ไอพี: ไม่แสดง

#159 | `Kimmypink | 11 พ.ค. 57 13:06 น.

น่ากลัวจัง

ไอพี: ไม่แสดง

#160 | '-ไม่รู้ไม่อยากตั้ง; | 12 พ.ค. 57 20:53 น.

ชอบบบบบบ 

ไอพี: ไม่แสดง

#161 | .`abarahey'?` | 13 พ.ค. 57 21:25 น.

ชอบอะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#162 | Anymore. | 14 พ.ค. 57 18:54 น.






Slender man


    มันมีเว็บนึงที่ชื่อ somethingawful ที่ให้ตัดต่อภาพถ่ายผี ปีศาจ เรื่องเหนือธรรมชาติ และก็มีคนตัดต่อภาพไอตัวนี้ขึ้นมา ลักษณะของมันคือ ปกติจะเห็นเงาๆ ไม่มีคนเห็นชัด ตัวสูงๆผอมๆ ไม่มีหน้า ใส่สูทสีดำ มีแขนยาว หนวดระโยงระยาง แล้วมันจะลักพาตัวเด็กไป อันนี้คือเนื้อเรื่องมัน ซึ่งมันอาจจะมีมากกว่านั้น

    ซีรี่ย์ Marble Hornets
เป็นซีรีย์ที่ให้อารมณ์เหมือนเป็นเรื่องจริง แต่จริงๆก็ถ่ายขึ้นมา ประมาณแบบ paranormal activity หรือ blair witch ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ Slenderman นี่แหละ ลักษณะการถ่ายทำจะเหมือนถือกล้องถ่ายแบบหนังอินดี้ แต่ไม่ใช่แค่นั้น บางทีดูไปก็จะมีพวกนอยส์ ภาพบิดเบี้ยว จอซ่า จอแตก เสียงประหลาดๆ ที่ในเรื่องบอกว่าเป็นการที่พบเจอกับ slenderman
เรารู้จักปีศาจตัวนี้มานานแล้ว แต่ตอนนี้เหมือนทุกคนจะเล่นเกม Slender กันหมดจนอาจจะพอรู้หรืออยากรู้บ้างว่าเจ้าตัวนี้มันคืออะไรแล้วโผล่มาได้ยังไงในเกม


    ต้องขอเล่าความเ็ป็นมาก่อน เมื่อปี 2009 ที่เว็บนี้ได้จัดกิจกรรมแต่งภาพถ่ายธรรมดาให้เป็นขาวดำและตกแต่งให้มีสิ่งเหนือธรรมชาติภายในภาพแล้วก็สร้างตำนานเรื่องหลอกว่าสิ่งลึกลับภายในรูปนั้นมีอยู่จริง มีคนมากมายได้ร่วมกิจกรรมนี้ แต่มีอยู่รูปถ่ายของปีศาจรูปหนึ่งเป็นที่น่าสนใจกับคนในบอร์ด ภายในรูปภาพนั้นเป็นรูปกลุ่มเด็กกำลังเล่นในสวนอย่างสนุกสนาน ดูเผินๆแล้วเหมือนกับจะเป็นภาพขาวดำธรรมดา แต่หากสังเกตดีๆจะเห็นชายสูงโปร่งที่มีหนวดยืนรวมอยู่กับเด็กๆด้วยภาพตัดต่อนี้ทำให้เป็นที่สนใจหลายๆคนมาก จนผู้ตกแต่งเริ่มคิดอยากจะสร้างเจ้าสิ่งลึกลับนี้กลายเป็นตำนานไปจริงๆโดยการถ่ายหนังแบบเรื่องแบลร์วิช ซึ่งเข้าอัพโหลดลงยูทูปไว้นานแล้วอยากรู้ก็ขอให้ไปคุ้ยเอง ตั้งแต่นั้นมาเจ้านี่ก็เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มีทั้งแฟนอาร์ท หนังพาโรดี้ และถึงกับมีเกมที่ชื่อว่า Slender ซึ่งตอนนี้คนเล่นกันอย่างแพร่หลาย

    รูปลักษณ์
สเลนเดอร์แมนเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่รูปร่างสูง ผิวขาวซีด ไม่มีใบหน้า ไม่มีผม ปล่อยหนวดหมึกออกมาได้ ซึ่งบางตำนานบอกว่าเขาสามารถเอาหนวดหมึกมาเดินแบบแมงมุมได้ด้วย รวมถึงแขนตัวเองสามารถงอกออกมาอีกได้เกือบๆสิบแขน สเลนเดอร์แมนมีชีวิตมาหลายร้อยปีตั้งแต่ยุค Madieval เกร็ดเล็กน้อยคือเสื้อผ้าของเขาสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามการเวลายุคสมัยได้เพื่อสร้างความหน้าเชื่อถือให้กับเหยื่อ ในยุคแรก
สเลนเดอร์แมนได้สวมชุดแบบอัศวิน เมื่อการเวลาเปลี่ยนมาถึงยุคบาร็อกหรือร็อกโคโค่
สเลนเดอร์จะสวมชุดแบบขุนนาง ดังนั้นแน่นอนว่าหากเป็นยุคปัจจุบันนั้นคือยุคนี้ ต้องเลือกเสื้อสูทมาสวมแน่นอน


    ความสามารถ
- การคลื่อนไหว
แม้จะมีขาสองข้าง แต่สเลนเดอร์พอใจกับการวาร์ปจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดนึงมากกว่า
- การล่องหน
โดยปกติเราจะไม่เห็นสเลนเดอร์นอกจากเขาจะเลือกให้เราเป็นผู้มองเห็น ซึ่งผู้ที่เห็นมักจะเป็นเหยื่อที่เขาเลือกและเตรียมใจได้เลยว่าไม่รอด ตายแน่นอน สิ่งที่ช่วยในการมองเห็นคือกล้องทุกชนิด แน่นอนว่าคุณสามารถใช้ไอโฟนส่องไปทั่วเพื่อตามหาสเลนเดอร์ได้ อ่านตรงนี้เสร็จลองทำดูก็ได้นะ
- การควบคุมจิตใจ
สเลนเดอร์มักใช้วิธีนี้กับเหยื่อที่เริ่มป่วยทางจิตและเด็ก แน่นอน เหยื่อที่ง่ายที่สุดในการสื่อสารสร้างมิตรภาพคือเด็ก เมื่อตัดสินใจเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กแล้วมันจะแสร้งปล่อยออร่าเป็นมิตรกับเด็ก และเมื่อเด็กเชื่อใจแล้วมันจะพาเด็กเดินเข้าป่าจากนั้นจึงจับกินเสีย ถึงผู้ปกครองทุกท่าน หากลูกของท่านพูดคนเดียวแล้วมาบอกว่าเพื่อนชวนไปเล่นในป่า...ก็ปล่อยให้ลูกเข้าไปในป่าคนเดียวซะ เพราะถ้าผู้ปกครองไปเห็นสเลนเดอร์ละก็จะต้องมีอันเป็นไปเช่นเดียวกับลูกคุณ
- ลอกเลียนแบบ
ถึงมันจะไม่มีปากก็เหอะ แต่สามารถลอกเลียนเสียงคนที่เรารู้จักได้ มันมักใช้วิธีนี้ล่อให้เหยื่อออกมาจากตัวบ้าน แถมลอกเลียนเสียงหัวเราะของเด็กได้ด้วย


    พฤติกรรม
- ไม่มีใครรู้วิธีเลือกเหยื่อของสเลนเดอร์ แต่มีบางตำนานกล่าวว่าสเลนเดอร์มักเลือกเด็กหรือบุคคลที่มีจิตใจเศร้าหมองและท้อแท้
- หากเหยื่อเป็นเด็กสเลนเดอร์จะแสดงที่ทีเป็นมิตรเพื่อให้เหยื่อตายใจ แต่หากเหยื่อเป็นผู้ใหญ่มันตามเหมือนเจ้ากรรมนายเวรตลอดเวลาจนเหยื่อเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรง ซึ่งมักมีอาการเลือดกำเดาไหล ฝันร้าย เห็นภาพหลอน ฯลฯ
- มักฆ่าเหยื่อในป่า แต่โดยรวมแล้วฆ่าได้ทุกสถานที่



ไอพี: ไม่แสดง

#163 | littletwins. | 15 พ.ค. 57 12:03 น.

ต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#164 | onlyme. | 15 พ.ค. 57 15:00 น.

แน่นอนว่าคุณสามารถใช้ไอโฟนส่องไปทั่วเพื่อตามหาสเลนเดอร์ได้

สาบานว่าเคยทำแล้วและก็เคยเจอเพราะมันเป็นเกม 
สยองมากอะ เป็นเกมแบบเอาไอโฟนอะ ส่องไปตรงไหนก็ได้ ก็จะเจอสแลนเดอร์
นี่ตอนนั้นไปส่องในห้องนอนตัวเองแล้วเจอ แทบจะปาโทสับทิ้ง หลอนมาก
ลบเกมนั้นเรียบร้อย ไม่กล้าเล่นละ
บายยย 

ไอพี: ไม่แสดง

#165 | เครอ้อน.ยูเระชิ'' | 15 พ.ค. 57 15:03 น.

ชอบอ่านเรื่องแบบนี้นะ แต่ไม่เคยกดดูคลิป
แม้แต่รูปก็ยังต้องเอามือปิด 5555555

ไอพี: ไม่แสดง

#166 | Anymore. | 15 พ.ค. 57 18:05 น.

#164
อยากได้แอพนี้อ่ะ จำได้ป่ะว่าชื่อแอพว่าไร

ไอพี: ไม่แสดง

#167 | #Prynce.P | 15 พ.ค. 57 18:49 น.

อยากให้จขกทอัพทุกวันเลยอ่า เราชอบกระทู้นี้มากเลย อยู่หน้าแรกchromeเลยค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#168 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 16 พ.ค. 57 17:49 น.

เรารออ่านนะ มันส์มาก อยากให้อัพบ่อยๆ หลายๆเรื่อง 

ไอพี: ไม่แสดง

#169 | Anymore. | 16 พ.ค. 57 19:08 น.






The Hands Resist Him


    ภาพวาด The Hands Resist Him หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อคือ The eBay Haunted Painting ถูกวาดขึ้นมาโดยฝีมือของ Bill Stoneham จิตรกรชาวโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 1972 ถูกจัดแสดงครั้งแรกที่ Los Angeles gallery และจากนั้นได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ John Marley นักแสดง (รับบทเป็น Jack Woltz ในภาพยนตร์ The Godfather) ที่ได้ซื้อภาพนี้ไป ภายหลังเขาได้เสียชีวิตลงในปี 1984
เป็นภาพของเด็กผู้ชายและตุ๊กตาเด็กผู้หญิง ยืนอยู่หน้าบานประตูกระจกซึ่งมีมือเล็กๆมากมายปรากฏอยู่อีกด้าน ข่าวลือเกี่ยวกับภาพนี้ปรากฏขึ้นในเว็บไซท์ประมูล eBay เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2000 โดยมีคำอธิบายกำกับไว้ว่า ภาพนี้เป็นภาพอาถรรพ์


    คู่สามีภรรยาจากแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นผู้นำภาพนี้ออกประมูลอ้างว่า ผู้ที่นำมาให้ได้ไปพบภาพนี้ถูกทิ้งไว้ในโรงกลั่นเหล้าร้างโดยบังเอิญ เห็นว่าเป็นภาพที่ดีจึงนำติดมือกลับมา เมื่อได้เห็นครั้งแรกทั้งคู่ก็ประหลาดใจเล็กน้อยว่าทำไมภาพดีๆอย่างนี้จึงถูกนำไปทิ้งไว้แบบนั้น แล้วก็แขวนภาพนี้ไว้ในห้องนอนของลูกสาววัยสี่ขวบ เช้าวันหนึ่งลูกสาวของพวกเขาบ่นให้ฟังว่าเด็กสองคนในภาพทะเลาะกันและออกจากภาพเข้ามาในห้องในช่วงกลางคืน ผู้เป็นพ่อจึงลองติดตั้งกล้องถ่ายภาพแบบมีเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวไว้ในห้องลูกสาวเป็นเวลาสามคืน กล้องได้ถ่ายภาพออกมาหลายภาพ และภาพถ่ายสองใบสุดท้ายนั้นดูเหมือนเด็กผู้ชายกำลังจะหนีออกมาจากภาพด้วยความหวาดกลัว

    ภาพที่ว่านี้ถูกนำมาโพสท์บนเว็บไซท์ด้วยเช่นกัน ด้วยสภาพที่มืดจนมองอะไรต่อมิอะไรไม่ชัดนัก แต่นั่นก็อาจทำผู้ดูเกิดจินตนาการไปได้ว่า เด็กชายกำลังพยายามหนีออกมาจากภาพโดยมีตุ๊กตาเด็กหญิงกำลังหัวเราะคิกคักพร้อมกับจ่อ'อาวุธ'ในมือเข้าใส่




    พวกเขาตัดสินใจว่าไม่อยากจะเก็บภาพนี้ไว้อีกต่อไป และระบุว่าจะไม่ขอรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นหลังการขาย และแล้วภาพนี้ก็กลายเป็นปรากฏการณ์ทางอินเตอร์เน็ตที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในที่สุด ผู้ชมกว่า 30,000 รายที่เข้าไปดูหน้าเว็บต่างรายงานว่าประสบเหตุการณ์แปลกๆเข้ากับตัวเพียงแค่จ้องมองภาพนี้ผ่านหน้าคอมพิวเตอร์เท่านั้น

    มีรายหนึ่งอ้างว่าได้ยินเสียงสวดมนต์พึมพัมงึมงัมพร้อมกับลมร้อนระอุอ้าวที่พัดเป่าเข้ามา อีกรายอ้างว่ารู้สึกไม่สบายขึ้นมาขณะที่จ้องมองภาพอยู่ และถึงกับต้องเผาใบ white sage ปัดรังควานกันยกใหญ่เลยทีเดียว รายอื่นๆก็อ้างว่าหน้ามืดหมดสติไปบ้าง หรือเหมือนโดนล้างสมองบ้าง ผู้ขายได้กลับเข้ามาอีกครั้งก่อนการประมูลจะจบสิ้นลงและเขียนข้อความทิ้งไว้ว่า "โลกนี้ไม่มีผีหรือพลังเหนือธรรมชาติอยู่จริงหรอก นี่ก็เป็นแค่ภาพวาดธรรมดาๆภาพนึงเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีคำธิบาย และในกรณีนี้มันก็เป็นไปได้ว่าเป็นเพราะแสงหลอกตาเท่านั้น รูปถ่ายสองใบนั้นขอให้คิดเสียว่าเป็นเรื่องขำๆ"

    แต่ลงว่าคนมันเชื่อกันไปแล้ว จะล้มล้างความคิดเดิมคงยาก และหลายเว็บไซท์ก็ขนานนามภาพนี้ว่า legendary "Haunted Painting of eBay" ภาพ Hands Resist Him ถูกขายไปในราคา 1,025 เหรียญ จากราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญ โดยมีคนเสนอราคาทั้งสิ้น 30 ครั้ง และคาดว่าจากชื่อเสียงของภาพที่กระจายไปทั่วจะทำให้ราคาปัจจุบันมากกว่านั้น ไม่เพียงเฉพาะในฐานะภาพศิลปะ แต่ยังในฐานะภาพอาถรรพ์ที่โด่งดังที่สุดใน eBay

    และคนที่อึ้งกับข่าวลือของภาพนี้ที่สุดก็คงไม่พ้นตัวศิลปินที่วาดภาพนี้ขึ้นมาเองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว Bill Stoneham คอมพิวเตอร์กราฟฟิคอาร์ทติสท์อายุ 55 ปี ผู้ทำงานให้กับ Cyan Worlds บริษัทที่สร้างหนึ่งในเกมคอมพิวเตอร์เบสท์เซลลิ่ง Myst and Riven "The Haunted Painting of eBay" หรืออีกนัยหนึ่ง "Hands Resist Him" คือภาพที่เขาได้ขายให้แก่ California gallery ในปี 1973 และไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีกเลย

    จนกระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2001 เมื่อเจ้าของ Perceptions Gallery ในเมือง Grand Rapids รัฐมิชิแกน ได้ส่งอี-เมล์มาหาเขาว่า ทางแกลเลอรี่ได้ซื้อภาพนี้มาจากคู่สามีภรรยาชาวแคลิฟอร์เนียผ่านทางอีเบย์เป็นจำนวนเงิน 1,200 เหรียญ (ตรงนี้ข้อมูลจำนวนเงินไม่ตรงกัน ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอันไหนถูก) เจ้าของแกลเลอรี่สืบหาชื่อเขาเจอจากด้านหลังรูปภาพ และได้แนะนำให้ Stoneham ลองเข้าไปเช็คในหลายๆเว็บเพจดู

    Stoneham ถึงกับขนลุกเกรียว แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุผลเดียวกับคนอื่นๆ เขาว่า "**การที่เห็นหน้าตาของตัวเองในภาพวาดถูกขยายออกมาเต็มจอแบบนั้นมันรู้สึกแหยงๆพิลึก" เพราะอันที่จริง ภาพเด็กผู้ชายในรูปนั้นก็คือตัวเขาเองกับเด็กสาวตัวน้อยข้างบ้าน ซึ่งมาจากภาพถ่ายเก่าๆของครอบครัวที่เขาใช้เป็นแบบอ้างอิงในการวาด จากนั้นเขาจึงเริ่มอ่านเรื่องราวที่มาของการ "หลอน" และสิ่งแรกที่เขาคิดขึ้นมาในใจก็คือ "คิดยังไงวะเนี่ยที่เอารูปแบบนี้ไปติดไว้ในห้องนอนเด็กน่ะ?"

    ปฏิกิริยาที่สองของเขาคือสงสัยว่าภาพวาดของเขามันไปจุดประกายเป็นเรื่องผีๆสางๆได้ยังไง แรกเริ่มเดิมทีเมื่อเขาวาดภาพนี้นั้น เขาได้คิดไต่ตรองโดยใช้แนวคิดทางจิตวิทยาของจุง และวิชาปรัชญาสัญลักษณ์ (metaphysical symbolism) เด็กผู้ชายนั้นวาดขึ้นโดยอิงจากภาพถ่ายตัวของเขาเองในวัย 5 ขวบ ประตูสื่อถึงการเป็นตัวกั้นเขตแดนระหว่างโลกปกติและดินแดนแห่งความฝันหรือความน่าจะเป็น ตัวตุ๊กตาคือเพื่อนในจินตนาการหรือมัคคุเทศก์ที่จะคอยอารักขาให้เด็กชายนั้นผ่านเข้าไปในดินแดนแห่งนั้นได้ ส่วนมือนั้นหมายถึง 'ชีวิตอื่น' ที่แตกต่างออกไป

    เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้ภาพออกมาดูน่ากลัวชวนขนลุก เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ หรือชวนให้อึดอัดใจแต่อย่างใด **สิ่งที่อ้างว่าเป็น 'อาวุธ' ในมือตุ๊กตานั่นมันก็เป็นแค่ถ่านไฟฉายแบบที่เขาเคยใช้กับเครื่องบินจำลองเมื่อตอนเป็นเด็กเท่านั้นเองอย่างไรก็ตาม "ภาพอาถรรพ์" นี้ก็มีส่วนเปลี่ยนชีวิตเขาไปในหลายๆด้าน มันเป็นแรงดลใจให้เขาเปิดเว็บเพจของตนเองและหันกลับมาทำงานจิตรกรรมอีกครั้งหลังจากร้างราไปมากกว่าสิบปี Stoneham บอกว่าผลตอบรับที่รุนแรงจากผลงานของเขาที่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกยินดีปรีดาไม่น้อย

    ตัวเขาเองนั้นไม่รู้ว่าภาพนี้ถูกทิ้งไว้ตามที่ผู้นำออกประมูลอ้างได้อย่างไร เขารู้แต่เพียงว่าเจ้าของแกลเลอรี่ที่ภาพนี้ได้ถูกจัดแสดงครั้งแรก และนักวิจารณ์ศิลปะของ Los Angeles Times ที่ลงบทความเกี่ยวกับงานนี้ ทั้งคู่ได้เสียชีวิตภายในหนึ่งปีหลังจากงานแสดงภาพของเขาจริงๆ


แก้ไขล่าสุด 16 พ.ค. 57 19:10 | ไอพี: ไม่แสดง

#170 | Anymore. | 16 พ.ค. 57 19:46 น.

ฮา แบบไมไ่หวแล้ว 555

ไอพี: ไม่แสดง

#171 | littlePoint | 17 พ.ค. 57 19:37 น.

ฮืออออ หลอนทุกเรื่องเลยค่ะ อัพต่อน๊าา ชอบๆ 

ปล.เรื่องuser666 เค้าลองคลิกเข้าไป แต่ไม่กล้ารีเฟรช พอกดออกปุ๊บจู่ๆเน็ตหลุดได้ไงไม่รู้อ่า

น่ากลัว 

ไอพี: ไม่แสดง

#172 | Anymore. | 17 พ.ค. 57 21:51 น.

#171
โดนอาถรรภ์แล้วล่ะเราว่า หึหึ
หยอกเล่นปลั๊กอาจหลวมก็ได้เนอะ เราก็เคยลองเหมือนกัน

ไอพี: ไม่แสดง

#173 | mrcatchman. | 18 พ.ค. 57 09:12 น.

จกท.เรานะนำเรื่องการทดลองอดหลับของรัสเซีย

ไอพี: ไม่แสดง

#174 | #Prynce.P | 18 พ.ค. 57 13:29 น.

#171 เป็นอันเดียวที่เราไม่กล้าเข้าไป กลัวโดนไวรัสคอมพัง
มีเหตุการจะเล่าให้ฟังค่ะ แต่ก่อนในห้องจะมีแฟลชไดรฟ์อันนึงค่ะเอาไว้แกล้งเพื่อน เวลาเรียนคอมอยู่ ถ้าเอาแฟลชไดรฟ์นี้ไปเสียบเครื่องไหน คอมจะดับทันทีเลยค่ะ คาดกันว่าน่าจะเป็นไวรัส ถ้าเป็นไวรัสจริงคงแรงมากๆเลย

ไอพี: ไม่แสดง

#175 | Anymore. | 18 พ.ค. 57 14:18 น.

#173
น่าจะอันเดียวกันกับที่เราอ่านนะ มันงงๆ เลยไม่เอามาลง
ใช่ที่เอานักโทษประหารมาทำการทดลองป่ะ แล้วก็เป็นบ้า

ไอพี: ไม่แสดง

#176 | mrcatchman. | 18 พ.ค. 57 23:24 น.

#175 ใช่ละ เราอ่านแล้วก็งงนึกว่าจกท.เข้าใจเลยจะให้ช่วยแปล 555555

ไอพี: ไม่แสดง

#177 | #Prynce.P | 20 พ.ค. 57 00:11 น.

เราอ่านเรื่องแฮปปี้แลนด์มาน่ากลัวดีค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#178 | Anymore. | 21 พ.ค. 57 09:10 น.

#177
อยากอ่านบ้างง
 

ไอพี: ไม่แสดง

#179 | #Prynce.P | 21 พ.ค. 57 14:16 น.

△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△






ตำนานสวนสนุกแฮปปี้แลนด์

    แฮปปี้แลนด์ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเดอะมอลล์บางกะปิ กรุงเทพมหานคร เป็นจุดที่รถเมล์สาย 8 หมดระยะ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักแฮปปี้แลนด์ แฮปปี้แลนด์สมัยก่อนเป็นสวนสนุกที่มีตำนานที่น่าสะพรึงกลัวมาก มีเครื่องเล่นมากมายอย่างเช่น ชิงช้าสวรรค์ รถไฟเหาะ เรือหรรษา ปาเป้า ม้าหมุน ชิงช้า กระดานหก บ้านผีสิงหลังเล็กๆ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ไม่หรูเท่าแดนเนรมิต แฮปปี้แลนด์จะออกสไตล์สวนสนุกตามงานวัด เป็นสวนสนุกที่ทำให้คนชั้นกลางถึงชั้นรากหญ้าเล่นโดยเฉพาะ แดนเนรมิตจะไฮโซกว่ามาก คนสมัยก่อนนิยมไปเล่นที่นี่มากพอๆ กับที่แดนเนรมิต ตอนนั้นดรีมเวิลดิ์ยังไม่ได้สร้าง

    นานๆ เข้าเครื่องเล่นส่วนใหญ่ก็เก่าและชำรุดไปตามกาลเวลา ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนคนเล่นบางคนตาย ซึ่งแปลกมากที่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กๆ ทั้งนั้น เช่น นั่งชิงช้าสวรรค์หรือม้าหมุนแล้วพลัดตกลงมาตายบ้าง เล่นเรือหรรษาแล้วเกิดพลัดตกน้ำจมน้ำตายบ้าง ตกราวรถไฟเหาะตายบ้าง บางคนก็ถูกฆ่าหั่นศพในบ้านผีสิงแล้วเอาศพทิ้งไว้จนเน่าในนั้นเลย แต่ละคนตายแบบแปลกๆ และสยองขวัญมากๆ ตายแบบไม่มีคนเห็นด้วย ลือกันว่ามีฆาตกรโรคจิตคนหนึ่งชอบลักพาตัวเด็กที่มาเล่นเครื่องเล่นตอนกลาง วัน แล้วเชือดคอฆ่าทิ้งในตอนกลางคืน ทิ้งศพไว้ตามบริเวณต่างๆ ของสวนสนุก แฮปปี้แลนด์จึงเต็มไปด้วยศพของเด็กจำนวนมาก และไม่มีใครรู้ว่าฆาตกรคนนั้นเป็นใคร ทำไปเพื่อจุดประสงค์อะไร แต่ทางสวนสนุกต้องปิดข่าวเอาไว้เพราะกลัวคนที่มาเล่นจะตกใจ แฮปปี้แลนด์ในตอนนั้นจึงเป็นสวนสนุกที่เด็กมาเล่นแล้วตายมากที่สุด แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ !

    นานวันเข้า เครื่องเล่นเก่าและเจ๊งมากขึ้น คนเล่นก็ตายมากขึ้นด้วย ข่าวเริ่มปิดไม่มิด ทำให้สวนสนุกแฮปปี้แลนด์ไม่มีคนกล้ามาเล่นมากเท่าเมื่อก่อน ในที่สุดก็เจ๊ง ถูกรื้อ และกลายเป็นที่รกร้างไป ผ่านไปหลายปี มีคนคิดมาเปิดตลาดขายของที่นี่ และเปลี่ยนจาก สวนสนุกแฮปปี้แลนด์ เป็น “ ตลาดสด แฮปปี้แลนด์ “ จนถึงปัจจุบัน ( ป้ายยังมีอยู่ ถ้าไปก็ยังเห็นครับ )

    ตอนนี้แฮปปี้แลนด์ไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้วเพราะมีแต่ของมาขายเยอะมาก แต่กลางคืนก็ยังไม่คอยมีใครกล้าเดินแถวนั้นคนเดียวเพราะกลัวผี ลือกันว่าตอนดึกๆ คนที่มีบ้านอยู่แถวแฮปปี้แลนด์นั้นจะได้ยินเสียงเด็กๆ ร้องกันเสียงดังจ้อกแจ้กดังมาจากที่ไหนซักแห่งไกลๆ ราวกับว่าเด็กพวกนั้นกำลังเล่นเครื่องเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนานเลยทีเดียว แต่พอออกไปดูก็ไม่เห็นอะไรเลย มีคนเคยบอกว่า เนื่องจากเด็กๆ พวกนี้ตายขณะที่ยังสนุกกับเครื่องเล่นอยู่ และพวกเขาอาจจะไม่รู้ว่าตนเองตายไปแล้ว พวกเขาจึงยังคงเล่นกันต่อไปจนกว่าจะไปเกิดใหม่ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มี เครื่องเล่นหลงเหลืออีกแล้วก็ตาม หรือไม่พวกเขาก็อาจจะกำลังหาเครื่องเล่นที่ตนเองเล่นก่อนจะตายอยู่ก็ได้ ไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่สิ่งที่รู้คือ วิญญาณตายโหงของเด็กๆ พวกนั้นยังวนเวียนอยู่ในแฮปปี้แลนด์จนถึงทุกวันนี้

ทั้งหมดนี้คือตำนานของสวนสนุกแฮปปี้แลนด์ครับ Credit.bkk

ปล.หนังเรื่อง The Park สวนสนุกผีน่าจะสร้างมาจากเรื่องนี้ค่ะ


△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△△

ว๊ายยย แอบเนียนๆ แต่ไม่เนียน

ไอพี: ไม่แสดง

#180 | Anymore. | 21 พ.ค. 57 18:34 น.

#Prynce.P ขอบใจจ้า
เราว่ามันเนียน เจออะไรน่ากลัวๆ เอามาแชร์อีกนะ







Jeff the killer


    ลักษณะของเขาคือ ชายผมดำ ใส่เสื้อกันหนาวสีขาว ผิวขาวซีด กางเกงยีนสีดำ รองเท้าสีแดงขาว ลักษณะหน้าตาคือ ตากลมโต ปากฉีกเกือบถึงใบหู เอาง่ายๆ หน้าตาน่ากลัว เจฟฟ์นั้นเมื่อวัยเด็ก มีแผลลึกฝังใจร้ายแรง ไปสู้เพื่อปกป้องคนอื่น แต่ว่าโดนทำร้ายจนปากฉีก แถมโดนแม่โกหกหลอกหลวง ทุกคนในครอบครัวเกลียด เห็นว่าเป็นตัวประหลาด นั่นคือแผลใจ ซึ่งเป็นตัวจุดฉนวน ให้เขากลายเป็นฆาตกร เขาเริ่มออกฆ่าคนครั้งแรก เมื่อหลังหนีออกจากบ้านได้ไม่นาน ผู้คนเรียกเขาว่า "ฆาตกรปริศนา"

    หลังจากสัปดาห์ที่มี การฆาตกรรมสยองต่อเนื่องเกิดขึ้น ในรัฐๆหนึ่ง ผู้คนต่างหวาดกลัว กับฆาตกร ปริศนาดังกล่าว ตำรวจในรัฐ ได้รีบเร่งหาหลักฐานและเบาะแส เพื่อตามจับคนร้าย พวกเขาได้หลักฐานเพียงเล็กน้อย แต่ก็ได้เจอผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง ซึ่งเขาได้ต่อสู้กับฆาตกรปริศนา อย่างกล้าหาญ จนสามารถรอดออกมาได้ เขาจึงได้มาให้ปากคำ กับตำรวจ และเล่าเป็นเรื่องว่า "ผมจำได้ว่า ผมตื่นนอนจากฝันร้ายในตอนกลางดึก แต่น่าแปลก ที่เหงื่อของผมไม่ไหลออกมา ผมรู้สึกว่า มีลมเย็นๆพัดเข้ามา ทั้งๆที่ผมปิดหน้าต่าง และ ไม่ได้เปิดแอร์เลย ผมรู้สึกเหนื่อย และ หนาวมาก ผมลองหันซ้ายและขวา ไปรอบๆ ขณะที่ผมหันหน้า ผมสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติตรงหน้าต่าง หน้าต่าง!! หน้าต่างถูกเปิดออก ทั้งๆที่ผมปิดมัน ขณะที่ผมกำลังจะนอน ผมหัวเสียนิดหน่อย แต่ก็พยายามคิดว่า "วันนี้ลมแรง ลมอาจจะพัดจนหน้าต่างเปิดก็ได้" ทั้งๆที่ หน้าต่างนั้นเป็นบานเลื่อน ซึ่งลมไม่สามารถพัดจากด้านล่างเพื่อเปิดได้อยู่แล้ว แต่ผมก็พยายามคิด ให้ตัวเองใจเย็น ผมลุกไปปิดหน้าต่างอีกครั้ง

    และกลับมานอนที่เตียง ขณะผมนอน ผมมีความรู้สึกประหลาดที่ว่า เหมือนมีใครจ้องมองผมอยู่ตลอดเวลา ผมนอนไม่หลับ จึงเงยหน้ามองไปตรงเพดาน ผมตกใจสุดขีด!! เมื่อมีคนบางคน เอาสายตา อันน่าสยดสยองจ้องมองผม เขาคนนั้น เกาะอยู่ตรงช่่องแคบที่เพดาน ผมเริ่มหัวเสียหนักเข้าไปอีก เมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา ปากของเขาฉีกเป็นสีแดงเกือบถึงติ่งหู!! เขากระโดดลงมาตรงท้ายเตียงของผม และพูดประโยคสั้นๆว่า "Go To Sleep" เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มอันน่ากลัว กล่าวจบเขากระโดดเล็งมีดที่เขาถือ มาตรงหัวใจของผม ผมหลบและพยายาม ต่อสู้กับเขา ผมรีบวิ่งไปเคาะตรงประตู หน้าห้องพ่อ เพื่อให้พ่อช่่วย เขาตามผมมาแล้ว!! ในขณะนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่พ่อผมเปิดประตูออกมา

    เขาคนนั้น ปามีดโดนไหล่พ่อของผม!! และเขาอาจจะฆ่าผมกับพ่อแล้วก็ได้ หากคนในบ้านไม่โทรแจ้งตำรวจ ผมรีบพาพ่อมายังโรงรถ เพื่อขี่รถพาพ่อไปโรงพยาบาล ขณะขี่รถออกมาจากโรงรถ ผมเห็นชายคนดังกล่าว วิ่งไปด้วยความเร็วมากตามถนน ลักษณะของเขาคือ ผู้ชายผมดำ ผิวขาวซีด ใส่เสื้อกันหนาวสีขาว ใส่กางเกงยีนสีดำ และ ใส่รองเท้าสีแดงขาว เขาหันหน้ากลับมา พร้อมแสยะยิ้ม อันน่ากลัว ซึ่งเขาต้องกลับมาหาผมและครอบครัวอีกแน่ๆ!!"

    ความสามารถของเขาคือ เป็นคนที่อึดมาก ทนพิษบาดแผลได้สบาย แปปเดียวหายจากอาการเป็นแผล ตายยาก วิ่งเร็ว ความสามารถสูง และเป็นคน บ้าคลั่ง เสียสติ ชื่อของมันคือ เจฟฟ์ เดอะ คิวเลอร์ อ้ากกก!! หลังจากเล่าจบ ทุกคนในสถานีนั้นถูกฆ่าตายอย่างน่าสยอง ถ้าใครที่มาเจอข้อความนี้ คุณจะไม่มีวันหนีจากมันได้ !!



Hide-and-Seek ALONE เล่นซ่อนหาคนเดียว น่าสนใจดี

http://sz4m.com/b3915037


ไอพี: ไม่แสดง

#181 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 24 พ.ค. 57 00:27 น.

รออ่านต่ออยู่นะคะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#182 | Anymore. | 24 พ.ค. 57 09:43 น.

#181
อ่าา เราคิดว่าไม่มีใครอ่านแล้ว เลยไม่ได้อัพ เดี๋ยวตอนเย็นมาอัพให้นะ
 

ไอพี: ไม่แสดง

#183 | Lurch. | 24 พ.ค. 57 20:45 น.

สนุกมากครับ มาอัพต่อไวไวนะ

ไอพี: ไม่แสดง

#184 | confection. | 24 พ.ค. 57 23:58 น.

ขอบคุณมากนะครับ อ่านเพลินดี

ไอพี: ไม่แสดง

#185 | `Pim_doiii.- | 25 พ.ค. 57 15:56 น.

ขอบคุณค่ะ สนุกกกก

ไอพี: ไม่แสดง

#186 | #Prynce.P | 25 พ.ค. 57 22:02 น.

ทำไมไม่อัพคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#187 | Gleek! | 26 พ.ค. 57 00:38 น.

ชั้นจะโดนอิเจฟฟ์ฆ่ามั้ยคะ ชั้นอ่านไปแล้วอ่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#189 | Anymore. | 27 พ.ค. 57 09:40 น.






The Man Who Spoke With God

 
    Gateway of the Mind เป็นความเชื่อในปี 1983 นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งมีความเชื่อในทฤษฏีแบบเคร่งศาสนาว่าสมองมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนโดยสิ่งเร้า (ประสาททั้งห้า) จะสามารถรับรู้การมีอยู่ของพระเจ้า และสามารถติดต่อกับพระเจ้าได้ ดังนั้นพวกเขาจึงหาอาสาสมัครจนได้ชายชราคนหนึ่งที่ยินดีจะทำการทดลองนี้ เพราะเขาไม่มีอะไรค้างคาใจในโลกนี้แล้ว พวกเขาเลยปิดผนึกประสาททั้งหมดที่เชื่อมต่อไปยังสมองของชายชราคนนั้น และรอผลการทดลอง สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ยิ่งกว่าฝันร้ายของลิฟคราฟท์ สองสามวันผ่านมาชายชราเริ่มพูดว่าเขาไม่ได้ยินอะไรเลย ในวันที่สี่เขาได้อ้างว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่เงียบในหัวของเขา แต่ตอนแรกนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพียงแค่อาการทางจิตที่เกิดจากความกังวลของมนุษย์ และในวันที่หกเขาก็ได้เริ่มพูดคุยกับภรรยาของเขาที่ตายไป

    หลังจากวันเวลาผ่านไป การสนทนากับคนตายของผู้ทดลองกลายเป็นความสุขที่ไม่อยากให้ใครขัดขวาง หากเขาได้สติเขาดุด่า บอกให้ปล่อยเขาอยู่คนเดียว บ่อยครั้งที่เขาบอกให้นักวิทยาศาสตร์วางยาให้เขานอนหลับเพราะเขาเชื่อว่าได้ยินเสียงคนตายในความฝันของเขา คนทดลองคลั่ง กรีดร้อง เสียงของคนตายเริ่มดังชัดเจน และมีความไม่เป็นมิตรมากขึ้น เขาโกรธ เยาะเย้ย พูดเรื่องนรกและจุดสิ้นสุดของโลก เขาร้องตะโกนว่าเขาจะถูกฆ่าตาย แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเขาใกล้จะติดต่อกับพระเจ้าได้แล้ว หากแต่ในเวลาต่อมาผู้ทดลองเริ่มบ้าคลั่งกัดเนื้อหนังของตนเอง เหมือนกับพยายามฆ่าตัวตาย จนนักวิทยาศาสต์ต้องจับเขาผูกมัดกับเตียง และวันต่อมาชายชราก็เริ่มร้องไห้ พร้อมอ้างว่าเขาได้พบพระเจ้า เขาพูดกับพระเจ้า และเขาละทิ้งเรา และแล้วสัญญาณชีพของเขาก็หยุดลง







The Disney Suicides


    มีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวซุกซ่อนอยู่ในดีสนีย์แลนด์ดินแดนแห่งความสุข ว่ากันว่าเป็นสถานที่ดึงดูดในการฆ่าตัวตาย ซึ่งเราได้เห็นข่าวลือเหล่านี้ในอินเทอร์เน็ตบ่อยครั้ง มีเรื่องเล่าน่ากลัว ในปี 1999 ในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังนั่งเรือดนตรี หากแต่ระหว่างทางจู่ๆ ไฟฟ้าก็ดับ เครื่องเล่นอยู่ทำงานลง พนักงานได้บอกให้นักท่องเที่ยวออกจากเรือแล้วเดินออกไปข้างนอก และขออภัยในความผิดพลาด เมื่อนักท่องเที่ยวถามสาเหตุที่ไฟดับ แต่คำตอบที่ได้กลับคลุมเครือและนำพนักงานก็นำพวกเขาออกไปข้างนอก ระหว่างนั้นเองนักท่องเที่ยวคนหนึ่งได้ถือกล้องถ่าย และระหว่างที่เงยไปข้างบนนักท่องเที่ยวกับจับภาพหนึ่งที่น่าขนลุกมันคือเด็กที่แขวนคอตนเองห้อยจากคาน มีเรื่องเล่ากันว่าเด็กได้แขวนคอตัวเองในขณะที่ครอบครัวมีความสุขในการนั่งเรือดนตรี โดยไม่รู้ว่าฝันร้ายอยู่เหนือพวกเขา แม้เรื่องเล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องจริง แต่ว่าดีย์นีย์แลนด์มักมีเรื่องน่ากลัวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายเสมอ ดังเช่นข่าวการฆ๋าตัวตายในดีย์นีย์แลนด์ที่ปารีสล่าสุด







Killer in the Backseat


    ปรากฏครั้งแรกในปี 1967 เป็นเรื่องเล่าที่นิยมกันมากในยุคนั้นและแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วผ่านปากต่อปาก เป็นเรื่องราวของหญิงสาวนางหนึ่งที่กำลังขับรถกลับบ้านในยามดึกสงัดเพราะเผลอก๊งกับเพื่อนสาวดึกไปหน่อย แต่กลับถูกไล่ตามอย่างประชิดโดยรถลึกลับ คนขับเปิด-ปิดไฟสูงถี่ๆและคอยจี้ก้นรถเธอไม่ห่าง บางคราวถึงกับกระแทกชนท้ายรถเธอ

    เมื่อเธอมองผ่านกระจกหลัง ก็ได้ยินเสียงชายลึกลับตะโกนและทำมือทำไม้เป็นสัญญานมือบางอย่าง ทำให้เธอตื่นตระหนกจนแทบประสาทเสีย รถคันนั้นตามจี้เธอไปติดๆจนกระทั่งเธอขับกลับมาถึงบ้านอย่างทุลักทุเล พอจอดรถได้เธอก็รีบเผ่นแผล็วเข้าบ้านโดยพลันด้วยใจระทึก เมื่อพยายามจะโทรแจ้งตำรวจก็ได้ยินเสียงคนขับรถคันนั้นตะโกนว่า "ล็อคประตูบ้านแล้วโทรเรียกตำรวจซะ!" ทำให้เธอรู้สึกงุนงงไม่น้อย

    แต่เมื่อตำรวจมาถึง เธอก็ได้รู้ความจริงอันน่าสะพรึงว่าที่แท้คนขับรถลึกลับคันนั้นพยายามจะเตือนเธอว่ามีฆาตกร( นักข่มขืน หรือคนไข้โรคจิตที่หนีออกมา แตกต่างกันไปแล้วแต่เวอร์ชั่น) แอบซ่อนอยู่ที่เบาะหลังของรถ และทุกครั้งที่มันพยายามจะลุกขึ้นจากที่ซ่อนเพื่อทำร้ายเธอด้วยอาวุธในมือ เขาก็จะขับรถประชิดมากระแทกท้ายรถเพื่อให้มันเสียจังหวะ

    เริ่มแรกหญิงสาวจะหยุดรถที่ปั๊มเพราะน้ำมันใกล้หมด และคนดูแลปั๊มที่ดูท่าทางมีพิรุธจะพยายามคะยั้นคะยอขอให้เธอเข้าไปคุยกันในอาคารเพราะมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับบัตรเครดิต แต่เธอปฏิเสธเพราะเขาดูไม่น่าไว้ใจ และขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ชายคนนั้นจะขับรถตามไล่จี้ไปอย่างกระชั้นชิด (เพราะเขาเห็นว่ามีคนซ่อนอยู่ที่เบาะและพยายามจะบอกเธอ) เรื่องราวนี้มักจะถูกถ่ายทอดกันแบบปากต่อปาก ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มาเตือนหญิงสาวมักจะเป็นคนตัดไม้ สิงห์รถบรรทุก หรือคนที่ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจ แต่แท้ที่จริงแล้วคนที่ดูน่ากลัวนั่นเองคือผู้ที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้







The thing in the window


    ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้เจอกับประสบการณ์อันน่าสยดสยองในบ้านของผมเอง มันอยู่นอกหน้าต่างในห้องของผม มันเป็นเหมือนใบหน้าอันซีดเซียวของมนุษย์ถูกอัดก็อบปี้จนติดกับกระจกหน้าต่าง ในตอนแรกผมคิดว่าเป็นการแกล้งเพื่อให้ผมตกใจเล่นๆด้วยตุ๊กตาสยองๆ ผมเดินออกไปหน้าบ้านด้วยความคิดที่ว่าจะเอาของเล่นพิเรนทร์นั่นออกไปให้พ้นๆหน้าต่าง แต่ทว่ามันกลับไม่มีอะไรที่ฝั่งตรงข้ามของหน้าต่างในห้องผม

    คงมีใครเก็บไปแล้วสินะ ผมคิดในใจ ผมเดินผิวปากกลับเข้าห้องนอนอย่างสบายใจ แต่ผมก็พบกับภาพที่ทำให้ผมหัวเสีย **ตุ๊กตาบ้านั่นมันกลับมาอยู่ที่เดิม “**ออกมานะ **ลูกหมา!” ผมโมโหมาก จึงวิ่งไปรอบบ้านแล้วตะโกนเสียงดังหนวกหู แต่สุดท้ายผมก็ไม่เจอใครเลย ผมอยู่อย่างอึดอัดกับใบหน้าที่แปะอยู่บนหน้าต่างในห้อง เหมือนมันจ้องมองมาที่ผมตลอดเวลา ยามที่ผมหันหลังให้มัน ราวกับว่าใบหน้าของมันขยับตามผมอย่างน่าขนลุก และเมื่อผมหันกลับไปมองมัน ใบหน้าของมันกลับหันไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว มันเป็นตัวอะไรกันแน่

    ในที่สุดความอดทนของผมก็หมดลงในวันพฤหัสบดี ผมเปิดหน้าต่างเพื่อที่จะไปเผชิญกับมันตรงๆ ผมคิดว่าผมใจแข็งพอ แต่ว่าเมื่อผมเปิดหน้าต่างออกไปผิวหนังของมันนั้นคิดอยู่กับหน้าต่างอย่างแน่หนา เหลือแต่เพียงใบหน้าเปลือยๆไร้ผิวหนังจ้องมองผมอย่างไม่ละสายตา ใบหน้าเปลือยๆสีแดงของมันทำให้ผมถึงกับกรีดร้องออกมาลั่นบ้าน รอยยิ้มเริ่มปรากฏบนใบหน้าที่ไร้ผิวหนัง ขณะที่ผมปิดหน้าต่างลงอย่างแรงด้วยความกลัวและตกใจสุดขีด ผมเริ่มตั้งสติอีกครั้ง ลองมองเห็นมันยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆจนน้ำลายไหลย้อยติดหน้าต่าง ผมใช้กำปั้นของผมต่อยกระจกเพื่อไล่มันออกไป น่าแปลกที่กระจกกลับไม่มีแม้แต่รอยร้าวเลยทั้งที่ผมต่อยไปเต็มแรงแล้ว

    มันยิ้มเยอะเย้ยผม รอยยิ้มเริ่มยาวจนเหมือนกับว่าจะผ่าใบหน้าของมันออกเป็นสองซีก ในปากของมันเต็มไปด้วยฟันสกปรกที่เรียงอย่างผิดรูป มันใช้มือสีดำทมิฬเริ่มทุบกระจกเลียนแบบผม แต่ทันใดที่มันทุบครั้งแรก เสียง ตุบ ของแรงกระแทกนั้นดังลั่นบ้านของผม และกระจกเกิดรอยร้าวอย่างรุนแรง มันยังคงทุบต่อไปเรื่อยๆ รอยร้าวลุกลามไปที่ผนังห้อง อย่างกับว่าบ้านของผมกำลังจะพังทลาย

เพล้ง………..

ผมตื่นมากลางดึกท่ามกลางความเงียบงัน ไม่มีอะไรอยู่ที่หน้าต่าง ไม่มีรอยร้าว ไม่มีอะไรทั้งนั้น ทันใดนั้นผมก็รูปสึกได้ว่ามีมืออันเย็นเยือกมาสัมผัสไหล่ขวาของผม ผมหันไปพบเจอกลับรอยยิ้มอันน่าขนลุกของ “มัน” 

มันยังคงจ้องมองผมอยู่



ไอพี: ไม่แสดง

#190 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 28 พ.ค. 57 20:54 น.

น่ากลัวมากกกกกกกกก บรึ้ยยยย
รอต่อนะคะ ติดตามอยู่ ว่างเมื่อไหร่ก็มาอัพนะ
เรารอจขกทอัพเสมอ 

ไอพี: ไม่แสดง

#191 | #Prynce.P | 30 พ.ค. 57 04:14 น.

ทำไมไม่อัพคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#192 | Anymore. | 30 พ.ค. 57 19:26 น.




The Haunted House Part4


    เรื่องที่แปด ผีอิสลาม (ไคลแม็คซ์ของบ้านหนังนี้ครับ)
ผีตัวนี้ จริงๆมันเป็นต้นเหตุของความหล่อนในบ้านเลยก็ว่าได้ ครอบครัวผมเคยจับเข่าคุยกันหลายครั้งว่าจะย้ายหนี้ ไม่ไหวและนอกจากเจอหลอก เจอเสียงลูกแก้ว และอีกต่างๆน่าๆ แต่พวกนั้นไม่เท่าไหรที่หนักสุดจะเป็นอยู่แล้วไม่เจริญครับ คือทำไรก็เจ๊งหมด ครอบครัวมีแต่เรื่องทะเลาะกันอยู่แล้วไม่มีความสุขอะครับ แต่พอคิดจะซื้อบ้านใหม่ทีไรก็จะมีปัญหาทำให้ไม่ได้ซื้อทุกครั้ง พอทำธุรกิจอะไรก็จะมีเรื่องแปลกๆมาทำให้เจ๊งตลอด และแล้วก็มีคืนนึงที่ผมได้มีโอกาศเจอตัวการใหญ่ของวิญญานเฮียของบ้านหลังนี้ ผีอิสลามทั้ง5ตน

มีคืนนึงผมฝันว่า มีคนพยายามพังประตูเข้ามาในห้องนอนผม ผมก็เอาตัวดันไม่ให้เข้า ผมก็ถามว่าจะเข้ามาทำไมไม่ให้เขา คนที่จะเข้าก็บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยจะไม่ทำร้ายตัวผม ผมก็อะจะเข้าก็เข้ามามีไรก็รีบคุยผมก็เปิดประตูให้มัน สิ่งที่ผมเห็น(อันนี้ในฝันนะครับ)คือคนอิสลาม 5 คนเดินเรียงกันเข้ามาในห้อง ผมจำหน้าตาพวกเขาได้แม่น มีเด็ก ประมาน ม.ต้น 1คนประถม 2 คน วัย 30 1 คน และคนแก่ 1 คน ทุกคนล้วนเป็นผู้ชาย ที่ผมรู้ว่าพวกเขาเป็นอิสลามเพราะพวกเขาใส่ชุดที่จะไปละมาด และทุกคนก็หน้าตาเหมือนคนใต้ แถว 3จังหวัดชายแดนอะครับ ผมก็เริ่มคุยกับเขา แต่การคุยกันนี้ไม่มีไครขยับปาก เหมือนคุยกันทางจิต ผมถามว่าต้องการอะไร พวกเขาก็บอกว่า พวกเขาหิวมากทรมาณมาก เราไม่ทำบุญให้เขาเลย ด้วยความที่ในฝันผมโมโหอยู่ผมก็บอกว่าเออๆ เดียวทำบุญไปให้ รีบๆไปได้แล้วคนจะนอน

แล้วผมก็ตื่น ผมมานั่งทบทวน แม่ผมก็ทำบุญบ่อยทำไมไอพวกนี้ไม่ได้และอีกอย่างที่ผมแปลกใจผมเจอทุกตัวที่แม่ผมให้อยู่หมดแล้วแต่ทำไมไม่เคยเจอ 5ตัวนี้ ผมก็ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็บอกว่าคนอิสลาม5คนเหรอแม่ไม่เคยเจอนะ ไม่เคยให้อยู่ด้วย ผมก็อ๋อเพราะแม่ผมไม่เคยเจอเลยไม่รู้ว่ามี 5 ตัวนี้อยู่เลยไม่ได้ทำบุญให้ และแล้วผมกะแม่ก็ไปทำบุญให้ พอทำบุญให้ปัป มีปัญหาเลยครับ ไอนั้นแตกไอนี้พัง ไม่ได้ดังหวังสักคนในบ้าน แม่กับผมเลยไปหาหมดดูที่เขาบอกว่าแม่นมาก ไม่ขอเอยชื่อและกันนะ อาจารบอกว่า ที่บ้านผมเป็นแบบนี้ เป็นเพราะ มีผี อิสลาม 5 ตัว คอยดึงอยู่ ผมกะแม่สะดุ้งเลยเขารู้ได้ไง ตอนนั้นต่อมสัจฐาผมพรุ่งขึ้นเลยทีเดียว  ผมก็บอกว่าครับผมเคยเจอแล้ว แต่ก็ทำบุญให้แล้วเขาจะเอาอะไร


อาจารบอกว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่บ้านนะผู้อยู่เบื้องหลังคือ 5ตัวนี้แหละ เหมือนเป็นหัวหน้าแก๊ง เขาตายถูกฝั่งอยู่ที่แถวนั้นและต่อมาก็มาสร้างบ้านที่พวกเราอยู่นั้นแหละ และบังเอินตรงทางสามแพร่งและก็บังเอินอีกแม่เราใจดีให้พวกผีเรร่อนมาอยู่ มันเลยเอาไปเป็นลูกน้องซะเลย ผมกับแม่มองหน้ากันอีกรอบ รู้ได้ไงวะ  ผมถามต่อแล้วเขาต้องการอะไร อาจารบอกว่าเขาไม่ชอบอย่างมากหากเรากินหมู หรือเอาอาหารที่เป็นหมูเข้ามาในบ้าน แม่ผมบอกเอ๊าก็ครอบครัวฉันเป็นพุทธ อาจารบอกว่านั้นแหละประเด้นเขาต้องการให้ครอบครัวเรา เปลี่ยนมาเป็นอิสลาม ทั้งบ้าน แม่ผมบอกอาจารว่าฝากอาจารบอกพวกมันด้วยว่าฝันไปเถอะ ผมก็ขำแม่ 55 แล้วก็ปรึกษากับอาจารว่าจะเอามันออกไปไงดี อาจารบอกว่า ไม่มีทาง เพราะเขาอยู่ของเขาอยู่ก่อนแล้วเราตะหากที่ไปรบกวนเขา ทางแก้มีทางเดียว ย้ายออก

ผมกับแม่ก็บอกอาจารว่าพยายามย้ายออกหลายรอบแล้วแต่มีเหตุให้ไปไม่ได้ตลอด อาจารบอกว่าอย่าให้มันรู้สิว่าเราจะออก พวกเขาอยู่ได้แต่ที่บ้าน เราก็ออกไปดูบ้านไว้พอได้ถูกใจ ห้ามทุกคนในบ้านคุยเรื่องบ้านใหม่เด็จขาด ห้ามพวกเขาได้ยินหรือรู้ว่าเราจะย้ายออกเด็จขาด พอได้บ้านแล้วก็ค่อยๆขนของออกมาที่ละชิ้นๆ ของทิ้งชิ้นต้องแปะยันไม่ให้ผีเข้าไปสิ่งตามเราออกไปได้ พอขนหมดเราก็ไปเลยไม่ต้องกลับมาอีก

พอรู้ดังนั้นแม่ผมโมโหมาก ไปถึงบ้านแม่ผมด่าเลย เป็นผีแล้วยังจะวุ่นวายอะไรอีก กุไม่เปลี่ยนเป็นอิสรามและกุก็จะกินหมูทุกมื้อด้วย แม่ผมทะเลาะกับผีบ่อยมาก แม่ผมแค้นขนาดให้บระหมี่หมูแดงมาขายที่หน้าบ้าน 555 คิดดูละกัน ผมกับแม่ก็ทำตามที่หมอบอกทุกอย่าง และก็เป็นจริงอย่างที่อาจารบอก การซื้อบ้านใหม่ครั้งนี้ทุกอย่างราบลื่น จนซื้อบ้านสำเร็จ และก็ค่อยๆขนของหนีผีออกมาทีละชิ้นๆเราใช้เวลาย้ายของ 1เดือนเต็ม กลัวมันตามมาหัวหด 555มันตลกมากที่ทุกคนในบ้านคุยเรื่องบ้านใหม่ไม่ได้ จะคุยต้องขับรถออกไปคุยข้างนอก 555 และแล้วเราก็หลุดพ้นจากบ้านหลังนั้นมาได้ หลังจากอยู่บ้านใหม่เราทำไรก็ดีไปหมดที่แย่ๆก็กลับมาดีการเงินก็ดีขึ้น และครอบครัวผมก็ได้เริ่มชีวิตใหม่อีกครับ


จริงๆมีหลายเหตุการครับแต่ผมลืมมั้งนึกไม่ออกมั้ง มีอีกเยอะเพราะผมอยู่มา 10กว่าปี เล่าวันเดียวไม่หมดอะครับ เหนื่อยแล้วด้วยเลยเราบทสรุปเลยละกัน อ๋อและที่เล่ามาเนีย แค่เหตุการณ์ที่ผมเจอในบ้านผีนี้แค่นั้นนะครับ บอกเลยว่า บ้านผีนี้เป็นบ้านผีสิงหลังที่ 2 ที่ผมอยู่หลังแรงตอนนั้น ผม 1 ขวบเองมั้งครับ หลังแรกเป็นบ้านผีสิ่งชื่อดังทุกคนน่าจะรู้จักแต่ตอนนั้นพ่อกับแม่ผมไม่รู้จักครับ 55 ซื้อเพราะถูกอยู่ได้3เดือนครับ ขาย ไว้ว่างๆจะมาเล่า

  และก็มีเหตุการผีๆอีกเยอะครับที่ผมเจอข้างนอก รู้แล้วใช่ไหมครับว่าทำไมผมไม่กลัว ผมเจอจน ชินแล้ว จริงๆ


ต่อ

นอกเรื่องก่อน ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ และก็ต้องขอโทษที่พิมผิดเยอะมาก อายครับอาย แต่ตอนพิมผมพิมที่ทำงานครับเลยรีบพิม และผมขอไม่แก้นะครับมันเยอะจริงๆ 55 แต่ผมรู้ว่าพวกคุณสามารถ อ่านออก ขอบคุณที่ติดตาม และเชิญรับอ่าน (อันนี้ตั้งใจพิม) ได้เลยครับ

  อย่างที่ผมเคยบอกบ้านตึกแถวตรงทางสามแพร่งนั้น เป็นบ้านผีสิงหลังที่ 2 ที่ผมได้มีโอกาศอยู่ (แลดูภูมิใจ) หลังแรกนั้น เป็นบ้านหลังเล็กๆตามสไตลบ้านเมื่อก่อน 30 กว่าปี  32ปีทีแล้วพ่อแม่และผม 1ขวบ ได้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังหนึ่ง ซ.ลาดพร้าว แล้วมีเลขต่อท้ายปัจจุบัน บ้านหลังนั้นดังอยู่มาก ในเรื่องความเฮี่ยน พ่อผมซื้อต่อคนอื่นมาในราคาที่ถูกมากๆ จนพ่อผมรีบคว้าไว้แทบไม่ทัน โดยไม่ได้เช็คประวัติใดๆเลย และครอบครัวผมก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ เรื่องต่อไปนี้แม่ผมเล่าให้ฟังมาอีกทีนะครับ เพราะตอนนั้นผม 1 ขวบ ถ้าจำได้คง เก่งไป


    เรื่องแรก การรับน้องใหม่
ทุกวันพ่อผมต้องออกไปทำงาน ส่วนแม่ผมเป็นแม่บ้านอยู่เลี้ยงผม ตั้งแต่ย้ายมาแม่ผมสังเกตุความผิดปกติของผม ผมชอบนั่งนิ่งๆและมองไปในทิศทางใดทางนึงตลอด เหมือนผมกำลังมองไครอยู่ ตอนแรกๆแม่ผมก็ไม่ได้คิดอะไร วันต่อมา ผมเริ่มหัวเราะโดยไม่มีเหตุผล และเริ่มคลานไปในจุดที่เดิมซ้ำๆไม่ว่าจะเอาตัวผมไปว่างไว้ตรงไหนผมก็จะคลานไปที่นั้นเสมอ ตรงนั้นคือ ราวบันใดทางขึ้นบ้าน แม่ผมเริ่มปรึกษาพ่อผม ด้วยความเป็นห่วงผมและเขาก็เริ่มรู้สึกว่าในบ้านหลังนี้มีอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติ ตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านไม่มีเพื่อนบ้านคนไหนทักทายแม่ผมเลย แม่ผมทักไครเขาก็ไม่ทักด้วย บวกกลับแม่ผมเริ่มได้ยินเสียงคนเดินภายในบ้าน โดยที่ทั้งบ้านมีแม่อยู่แค่คนเดียว (อย่าลืมผมยังเดินไม่ได้เลยไม่นับนะครับ)

พอผ่านมาสักอาทิตย์ ผมเริ่มเล่นกับอากาศ (นึกภาพเด็กเล่นกับคนที่เข้ามาแหย่นะครับแต่ผมทำแบบนั้นกับอากาศ) และต้องเป็นอากาศแถวราวบันใดขึ้นบ้านด้วย และแม่ผมก็เริ่มได้ยินเสียงคนร้อง แบบเจ็บปวด ทั้งชาย ทั้งหญิง ตามด้วยเสียง วิ่งดังสนั่น ตึงตึง!! ตึงตึงๆๆๆ แม่ผมเริ่มจิตตก พอพ่อผมกลับมาบ้านแม่ผมจะเขาไปคุยทุกครั้งว่า ฉันว่าบ้านหลังนี้มันแปลกๆพ่อผมก็จะดุแม่ผมทุกครั้ง เธอคิดมากกว่าเราจะเก็บเงินซื้อบ้านได้มันยากนะ อย่าเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมา ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข จนมีวันนึง แม่ผมตากผ้าอยู่ ผมก็เล่นกับอากาศตามเดิมที่เดิม แต่ครั้งนี้แม่ผมได้ยินเสียงลูกบอลยางเด้ง ตุบ ตุบ ตุบๆๆๆ แม่ผมหันไปดู สิ่งที่แม่ผมเห็นคือ ลูกบอลยางกำลังเด้งไปหาผม อย่างช้าๆ ตุบ ตุบ และผมก็รับมันไว้ และผมก็ได้ทำสิ่งที่แม่ผมไม่อยากให้ผมทำที่สุดตอนนั้นคือ โยนมันกลับไปทางเดิม แม่ผมยืนลุ้นด้วยความใจจดใจจ่อ และพอบอลไปถึงครึ่งทาง ลูกบอลก็หยุดลอยอยู่กลางอากาศ และก็เด้งกลับมาหาผมอีกครั้ง .  .  .  แม่ผมร้องกรี๊ดเสียงดังลั้น กรี๊ดดดดดด . . . . แล้วรีบวิ่งขว้าตัวผมออกนอกบ้าน ด้วยพลังทั้งหมดที่ท่านมี แล้วก็ยืนรอพ่อผมกลับบ้าน จนถึงมืด (สมัยนั้นการติดต่อสือสารมีทางเดียวคือโทรศัพท์บ้าน แต่.  . . มันอยู่ในบ้านนี้สิ) พอพ่อผมกลับถึงบ้าน แม่ผมเล่าให้พ่อผมฟังทั้งน้ำตา และก็เหมือนเดิม พ่อผมไม่เชื่อ



http://pantip.com/topic/32030480 อยากอ่านเรื่องผีที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตแบบติดอยู่ในหัวของแต่ละคน

แก้ไขล่าสุด 30 พ.ค. 57 19:28 | ไอพี: ไม่แสดง

#193 | addams. | 30 พ.ค. 57 21:38 น.

ขอบคุณมากนะครับ สนุก

ไอพี: ไม่แสดง

#194 | youthy27 | 31 พ.ค. 57 00:26 น.

ขอบคุณมากน่ะคะที่คอยอัพให้อ่านเรื่อยๆ ติดตามกระทู้นี้อยู่ตลอด
หลอน ลึกลับ สะใจเรามาก จะเป็นกำลังใจให้ จขกท. คะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#195 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 1 มิ.ย. 57 13:37 น.

พี่คะ อัพพพพพพพพพ 

ไอพี: ไม่แสดง

#196 | BijGetsMaShit | 1 มิ.ย. 57 17:30 น.

หืม หลอนมาก เท่าาที่อ่านมาชอบเรื่องมิกกี้เม้าสุด 
*เกร้สสสสสสสสรัวๆ* ชูฟ้ายไฟ

ไอพี: ไม่แสดง

#197 | #Prynce.P | 2 มิ.ย. 57 22:09 น.

ทำไมไม่อัพคะ       

ไอพี: ไม่แสดง

#198 | Anymore. | 4 มิ.ย. 57 19:36 น.

ขอโทษนะที่ไม่ได้มาอัพ ไม่ค่อยว่างเลย หลังจากนี้ก็คงยาวๆเลยล่ะ กว่าจะมาอัพทีนึง ขอบคุณมากๆที่ติดตามอ่านมาโดยตลอด หวังว่าจะติดตามต่อไปนะ
อย่าโกรธเราเลยนะ


       






SCP


  SCP ย่อมาจาก Secure Contain and Protect
แปลเป็นไทยก็คือ การควมคุม กักกันและป้องกัน

    เป็นองค์กรที่คอยทำหน้าที่รวบรวม เก็บรักษาดูแล และป้องกัน สิ่งที่เป็นปรากฎการณ์ เหนือธรรมชาติทั่วไป ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต สิ่งที่สามารถอธิบายได้จากหลักการทางวิทยาศาสตร์ และไม่สามารถอธิบายได้โดยหลักการทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่อาจเกิดจากไสยศาสตร์ และสิ่งที่ไม่สามารถหาเหตุผลในการคงอยู่ สิ่งที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ โดยส่วนใหญ่จะเขียนเป็นบทความที่ไม่ยาวมาก ไม่ใช่แนวสร้างสรรค์ แต่เป็นแนวสยองขวัญ สรุปก็คือเป็นบทความแนวสยองขวัญที่เขียนกันขึ้นมาให้มันดูเหมือนมีอยู่จริง โดยการอ้างอิงชื่อ สถานที่ หรือวัตถุที่มีอยู่จริงเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน


    เว็บก็ทำเป็นว่าเป็นเอกสารราชการขององค์กรลับ SCP ที่เป็นเหมือน MIB ซึ่งคอยเข้าควบคุมหรือกำจัดสิ่งที่อาจเป็นอันตรายกับมนุษย์ชาติ โดยวัตถุแต่ละชิ้นนั้น ส่วนใหญ่จะเสนอเป็นรายงานระบุวิธีที่ใช้ควบคุมบริเวณและข้อมูลของ SCP แต่ละชิ้น
โดย SCP ส่วนใหญ่จะแบ่งได้เป็นสามระดับ

- Safe ไม่ค่อยอันตราย หรือองค์กรแน่ใจว่าควบคุมได้แน่นอนแล้ว

- Euclid อันตรายพอสมควร การควบคุมก็ค่อนข้างแน่นอน แต่ยังมีโอกาสหลุดไปได้เพราะ      องค์กรก็ไม่เข้าใจSCPระดับนี้ดีพอ

- Keter อันตรายมาก และอาจจะหลุดจากที่ควบคุมเมื่อไหร่ก็ได้ซะด้วย


    ซึ่งองค์กรนั้นบางทีก็โหดร้ายไม่ต่างจากสิ่งที่ตัวเองควบคุมอยู่เลย การควบคุมหรือทดลอง SCP ที่เสี่ยงมากนั้นจะใช้บุคลากรระดับ D-Class ซึ่งเอามาจากพวกนักโทษอุกฉกรรจ์ และถ้าไม่ตายซะก่อนก็จะ"กำจัดทิ้ง"ทุกเดือน และในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ D-Class จริงๆแต่ไม่มีนักโทษ องค์กรก็พร้อมจะหลอกสามัญชนมาตายได้ด้วย

ระดับทั่วไปของบุคลากรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ SCP

ระดับ 0 : บุคลากรทั่วไป บุคลากรระดับนี้จะไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับ SCP เช่น พนักงานเอกสาร ภารโรง พ่อครัว เป็นต้น

ระดับ 1 : บุคลากรที่มีหน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัย หรือการบำรุงดูแล SCP รวมถึงการกวาดล้าง

ระดับ 2 : บุคลากรที่ทำหน้าที่สั่งการการดูแลที่เกี่ยวข้องกับ SCPs

ระดับ 3 : บุคลากรที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในไซต์-19 หรืออื่น ๆ รวมถึงการกวาดล้าง SCPs ทุกที่ยกเว้นระดับ Keter

ระดับ 4 : บุคลากรระดับหัวหน้ามีหน้าที่คอยสั่งการ สามารถเข้าได้ทุกพื้นที่ที่ไม่ใช่ระดับ Keter

ระดับ 5 : บุคลากรระดับอาวุโส บุคลากรบางคนต้องทำงานเกี่ยวกับการกวาดล้างในระดับ Keter ซ้ำๆกันหลายครั้ง

ระดับอื่น ๆ ใน SCP

D : บุคคลที่อยู่ในระดับนี้จะเป็นนักโทษประหาร โดยเอามาใช้ทดลองกับ SCP ซึ่งบุคคลระดับนี้ส่วนใหญ่จะไม่รอด และบางทีถ้าไม่มีนักโทษ พวกเขาก็จะทำการจับพลเรือนมาแทน

E : บุคคลระดับนี้จะใช้งานเมื่อต้องการจะจับ SCPs กลับมายังไซต์

O5-X : บุคลากรระดับหัวหน้าสูงสุดใน SCP มีหน้าที่ดูแล บริการ สั่งการ และอนุมัติ และจะไม่มีการข้องเกี่ยวกับ SCPs



SCP-056





ระดับ: Safe

มาตรการกักกันพิเศษ: SCP-056 ถูกเก็บเอาไว้ให้ทดสอบ-A12 ของไซต์-29 ตลอดเวลาโดยมีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายวัตถุอย่างเด็ดขาด เมื่อไม่มีการวิจัย ประตูห้องจะถูกล็อคด้วยระบบที่มีความปลอดภัยระดับสูงสุดเพื่อป้องกันบุคลากรที่ไม่ได้รับอนุญาต

การเข้าถึงวัตถุจะถูกจำกัดกับเฉพาะบุคลากรระดับ 4 ที่มีหน้าที่ในการวิจัยกับ SCP-056 เท่านั้น จากเหตุการณ์ 056-D-7402 การวิจัยใดๆ ต้องได้รับอนุมัติจาก O5 และต้องใช้ผู้ทดสอบที่ไม่มีประวัติเป็นฆาตกรหรือป่วยทางจิตมาก่อน


รายละเอียด: SCP-056 มีลักษณะเป็นตู้เสื้อผ้าประตูบานคู่โบราณ ขนาด 120 x 54 x 191 ซม. วัตถุมีความหนักประมาณ 10 กก. และปรากฏคราบสีน้ำตาลที่บานประตู โดยคราบนี้จะค่อยๆขยายตัวทุกครั้งที่มีการใช้งาน SCP-056 ด้วยวิธีที่ไม่ทราบ

เมื่อใดที่เปิดบานประตูของ SCP-056 จะเผยให้เห็นห้องที่ดูเหมือนเป็นห้องนอนของบ้านหลังหนึ่งในศตวรรษที่ 19 และทุกอย่างภายในนั้นเป็นขาว-ดำ1 ในบางครั้งจะพบเงาดำจางๆปรากฏขึ้นภายในห้องนั้นก่อนจะหายไป บุคคลที่ก้าวผ่านเข้าไปใน SCP-056 จะหายตัวไป บานประตูจะปิดลงและไม่สามารถเปิดได้อีกจนกว่าพวกเขาจะกลับออกมาจาก SCP-056 หรือผ่านไปแล้วอย่างน้อย 2 ชม. บานประตูถึงจะเปิดได้อีกครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่กลับมาภายใน 2 ชม. พวกเขาจะหายสาบสูญไปใน SCP-056 ตลอดกาล


รายละเอียดเพิ่มเติมจากการทดสอบ 056-D-9655-a: การก้าวข้ามเข้าไปยัง SCP-056 ผู้ทดสอบจะไปโพล่ยังสถานที่แห่งหนึ่งเป็นห้องนอน บ้านมีสภาพเก่าทรุดโทรม และทุกอย่างที่มองเห็นล้วนเป็นสีขาว-ดำ ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นอีกโลกหนึ่งที่คล้ายกับโลกปัจจุบัน แต่อยู่ในช่วง ค.ศ.19██ อย่างไรก็ตามเมื่อเข้ามาใน SCP-056 ผู้ทดสอบจะสามารถไปไหนมาไหนหรือทำอะไรภายในตัวบ้านได้ตามที่ต้องการ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถทำสิ่งที่ "วิญญาณ" สามารถจะทำได้ด้วยวิธีการที่ไม่รู้จัก แต่จะไม่สามารถออกจากบ้านได้เนื่องจากมีกำแพงบางอย่างที่มองไม่เห็นคอยป้องกันเอาไว้ (ดู ภาคผนวก-2)

ภาคผนวก 1: บันทึกเหตุการณ์ 056-D-7402 วันที่ ██/██/20██

ดร.รัน ได้ทำการทดสอบกับ SCP-056 โดยการส่งคลาส-D จำนวน 5 คน เข้าไปใน SCP-056 โดยให้เวลาเพียง 1 ชม.เท่านั้น และมีเพียง 2 คนที่กลับออกมาก่อนครบ 2 ชม. และหนึ่งในนั้นมีสภาพที่เต็มไปด้วยเลือด แต่ตรวจไม่พบบาดแผลใดๆ


การพูดคุยกันนี้เกิดขึ้นภายหลังการทดสอบ

ดร.รัน: มันเกิดบ้าอะไรกับแก**!?
D-7402: เปล่านิ
ดร.รัน: เปล่าเรอะ? ตัวแกเต็มไปด้วยเลือดของคน แล้วบอกว่าเปล่าเนี่ยน่ะ
D-7402: ฉันแค่…หาอะไรหนุกๆทำตอนที่แกส่งฉันไปที่นั่น แล้วในนั้นก็ไม่เห็นเป็นสีแดง
ดร.รัน: พูดมา
D-7402: ก็ได้ ฉันไปเจอครอบครัวหนึ่งในนั้น
ดร.รัน: แกทำอะไรกับพวกเขา?
D-7402: [ข้อมูลถูกลบ]
ดร.รัน: [คำหยาบ] [ข้อมูลถูกลบ]

ภาคผนวก-2: วันที่ ██/██/20██ ดร.รันได้ทำการทดสอบเป็นครั้งสุดท้ายโดยการส่ง D-9655 เข้าไปใน SCP-056 ทำให้ได้พบกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่องานวิจัยกลับมา



http://www.scp-wiki.net/main ต้นฉบับ
http://scp-th.wikidot.com/ แปลไทย


ปล.สำหรับคนยังไม่รู้นะ อาจทำให้ฝันสลาย
เรื่องทั้งหมด เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมา .. และก็ที่คลุมดำคงเพราะไม่รู้จะเมควันที่เท่าไหร่ดี น่าอนาถใจแท้  <<


ไอพี: ไม่แสดง

#199 | Gleek! | 4 มิ.ย. 57 23:10 น.

SCP อะไรนั่น อ่านไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ไม่เข้าใจเลยซักนิด

ไอพี: ไม่แสดง

#200 | #Prynce.P | 7 มิ.ย. 57 08:36 น.

อัพได้แล้วน้า       

ไอพี: ไม่แสดง

#201 | pchi | 7 มิ.ย. 57 12:23 น.

^ คห.บน
ทำไมถึงมาชอบเร่งให้จขกท.เขาอัพเร็วๆละคะ? เห็นหลายครั้งแล้ว
เขาไม่ได้ว่างตลอดเวลานะ ก็ต้องมีไปเรียนไปทำงานบ้าง
มาเร่งเขาแบบนี้ก็ไม่ถูกนะ -____-

ไอพี: ไม่แสดง

#202 | #Prynce.P | 8 มิ.ย. 57 21:41 น.

เอ้า ก็ต้องโผล่มาให้รู้ว่ายังติดตามสิคะ สุดท้ายจขกทจะอัพเมื่อไหร่ก็ได้อ่านเมื่อนั้นแหล่ะค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#203 | Gleek! | 8 มิ.ย. 57 23:58 น.

การเร่งคือเป็นการบอกเจ้าของกระทู้ว่ายังมีแฟนคลับคอยติดตามอ่านนะคะ

อารมณ์ประมาณว่า กระทู้ของเธอมันดีเหลือเกิน ชั้นรอไม่ไหวแล้วประมาณนี้

เจ้าของกระทู้เค้าคงใจชื้น

อ่านแล้วเงียบหายไป เจ้าของกระทู้เค้าก็ไม่รู้ว่ามีใครตามอ่านอยู่หรือเปล่า

เค้าก็หมดกำลังใจและเลิกอัพ เราก็ไม่มีอะไรให้อ่านนะคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#204 | confection. | 12 มิ.ย. 57 21:02 น.

รอติดตามอยู่นะครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#205 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 15 มิ.ย. 57 13:06 น.

หนูรอพี่มาอัพนะคะ .. 

ไอพี: ไม่แสดง

#206 | Anymore. | 17 มิ.ย. 57 18:26 น.

โห่ ได้เวลามาต่อสักที หายไปประมาณ 10 กว่าวัน ยังไม่ลืมคลังนี้ใช่ป่ะทุกคนน อย่าเข้าใจผิดกันเลยนะ เราอ่านแล้วก็ไม่สบายใจ แค่มาเม้นเราก็ดีใจแล้ว
ขอบคุณทุกคนนะที่ยังติดตามอยุ่ตลอด จะพยายามว่างนะ ฮาา



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-* *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*


The Haunted House Part5


    เรื่องที่สอง การจัดเต็มแบบ Full Option
หลังจากที่แม่ผมได้คุยกับพ่อผมแล้วนั้น คืนนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ และก็อย่างที่ทุกคนน่าจะเดาได้ แม่ผมเอาลมลูกบอลออกครับ 55 กันไว้ก่อนคงกลัวเจอดาบสอง หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็เป็นไปตามเดิมผมก็ยังคลานไปนั่งที่เดิมเล่นเหมือนเดิม แม่ผมเริ่มจิตตกแม่ผมเริ่มคิดที่จะเอาผมไปฝากญาติดูแลก่อนเพราะเป็นห่วงผม แต่เหตุการมันเลวร้ายลง เสียงต่างๆที่แม่ผมได้ยินเริ่มดังขึ้น แม่ผมเริ่มเห็นเงาประหลาดๆ จนในที่สุด ผมก็มาแสดงตัว
คืนนั้นแม่ผมดูละครจบกำลังจะขึ้นนอน พอเดินไปถึงราวบันใดแม่ผมก็รู้สึกเย็นวาบและขนก็ลุกตามมาทันทีแม่ผมเดินก้อมหน้าต่อไปด้วยความกลัวและก็ก้าวเท้าขึ้นบันใดที่ละก้าวที่ละก้าวอย่างช้าๆเหมือนร่างกายของแม่ไม่อยากเดินต่อแม่ผมเริ่มหายใจติดขัด

แม่ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ตรงหน้า แต่ท่านไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาดู แม่ผมยืนอยู่ที่บันใดขั้นที่ 4 และไม่มีท่าทีจะก้าวต่อไปเพราะกลัวมาก แต่ท่านก็ต้องกลั่นใจเงยหน้าเพราะผมนอนอยู่ข้างบน ยังไงท่านต้องขึ้นไปหาผมให้ได้ แม่ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้น เจอบันใดขั้นที่ 5 ขั้นที่ 6 7 . . . . เท้าคนลอยหมุนอย่างช้าๆในขั้นที่ 8 แม่ผมช็อคสุดขีดไม่กล้าที่จะเงยต่อ แต่แล้ว ผมก็ร้อง ดังลั่น แม่ผมด้วยความเป็นห่วงเลย เงยหน้าพลุบ แบบออโต้เมติก โดยลืมไอเท้าที่ลอยหมุนช้าๆไปเลย สิ่งที่แม่ผมเห็นคือ ร่างของผู้ชาย โดนซ้อมสะบักสะบอมไปทั้งตัว เสื้อผ้าขาดหลุดรุย ถูกแขวนคอ ลอยอยู่กลางบันใดทางขึ้น แม่ผมกรี๊ดดดดดดดด
และก็สลบไป จนพ่อผมมาปลุก แม่ผมร้องไห้พูดกับพ่อผมอย่างเดียว เราต้องย้ายๆ ต้องย้ายออกเดียวนี้ ฮือ ฮือๆๆ พ่อผมปลอบแม่จนได้สติ แต่พ่อผมก็ยังยืนยันว่ายังย้ายไม่ได้ เพราะเงินลงไปกับบ้านหมดแล้ว และพ่อผมก็ยังไม่เชื่อด้วย


    คืนวันต่อมา พ่อผมพาเพื่อนๆมากินเลี้ยงที่บ้าน นั่งกินเหล้าเล่นไพ่กันทั้งคืน เล่นกันอยู่ดีๆ พ่อจากหัวเราะๆก็นิ่งไป และก็นั่งก้มหน้า แม่ผมก็ถามเธอ เป็นอะไร เธอ เธอ เธอ พ่อผมก็นิ่งพวกเพื่อนๆพ่อก็มาลุมดูอาการพ่อผมพ่อผมพูดออกมา 2 คำ " กุ!!  หิว!! " ทันใดนั้นอยู่ๆพ่อผมก็ลุกขึ้นพรวด!! และวิ่งไปที่ ติจูเอี่ย (ศาลเจ้าที่ของคนจีนสีแดงตั้งในบ้าน) และก็หยิบธูปหยิบเที่ยนที่อยู่ตรงศาลกินอย่างเมามัน (กินนะครับกินจริงๆเลยเคี้ยวๆกลืนอะ) เพื่อนพ่อผม 4-5คน วิ่งเข้าไปทั้งดึงทั้งฉุดกระชาก อีกคนพยายามห้ามไม่ให้พ่อผมกินต่อ แต่ก็ไม่เป็นผล ไม่มีไครสู้แรงพ่อผมได้ พ่อผมกินเทียนหมดไปครึ่งนึงแล้ว เพื่อนพ่อผมคนนึงตั้งสติได้ ถอดสร้อยพระที่คอเขามาคลองคอพ่อผม และพ่อผมก็นิ่งสนิด หยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วก็พูดออกมาว่า เอาตาใครๆ ทั้งๆที่มีเทียนอยู่ในปาก แล้วก็หันมาถามเพื่อนเขาว่า พวกเมิงมาทำไรหลังกุ คือพ่อผมจำอะไรไม่ได้เลยสิ่งสุดท้ายที่จำได้คือ รอ King เพราะในมือเขามี J กะ Q

ทุกคนเล่าให้พ่อผมฟัง พ่อผมบอกเมิงอย่ามาอำ กุจะบ้าไปกินเทียนทำไม แม่ผมเอากระจกให้พ่อผมดู ในปากเขายังมีเทียนอยู่เลยพอพ่อผมเห็นและตั้งสติได้เท่านั้นแหละ วิ่งไปอ้วกเลย เชื่อไหมครับ ธุปเทียนออกมาเต็มเลย และเพื่อนๆพ่อก็ไม่มีไครกล้ามาหาอีกเลย แต่พ่อผมก็ยังยืนขาเดียวว่าไม่ย้าย หัวแข็งเป็นบ้า 55 แม่ผมก็ต้องเจออะไรแปลกๆมาอีกเป็นอาทิตย์ จนมีอยู่วันนึง พ่อผมกลับมาบ้านดึก ก็ถอยรถเข้าบ้านพอรถจอดปุป ก็มีเสียงดังตุบ!!! รถพ่อโยกขึ้นลงเหมือนมีอะไรมาตกใส่กระจกหน้า พ่อผมเงยหน้าขึ้นดู สิ่งที่เขาเห็น คือชายสภาพโดนซ้อมเละเทะเสื้อผ้าขาดวิน ตกลงมาที่กระจกหน้ารถพ่อผมแบบ หน้าชดกัน ตาต่อตาฟันต่อฟัน ใกล้ชิดเพียงกระจกกัน พ่อผมช็อคเป็นลมคาพวงมาลับเลย แม่ผมเอะใจทำไมพ่อผมจอดรถนานเลยลงมาดู เห็นพ่อผมหลับคาพวงมาลัย ก็เอาไปปลุกพ่อผมทันที คุณๆมานอนอะไรตรงนี้ พอพ่อผมตืนขึ้นม่ตอนเช้า ท่านไม่พูดอะไรเลย หันมาหาแม่ผมแล้วพูดคำเดียวว่า เราจะย้ายบ้านกันวันนี้เลย  .  .  . 

และครอบครัวผมก็ย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้น โดยที่ขายต่อไปในราคา ถูกกว่าที่ซื้อมาครึ่งนึง ตอนที่กำลังย้ายออก เพื่อนบ้านคนนึงก็เดินมาทัก เฮี้ยนมากเลยใช่ไหมค่ะ เนียศพล่าสุดที่ตายที่บ้านหลังนี้นะ คือเจ้าของบ้านโดนโจรปล้นเจอลุมซ้อมจนตายแล้วเอาศพไปแขวนคอที่บันใดบ้าน น่ากลัวมากเลยค่ะคุณ . . . (แม่ผมกุมมือแน่น ในใจยากตบไอนี้มาก เมิงมาบอกกุอะไรตอนนี้) แล้วครอบครัวผม ก็ย้ายไปอยู่บ้านในหมู่บ้านเสนาอันนี้เอยชื่อได้เพราะหลังนี้ไม่มีผีเลย หลังจากอยู่เสนาได้ 4-5ปี ผมก็ย้ายไปอยู่บ้านตึกแถวที่แสนหฤหรรหลังนั้น นั้นเอง


ปล.หลังแรกเพื่อนบ้านบอกศพล่าสุดนะครับที่แม่ผมเจอแต่มีศพก่อนหน้านั้นอีกไม่รู้กี่คดี วันหลังถ้าเพื่อนๆจะซื้อบ้านมือ 2 ถ้ามันถูกมากๆ รบกวนเสียสละเวลาอันมีค่าแค่แปปเดียวเช็คของก่อนนะครับ ไม่งั้นจะเสียเงินฟรี

ปล.2 เรื่องบ้านหลังแรกแม่ผมเล่าไว้แค่นี้เพราะท่านก็จำไม่ค่อยได้ เราอยู่หลังแรกแค่ 3เดือนครับ แล้วย้ายออกเลย

ปล.3 ที่หลังแรกย้ายออกมาง่ายเพราะมันต้องการไล่เราให้ออกอยู่แล้วครับ ส่วนไอหลังนั้นมันต้องการให้อยู่ครับ



*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-* *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

 
    เก็บตกหนึ่ง
หลังจากที่ผมกับแม่ได้ไปปรึกษา อาจารย์ท่านนั้น ผมก็ได้ถามอาจารย์ว่า ทำยังไงให้ผีที่แม่ผมให้อยู่เนี่ยออกไปจากบ้านให้หมด อาจารย์ได้บอกว่าพวกเขาอยู่ชั้น 3 ของบ้านนิ แถวๆนั้นมีห้องพระ (ถึงตอนนี้ความเชื่อที่มีต่ออาจารย์คนนี้ได้ขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้วครับ ถ้าอาจารย์ขอหมื่นก็ให้หมื่นและ เขารู้ได้ไงว่าอยู่ชั้น 3 แล้วรู้ได้ไงว่าชั้น 3 มีพระ ) อาจารย์เงียบไปแปปนึงก็พูดต่อว่า ชั้น3มีของเยอะนิส่วนใหญ่เป็นของเก่า รู้และ วิญญานพวกนี้นะ เขาไม่มีร่าง เขามีแต่พลังงาน เพราะฉะนั้นเขาต้องหาที่สิ่งสถิด โดยส่วนมากจะเป็นสิ่งของ แต่ถ้าไม่มีอาจมาสิ่งสถิดที่คนได้ ไม่ใช่ผีสิงนะ เขามาอาศัยในร่างเราเลย ไปไหนไปกันก็มี แต่ในกรณีของผม อาจารย์บอกว่าโชคดีที่พวกเขาอยู่ชั้น 3 ที่มีของเก่าๆเยอะพวกเขาก็เลยสิงตามของเหล่านั้นดังนั้นวิธีการแก้ก็ง่ายๆ เอาของพวกนั้นออกไปให้หมด (เหวยๆๆ ทำไมมันง่ายขนาดนั้น)

ผมถามกลับด้วยความสงสัยทันที แล้วมันจะไม่ไหวตัวทันแล้วออกมานอกของเหรอครับ (กลัวเสียของไปแต่มันยังอยู่อะนะ และมันมายืนหัวเราะ หิหิ ไม่ได้แอมกุหลอกงี้) อาจารย์บอกว่า ถ้าวิญญานสิงสิ่งของใดไปแล้ว เขาก็จะอยู่แบบนั้นแหละไม่ไปไหน พอได้รู้ดังนั้น ผมกับแม่ก็มานั่งวางแผนกันเลยว่าจะกำจัดของที่อยู่ชั้น 3 ยังไง คือมันมีเยอะมากครับของเก่าๆทั้งนั้น ตู้เตียงและอื่นๆของรุ่นปู่รุ่นย่า แต่ตอนนั้นไม่มีเรื่องเสียดายอยู่ในหัว แม่ลูกเลยครับ 555 คิดอย่างเดียวทำไงให้มันออกไปให้หมด แม่ผมปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้ ประกาศแจกฟรีไปเลย  ไปบอกวินมอไซมั้งคนแถวนั้นมั้งว่า ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรถ้าอยู่ชั้น 3 ให้ฟรีไครอยากหยิบไรหยิบ แต่ต้องหยิบให้หมดภายในวันนี้  เชื่อไหมครับ พลังของคนไทย ไม่ถึง2ชม หมดบ้านครับ เกลี้ยงเลยครับไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวยิ่งกว่าโดนโจรปล้นอีกครับ มีกวาดทำความสะอาดให้ด้วย ตอนที่พวกเขาขนกันผม ได้แต่ยืนกำหมัดแน่นน้ำตาคลอเบ้า ในใจได้แต่กล่าวถึงคนที่มาขนของเอาไปบ้านตัวเองนั้นว่า . . . . . . . . ผมขอโทษ (คือที่เอาไปนะผีล้วนๆไม่มีอะไรเจือปนเลยครับ) แต่ ผีมันมี10กว่าตัวแต่ของมีเยอะมาก

มันก็อยู่ที่ดวงคนขนแล้วละครับตาดีได้(ผี)ตาร้ายเสีย แต่มีของชิ้นนึงที่ผมจำได้แม่นและมันใจว่าคนแบกไปนั้นเป็นผู้โชคดี ได้รับของแถมกลับบ้านไป คือตู้กระจกแต่งหน้า เป็นตู้ที่สวยมากครับแล้วเก่ามากด้วย แต่ผมไม่เสียดายแม้แต่น้อย ผมได้แต่ยืนมองพี่วินมอไซ (วินที่แม่เป็นคนบอกคนแรกแล้วก็ขึ้นไปเอาของคนแรกแล้วก็หยิบตาลุงแก่นี้เอยกระจกบานนี้ลงมาก่อนเลย พอช่วงเวลานาทีทองแจกผีหมดไป ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ครอบครัวผมไม่ได้ยินเสียงอะไรตอนกลางคืนอีกเลย คืนนั้นเป็นคืนที่มีความสุขมาก แต่ ได้แค่คืนนั้นครับ

แน่นอนครับผีที่ออกไปนั้นคือผีที่สิ่งที่อยู่ในชั้น3 แต่พี่ตัวบอสใหญ่ อิสราม 5 ตน นั้นยังอยู่ครับ เพราะเขาอยู่กับที่ดินแต่แรกอยู่แล้วครับและก็ยังมีบางตัวที่ไม่ได้ออกไปด้วยครับ อาจจะไปเที่ยวเพิ่งกลับมาเลยพลาดโอกาศไปมีที่อยู่ใหม่ ที่ผมรู้เพราะ มีอย่างเดียวที่หายไปคือเสียงลูกแก้วตอนกลางคืนครับ แต่เสียงเท้าเสียงลากของยังอยู่ครับ


    เก็บตกสอง
อย่างที่ผมเคยบอกว่าผีทั้งหมดในบ้านผมจะอยู่ชั้น 3และดุสุดจะอยู่ในห้องพระ ห้องพระบ้านผมจะต้องเปิดไฟตลอดเวลาครับ หากวันไหนหลอดขาดหรือไฟดับ อยู่กันแทบไม่ได้ครับ เหมือนคนคุ้มไม่อยู่มาน จัดหนักทั่วบ้านทันที ที่จะมาแน่ๆคือเสียงเดินพาเรส ครับจะได้ยินเสียงคนเป็นสิบเดินอยู่ชั้น 3 เดินกันเสียงดังมากๆครับ เดินกันทั้งคืนมีคืนนึงได้ยินเสียงลากเก้าอี้ลากไปทั่วชั้น3 แล้วก็มาหยุดเอากลางห้องชั้น 3 ผมจำจุดที่มันหยุดเก้าอี้ไว้ และรอตอนเช้าขึ้นไปดูว่ามันอยู่ตรงนั้นจริงๆไหม (ต้องรอตอนเช้าครับให้ขึ้นไปเลยกลัวไม่ได้ลงมา- - ) พอตอนเช้าผมขึ้นไปดู เก้าอยู่จากในห้องพระย้ายมากลางห้องชั้น 3 จริงๆครับ แล้วที่พื้นก็มีลอยเท้าเต็มไปหมด ตั้งแต่นั้นเลยรู้ว่าไฟในห้องพระห้ามปิดเด็จขาด ซึงมานจะดับก็ตอนฟิวลาดเท่านั้นครับและคืนที่ฟิวขาดครอบครัวผมก็จะอยู่แต่ในห้องนอนไม่ออกไปไหน รอตอนเช้ามาเปลี่ยน และคนที่เปลี่ยนก็จะเป็นไครไปไม่ได้นอกจากผม ย้ำครับทั้งบ้านมีแค่ผมกับแม่เท่านั้นที่กล้าพอจะขึ้นไปชั้น 3


    เก็บตกสาม
ผมได้เล่าเรื่องของผมให้เพื่อนผมฟังแทบจะทุกคนแต่หลังจากที่เขาเจอดีแล้วนะครับ แต่ละคนก็เจอแปลกๆกันไปแต่ผมลืมไปแล้วจริงๆ มีครั้งนึงมันจะฮิตไปบ้านผีสิงกัน แบบหลังนั้นกุย่ำมาแล้วนะเว้ยไรงี้ ผมบอกเองไม่ต้องไปไกล เอาง่ายๆ ไครสามารถอยู่ชั้น 3 บ้านตูจาก 1ทุ่มไปจนถึงเช้าได้ ให้เลย 1พันบาท ไอคนที่เจอดีแล้วก็จะพูดสวนมาเลยว่าให้ตายกุก็ไม่ขึ้น สวนไอคนยังไม่เจอก็บอก จริงนะ มาเลยๆ ผมพามันขึ้นไปเลย พวกเพื่อนที่กลัวจะกระจุกตัวอยู่แค่ชั้นลอย (1ครึ่ง) พอผมพามันมายืนที่หน้าประตูชั้น 3 มันก็ยืนนิ่งไปสักพัก ผมก็บอกเอาไงขึ้นไปสิงตั้ง 1พันนะ มันบอกชั้น3เองมีไรเปล่าวะ ผมถามก็เมิงอยากเจอมิช่ายหรา มานบอกผมว่าสัญชาตญานกุบอกกับร่างกายกุว่าห้ามเข้าประตูบานนี้วะ สรุปมานยอมมันกลัวจริงๆ คนที่บุกบ้านผีมานัดต่อนัด ขนาดเปิดประตูยังไม่กล้าเลย พวกผมก็ล้อมันสนุกเลยครับ


    เก็บตกสี่
มีวันนึงพ่อผมวิ่งขึ้นมาที่ห้องนอนด้วยอาการตื่นตกใจเปิดประตูเข้ามาต่อว่าแม่ผมใหญ่เลย ไหนคุณบอกว่าให้ทุกตัวอยู่ชั้น 3 หมดไงเล่า แม่ผมบอกก็ใช้ไงทำไมละ พ่อผมบอก แล้วไอตัวที่นั่งอยู่ที่โซฟาชั้นลอย มันลงมาได้ไงงงงงงงง  คือพ่อผมกลับบ้านมาพอขึ้นไปชั้นลอยเจอคนนั่งอยู่ที่โซฟา พ่อผมถามไคร กุถามว่าไคร เฮ้ย กุแจ้งตำรวจนะ พอพ่อผมเดินไปดูใกล้ๆ . . . . . . คงไม่ต้องบอกต่อนะครับ ไม่ถึงครึ่งวิพ่อผมก็มาถึงห้องนอนชั้น 2 แล้ว (ปกติผีบ้านผมไม่เคยหลอกไครแบบจริงๆจังๆแบบนี้เลยนะครับมีพ่อผมคนเดียวที่ได้รับสิทธินั้น)

เก็บตกจบแล้วจ้า ถ้านึกอะไรออกจะมาบอกต่อนะ ส่วนเรื่องหลักเรื่องที่ 3 จะเป็นเรื่องวิญญาณที่ผมเจอนอกบ้านทั้งหมดตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้

ไอพี: ไม่แสดง

#207 | Anymore. | 17 มิ.ย. 57 18:58 น.






Normal Porn For Normal People


    เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นจากจดหมายลูกโซ่ธรรมดาที่ได้เชิญชวนให้เข้าเว็บไซต์ มีข้อความว่า "normalpornfornormalpeople.com เว็บนี้มันดีสำหรับมนุษยชาติ" คนส่วนใหญ่มักจะลองเข้าเว็บดังกล่าวดู เมื่อเข้าไปดูแล้ว มันก็ดูเหมือนกับเว็บธรรมดาทั่วๆไป แต่มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างนึงคือข้อความที่เขียนว่า Normal Porn for Normal People เว็บไซต์ที่มุ่งมั่นให้กับการกำจัดการมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดปกติ นอกนั้นแล้วไม่มีอะไรที่น่าสนใจ คนส่วนใหญ่แล้วที่เข้ามาแล้วมักจะออกไปทันทีเมื่อเห็นข้อความที่เต็มหน้าเว็บ อย่างไรก็ตามใครที่เข้าเว็บนี้เป็นเวลานานจะเห็นบางคำในข้อความเหล่านั้นเป็นลิงค์ที่จะนำไปสู่วีดีโอที่แปลกมากๆ คนที่ดูวีดีโอเหล่านั้นก็ช็อคแล้วก็พูดคุยกันในฟอรั่มเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขา

หนึ่งในวีดีโอที่ธรรมดาที่สุดนั้นมีชื่อว่า "peanut.avi" ที่มีผู้ชาย ผู้หญิง และสุนัขอยู่ในครัว ผู้หญิงจะเตรียมแซนวิชเนยถั่ว ผู้ชายจะนำไปให้สุนัข ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง วีดีโออันอื่นก็เริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆซึ่งวีดีโอที่แปลกที่สุดมีชื่อว่า "jimbo.avi" ที่จะมีนักแสดงละคนใบ้อ้วนๆแสดงอยู่ห้านาที ในวีดีโอก็มีสิ่งที่เกี่ยวกับละครใบ้ สนุกสนานตามปกติ แต่ในช่วงสามสิบวินาทีสุดท้าย ชายดังกล่าวก็เริ่มร้องไห้อย่างเงียบๆด้วยชุดละครใบ้ของเขา และเครื่องแต่งหน้ายังคงอยู่ที่หน้าของเขา

"Stumps.vi" เป็นวีดีโอความยาวห้านาทีที่มีชายคนหนึ่งไร้ขาพยายามที่จะเต้นเบรกแดนซ์ในห้องครัวที่คล้ายๆกับในวีดีโอ "peanut.avi" แต่ว่าห้องครัวสกปรกกว่า ชายดังกล่าวล้มลงด้วยความอ่อนเพลีย แล้วขอร้องให้ใครซักคนซึ่งอยู่หลังกล้องให้เค้าได้พักผ่อน คนที่อยู่หลังกล้องก็โกรธแล้วตะคอกให้เค้าเต้นต่อไป จากนั้นวีดีโอก็จบลงแบบฉับพลัน แล้วได้ยินเสียงกรีดร้องของคนที่อยู่หลังกล้อง

วีดีโอ "privacy.avi" เริ่มขึ้นโดยมีผู้หญิงคนหนึ่งสำเร็จความใคร่อยู่บนเบาะ ขณะที่ผู้ชายไร้ขาจากวีดีโอ "stump.avi" เดินไปรอบๆ แล้วสวมอะไรบางอย่างคล้ายๆกับหน้ากากกอบลิน มีสิ่งผิดปกติในวีดีโอคือประตูนั้นเปิดอยู่ ในขณะที่วีดีโออื่นนั้นปิด นี่เป็นเรื่องสำคัญเพราะว่าเกือบตอนจบของวีดีโอ จะเห็นสัตว์ตัวหนึ่งวิ่งอย่างรวดเร็วผ่านบานประตูนั้นไป

คลิปสุดท้าย "uselss.avi" ยาว 18 นาทีของความสยอง ผู้หญิงผมบลอนด์ถูกมัดตัวแล้วมีเทปปิดปากเธออยู่ ชายในชุดสูตเปิดประตู แต่ไม่ได้เข้าไป แต่จะมีสัตว์จากวีดีโอที่เห็นใน "privacy.avi" เข้ามาแทน เห็นได้ชัดว่ามันคือลิงชิมแปนซี ซึ่งขนมันถูกโกนแล้วถูกทาสีเป็นสีแดง ชายดังกล่าวปิดประตู ปล่อยให้หญิงคนนั้นอยู่กับสัตว์ ลิงชิมแปนซีที่หิวโหยสูดอากาศ สังเกตเห็นผู้หญิง เริ่มทำร้ายเธอขณะที่ยังมีชีวิต การทำร้ายเธอด้วยความทุกข์ทรมานยังคงมีต่อไปจนถึง 17 นาที จนกระทั่งเธอเสียชีวิต วีดีโอจบลงด้วยชิมแปนซีดังกล่าวกินศพของเธอ








The Angel Statue


    เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยชายหญิงคู่หนึ่งต้องการที่จะออกจากบ้านในตอนกลางคืน พวกเค้าจึงฝากพี่เลี้ยงเด็กให้ดูแลลูกของพวกเขา เมื่อพี่เลี้ยงเด็กมาถึง เด็กก็ได้หลับไปแล้ว เธอจึงตัดสินใจฆ่าเวลาโดยการดูทีวี อย่างไรก็ตามทีวีที่มีเคเบิลอยู่ด้วยนั้นอยู่ที่ห้องนอนของพ่อแม่คู่นั้น ดังนั้นเธอจึงโทรไปขออนุญาตเข้าไปในห้องของพวกเขา

เมื่อได้รับการอนุญาต พี่เลี้ยงเด็กจึงขอร้องอีกอย่างคือขอใช้ผ้าคลุมปิดรูปปั้นนางฟ้าที่อยู่ในห้องได้มั้ย เนื่องจากมันทำให้เธอกลัว หลังจากได้ยินประโยคดังกล่าว พ่อของเด็กจึงรีบบอกให้พี่เลี้ยงเด็กรีบพาลูกของพวกเขาและตัวเธอเองออกจากบ้านหลังดังกล่าวแล้วโทรหาตำรวจ เนื่องจากว่าพวกเราไม่ไดมีรูปปั้นนางฟ้าเลยซักตัว เมื่อตำรวจมาถึง พี่เลี้ยงเด็กและลูกของพวกเขา ถูกพบในสภาพที่ไร้วิญญาณ ร่างโชกไปด้วยเลือด แล้วรูปปั้นนางฟ้าก็ได้หายไป








Keyhole


เรื่องนี้บางคนอาจเคยอ่านมาแล้ว เนื่องจากค่อนข้างดัง

    ผู้ชายคนหนึ่งไปพักที่โรงแรม ตอนที่เขาเช็คอิน พนักงานเคาต์เตอร์บอกเค้าว่า อย่าเข้าไปใกล้ห้องที่ไม่มีหมายเลขที่อยู่ถัดจากห้องของเค้า พอผู้ชายคนนั้นได้รับกุญแจมา ก็รีบไปยังห้องของเค้าโดยไม่แวะที่ไหน และเข้านอน แต่พอนอนไปได้สักพัก เขาก็ยิ่งสงสัยว่า มีอะไรอยู่ในห้องนั้น เขาจึงลุกขึ้นจากเตียง และเดินไปยังห้องข้างๆ เขาพยายามบิดลูกบิดประตู แต่มันถูกล็อค

เขาจึงก้มลง และมองลอดรูกุญแจเข้าไป ภาพที่เค้าเห็นคือ หญิงสาวผมยาวคนหนึ่งนั่งกับพื้นพิงผนังหันหลังให้เขา เขาจึงชั่งใจว่าจะเคาะประตูไหม แต่ก็สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่เคาะ และกลับไปยังห้องของตน พอคืนต่อมา เขาไปที่ประตูห้องนั้น แล้วมองลอดรูกุญแจเข้าไปอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เค้าไม่เห็นอะไร นอกจากสีแดง เขาจึงเข้าใจว่า คนที่อยู่ในห้องนั้นคงรู้ว่าเค้าแอบมอง จึงหาอะไรมาปิดรูกุญแจไว้

เขาจึงลงไปถามพนักงานที่เคาต์เตอร์ว่าเคยมีเหตุการณ์อะไรในห้องนั้น พนักงานตอบกลับมาว่า "เมื่อนานมาแล้ว มีชายคนไหนึ่งฆ่าภรรยาของตัวเองในห้องนั้น...และวิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในห้องนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วิญญาณเธอดูเหมือนผู้หญิงธรรมดาทุกอย่าง ยกเว้นตาของเธอ ....มันเป็นสีแดง...."








Where Bad Kid Go


    เกี่ยวกับนักถ่ายภาพคนนึงที่ได้ตัดสินใจตามหาข้อมูลเกี่ยวกับรายการโชว์เด็กที่เค้าเคยดูในวัยเด็ก สมัยสงครามเลบานอน เท่าที่เค้าจำได้ ครึ่งชัวโมงของโชว์นั้นค่อนข้างน่ากลัว แล้วคอยเตือนเด็กๆไม่ให้ทำตัวไม่ดี เขาเชื่อว่าโชว์นั้นตัวใจที่จะทำให้เด็กทุกคนเป็นคนดี ทุกๆตอนของโชว์มักมีคำสอน คติเตือนใจให้เด็กเป็นคนดีอย่างเช่น "เด็กไม่ดีมักตื่นสาย" หรือ "เด็กไม่ดีชอบขโมยของในตู้เย็นตอนกลางคืน"

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่นักถ่ายภาพคนนั้นจำได้คือ ทุกๆฉากจบของทุกตอนมันเหมือนกันทุกๆตอน คือกล้องจะค่อยๆฉายภาพซูมเข้าไปอย่างช้าๆไปหาประตูเหล็กบานหนึ่งซึ่งเก่า และมีสนิม ในขณะที่กล้องซูเรื่อยๆจนได้ยินเสียงกรีดร้องขึ้นมา ยิ่งกล้องใกล้เข้ามาเท่าไรเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นเท่านั้น จนกระทั่งเสียงกรีดร้องดังไม่ได้มากกว่านี้แล้ว ก็จะมีข้อความฉายขึ้นมาว่า "ที่ๆเด็กไม่ดีจะได้อยู่" ทุกๆตอนจบของตอนในโชว์

กลับมาที่ปัจจุบัน นักถ่ายภาพจึงตัดสินใจเดินตามหาสตูดิโอที่ใช้ในการถ่ายทำโชว์ดังกล่าว ดูเหมือนว่าสถานที่ดังกล่าวจะถูกทิ่งร้างเป็นเวลานานแล้ว ประดูเหล็กขึ้นสนิมที่เค้าจำได้ในวัยเด็กยังอยู่ เขาเปิดประตูเข้าไป พบห้องที่เต็มไปด้วยเลือด อุจจาระ และกระดูก และสิ่งที่เค้ารู้สึกกลัวมากที่สุดก็คือไมโครโฟนที่ถูกแขวนไว้ตรงกลางของห้องดังกล่าว..



แก้ไขล่าสุด 17 มิ.ย. 57 19:33 | ไอพี: ไม่แสดง

#208 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 17 มิ.ย. 57 22:36 น.

ขอบคุณนะคะที่มาอัพ รอน้า <3 <3 

ไอพี: ไม่แสดง

#209 | `zs-windmill | 18 มิ.ย. 57 18:08 น.

ไม่ได้ติดตามตั้งนาน อมาตามอ่านไม่ทันละค่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#210 | #Prynce.P | 19 มิ.ย. 57 20:34 น.

อัพแล้ว!! แปะไว้ก่อนนะคะ ตอนนี้ยังไม่ว่างเยอะมากๆดีใจค่ะ

Where Bad Kid Go นี่เกือบจะดีแล้วค่ะ เหมือนมันสั้นไป ดูขาดๆ เป็นเรื่องแต่งใช่ไหมคะ

ไอพี: ไม่แสดง

#211 | Gleek! | 20 มิ.ย. 57 12:45 น.

#210 เรื่องแต่งทั้งนั้นแหละค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#212 | #Prynce.P | 20 มิ.ย. 57 13:07 น.

#211 อย่าทำลายโลกของฉันนะ!!

ไอพี: ไม่แสดง

#213 | Anymore. | 21 มิ.ย. 57 18:16 น.

555 ในนี้เรื่องแต่งเกือบทุกเรื่องเลยค่ะ // มาทำลายความฝันอีกคน

ไอพี: ไม่แสดง

#214 | คิมฮวัง_หมาหมี | 21 มิ.ย. 57 19:47 น.

โอย...หลอนๆทั้งนั้น...

ไอพี: ไม่แสดง

#215 | #Prynce.P | 21 มิ.ย. 57 22:19 น.

ฝากด้วยค่ะ
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=3170016

หายไปนานจังคะ       

ไอพี: ไม่แสดง

#216 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 1 ก.ค. 57 22:34 น.

รอนะคะะะ มาไวๆน้าาา รอพี่อัพ 

ไอพี: ไม่แสดง

#217 | confection. | 7 ก.ค. 57 23:45 น.

ขอบคุณมากนะครับ รอติดตามอยู่นะ

ไอพี: ไม่แสดง

#218 | Anymore. | 9 ก.ค. 57 19:33 น.

มาแล้ว มาแล้ว ตอนแรกว่าจะหยุดอัพสักพัก แต่ไปเจอเรื่องนี้เข้า ทำให้ต้องกลับมาอัพจนได้
ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว แต่เราเพิ่งรู้เมื่อวานนี้ 
ที่สำคัญ คดีนี้ยังคงเป็นปริศนา เธอฆ่าตัวตาย ถูกฆาตกรรม หรือเป็นเพราะสิ่งลี้ลับกันแน่








Elisa lam


    วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ 2013 คือวันที่พบศพของหญิงสาวแคนนาดา ที่ประกาศหาตัวเมื่อหลายสัปดาห์ ร่างของเธอถูกพบอยู่ในถังน้ำบนดาดฟ้าโรงแรมแห่งหนึ่งในแอล.เอ. ร่างของ Elisa Lam วัย 21 ปี ถูกค้นพบโดยคนงานที่ดูแลห้องพักกว่า 600 ห้องของ Hotel Cecil ดาวน์ทาวน์ หลังจากได้รับแจ้งจากแขกที่มาพักว่าแรงดันน้ำต่ำ

    Elisa Lam มาจาก Vancouver, British Columbia เดินทางมาแคลิฟอร์เนียคนเดียวเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2013 และเห็นครั้งสุดท้าย 5 วันต่อมา Elisa Lam ถูกประกาศว่าเป็นบุคคลสูญหายเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนพบศพ แต่เหตุผลที่เธอเดินทางมาที่แคลิฟอร์เนียยังไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจุดหมายปลายทางที่เธอกำลังจะเดินทางไป คือเมืองแซยต้า ครูซ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของลอสแอนเจลิสออกไปประมาณ 350 ไมล์ เธอมีแนวโน้มที่จะโดยสารรถสาธารณะและได้ติดต่อกับครอบครัวทุกวันจนกระทั่งเธอหายตัวไป ทั้งนี้นักสืบยังไม่ชี้ชัดความเคลื่อนไหวหรือเธอเดินทางไปพบใครบ้างในระหว่างอยู่ที่นี่



http://www.youtube.com/watch?v=3TjVBpyTeZM

เทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดในลิฟท์ของโรงแรม Cecil


    เทปบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ได้บันทึกภาพของหญิงสาวคนหนึ่งในลิฟท์ ที่พยายามจะกดลิฟท์ทุกปุ่ม แต่ปรากฏว่าลิฟท์กลับไม่ทำงาน และประตูลิฟท์ก็เปิดค้างอยู่ตลอดเวลา ระหว่างนั้นเธอทำท่าทางเหมือนกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง ไคลแมกซ์อยู่ที่นาทีที่ 1.57 ซึงเธอเดินออกไปนอกลิฟท์ ทำท่าทางแปลกประหลาดราวกับไม่ใช่มนุษย์ และดูเหมือนว่าเธอกำลังพูดคุยกับอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น จากนั้นเธอก็หายตัวไป และลิฟท์ก็กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

    เธอหายสาบสูญไปตั้งแต่วันนั้น และสามอาทิตย์ถัดมา ก็มีคนพบศพเธอในแทงค์น้ำบนดาดฟ้า หลังจากมีการพยายามค้นหาเธออยู่เป็นเวลานาน ประกอบกับมีเสียงร้องเรียนจากแขกที่เข้าพักในโรงแรมว่าน้ำไหลไม่ค่อยปกติ รวมถึงมีกลิ่นและสีที่เน่าเหม็น ตำรวจสรุปผลการชันสูตรศพของเธอว่าเป็นการฆ่าตัวตาย

และไม่พบร่องรอยของการใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอร์ แต่ยังมีคำถามหลายคำถามที่เป็นปริศนาว่า เธอขึ้นไปบนดาดฟ้าได้อย่างไร ทั้งๆที่บนดาดฟ้านั้นถูกล็อคเอาไว้และมีระบบแจ้งเตือนฉุกเฉิน รวมถึงแทงค์น้ำที่เธอเสียชีวิตก็อยู่สูงและลำบากเกินกว่าที่ผู้หญิงคนนึงจะปีนขึ้นไปได้ และเธอก็ไม่น่าปิดฝาแทงค์น้ำนั้นได้ด้วยตัวเอง


10อันดับเรื่องสยองเกี่ยวกับคดีนี้

อันดับ10 วิดีโอของเอลิซ่าแลมในลิฟ ลิฟทำงานแปลกเอลิซ่ามีท่าทางแปลกๆเหมือนมีคนคุยอยู่ก่อนเธอจะเปลี่ยนไปใช้บันได

อันดับ9 หลังจากเธอตายในแท็งค์น้ำ น้ำในแท็คก็ถุกส่งไปทุกๆห้องในโรงแรมกลายเป็นสีดำมีกลิ่นเหม็นแล้วแขกก็ดื่มกันเข้าไป

อันดับ8 ระหว่างที่แขกอาบน้ำ เดี๋ยวน้ำก็หยุดไหล เดี๋ยวก็ไหล....

อันดับ7 โรงแรมCecilที่เธอพักเต็มไปด้วยคดีฆาตกรรมของเมือง

อันดับ6 ก่อนเธอตายเธอได้ไปแวะร้านหนังสือใกล้ๆชื่อว่า ร้านสุดท้าย
The last book store

อันดับ5 เธอเข้าไปอยู่ในแท็งค์น้ำได้ยังไง เนื่องจากแท็งค์สูง10ฟุตและไม่รวมฐาณแท็งค์อีกห้าฟุตต้องใช้บันไดลิงสองอันในการปีนขึ้นไป เธอขึ้นไปได้ยังไง? ยิ่งกว่านั้นการที่เธอจะไปดาดฟ้าต้องผ่านประตูคีย์การ์ดซึ่งมีเพียงผู้ดูแลดาดฟ้าที่มีเธอเข้าไปได้ยังไง?

อันดับ4 วันเกิดเหตุเธอได้ส่งอีเมลโพสข้อความบอกเพื่อนๆว่าเกิดเหตุการแปลกๆที่น่าตกใจที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิตขึ้น และรู้สึกเหมือนมีคนตามมา แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด...

อันดับ3 คืนวันเกิดเหตุคนที่อยู่ชั่นใกล้ดาดฟ้าได้ยินเสียงดังโครมครามและเสียงหวีดร้องของผู้หญิง

อันดับ2 เกือบทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดันไปตรงกับหนังดาควอเตอร์ ชือของเธอ ชื่อโรงแรม ช่วงอายุของเธอ ดันไปตรงกับ คนตายคดีดังในอดีตที่มีประวัติกับโรงแรมนี้ , แถวโรงแรมมีคนตายด้วยวัณโรค มีการใช้อุปกรณ์ทดสอบเชื้อ เรียกว่า LAM-ELISA ซึ่ง ตรงกับชื่อผู้ตาย... Elisa Lam

อันดับ1 คดีนี้ยังคงเป็นคดีปริศนาที่รอการพิสูจน์ อาจไม่ใช่คดีฆาตกรรมและ ยังหาสาเหตุไม่ได้



แต่หลังจากมีคนไปค้นข้อมูลมา เค้าบอกว่า น่าจะโดนฆาตกรรม
ที่ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นคดีฆาตกรรมโดยเดาว่าฆาตกรน่าจะเป็นคนในโรงแรมด้วยเหตุผลดังนี้


- คลิปกล้องวงจรปิดถูกตัดต่อจนหายไปถึง 54 วินาที เป็นไปได้ว่ากล้องอาจจะถ่ายติดอะไรโดยบังเอิญ ถ้าเป็นพนักงานในโรงแรมก็น่าจะสามารถเข้าถึงกล้องวงจรปิดและตัดต่อได้

- เรื่องที่ Lam ขึ้นไปบนดาดฟ้า ผ่านประตูดาดฟ้าที่ต้องใช้คีย์การ์ดเปิด และมีสัญญาณเตือนไฟไหม้ติดอยู่ด้วย ถ้าฆาตกรเป็นพนักงานในโรงแรมก็จะสามารถใช้คีย์การ์ดของตัวเองเปิดได้และปิดสัญญาณแจ้งเตือนได้

- เรื่องที่ร่างของ Lam ไปอยู่ในแทงค์น้ำสูงกว่า 5 เมตร และปิดฝาแทงค์น้ำที่ถูกระบุว่าไม่สามารถปิดจากภายในแทงค์ได้ ถ้าเป็นการฆาตกรรม ฆาตกรก็แค่เตรียมบันไดไว้ และแบกร่างของ Lam ขึ้นไปโยนลงแทงค์น้ำและปิดฝาแทงค์ จากนั้นก็เก็บบันไดกลับลงไปในโรงแรม

- ศพของ Lam นั้นเปลือย ถ้าเธอฆ่าตัวตายจริง แล้วเสื้อผ้าของเธออยู่ที่ไหน ?


   
    ถ้าอ่าน ไปเรื่อยๆจะพบ ว่า โรงแรมแห่งนี้มีประวัติ เพราะ เคยมี ฆาตกรต่อเนื่อง อาศัยอยู่ถึงสองคน Richard Ramirez, Jack Unterweger.  Richard Ramirez สมญานาม the Nightstalker เขาอยู่ในโรงแรมนี้ เมื่อปี 1985 อาศัยอยู่ชั้นบนสุด เขาฆ่า ผู้หญิง 13 คน ในโรงแรม. Jack Unterweger เขาถูกกล่าวหาว่า ได้ฆ่า โสเภณี 3 คน ขณะที่พักในโรงแรม

  ประวัติโรงแรมนี้ยังไม่หมดน่ะ เมื่อปี 50 และ 60 โรงแรมนี้เป็นที่รู้จักสำหรับคนที่อยากจะ โดดหน้าต่างฆ่าตัวตาย วันที่ 22 ตุลาคม 1954 Helen Gurnee กระโดดตึกจากชั้น 7 ลงมา. 11 กุมภาพันธ์ 1962 Julia Moore กระโดดหน้าต่างจากห้องของเธอชั้นแปด
ในปีเดียวกัน 12 ตุลา 1962 Pauline Otton กระโดดลงมาจากชั้น เก้า หลังจากมีปากเสียงกับ สามีที่ทำตัวเหินห่าง ขณะที่เธอตกลงลงมาทับ George Gianinni อายุ65 ที่กำลังเดินอยู่ บนฟุตบาต ผลคือ ตายคู่



ตามไปอ่านความเห็นอื่นๆ http://pantip.com/topic/31164273


แก้ไขล่าสุด 9 ก.ค. 57 19:36 | ไอพี: ไม่แสดง

#219 | #Prynce.P | 9 ก.ค. 57 20:21 น.

สอนแปะวิดีโอเดี๋ยวนี้ค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#220 | Gleek! | 9 ก.ค. 57 22:25 น.

ว้ายยยยย มาแล้วววว

คนเขียนกระทู้สวยจริงๆค่ะที่ไม่ทิ้งกระทู้

ไอพี: ไม่แสดง

#221 | Anymore. | 10 ก.ค. 57 08:54 น.

แค่เอาโค้ดใน youtube มาวางก็ขึ้นแล้ว
ตอนแรกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน พอเห็นแล้วตกใจเลย 55


http://www.youtube.com/watch?v=0Oi8jDMvd_w

แก้ไขล่าสุด 10 ก.ค. 57 08:55 | ไอพี: ไม่แสดง

#222 | #Prynce.P | 10 ก.ค. 57 13:04 น.

เกร๋กู้ดมากค่ะ ขอบคุณค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#223 | lllllllllll'''13:16" | 10 ก.ค. 57 17:08 น.

แวะมาแปะครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#224 | ;{ลีนงลีน่า.สาวซ่า' | 30 ก.ค. 57 22:22 น.

อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ

ไอพี: ไม่แสดง

กรี๊ดดดดดดดดด ไม่กล้าอ่านเรื่องฆาตกรโรคจิต 

ไอพี: ไม่แสดง

#226 | Anymore. | 12 ส.ค. 57 09:11 น.

มาแล้ว มาแล้ว อันที่จริงมาตั้งหลายวันแล้วล่ะ แต่ทำเรื่องนี้นานมาก ประมาณ 2-3 วัน เรียบเรียงเนื้อหาและรูปภาพอยู่ เหนื่อยจริงงานนี้ เชิญเสพสำสาป 







Cursed movies




Atuk (ล้มเหลวในการถ่ายทำ)


    หนังเกี่ยวกับชายตลกอ้วนจากนิวยอร์กอยากจะมาเป็นเอสกิโม แต่ดูเหมือนว่าคนในฮอลลีวู้ดจะเอาเรื่องเอสกิโมไปปู้ยี้ปู้ยำทำให้ เอสกิโมไม่ชอบ เลยสาปซะเลย โดยสาปว่าใครแสดงเป็นตัวเอกเรื่องนี้ ต้องตายลูกเดียว!!

เริ่มจาก จอห์น เบลุชิดารานักแสดงนำของเรื่องตายด้วยการกินยาเกินขนาดในปี 1982 ซึ่งเมื่อนายจอห์นตายทำให้ดาราตลกอย่าง แซม คินิสัน มาแสดงแทน จากนั้นก็มีปัญหามากมายตามมา จนทำให้หนังถูกแบ่งเป็น Re-written แต่หลังจากนั้นไม่นาน... แซม คินิสันก็ตายเพราะรถชนอีก ทำให้บทละครตลกเกี่ยวกับชาวเอสกิโมต้องส่งต่อมาที่ จอห์น แคนดี้

ในปี 1994 หลังจากจอห์น แคนดี้ ได้รับบท... ก็หัวใจวายตายทันที ทำให้หนังเรื่องนี้โดนยกเลิก ฟิล์มก็ยังถ่ายไม่เสร็จ และตัวตลกอ้วนทั้งหลายสาบานว่าจะอยู่ห่างจากบทหนังเรื่องนี้ตลอดกาล ทำให้ฟิล์มทั้งหมดถูกฝังเก็บเข้ากรุที่ใดที่หนึ่งในออลวีวู้ด

แต่ในปี 1997 ดาราชื่อ คริว ฟาร์ลีย์ คิดจะลองดูโดยไม่เชื่อคำสาป ผลเหรอ เขากินยาเกินขนาดตายในปีนั้นแหละ!!

และล่าสุดมีการทาบให้ Jack Black มาเล่นในปี 2008 แต่เขาปฎิเสธและยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ว่าผมกลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับผม




Superman


    จากหนังสือการ์ตูนสุดฮิตของค่าย DC Comics มาสู่การ์ตูนเคลื่อนไหว และถูกสร้างออกมาไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์ หรือ แม้แต่หนัง แต่ทว่าดูเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ผู้นี้จะไม่ยอมง่ายๆ ให้ใครมาแสดงเป็นเค้าเองโดยไม่แลกอะไรกลับไปเลย

ดาราผู้รับบทซุปเปอร์แมน ดาราผู้ร่วมแสดง หรือแม้กระทั่งบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ซุปเปอร์แมน ต่างพบหายนะ เสียชีวิตด้วยสาเหตุที่ไม่ปกติ, เกิดอุบัติเหตุ, เจ็บไข้ ได้ป่วย, ตกต่ำในหน้าที่การงาน ฯลฯ




เริ่มจาก ในปี ค.ศ.1950 เคิร์ค เอลิน ดาราคนแรกที่รับบทซุปเปอร์แมนในภาพยนตร์ กลายเป็นดาราตกอับไม่มีใครจ้างและเสียชีวิตด้วยโรคเรื้อรังในเวลาต่อมา




แล้วคนต่อมาที่แสดงเป็นซุปเปอร์แมนคือ จอร์จ รีฟส์ เขารับบทซูเปอร์แมน ระหว่างปี 1952-1959 ก็เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนในบ้าน โดยมีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด โดยสันนิษฐานว่าน่าจะฆ่าตัวตายเพราะความเครียด แต่หลายคนคิดว่า เขาน่าจะถูกฆาตกรรมมากกว่า



       
ต่อมาก็ถึงคิวของซุปเปอร์แมน คริสโตเฟอร์ รีฟ แต่ก็โชคร้ายเขาประสบอุบัติเหตุจากการขี่ม้าในปี ค.ศ.1995 ทำให้ต้องกลายเป็นอัมพาตนับแต่นั้น ตราบจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในปี ค.ศ.2004 ด้วยวัยเพียงแค่ 52 ปี

จนกระทั่งในปัจจุบัน เคราะห์ร้ายที่เกิดขึ้นกับบรรดาคนที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ ซุปเปอร์แมนก็ยังคงไม่ยุติ เพราะมีรายงานว่าทีมสร้างภาพยนตร์ซูเปอร์แมนเรื่องใหม่ล่าสุด คือซุปเปอร์แมน รีเทิร์นส์ ก็เจอเรื่องเจ็บตัวไปตามๆกัน ผู้เคราะห์ร้ายก็มี ร็อบ เบอร์เน็ทท์ ผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งถูกพวกหัวขโมย รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

อดัม โรบิเทล ผู้มีหน้าที่ตัดต่อภาพยนตร์ ประสบอุบัติเหตุตกทะลุหน้าต่างและถูกเศษกระจกทิ่มทะลุปอด รวมทั้งได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง และทอดด์ สแตนลีย์ ซึ่งเป็น
ทั้งผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้างและตากล้อง ก็ตกบันไดบาดเจ็บถึงขนาดกะโหลกศีรษะร้าวและนิ้วก้อยฉีก

ภาคปัจจุบันจึงเปลี่ยนชื่อเพื่อหลีกเลี่ยงอาถรรภ์เป็น Man of steel




The Conqueror


เนื้อเรื่องเป็นหนังเกี่ยวกับจอมทัพมองโกลนามว่า "เจงกิสข่าน" แต่ว่าการจะถ่ายถอดเรื่องราวของจอมทัพคนนี้เป็นหนัง คงดูไม่สมศักดิ์ศรีซักเท่าไหร่ สุดท้ายก็โดนอาถรรพ์หนังเรื่องนี้เล่นงานซะ

เพราะกว่าจะทำเสร็จเล่นเอาเดือดเช่นเดียวกับชื่อหนังนั้นแหละ เรื่องของเรื่องคือ ปี 1950 ปีที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ทีมงานถ่ายทำหนังเรื่องนี้เกือบตายยกกอง ไล่ตั้งแต่ ซูซาน เฮย์วาร์ด
โดนกลุ่มเสือดาวจู่โจมแต่โชคดีรอดมาได้ และต่อมาก็เจออีกเมื่อบ้านผู้กำกับโดนไฟไหม้
แถมสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ที่ทะเลทรายซาทาร่าโดนยป็นจุดถ่ายทำหนังเรื่องนี้
บังเอิญพอดีที่ทางการสหรัฐทดลองระเบิดปรมาณูเสียอีก โดยทดลองไป
11 ลูก แถมเกิดขึ้นหลังหนังใกล้ถ่ายทำจบแล้ว แต่ทีมงานต้องดันทุรังถ่ายหนังต่อไป
(ใกล้จุดทดลองระเบิดนั้นแหละ) ท่ามกลางความร้อนถึง 120 องศาในทะเลทราย ทำให้โดนกัมมันตรังสีเต็มๆ

2-3 ปี ต่อมา 91 คน จาก 220 สมาชิกกองถ่ายเป็นมะเร็ง และอีก 46 คนตายเพราะโรคนี้ รวมถึงดารานำและผู้กำกับ ซูซาน เฮย์วาร์ด และผู้กำกับ ทำให้ เปโดร อาร์เมนดาริซ ซึ่งเป็นดารานำเรื่องนี้ต้องฆ่าตัวตายอีกหลังทราบข่าวว่าเขาเป็นมะเร็ง




Rosemary's Baby


หนังเกี่ยวกับคนท้องซึ่งเด็กในท้องเป็นซาตาน กำกับโดย โรมัน โปแลนสกี้ แต่กว่าเป็นหนังก็ทำให้หลายคนประสาทจะกิน เริ่มจากผู้ตกแต่งฟิล์มตายเพราะก้อนเลือดแข็งตัว ต่อมาผู้ผลิตชื่อ วิลเลี่ยมเป็นโรคประสาท และตายโดยอาการไตวายหลังจากฟิล์มผลิตออกมาไม่นาน แต่เรื่องข้างต้นยังน้อยไป... เมื่อเทียบกับภรรยาของผู้กำกับ ชารอน เทท (ซึ่งกำลังตั้งท้องเหมือนนางเอกในหนังเรื่องนี้)

เรื่องของเรื่องคือฆาตกรคนหนึ่งชื่อ ชาร์ลส์ แมนสันและสมุนเกิดไม่พอใจ ที่โปรดิวเซอร์คนหนึ่งไม่ยอมอัดเทปของเขา เลยวางแผนการปล้นฆ่าในคฤหาสน์ของโปรดิวเซอร์คนนั้น แต่พอดีคฤหาสน์ดังกล่าวนี้ ผู้กำกับโปแลนสกี้ดันเป็นคนเช่าต่อเอาไว้

แล้วในวันที่ 8 สิงหาคม 1969 ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ โรมัน โปแลนสกี้ ไม่อยู่บ้านพอดี สมุนของแมนสันเลยฆ่าคนในคฤหาสน์แทน โดยเฉพาะชารอน เททนั้นเธอโดนหนักสุดทั้งๆ ที่เธอกำลังท้องอยู่แท้ๆ แต่พวกฆาตกรแทงเธอถึง 16 แผล จากนั้นก็ใช้มีดผ่าท้องของเธอจนเหวอะหวะ เธอถูกไม้ตีที่ศีรษะซ้ำๆ พวกฆาตกรตัดเต้านมของเธอทิ้งทั้งเป็น แล้วใช้มีดเล่มนั้นชำแหละกรีดตั้งแต่บริเวณยอดอก จนถึงหัวหน่าว เลือดสดๆของเธอกระจายเต็มบ้าน มิหนำซ้ำ สาวกปิศาจ ชาร์ลส์ แมนสัน ยังใช้แปลงจุ่มเลือดเขียนคำว่า "PIG" ตัวโตไว้ที่บานประตูบ้าน (เหมือนในหนังไม่มีผิด ทั้งที่หนังยังไม่ฉายหรือเปิดเผยข้อมูล)

เมื่อแมนสันถูกจับได้ยกแก๊ง พวกเขาอ้างเหตุในศาลว่าเป็นเพราะคำสาป




The Exorcist


    เรื่องอาถรรพ์ไล่ผีที่สร้างกระแสแรงมากในยุค 70 ไม่แพ้ Star Wars คงหนีไม่พ้น
The Exorcist หลังจากที่ The Exorcist ได้ออกฉายครั้งแรกในวันที่ 26 ธันวาคม ปี 1973 ผู้คนต่างจ่ายตังค์เพื่อเข้ามาดูเรื่องนี้ถึง 232 ล้านเหรียญ ตีค่าตั๋วสมัยนี้ก็ พอๆกับรายได้ในอเมริกาของ Avatar
The Exorcist เป็นหนังผีที่ประสบความสำเร็จที่สุด และเป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขา "ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม"

แต่เรื่องนี้ก็มีอาถรรภ์ ทีมงานหลายคนในกองถ่ายล้มตายกันเป็นว่าเล่น จากสาเหตุอุบัติเหตุ ทั้งนั้นและยังไม่พอ ผู้ชายคนนึงพยายามฆ่าตัวตายและถูกตำรวจจับมาสอบปากคำ เขาอ้างว่าเขาดูหนังเรื่อง The Exorcist และก็มีเสียงหนึ่งสั่งให้เขาฆ่า และก็มีผู้ชายคนนึงอีกเช่นกันแต่รายนี้ฆ่าตัวตายสำเร็จโดยทิ้งจดหมายไว้ด้วย เนื้อความในจดหมายบอกว่าเขาถูกปีศาจสั่งให้ทำ

นอกจากนี้คนบางคนถึงขั้นไม่กล้าเปิดหนังเรื่องนี้ดูเลยทีเดียว เพราะคนที่เคร่งในศาสนาเชื่อว่าหนังเรื่องนี้มีสิ่งชั่วร้ายปะปนอยู่




The omen


    เป็นหนังเกี่ยวกับซาตานล้างโลกอีกแหละ ซึ่งดูเหมือนสวรรค์จะไม่ชอบหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่เลยต้องมีการลงโทษ

เริ่มจากระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เครื่องบินที่คนเขียนบท เดวิด เซลท์เซอร์ นั่งโดนฟ้าผ่า แต่โชคดีที่ไม่ตาย

ดารานำในเรื่องเกรกอรี่ เพ็ค ยกเลิกเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปอิสราเอล..เครื่องบินลำที่ว่าตก ผู้โดยสารตายหมด
นอกจากนี้โรงแรมที่ เนียวดฟลด์ซไปพักระหว่างถ่ายทำถูก IRA บอมบ์ ตรงร้านอาหารที่ผู้กำกับและนักแสดงกำลังจะไปกินข้าว โชคดีอีกแล้วที่ไม่มีใครตาย แต่ที่ปรึกษาผู้ช่วยสเปเชียวเอฟเฟก ชื่อ จอห์น ริชาร์ดสัน ไม่โชคดีด้วย โดยวันศุกร์ที่ 13 สิงหา 1976 เขาขับรถชนในฮอลแลนด์  ผู้ช่วยของเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆด้วยล้อหน้า บดเละไปกับซากรถ ซึ่งรถคนนั้นเกิดเหตุตรงที่ป้ายข้างถนนเขียนว่า Ommen 66.6km.!!

ในสวนสัตว์ฉากที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ถูกสิงโตในนั้นขย้ำจนเสียชีวิต..แค่วันเดียวจากการหลังถ่ายทำเรื่องThe Omen เสร็จ

จากนั้นเวลาต่อมาลูกชายของเกรกอรี่ เพคก็เอาปืนยิงฆ่าตัวตายอีกทำให้หลายๆ คนเชื่อว่าหนังเรื่องนี้มีคำสาปแน่นอน

เรื่องสยองในการถ่ายทำเรื่องThe Omen

คืนที่มีการถ่ายฉากรับโทรศัพท์..ไฟที่แขวนอยู่ด้านบนเกิดระเบิดขณะถ่ายทำ..โชคดีที่มีฟิลเตอร์ผ้าไหมบังไฟ..เศษแก้วจึงไม่ทำลาย อันตรายทีมกล้องที่อยู่ข้างล่างพอดี

วันที่6ตุลาคมเกือบครึ่งหนึ่งของทีมงานป่วยเพราะอาหารเป็นพิษ แต่การตรวจสอบไม่พบเชื้อแบคทีเรียใดๆ

ตากล้องภาพนิ่ง Vince Valitutti พบว่าภาพที่ตัวเองถ่ายPete Postlethwaite ที่แสดง เป็นบาทหลวง Brennan ในหนังมีบางสิ่งพาดขวางรูปจากบนลงล่าง

Matt Johnson ผู้รับผิดชอบงาน vusaul effects วัดแสงฉากที่มีฝูงนกกาเป็น background ตัวเลขที่เครื่องวัดได้ 666 ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน





ตัวเลข 6 6 6 ในหนังไม่ได้คิดขึ้นมาเล่นๆแต่อ้างมาจาก Revelation13:15 ในหนังคัมภีร์ไบเบิลพระธรรมใหม่ ที่เขียนไว้ว่า.. ในเรื่องนี้จงใช้สติปัญญาให้ดี ถ้าผู้ใดมีความเข้าใจก็ให้คิดตรึกตรองเลขของสัตว์ร้ายนั้น..เพราะว่าเป็นเลขของบุคคลผู้หนึ่ง เลขของมันคือ 666 หากตีความในเนื้อหาบทวิจารณ์ข้างต้น เลข6 คือตัวเลขของมนุษย์ เป็นตัวเลขแทนความไม่สมบูรณ์ หรือแทนปีศาจ ขณะที่เลข7เป็นตัวเลขแห่งความสมบูรณ์ครบถ้วน เพราะพระเจ้าสร้างโลกสมบูรณ์ 7วัน เลข 6 กลายเป็นเลขประจำตัวของผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเยซู (Antichrist) มากกว่าที่เป็นเลขประจำตัวของซาตาน

เป็นการเลียนแบบพระเยซูซึ่งเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์...พยายามสร้างให้ยิ่งใหญ่กว่าพระเยซู..แต่ความเป็นจริง ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่า การที่ระบุ 6 6 6 ตีความว่าอาจมาเพราะต้องการเลียนแบบพระตรีเอกานุภาพ คือ พระบิดา พระบุตร และพระจิต รวมเป็นพระเจ้าใน หนึ่งเดียว...ซาตานในนรกก็ต้องการทำเช่นนั้นจึงพยายามทำให้พระตรีเอกานุภาพชั่วร้ายกำเนิดครบยนถ้วน..ด้วยการเลียนแบบคือ...ส่งบุตรตัวเองเกิดมาเป็นมนุษย์ ในบางแห่งอาจใช้เลข 616แทน666เข้าใจว่าเป็นความสับสนในการอ่านตัวเลขกรีกโบราณ..เนื่องจากความใกล้เคียงกันระหว่างหมายเลข1กับ6

แก้ไขล่าสุด 12 ส.ค. 57 09:20 | ไอพี: ไม่แสดง

#227 | Anymore. | 12 ส.ค. 57 09:19 น.



The Poltergeist Trilogy (ทุกภาค)


หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวที่โดนผีหลอกวิญญาณหลอน ซึ่งรู้สึกว่าพวกวิญญาณจริงๆ เหล่านั้นคงไม่ชอบให้มีการถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้สักเท่าไหร่เลยสาปซะเลย

ตอนแรกหนังเรื่องนี้มีดาราชื่อ โดมินิค ดันน์ (Dominique Dunne) มาแสดง (เข้าฟิล์มแรกฉากแรกเลยแหละ) แต่ถ่ายเสร็จปุ๊บเธอก็โดนบีบคอตายโดยแฟนเก่าเธอ... โดยแฟนเก่าเธออ้างว่าเขาฆ่าเธอเพราะผีบอกว่าไม่อยากให้เธอแสดงหนังเรื่องนี้ จัดการกับเธอซะ!!

นอกจากนี้ก็มีปัญหาการถ่ายทำมากมาย เช่นเจมส์ โบรสัน ผู้สวมบทเป็น จอร์จ ลัทซ์ พระเอกของเรื่อง อ้างว่าเขาถูกโชคร้ายเล่นงานมาโดยตลอดในทันทีที่เขาเริ่มถ่ายภาพยนต์ วันแรกติดอยู่กับลิฟต์ วันที่สองในขณะที่ถ่ายไปเพียง 1 นาทีเท่านั้นก็สะดุดจนขาแพลง ทำให้บริษัทต้องเสียเงินจำนวนมากเพราะ ความล่าช้าในการถ่ายทำ จนผู้สร้างภาพยนตร์กลัวว่าเรื่องคำสาปนี้อาจเป็นจริง จึงไม่กล้าใช้สถานที่จริงในการถ่ายทำ

อาถรรพณ์หนัง Poltergeist เกิดขึ้นในช่วง 6 ปีที่หนังทั้งสามภาคฉาย ซึ่งมีนักแสดงตายไปทั้งหมด 4คน และก็ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าการตายของทั้ง 4 คนในเรื่องนี้เป็นเพราะคำสาปจริงๆ หรือว่าเป็นแค่เรื่องบังเอิญกันแน่



Dominique Dunne - วัย 22 ปี เแสดงใน Poltergeist ภาคแรก เสียชีวิตเนื่องจากถูกเพื่อนชายาฆ่าด้วยการบีบคอในปี 1982 อีกทั้งระหว่างอยู่โรงพยาบาลเครื่องช่วยชีวิตก็ดับสนิทโดยไม่ทราบสาเหตุ




Julian Beck - วัย 60 ปี แสดงใน Poltergeist ภาค 2 เสียชีวิตในปี 1985 ด้วยสาเหตุมะเร็งในกระเพาะ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าจะรับบทเล่นในหนังเรื่องนี้ได้ไปตรวจร่างกายแล้วแต่กไม่พบความ ผิดปกติใดๆ




Will Sampson - วัย 53 ปี เสียชีวิตเนื่องจากไตวายระหว่างการผ่าตัดและขาดสารอาหาร ในปี 1987




Heather O'Rourke - วัย 12 ปี แสดงเป็น Carol Anne ใน Poltergeist ทั้งสามภาค เสียชีวิตเนื่องจากไข้หวัดใหญ่และติดเชื้อในกระแสเลือดแต่ก่อนหน้านั้น Heather O'Rourke ก็เป็นโรคสำไส้อุดตันและลำไส้อักเสบโครห์นอยู่ก่อนแล้ว


และคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ก็เล่าว่า ระหว่างที่เขียนบทไปถึงตอน "มีฟ้าแลบฟ้าผ่าอยู่บนท้องฟ้า" ทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าตึกที่กำลังทำงานอยู่ ทำให้ตู้เกมที่โถงรับแขกทั้งหมดเล่นได้เอง




The Twilight Zone : The Movie


เป็นภาพยนต์สร้าง Remake จากปี 1959 โดยนำเสนอหนัง 4 เรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติหักมุมมาเล่น

เรื่องราวเกิดขึ้นตอนถ่ายทำภาพยนต์ตอนที่ 1 ซึ่งเป็นเรื่องของคนเหยียดสีผิว ที่ย้อนอดีตมาอยู่ในยุคนาซีครองโลก โดยวันที่ 23 กรกฎาคม 1982 เวลา 2:30 ซึ่งเป็นฉากเฮริคอปเตอร์ตกระเบิด โดยนักแสดงนำ Vic Morrow และ เด็ก 2 คน Myca Dihn Le (อายุ 7 ปี) และ Renee Shin Yi Chen ( 6 ปี) ที่ต้องอยู่ในฉากนี้ แต่แล้วก็เกิดเหตุโศกนาฏกรรม เกิดขึ้น  โดยใบพัดเฮลิคอปเตอร์เกิดหลุดกระเด็นไปตัดหัว เขาพร้อมกับเด็ก 2 คนที่เข้าร่วมแสดงเสียชีวิต ทั้งๆ ก่อนหน้านั้นทีมงานได้ตรวจสอบใบพัดแล้วว่าปลอดภัย




สภาพเฮลิคอปเตอร์




Vic Morrow




Renee Shin Yi Chen , Myca Dihn Le

    จากอุบัติเหตุดังกล่าวได้ถูกจารึกไว้หน้าประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ว่าเป็น อุบัติเหตุที่หน้าสยดสยองที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่งผลให้ฉากดังกล่าวได้ถูกตัดออก  และจนถึงตอนนี้หนังก็ยังถ่ายไม่จบ ซึ่งผู้คนเชื่อกันว่า สถานที่ถ่ายทำบริเวณนั้นมีอาถรรพ์ เพราะเกิดอุบัติเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน




The crow


แบรนดอน บรูซ ลี เป็นนักแสดงและนักแสดงศิลปะการป้องกันตัว ชาวอเมริกัน เขาเป็นบุตรชายของนักแสดง บรูซ ลี เริ่มแสดงในหนังแอ็กชันและเซ็นสัญญากับทเวนตีธ์เซนจูรีฟอกซ์ อยู่หลายเรื่อง

โดนคำสาป ผู้ชายในตระกูลนี้เกิดมาจะต้องตาย ทำให้บรู๊ซ ลี ต้องหนีจากบ้านไปอยู่อเมริกา
และห้อยเครื่องรางเอาไว้ตลอด ในวันที่ 20 กรกฏาคม 1973 บรู๊ซ ลีนอนอยู่ที่บ้านเขาบ่นว่าปวดหัว นอนหลับไปและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย โดนในการเสียชีวิตยังคงเป็นปริศนา บางคนบอกกินยาเกิดขนาด บางคนบอกลมลมบ้าหมู หรือแม้กระทั่งว่า บรู๊ซ ลี ละเมิดข้อห้ามที่ไม่ควรเอาศิลปะการต่อสู้ไปถ่ายทอดในโลกตะวันตก

หลังจากนั้น แบรนดอน บรู๊ซ ลี ได้สาบานว่าจะตามรอยพ่อของเขาและเป็นนักแสดงศิลปะการป้องกันตัว วันที่ 31 มีนาคม 1993 เขาอายุได้ 23 ปี ขณะถ่ายทำภาพยนตร์ The crow ปืนที่บิงใส่เขาดันมีลูกกระสุนจริง ทั้งๆที่ตอนตรวจสอบลำกล้องปืนแล้ว รังเพลิงว่างเปล่า ทำให้่หลายคนคิดว่าคำสาปประจำตระกูลอาจเป็นจริง




The dark knight


    อาถรรพ์ของหนัง  The Dark Knight เริ่มต้นความเสียวสยองเมื่อ  Heath Ledger  ดาราหนุ่มที่ยืนอยู่ในจุดของความเป็นดาราขายฝีมือ หลังจากการสลัด ความเป็นดาราวัยรุ่นได้ไม่นานเกิดเสียชีวิตลงอย่างกระทันหันเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาทำให้คนทั่วโลกโดยเฉพาะแฟน ๆ ผลงานของเขาที่มีมากขึ้นหลังจาก หนังเรื่อง  Brokeback Mountain  ถึงกับช็อคไปตาม ๆ กันและไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การตายของ Heath Ledger 

นี่แหล่ะที่ฟันธงได้เลยว่าเป็นแรงขับทำให้หนัง เรื่อง The Dark Knight ที่มีคุณภาพในตัวระดับหนึ่งอยู่แล้วกลายเป็นหนังที่โกยรายได้อย่างถล่มทลายในระดับที่ตามเบียดTitanic ไปติดๆ 

กระแสฮือฮาเรื่องอาถรรพ์จากหนัง The Dark Knight  ทวีความแรงมากขึ้นเมื่อ Morgan Freeman  หนึ่งในดารานำของภาพยนตร์เรื่องนี้วัย 71 ปี เกิดอุบัติ เหตุรถพลิกคว่ำตีลังกา ทำให้เป็นที่โจษจันกันวาเขาเป็นเหยื่อรายล่าสุดของสิ่งที่คนในวงการเรียกว่า "คำสาปแบทแมน" แต่ยังโชคดีที่ Morgan Freeman  รอดชีวิตมาได้ด้วยอาการบาดเจ็บไม่มากนัก นี่ถ้าเขาเกิดตายไปอีกคน มีหวังแฟรนไชส์แบทแมนอาจเกิดอาการกลัวงดสร้างภาคต่อไปก็ได้

อย่างไรก็ดี ประสบการณ์เฉียดตายของ Morgan Freeman คือเหตุการณ์ร้ายล่าสุดในบรรดาหลาย ๆ  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทั้งทีมงานและทีมนักแสดง นับ ตั้งแต่การถ่ายทำหนังเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้น รถของ  Morgan Freeman  ตีลังกาไปหลายตลบหลังแถออกนอกถนนใกล้ ๆ กับเมืองเมมฟิส ก่อนที่รางของเขาจะถูกพาบินไปส่งตัวที่โรงพยาบาลหลังจาก หน่วยกู้ภัยได้ช่วยเขาออกมาจากรถที่อยู่ในสภาพบุบบี้  อุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้เขาแขนหัก  ข้อศอกหัก และไหล่เจ็บ

แล้วที่ไม่น่าจะเกี่ยวกัน แต่ก็มีฝรั่งบางคนเอามาผูกเรื่องเป็นราวกันว่า Morgan Freeman กำลังดวงตกเพราะกำลังมีปัญหาถูกฟ้องหย่าจากภรรยาที่อยู่กินกัน มาถึง 24 ปี ข้อมูลอีกอย่างหนึ่ง และน่าจะเป็นเหตุให้เกิดกระแสเสียงลือกันถึงอาถรรพ์ของหนัง The Dark Knight ก็คือ Heath Ledger ไม่ใช่คนแรกที่เกี่ยวข้องกับกอง ถ่ายหนังเรื่องนี้ที่เกิดเสียชีวิต

"เหมือนมีเมฆหมอกที่ชวนให้ขนลุกปกคลุมหนังเรื่องนี้อยู่" แหล่งข่าวของฮอลลีวูดบอกกับหนังสือพิมพ์ The Sun  ของอังกฤษในเดือนกันยายนปีที่แล้วว่า ช่าง เทคนิคสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่ชื่อ Conway Wickliffe เสียชีวิตลงเมื่อรถคันที่เขาขับชนเข้ากับต้นไม้ ขณะที่เขาขับตามรถแบทโมบิลระหว่างการซ้อมแสดงฉากสตั๊นท์ ซึ่งถ้าคุณอยู่ดูจนเครดิตท้ายเรื่องขึ้นจนจบนั้นจะเห็นข้อความที่เขียนอุทิศไว้ว่า  "เพื่อระลึกถึงเพื่อน ๆ ของเรา  Heath Ledger และ Conway Wickliffe"

ทางด้าน Christian Bale พระเอกของหนังผู้รับบทเป็นตัวแบทแมนนั้นก็เจอพ่วงเข้าไปว่าเจออาถรรพ์ของหนังกับเขาด้วยเพราะในระหว่างที่เขาจะเดินทางไปร่วมงานฉายรอบปฐมทัศน์ของหนัง The Dark Knight ที่ลอนดอน เขาโดนแม่กับพี่สาวแจ้งตำรวจจับในข้อหาทำร้ายร่างกายจนเป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่วโลก

งานนี้ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นอาถรรพ์ของจริง หรือฝรั่งเล่นจับแพะมาชนแกะ ผูกเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้ แต่ที่แน่ ๆ The Dark Knight ก็มาพร้อมเหตุวุ่นวายปวดหัวที่ ดันส่งผลในทางตรงข้าม เพราะยิ่งมีข่าวร้ายเท่าไหร่  ตัวหนังกลับยิ่งทำรายได้เท่านั้น ก็ลองถ้าหนังเปิดตัวแบบปกติโดยไม่มีข่าวโศกนาฏกรรมอะไรเกิดขึ้นเลย ก็ ยังไม่รู้ว่าหนังจะโดยเงินขนาดนี้ไหม  เรื่องแบบนี้มันก็น่าคิดอยู่หรอกนะ..



เครดิต
เนื้อหา :
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=683986
https://th-th.facebook.com/NiyayXea.........700787243320258
http://mail.mankind666.com/index.php?pid=025&news=23
ภาพ : Google



แก้ไขล่าสุด 12 ส.ค. 57 09:20 | ไอพี: ไม่แสดง

#228 | wnuha | 12 ส.ค. 57 15:41 น.

สยองงงงงงงง~~~

ไอพี: ไม่แสดง

#229 | Gleek! | 12 ส.ค. 57 17:52 น.

นานเชียวนะยะ

แต่เอาเถอะ ไม่บ่นค่ะไม่บ่น

มาอัพให้ก็ดีใจแย่แล้วค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#230 | Anymore. | 12 ส.ค. 57 17:57 น.

#229  555 โทดทีๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#231 | .นอนน้อย | 12 ส.ค. 57 21:47 น.

ชอบค่ะอ่านไปหลอนไป แปะๆๆ

ไอพี: ไม่แสดง

#232 | #Prynce.P | 13 ส.ค. 57 01:47 น.

อยากให้ทยอยอัพ ดีกว่าอัพทีละเยอะๆอ่ะค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#233 | Anymore. | 14 ส.ค. 57 11:08 น.




Real Life Scary Stories


บางคนอาจจะเคยดูภาพยนตร์เรื่อง Tales of Terror มาแล้ว เป็นหนังสั้นจากประเทศญี่ปุ่น
คล้ายๆ 4 แพร่ง 5 แพร่งของไทยน่ะแหละ

แต่หนังสั้นที่เราจะเอามาให้ดูนี้ เป็นเรื่องจริงนะ
ซับไทยโดย : musaru

ชื่อเรื่อง : สะดุด
เรื่องย่อ : ห้องน้ำหญิงในบริษัทแห่งหนึ่ง มักจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่ออกมากจากห้องน้ำ จะเหมือนสะดุดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อหันไปดูกลับว่างเปล่า ..

http://www.youtube.com/watch?v=Vu4oFdYc49Q&list=PLG-Xwp3lemeMbk7kS-snEsdjZ4myX504N&index=1


ชื่อเรื่อง : ให้ฉันขับนะ
เรื่องย่อ : เรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่กลับบ้านดึกดื่น ด้วยการปั่นจักรยาน ปกติเธอจะไปทางตรง แต่วันนี้เธอเลือกที่จะไปทางลัด ..

http://www.youtube.com/watch?v=xUsr5TbrrC4&index=2&list=PLG-Xwp3lemeMbk7kS-snEsdjZ4myX504N


ชื่อเรื่อง : ผู้มาเยือน
เรื่องย่อ : เรื่องของหญิงสาวที่ต้องอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเปิดประตูบ้านจึงออกมาต้อนรับ และพบกับแขกที่ไม่ได้เชิญ

http://www.youtube.com/watch?v=bnLDVT1xp-Y&list=PLG-Xwp3lemeMbk7kS-snEsdjZ4myX504N&index=3


ลองดูก่อน 3 เรื่องนะ ชอบไม่ชอบบอกด้วยนะ


แก้ไขล่าสุด 14 ส.ค. 57 11:10 | ไอพี: ไม่แสดง

#234 | confection. | 18 ส.ค. 57 18:49 น.

ขอบคุณมากนะครับที่ยังมาอัพอยู่เรื่อย ๆ สู้ๆนะครับ

ไอพี: ไม่แสดง

#235 | #Prynce.P | 20 ส.ค. 57 20:38 น.

หนังไม่ค่อยน่ากลัวเลยค่ะ ถ้าเป็นเรื่องให้อ่านฉันจะจินตนาการได้หลอนมากๆค่ะ

ไอพี: ไม่แสดง

#236 | Anymore. | 12 ก.ย. 57 17:04 น.

*** ปิดกระทู้ชั่วคราว ***

ไอพี: ไม่แสดง

#237 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 12 ก.ย. 57 20:27 น.

ต่อนะคะะะ รออยู่น้าา ว่างมาอ่านเเล้ว ฮือ 

ไอพี: ไม่แสดง

#238 | #Prynce.P | 13 ก.ย. 57 20:05 น.

มาอัพบ้างนะคะ คิดถึง

ไอพี: ไม่แสดง

#239 | `คิมคิบอมคิมทงเฮ | 22 ก.ย. 57 21:54 น.

ยังรออยู่นะคะ อยากอ่านมากเลย 

รอออออออออ 

ไอพี: ไม่แสดง

#240 | Anymore. | 26 ธ.ค. 57 10:11 น.






Bloody Mary
 

  เป็นเรื่องเล่าสยองขวัญที่มีมาแต่โบราณในทวีปยุโรป แต่ในหมู่เด็กๆ จะรู้จักชื่อของเธอในรูปแบบของเกมวัดใจที่จะเล่นได้เฉพาะที่หน้ากระจก โดยกฎหลักๆ ของวิธีการเล่นก็คือจะต้องเล่นหน้ากระจกในห้องที่มืดๆ (ส่วนใหญ่จะเป็นห้องน้ำ) และเรียกชื่อของเธอซ้ำๆ ว่า "Bloody Mary, Bloody Mary"ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจมีความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่นจำนวนรอบในการเรียกชื่อของเธอซึ่งมีตั้งแต่ 3 ครั้ง ,13 ครั้ง ไปจนถึง 100 ครั้ง นอกจากนี้ในบางท้องที่ก็จะมีกรรมวิธีอื่นๆ เสริมเข้ามา

  พิธีนี้จะทำได้เฉพาะเวลาเที่ยงคืน, ให้หมุนตัวไปรอบๆ ขณะเรียกชื่อ, ให้ขยี้ตาข้างหนึ่งขณะที่เรียกชื่อ, ให้เท้าสัมผัสกับน้ำขณะเรียกชื่อ ,จุดเทียนที่หน้ากระจกด้วยขณะเรียกชื่อ และบางความเชื่อให้พูดว่า "Bloody Mary, I killed your baby." แทนการเรียกชื่อ เพราะเชื่อว่า Bloody Mary เป็นผีของผู้เป็นแม่ ที่ลูกถูกฆ่าตาย หรือถูกลักพาตัวไป ซึ่งเป็นสาเหตุให้เธอเสียสติและซึมเศร้าจนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองที่หน้ากระจก

  แม้วิธีการทำพิธีเพื่ออัญเชิญหรือท้าทายผี Bloody Mary จะมีรายละเอียดที่ต่างกันไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่่งที่ค่อนข้างจะเหมือนกันคือเมื่อ Bloody Mary โผล่ขึ้นมาในกระจกแทนเงาของผู้ที่เรียกเธอมาแล้ว เธอจะพยายามฆ่าคนที่เรียกเธอด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระชากหนังหน้าจนขาดด้วยเล็บที่แหลมคม ควักลูกตา ตัดคอ หรือลากเอาคนทำพิธีเข้าไปกระจกพร้อมๆ กับเธอ แต่หากใครที่เห็นเธอปรากฎขึ้นมาในกระจกแต่ไม่ถูกทำร้ายในตอนนั้น แล้วคิดว่าตนเองโชคดีก็ขอให้เข้าใจกำลังเป็นผู้โชคร้ายอย่างสุดๆ แล้ว เพราะนับตั้งแต่วันนั้นเธอจะตามหลอกหลอนผู้เคราะห์ร้ายรายนั้นทุกครั้งที่ส่องกระจกไปจนกว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะตาย

  แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่เชื่อกันว่าหากเรียกชื่อของเธอ 13 ครั้งที่หน้ากระจกแล้ว Bloody Mary ปรากฎตัว เราจะสามารถขอเธอคุยกับผู้เสียชีวิตไปแล้วได้ จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงคืน 1 นาที เธอและผู้เสียชีวิตที่ถูกเรียกมาจะหายไปจากกระจก และในอีกบางความเชื่อก็บอกว่าเมื่อเธอปรากฎตัวอย่าตกใจ แต่ให้เพ่งมองไปที่ตัวเธอแล้วจะได้เห็นภาพของชีวิตในอนาคต หน้าตาคู่ครองรวมถึงหน้าตาของลูกหลานแทน แต่หากภาพที่เห็นเป็นภาพของซากศพ ก็ให้เข้าใจได้เลยว่า "ตายก่อนได้แต่งหรืออาจจะไม่ได้แต่งเลยชาตินี้...

  นอกจากนี้ยังมีคนเฒ่าคนแก่บางคนเชื่อว่าผี Bloody Mary นี้คือ Queen Mary I (ควีนแมรี่ที่ 1) ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก และต้องการกำจัดพวกโปรแตสแตนท์ในประเทศอังกฤษให้หมดสิ้นในทุกวิถีทาง ด้วยเหตุนี้ผู้นำนิกายโปรเตสแตนท์ รวมทั้งผู้ชาย เด็ก และสตรีมีครรภ์ถูกประหารไปมากมาย ต่อมาการพยายามมีทายาทของพระนาง ทั้งที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แต่พระนางคิดว่าตัวพระนางเองมีบุตรจึงเกิดภาวะครรภ์เทียมจึงทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆจนสวรรคต แต่การสวรรคตของพระองค์ เรียกได้ว่ากรรมตามสนองที่เคยทำไว้กับเหล่าสตรีมีครรภ์และเด็กโดยแท้

  แต่ทั้งนี้ความเชื่อเกี่ยวกับประวัติของแมรี่ก็ยังเป็นสิ่งที่คลุมเครือยิ่งนัก เพราะบางคนก็บอกว่าแมรี่เป็นแม่มดที่ถูกเนรเทศเมื่อร้อยกว่าปีก่อนในข้อหาใช้มนตร์ดำ แต่บางคนก็บอกว่าเป็นผู้หญิงในยุคเราๆนี่แหละ ที่ตายในอุบัติเหตุรถชนแล้วหน้าถูกรถอัดเละ แต่ก็มีคนแย้งว่าเป็นผีของผู้หญิงที่ฆ่าลูกของตัวเองหลังจากแต่งงานแล้วกินเด็ก ว่าไปถึงเป็นที่แบบเป็นผีแท้ๆ ที่ไม่เคยเป็นคนมาก่อนเลยก็มี


https://www.youtube.com/watch?v=NAwOS7jAJP0


ไอพี: ไม่แสดง

#241 | confection. | 4 ม.ค. 58 20:27 น.

ผมว่ากระทู้เริ่มอืดแล้วนะครับตั้งกระทู้ใหม่เลยดีกว่าถ้าหากว่าจะอัพต่อนะครับ
ยังติดตามอยู่เวลาเบื่อๆก็มาอ่านเล่น 55555

ไอพี: ไม่แสดง

#242 | :$`วือๆ | 11 ก.พ. 58 00:25 น.

รอติดตามอ่านอยู่นะ 

ไอพี: ไม่แสดง

#243 | {{Parrr. | 4 มี.ค. 58 07:19 น.

รอนะคะ เลิฟ.

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google