ได้ดู"Evidence ชนวนขนหัวลุก"หนังหักมุมตอนจบที่โดนใจอีกเรื่อง

19 พ.ค. 57 10:54 น. / ดู 1,874 ครั้ง / 2 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ....(อยากให้หามาดูและติดตามดูตอนจบเอาเอง เพระคิดว่าตอนจบถือว่าทำได้ดี หักมุม คิดไม่ถึงจริงๆว่าจะเป็นแบบนี้ไปได้ ถึงจะไม่หักมุมขึ้นหิ้งหมือนหนังเรื่อง the six sent,  the mist,  saw1 ก็ตามแต่ตอนจบเรื่องนี้ก็ทำให้เราอึ้งและคิดไม่ถึงไปเหมือนกัน ตอนดูพยายามวิเคราะห์และเดาตัวฆาตรกรอย่างละเอียดยิบแล้วนะว่าน่าจะเป็นใคร แต่พอถึงตอนจบเท่านั้นแหละ!!!! คิดไม่ถึงหนังจะเล่นอะไรแบบนี้ ถือว่าโอเคเลยนะเพราะเล่นเราเล่นสตั้นไปเหมือนกัน)
Evidence �ในตอนแรกเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังหลายเรื่องที่ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยอยากดูมันหรอก(คิดว่าคงจะเหมือนหนังสยองไล่ฆ่าคนเหมือนหนังสยองขวัญทั่วไป) แต่พอได้ดูแล้วผลลัพธ์อันน่าทึ่งของการไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรของหนังมาก่อน ก็เลยแทบจะขย้อนเบอร์เกอร์ไก่ที่กินเข้าไปก่อนดู ให้ออกมาเต้นระบำจ้ำบ๊ะอยู่บนตัก เนื่องจากนี่มันคือรูปแบบหนัง Found Footage หรือหนังที่นำเทปลับของตัวละคร มาเปิดให้คนดูเวียนหัวตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ไม่ว่าจะกินอิ่มหรือหิวไส้กิ่วก่อนมาดู ความรู้สึกก็คงจะหนีไม่พ้น� ‘คลื่นเหียนเวียนหัว’� อย่างที่ตั้งชื่อบทความนี้เอาไว้เป็นแน่!เรื่องราวของ�

Evidence�ถ้าดูเผินๆก็แทบไม่ต่างอะไรจากหนังสยองทั่วไปที่มีฆาตกรต่อเนื่องฆ่าหมกศพ แต่ที่ต่างอยู่นิดคือ หนังนำเทปลับของตัวละครมาเปิดเพื่อหาคนผิด ดังนั้นฉากฆาตกรรมทั้งหลายได้เกิดขึ้นไปหมดแล้วก่อนหนังเริ่ม โดยคนดูจะได้ดูฉากโหดๆผ่านเทปลับที่พบ พร้อมๆกับหน่วยสืบสวน และมาเดาพร้อมๆกันว่า��“ใครฆ่าวะ?”� –��“ทำไงวะ?”� –��“ทำเพื่ออะไรวะ?”

การดำเนินเรื่องที่เดาไว้ก่อนดู คาดว่าจะเป็นการสืบสวนสอบสวนที่ตื่นเต้น โดยเล่าถึงเหตุการณ์ปัจจุบันและผลลัพธ์ที่ตามมา แต่แล้วก็ผิดคาด เพราะหนังนำเทปลับมาให้คนดูได้ดูตลอดแทบจะทั้งเรื่อง ซึ่งเทปลับที่กู้มาได้นั้น ก็มีภาพที่เลวร้ายซะเหลือเกิน ทั้งภาพไม่ชัด ภาพสั่น กระท่อนกระแท่น ดูแล้วปวดหัว เวียนหัว ไม่ต่างอะไรกับเอาส้มตำปูม้าไปกินเล่นในขณะกำลังอยู่บนรถไฟเหาะ! ถึงขนาดที่ว่าตอนที่ผมดู ต้องเอามือกุมหน้าอกไว้ เพราะกลัวของที่กินไป แว่บออกมาจ๊ะเอ๋!

ตัวแสดงในเรื่องแบ่งเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน พวกแรกสิงกันอยู่ในเทปลับ (คือเป็นตัวละครที่เล่าเรื่องในเทปลับนั่น) อีกพวกนั่งกู้ไฟล์กันในห้องสืบสวน พอเล่าเหตุการณ์ปัจจุบันได้แป๊บๆ ก็กลับไปเล่าเหตุการณ์ในเทปลับต่อ สลับไปสลับมาจนกระทั่งเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว ว่าใครกันที่เป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่หนังใส่เข้ามา ก็พยายามจูงจมูกคนดูให้เดากันว่า คนนี้นี่แหละจะเป็นร้าย แต่ก็ไม่แน่ใจซะทีเดียว จนเมื่อถึงตอนไคลแม็กซ์ ก็มีการเฉลยว่าคนนี้แหละคนร้าย และตำรวจสืบสวนก็ไปป่าวประกาศออกสื่อว่าคนร้ายคือใคร แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ เพราะมีการหักมุมจบอีกครั้ง เพื่อเฉลยว่า คนร้ายไม่ใช่คนนั้นหรอก แต่เป็นคนนี้ มาถึงตอนนี้นี่แหละ

จึงสรุปว่าหนังทั้งหมดก็ไม่ได้แย่นะ เพียงแต่กว่าจะเจอสิ่งที่เก๋ๆ ก็ต้องผ่านความแย่เกือบทั้งเรื่องมาก่อน (ซึ่งความแย่ก็คือ ภาพที่สั่นไปมาจนเวียนหัว)โดยรวมแล้วถือว่า ความสยอง ความโหด ของตัวร้ายใน�Evidence�ก็พยายามจะทำให้หนังดูโหดอย่างใน�Saw�เพียงแต่การนำเสนอมันแตกต่างกันเหลือเกิน ถ้าตัดคอนเซปต์ Found Footage ออกไป จะทำให้หนังดูดีขึ้นอีกมาก ไม่� ‘คลื่นเหียนเวียนหัว’� อย่างที่รู้สึกตอนดูหนังจบแบบนี้…
แก้ไขล่าสุด 19 พ.ค. 57 15:08 | เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | yukinbc | 19 พ.ค. 57 13:29 น.

ดูแล้ว ดำเนินเรื่องน่าติดตามดี เดาไม่ถูกเลยจริงๆ ว่าใครคือฆาตกร หนังพยายามจูงคนดูให้คิดว่าเป็นคนนี้หรือคนนั้นฆ่า เหมือนกับหน่วยสืบสวนในห้องที่ดูเทปลับเหมือนกัน เป็นการหลอกล่อคนดูให้ติดกับที่ชาญฉลาดมาก แต่ถ้าหนังจบแบบนี้ ภาค 2 คงมียากแล้วล่ะ ก็รู้ไต๋หมดแล้วนี่นา

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | miss.nobody | 20 พ.ค. 57 15:59 น.

คะแนนใน imdb ได้ 5.2 เอง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ทำให้เราไม่เชื่อคะแนนใน imdb
นั่งลุ้นทั้งเรื่องเลย ตอนนั้นไปดูในโรง มีคนดู 5 คนเองมั้ง แบบเงียบมาก อินมาก 555

ปล. เราดูแล้วไม่เวียนหัวอ่ะ 

ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google