ゞแนะนำ❢เป็นติ่งติดทวิตติดซีรี่ก็เอนท์ติดได้(*ゝ(ェ)･)ﾉ
วันนี้กลับมาเขียนกระทู้แนะนำเกี่ยวกับชีวิตการเรียนอีกแล้ว
ใครที่เคยอ่านน่าจะจำเราได้ แต่จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
ลองกดเข้าไปอ่านได้จ้า กระทู้ที่เราเคยเขียน ʕ ́؈̀ ₎
CLICK 1 CLICK 2
❛ แนะนำตัวใหม่อีกรอบนะคะ
ชื่อมีนค่ะ ตอนนี้ขึ้นปี 1 จีนศึกษา ธรรมศาสตร์
เรียกพี่เรียกน้องเรียกเจ้เรียกป้ากันตามสบายโล้ด ʕ̫͡ʕ̫͡ʔ̫͡ʔ
(ノಠ益ಠ)ノ彡(ノಠ益ಠ)ノ彡(ノಠ益ಠ)ノ彡(ノಠ益ಠ)ノ彡(ノಠ益ಠ)ノ彡
วันนี้ว่าง (เพราะโดดเรียน¬_¬) ก็เลยจะมาเขียนแนะแนว มั้ง
เกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยให้น้องๆได้อ่านกัน
ไม่รู้จะเป็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ฝากด้วยโน้ะ (;≧皿≦)
✕ ค ำ เ ตื อ น ✕
เราเป็นติ่งนะ ติ่งมาตั้งแต่อายุป.6 ใช้ชีวิตติ่งและสก๊อยมาตลอด
ใช้วิจารณญาณ และคิด วิเคราะห์ แยกแยะ กันเอาเองนะฮร่ะ
เขียนจากประสบการณ์ตรงล้วนๆ 凸(`⌒´メ)凸
การเตรียมตัวสอบเข้ามหา(ประ)ลัย (〜￣△￣)〜
หาตัวเองให้เจอ ชอบอะไร อยากทำอะไร มีความสุขกับอะไร
บางคนจะตอบผู้ชายเกาหลี ถูก! เราก็ชอบผู้ชายแต่มันคนละประเด็น บาย
จริงๆการรู้ตัวเองว่าชอบอะไรมันมาก่อนการทำให้ตัวเองเก่งนะ
อันนี้เป็น FACT! ขออิงจากเพื่อนในแกงค์เลยแล้วกันง่ายดี
มีเพื่อนสองคน คนนึงเก่ง เก่งมากคะแนนออกมาได้ทอป3ห้องตลอด
แต่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรนอกจากนิยายและผู้ชายเกาหลี(เหมือนเราเองแหละฮิ)
กับอีกคนนึงเพื่อนสาวโดดเรียนประจำ มาสายจนโดนเรียกพบ
แต่นางรู้ว่านางจะเป็นนายกเทยคนแรกให้ได้
ตอนนี้นางติดตรงรัฐศาสตร์เอกระหว่างประเทศ ธรรมศาสตร์ไปละจย้า
ส่วนนางที่เก่งมากนั้น ตอนนี้ยังจัดอันดับแอดมิชชั่นอยู่
เพราะนางติดการบินแม่ฟ้าหลวง ท่องเที่ยวมศว.
แต่นางคิดว่ามันไม่ใช่เลยสละ [
i](มันปัญหาชีวิตจริงๆนะไม่ได้พูดให้ตลก)
ที่ยกตัวอยางคือจะสื่อว่า เก่งไม่เก่งไม่สำคัญ อยู่ที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร
มันไม่ใช่ว่าจะอัดเรียนพิเศษทุกวิชา เอาให้คะแนนสูงสองหมื่นอัพไว้ก่อน
แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เหนื่อยฟรีนะคะ
(จริงๆเรื่องมันยาวกว่านี้และมีอีกหลายเคสมากที่ขี้เกียจ
โดดเรียนเที่ยวไปผับแต่เอนท์ติดก่อนชาวบ้านแต่ขี้เกียจพิมพ์เดี๋ยวเป็นหนังไตรภาค)
เมื่อรู้แล้วว่าหนูรักอะไรชอบอะไรทำไงต่ออ่ะ? ヾ (✿>﹏ ⊙〃)ノ
เมื่อรู้แล้วว่าอยากเรียนอะไร เน้นคำว่า อยากเรียนอะไรนะคะ
ไม่ใช่ อยากเรียนที่ไหน
ก็ลอง research คณะและมหาลัยที่เปิดสอนเลยค่า
แล้วลองมาลิสท์ให้เหมาะกับตัวเองดู ลิสท์และแบ่งตามปัจจัย+ข้อมูลนะ
จะยกตัวอย่างให้ดู (ขอยกของตัวเองแล้วกันนะ)
เราชอบภาษาจีน เรียนศิลป์จีนมาก็ลองหาข้อมูลดูได้มาตามนี้
1. จีนธุรกิจแม่ฟ้าหลวง 2. จีนศึกษาธรรมศาสตร์ 3. ศิลปศาสตร์จีน (ทุน) เอแบค
พอได้คณะแล้วเราก็มาดูว่าถ้าอยากเข้าไปเรียนต้องทำไงบ้าง
ต้องสอบ 7 วิชาสามัญ GAT-PAT TU-Get CU-Tep SMART 1 SAT CU AAT อะไรว่าไป
ก็ดูไปตามความชอบของตัวเอง
สังเกตุได้ว่าเราต้องสอบเยอะมาก หลายสนามมาก
ถ้ายังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร แล้วไปสอบดะไว้ก่อน
ขอบอกเลยว่า เปลืองเงินมาก! และเหนื่อยอ่านหนังสือ
เสียเวลามาก! หาตัวเองให้เจอเถอะค่ะ จะไ้ด้ไม่เป็นภาระชีวิตเนอะ (∪￣ ㋓ ￣∪)
ปัจจัยในการเลือกคณะและมหาลัยหลักๆนะคะ
1.หลักสูตร/รายวิชา ดูว่าคณะนี้สอนอะไรบ้าง ภาคปกติ นานาชาติ หรือภาคค่ำ
ดูวิชาว่าเราโอเคมั้ยถูกใจมั้ยเรียนไหวมั้ย
2.สถานที่ ห่างบ้านมากไหม ถ้าห่างอยู่หอได้ไหม ถ้าไม่ได้มีที่อื่นที่สะดวกและใกล้กว่าไหม
3.สิ่งแวดล้อมในคณะ/มหาลัยและรอบมหาลัย
4.ค่าเทอม/ค่าใช้จ่าย เรื่องนี้เรื่องใหญ่และละเอียดนะคะ ต้องคุยกับที่บ้านแบบตรงๆด้วย
แล้วถ้าหนูไม่รู้ว่าหนูชอบอะไร คณะไหนจะโอเคกับหนูอ่ะ ?
ถ้าหนูไม่รู้จริงๆว่าหนูชอบอะไร ลองถามเพื่อนสนิท ถามพี่น้องคนใกล้ตัวดูนะคะ
ถามพ่อแม่ก็ได้ (
แต่ต้องพ่อแม่ที่ไม่ได้มีใจจะบังคับลูกเรียนอยู่แล้วนะT_T)
หรือลองทำแบบทดสอบดูก็ได้ (แต่โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย)
ส่วนเรื่องคณะสังคมในมหาลัยการใช้ชีวิต
ลองหารุ่นพี่ในคณะนั้นดูเลยค่ะ ถามเค้าเลย ดีที่สุดแล้ว
ถ้าใครไม่รู้จะหายังไง เสิชตามเพจในเฟสบุคไปเลยค่ะ
รุ่นพี่ในคณะ ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ทั้งเรื่องสังคม ค่าใช้จ่าย
หลักสูตร ค่าเทอม ความยากง่าย รับน้อง โอ้ยสารพัด ถามเถอะหนูเอ้ย (=´∇`=)
♡*(ू‧̫ू⑅)♡⋆*ೃ:.✧♡*(ू‧̫ू⑅)♡⋆*ೃ:.✧♡*(ू‧̫ू⑅)♡⋆*ೃ:.✧
หมดแล้วอ่ะไม่่รู้จะแนะนำอะไรแล้ว เอาเป็นว่าใครมีอะไรถามได้เลยนะ
เข้ามหาลัยไม่ยากถ้าเราตั้งใจ (สวยมากประโยคนี้)
เพราะอย่างเราเงี้ย เป็นทั้งสภานักเรียน เป็นติ่งกิตติมศักดิ์
เป็นคนไม่ฉลาดและขี้เกียจ เป็นเยอะอะ (;¬_¬)
แต่ก็ยังเดินไปถึงจุดที่เราหวังได้ แค่มีความตั้งใจและกำลังใจ
ไม่จำเป็นต้องด่าตัวเอง ดูถูกตัวเอง บังคับตัวเอง
เช่นติดทวิตระวังไม่ติดมหาลัย บ้ายบายนะโอป้าและซีรี่
ลบแอปในโทรศัพท์ เงี้ยยย น้องเอ๋ยมันไม่ช่วยอะไร (เพราะข้าทำมาหมดแล้ว)
อย่่างเราเนี่ยขี้เกียจมาก คิดว่าตัวเองฉลาดแล้ว
ไปสอบTU-Getแบบไม่อ่าน รอบแรกได้ 230/1000
ชอกหงายหลัง ผลสอบเดลิเวอรี่ถึงบ้าน ซึ้งเลย
พอรอบสองเราค่อยๆทำข้อสอบวันละนิด ท่องศัพท์บ้าง
คะแนนก็ดีดเลย 580/1000 เอาไปยื่นผ่านแถมได้ฟรีหน่วยกิตปรบพื้นที่มหาลัยด้วย
ฉะนั้น เรามานั่งบอกตัวเองวันละนิดดีกว่า อ่านวันละนิดก็ได้
หาข้อมูลไป เก็บข้อมูลไป ตามสายที่ตัวเองชอบ
เช่นชอบรัฐศาสตร์การเมือง อ่านข่าวไปเลยฟังข่าว วิเคราะห์ดู
ชอบภาษาก็ลองโหลดแอปบีบีซีมาอ่านข่าว ฟอลทวิตข่าวต่างชาติ
ฟอลคนต่างชาติ (ดีนะ ได้ศัพท์แสลงด้วย)
วิธีมีเยอะไปหมด ค่อยๆทำ อย่าหักดิบ อะไรที่เราทำเป็นประจำ
ทำเกิน 20 วันขึ้นไปมันจะกลายเป็นนิสัย ลองสร้างนิสัยดีๆให้กับตัวเองดู
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยอยากถาม อยากปรึกษาหรืออยากรู้รายละเอียดอื่น คณะอื่นๆ
ลองถามได้นะ เดี๋ยวจะหาข้อมูลมาให้ ʕ̡̢̡*✪௰✪ૢʔ̢̡̢
เมนชั่นมาได้เลยในทวิตเตอร์/line @thunyalaq ไอดีเดียวกัน
ไปละฮร่ะบรัยยยยย ʕ̫͡ʔ ʕ̫̫͡͡ʔ ʕ̫͡=̫͡ʔ ʕ̫͡ʔ ʕ̫͡ʔ
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
ชอบประโยคนี้มากๆ
เก่งไม่เก่งไม่สำคัญ อยู่ที่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร
มันไม่ใช่ว่าจะอัดเรียนพิเศษทุกวิชา เอาให้คะแนนสูงสองหมื่นอัพไว้ก่อน
แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร เหนื่อยฟรีนะคะ
ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะคะ
ตอนที่เราอยู่ม.6 ก็เริ่มรู้ตัวว่าถึงเวลาต้องเขามหา'ลัยแล้ว (ที่จริงควรรู้ตัวนานละ 
)
แต่เทอมสุดท้ายก็พยายามทบทวนสิ่งที่เรียนมาทั้งหมดเอง สรุปในแบบของตัวเอง
และฟังเสียงที่อัดเอาไว้ตอนครูสอน (เป็นคนที่จำได้ดีจากการฟัง)
รวมทั้งพยายามลดกิจกรรม ซึ่งก่อนถึงเวลาสอบจริงสามวัน เรายังไม่ออกจากป่าเลย
แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้กดดันอะไรตัวเองมาก ยิ่งเครียดก็จะยิ่งจำไม่ได้
ทำข้อสอบอย่างชิลล์ๆ งีบแล้วก็ตื่นมาทำข้อสอบต่อ
ฟังข่าวประจำวัน ข่าวที่เป็นความรู้รอบตัวเยอะๆ
แล้วเอาคะแนนไปยื่นสอบตรง เข้าไปสอบข้อเขียน
สอบตรงนี่สอบที่เดียวเลย ถ้าไม่ติดก็คิดว่าไปเรียนเอแบคก็ได้ไม่คิดมาก
จนผ่านสัมภาษณ์เข้าไปเรียน SEAS มธ.รุ่นสาม (ตอนนี้รุ่นไหนแล้วฟระ~)
คือ จะเรียนหรือทำอะไร อย่าบิวท์ตัวเองว่าต้องอ่านหนังสือเคร่งครัดเหมือนคนอื่น
และฟังข้อมูลเกี่ยวกับคะแนนรวมของเพื่อนๆให้น้อยที่สุด
ฟัง พูด อ่าน เขียน ถนัดทบทวนแบบไหน ก็ทำแบบนั้น
ทุกคนมีทางไปของตัวเองทั้งนั้นล่ะ
เข้ามายืนยันอีกเสียงค่ะ เราเป็นอีกคนที่รู้ตัวตั้งแต่ ม.ต้น ถือว่าไม่เร็วแต่ก็ไม่ช้า พอได้ลองไปศึกษาหาข้อมูลของคณะ มันโคตรใช่เลยค่ะ เราก็เลยเริ่มมุ่งมั่นไปทางนั้นแล้ว เราเรียนสายวิทย์ วิชาที่ใช้สอบเข้าคือใช้ทุกวิชายกเว้นชีวะกับฟิสิกส์(ทิ้งเลยค่ะ ไม่เรียนไม่อ่านเลย ฮ่าๆ)พอเราตัดวิชาที่เราจะไม่เอาได้เเล้วภาระเราก็ลดลง ทั้งค่าหนังสือ ค่าเรียนพิเศษ (แต่ใน รร อย่าทิ้งนะ) ตอนนี้เราก็สมหวังแล้วค่ะ ผิดกับเพื่อนเราที่คลุมเคลือมาแต่แรกว่าจะเรียนอะไร รอแอดเหมือนกัน U_U
ฝากน้องๆไว้เลยนะ เลือกที่ชอบที่ใช่ค่ะ สำคัญมาก อย่าคิดแต่ว่า "ติดอะไรก็เรียนอันนั้นแหละ" ห้ามนะ บอกเลย! 
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google