Maleficent ( 2014 ) Movie Review by FallsDownz
อ่านบทวิจารณ์เก่าๆ และติดตามบทวิจารณ์ใหม่ๆได้ที่นี้ครับ http://fallsdownz.blogspot.com/
เจ้าหญิงนิทราฉบับไม่ใหม่ซักเท่าไรนัก......
ถ้าหากพูดถึงหนึ่งในนิทาน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดมาซักเรื่องหนึ่ง รับรองว่า Sleepy Beauty หรือ เจ้าหญิงนิทราจะต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน
โดยที่คนส่วนมากนั้น น่าจะรู้จักเจ้าหญิงนิทรามาจากการ์ตูนของดิสนีย์เมื่อปี 1959 แต่สิ่งที่หลายๆคนไม่ทราบเลยก็คือ ต้นฉบับที่แท้จริงของเจ้าหญิงนิทรา ไม่ได้มาจาก Disney แต่มาจาก ชาร์ล แปโร ในฉบับฝรั่งเศษ และ สองพี่น้อง กริมม์ในฉบับภาษาอังกฤษกับเยอรมันต่างหาก
นอกจากนั้นแล้ว เรื่องราวในต้นฉบับนั้น แตกต่างจากเรื่องราวในฉบับของดิสนีย์อย่างสิ้นเชิงเรียกได้ว่าคนละด้านกันด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะฉบับของสองพี่น้องกริมม์ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของความโหดและน่าสยดสยอง ในต้นฉบับของสองพี่น้องกริมม์นั้น เจ้าหญิงนิทราไม่ได้ตื่นขึ้นมาจากคำสาปด้วยจุมพิตของเจ้าชาย แต่ตื่นขึ้นมาเพราะว่าเธอถูกข่มขืนจนให้กำเนิดลูกขึ้นมาและทำให้เธอตื่นขึ้นมาต่างหาก
จะว่าไปแล้วการ์ตูนชื่อดังหลายๆเรื่องของดิสนีย์เอง ตัวต้นฉบับก็มักจะแตกต่างกันคนละด้านอย่างสิ้นเชิงเสมอๆ ไม่ใช่เฉพาะเพียงเจ้าหญิงนิทรา แต่การ์ตูนอีกเรื่องหนึ่งที่โด่งดังมากๆอย่าง นางเงือกน้อย ในตอนจบนั้นเจ้าชายก็ได้ไปแต่งงานกับหญิงอื่น และทำให้นางเงือกน้อยกลายเป็นฟองสบู่ไปในที่สุด แตกต่างจากในการ์ตูนอย่างชัดเจน ซึ่งสาเหตุและที่มาของความโหดร้ายในนิทานสมัยก่อนนั้น ก็เพื่อเป็นการสอนแก่เด็กผู้หญิงว่า "โลกภายนอกนั้นโหดร้ายและทารุณ"นั้นเอง
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Maleficent ในปี 2014 นี้นั้น จะเป็นเรื่องราวของตัวร้ายอย่างมาเลฟิเซนต์ ซึ่งตัวภาพยนตร์สัญญาเอาไว้ว่า มันจะแปลกใหม่ และไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจจริงๆในสายตาของผู้เขียนเลย ไม่ใช่เพราะมันแปลกใหม่เลย แต่เพราะนักแสดงที่จะมารับบทเป็นแม่มดใจร้ายนี้คือ แองเจลินา โจลีต่างหาก ถ้าหากคิดดูแล้ว ใครล่ะบนโลกใบนี้ ที่จะเหมาะสมในการรับบทไปมากกว่าเธอคนนี้ ?
ถึงแม้ว่าตัวภาพยนตร์จะสัญญาว่าเรื่องราวจะแปลกใหม่และแตกต่างเอาไว้ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าในท้ายที่สุดมันก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก จากบทภาพยนตร์ที่เอาเข้าจริงเปลี่ยนแค่ไม่กี่อย่าง และสิ่งที่มันเปลี่ยนไปนั้น ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่แตกต่างหรือแปลกใหม่อย่างที่ตัวภาพยนตร์โฆษณาเอาไว้เลยแม้แต่น้อย
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ตัวละครทุกตัวในภาพยนตร์นอกจากตัวเอกอย่างมาเลฟิเซนต์เอง ก็ช่างแบนราบ มีเพียงมิติเดียว และแบ่งแยกขาวกับดำอย่างชัดเจน แทบจะไม่มีความเป็นมนุษย์เลยด้วยซ้ำไป คนดีก็ดีเหลือเกิน ตัวร้ายก็ร้ายเหลือเกิน เสมือนกับตัวละครที่ลอกมายังไงก็เอามาเสนออย่างนั้น ไม่มีการตีความอะไรใหม่ หรือเสริมมิติให้กับตัวละครใดๆเลย ทั้งๆที่นิทานเรื่องนี้เก่ามาเป็นร้อยๆปีแล้วก็ตาม
แต่จุดหลักๆที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาใหญ่โตอย่างแท้จริงของภาพยนตร์เรื่องนี้ ดูเหมือนจะเป็นตัวผู้กำกับอย่าง โรเบิรต์ สตรอม์เบิรค์ มากกว่า เนื่องจากเขาทำงานในด้านของวิชวลเอฟเฟคในภาพยนตร์ดังๆมาก่อน ใช่มันทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ของเขา เต็มไปด้วยเทคนิคทางด้านภาพที่อลังการงานสร้าง และสวยงาม แต่ในด้านของการกำกับที่ไร้ประสบการณ์ของเขามันก็ทำให้การเล่าเรื่องและการกำกับของเขานั้น ไม่มีสไตล์และไม่น่าสนใจพอ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการวางมุมกล้อง , การเล่าเรื่อง หรือแม้กระทั่งการเปิดเรื่องและปิดเรื่อง ที่ช่างจืดชืดไร้สีสันตรงกันข้ามกับภาพที่เขาสร้างสิ้นดี เพียงแค่ภาพและCG นั้นมันไม่เพียงพอเลยแม้แต่น้อยที่จะทำให้ภาพยนตร์สนุกและน่าติดตามได้ มันจะต้องประกอบไปด้วยหลายๆอย่างเช่น บท ตัวละคร หรือเทคนิคต่างๆ ซึ่งจากสาเหตุนี้ เป็นผลที่ทำให้หลายๆช่วงในภาพยนตร์ให้ความรู้สึกน่าเบื่ออยู่ไม่ใช่น้อย
แต่ก็ใช่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีแต่ข้อเสียและความน่าผิดหวังไปเสียหมด มันยังพอมีบางสิ่งที่ยังคงโดดเด่นเพียงพอที่จะสร้างมิติและสีสันให้กับภาพยนตร์อยู่บ้าง
สิ่งหนึ่งที่โดดเด่น ดึงดูดและสร้างพลังให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมหาศาลก็คงจะหนีไม่พ้นนางเอกอย่าง แองเจลินา โจลีนั้นเอง ที่ช่างทรงพลัง น่าทึ่งและสร้างมิติให้กับตัวละครร้ายตัวนี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าในฉากไหนๆ ไม่ว่าในท่วงท่าหรือคำพูดใดๆของเธอ ก็ช่างน่าทึ่ง และหยุดทุกลมหายใจเป็นที่สุด เมื่อมานั่งคิดว่าถ้าหากภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้เธอคนนี้มานำแสดงแล้วล่ะก็ มันคงจะดูเป็นเรื่องที่ยากเย็นในการผ่านเวลา 90 นาทีนี้ไปได้โดยที่ไม่หลับเสียก่อน
สิ่งต่อมาที่โดดเด่นไม่แพ้กันเลยก็คือ วิชวลเอฟเฟคของภาพยนตร์ที่ได้พูดไปแล้ว จากการที่ตัวผู้กำกับนั้นมีประสบการณ์ทางด้านนี้มามากพอสมควร จึงทำให้ CG ในภาพยนตร์ช่างสวยงาม ตระการตาสุดๆ บางฉากนั้นมีการจัดแสงที่ให้ความรู้สึกเสมือนกับนั่งดูการ์ตูนที่น่าทึ่งอยู่เหมือนกัน แต่ในส่วนนี้ก็ดูเหมือนจะค่อนข้างครึ่งๆกลางๆ เพราะในบางฉากที่น่าจะทำให้ดูอลังการและน่าทึ่งกว่านี้ได้ กลับถ่ายในที่แคบๆและไม่มีสีสัน สร้างความมึนงงให้กับผู้เขียนอยู่ไม่น้อยกับตัวเลือกนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลมาจากงบประมาณของทางดิสนีย์ หรือเป็นผลมาจากการตัดสินใจของผู้กำกับกันแน่ แต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
ในท้ายที่สุดแล้ว ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของค่ายหนูมิกกี้เมาส์อย่าง Maleficent ก็ไม่สามารถบรรลุคำสัญญาและเป้าหมายอย่างที่มันได้คาดหวังเอาไว้ซักเท่าไรนัก ไม่ว่าจะในด้านของบทภาพยนตร์หรือการกำกับ สิ่งที่มันพอจะให้ได้ ดูเหมือนจะมีเพียงแค่ CG กับแองเจลิน่า โจลี่เท่านั้นเอง จะว่าไปแล้วอาจจะเป็นไปได้เช่นเดียวกัน ว่าสไตล์ของภาพยนตร์แฟนตาซีแนวนี้มันได้ตกยุคไปแล้ว ถ้าหากมีค่ายภาพยนตร์ค่ายใดค่ายหนึ่ง สร้างภาพยนตร์ฟอรม์ยักษ์แฟนตาซี แต่เป็นแบบชนิดเนื้อหาที่หนักหน่วง และเต็มไปด้วยความรุนแรง สยดสยอง และเลือด คงจะเป็นอะไรที่น่าบันเทิงสำหรับผู้เขียนไม่น้อย .
Final Score : [ C ]
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
การดำเนินเรื่องอืดมากค่ะ รู้สึกตื่นตาสุดคือตอนสาปออโรร่า เป็นหนังเรื่องแรกที่ดูแล้วเช็กเวลาบ่อยมากว่ากี่โมงแล้ว เมื่อไหร่จะจบ
ปล.แต่ชอบการแสดงของโจลี่ ที่ช่วยให้หนังไม่เนือยไปมากกว่านี้่
ชอบ Aurora
ถึงจะไม่สวยตามต้นฉบับก็ตาม
สำหรับเรา เราว่าเรื่องนี้พยายามคงโครงเรื่อง แต่นำเสนอในมุมมองตัวร้าย จนเปลี่ยนอะไรบางอย่างลงไป
สงสาร King Stefan กับ Queen Leila มากๆ
ในการ์ตูนได้อยู่กับลูกที่รอมาตั้ง 16 ปี ในนี้ โดยเฉพาะ Leila ไม่ได้อยู่เลย
แต่ที่ขัดใจสุดๆคือ....เราเข้าใจนะว่ามนุษย์ทำลายธรรมชาติ เป็นตัวการสร้างนู่นนี่นั่น แต่ทำไมเหรอ สัญชาตญาณสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์จะโหดร้ายไม่ได้เหรอไง ถ้ามนุษย์ไม่ไปทำก่อน
ไม่ชอบการที่อะไรก็ยัดเยียดให้มนุษย์ทำ
อีกอย่าง ชื่อ Maleficent ก็แปลความหมายในแง่ลบอยู่แล้ว
ส่วนการปรากฏตัวของพระเอกกับนางเอกนี่ จริงๆใน Sleeping Beauty ของ Disney Aurora ก็ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงที่ปรากฏกายน้อยที่สุดแล้วนะ
ดังนั้นยิ่งมุ่งมาที่มุมมอง Maleficent ก็ไม่แปลกที่เจ้าชายจะปรากฏน้อยมากกกก
แต่ดู 4Dx คุ้มนะ
เราว่าฉากงามตระกาลตาดีนะ
ยิ่งตอนที่ขุ่นแม่บินในอากาศ แล้วหยุดรับแสดงอาทิตย์สาด
คือมันตรงนั้นสวยงามมาก รวมถึงฉากสาป
หรือว่าฉากบินหมุนติ้วๆ บินออกมาจากกระจก คืองาม
พากย์ไทยห่วยแตก !
ไปดูมาแล้ว maleficent อยากจะบอกว่า เริศ! มาก เนื้อเรื่องก็ฟินกันไปตามที่ใครหลายคนบอก ประทับใจมาก ฝ่ายนักแสดง ก็แสดงกันได้ถึงอารมณ์จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "Angelina Jolie" โดยเฉพาะฉาก .... ไม่บอก 555+ แต่เป็นฉากที่นางแสดงหรือสื่ออารมณ์ความเจ็บปวดได้ดีจริงๆ นอกจากนั้นในเรื่องนี้ ยังมีความน่ารัก ความขำขัน และยังมีบู๊ระทึกให้ลุ้นกันอีก เรียกได้ว่าครบรสกันเลยทีเดียว 5/5
(ความคิดเห็นส่วนตัวนะ) ผิดหวังคับ สำหรับเรื่องนี้ มันจำเจ ซ้ำซากยังไงก็ไม่รู้ มันไม่มีอะไรน่าตื้นเต้นเลย เมื่อเทียบกับหนังแนวเดียวกันในอดีตยังดูสนุกกว่านี้เลย ส่วนพากย์ไทยเสียงโจลี่ยิ่งแล้วใหญ่ ตอนได้ยินเสียงครั้งแรกผมผงะไปเลย แบบเนี่ยนะ!!!คือเสียงพากย์ที่แบกหนังไว้ทั้งเรื่อง ทำให้โจลี่หมดความขลังไปเลย
ผมว่าหลักๆคือ ตัวหนังมันดันพยายามขายว่า เนี้ยหนังเรื่องนี้ จะแตกต่างนะ จะโดดเด่นนะ จะไม่เหมือนใครนะ ทุกคนเลยตั้งความหวังว่า มันจะเป็นเช่นนั้น แต่พอมันไม่เป็นเช่นนั้นก็เลยผิดหวังกัน จริงๆก็เหมือนหนังสัญญาอะไรกับคนดูเอาไว้ แต่พอเสียเงินเข้าไปแล้ว มันดันไม่ใช่แบบที่เขาสัญญานั้นแหละ ส่วนตัวผมว่าหลายๆอย่างอยู่ในระดับโอเคแล้ว แต่ผู้กำกับยังขาดประสบการณ์อยู่เยอะ เพราะเห็นว่ากำกับเองครั้งแรกด้วย ปกติทำแต่ Visual Effects ทำให้การกำกับของเขายังด้านและจืดชืดเกินไป (แล้วมันดันมาจืดชืดในโลกของ Disney ที่ตั้งอยู่บนความเป็นสีสัน มีชีวิตชีวา) ก็เลยล้มเหลวกันไป
อ่านๆแล้ว ผมรู้สึกโชคดีมากที่ไม่ได้ดูพากษ์ไทย ตอนแรกเกือบละเพราะรอบที่ไปดูมันใกล้ๆกัน = =
เรื่องภาพไม่ต้องพูดถึง
ผมติดตรง ผมว่ามันขาดความเป็นเทพนิยายอะ อยากให้มันมีซาวด์ที่แบบดู
ฟรุ้งฟริ้งกว่านี้อะ
5555
แต่ฉากตอนบิน ไปลอยตรงเมฆผมว่า มุมกล้อง อารมณ์มันสวยอะ สวยมากครับ ฟินครับ
ฉากตอนเจ้าชายเจอ ออโรร่า น่าจะให้สะพรึงกว่านี้จริงๆ
หลายอย่างครับ
แต่จะบอกว่าผิดหวังเลย ก็คงไม่ใช้ครับ
ผมก็ยังชอบอยู่ครับ
แต่ผิดหวัง อยู่เหมือนกันครับ : )
ไอเราก้คิดว่าจะได้ยินเพลง once up on a dream ซะอีก ชิชะ
.. นางฟ้าแอบปัญญา่อนไปนะครับ.. ว่าแล้วทำไม ออโรร่าภาคนี้ดูจะไร้เดียง**ูยัยเจ้สามคนที่เลี้ยงมาสิ 555 ไม่เต็มสักคน
: )
เป็นหนังที่เรื่อยๆเนือยๆ ถ้าไม่ได้ความสวยเริดของแองจี้นี้ดับอนาถค่ะ แอลกเล่นดูสุขสันดี
ภาพสวยค่ะ ชอบฉากเปิดตัวแองจี้ตอนอยู่บนเมฆมาก ไปดู 3D มา
ช่วงที่ชอบคือตอนออโรร่าโตอ่ะค่ะตั้งแต่นางฟ้าสามคนเอานางมามันดูน่ารักดี
จากนั้นไม่มีจุดพีคอะไรเลยค่ะ เนื้อเรื่องเปื่อยมากๆ เป็นการเล่านิทานไปเรื่อยๆอ่ะค่ะ เสียดายได้แองจี้มาเล่น
อ่อ แล้วก็ขัดใจชุดกางเกงรัดรูปมากค่ะ เห็นแล้วปวดใจ
ดูข้อมูลมา ผกก คนนี้กำกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกค่ะ ก็ขอให้กำลังใจละกัน
แต่เอฟเฟคนางดี๊ดี ปีกนางสวย เหมือนจริงดี
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google