ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ ผิดไหมถ้าหัวใจแบ่งสอง

30 มิ.ย. 57 09:42 น. / ดู 558 ครั้ง / 4 ความเห็น / 0 ชอบจัง / แชร์
ติดตามอ่านกระทู้มานานค่ะ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ตั้งใจเข้ามาเขียนแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพื่อหวังให้ใครซักคนได้เข้ามาอ่าน และแอบหวังว่าจะเป็นคนๆนั้น .. ในสักวันหนึ่ง ..
ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ ตอนนี้เราอายุย่างเข้าเลขสามแล้วค่ะ แต่งงานมีครอบครัวมาแล้ว 2 ปี สามีรับราชการอยู่องค์กรณ์ส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งในภาคเหนือค่ะ ส่วนเราเองก็รับราชการเหมือนกัน เรากับสามีเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก บ้านเราอยู่ติดกัน และตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เด็ก เราก็คิดกับสามีเป็นเพื่อนคนนึง ใช่ค่ะ เราคิดว่าเค้าเป็นเพื่อนคนนึงจริงๆแม้กระทั่งตอนนี้สิ่งที่เรามีให้เค้าก็ยังเป็นแค่ความผูกพัน และความรู้สึกดีๆ แค่นั้นจริงๆ หลายคนคงแปลกใจว่าทำไมถึงมาลงเอยกันได้ และผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในใจของเรา เป็นใคร?

เรื่องมันเริ่มมาจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว น้องสาวของสามีได้มาขอยืมใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้านของเรา แล้วล็อกอินเข้าใช้ Tagged ซึ่งเป็นเวปไซต์นึง คล้ายๆเฟสบุ๊คในปัจจุบัน แล้วเธอก็แนะนำให้เราสมัครใช้บ้างโดยบอกว่าเอาไว้คุยแก้เหงาได้นะ (ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่มีใคร) แต่โดยลักษณะงานที่เราทำมันไม่สามารถที่จะเปิดเผยหน้าตา ความจริงแล้วเราอายมากกว่าที่จะให้ใครรู้ว่าเราทำงานแบบนี้แต่กลับมาเล่นอะไรแบบเด็กๆ แต่ด้วยความเครียดจากงาน ความเหงา พรมลิขิต หรือจะด้วยเวรกรรมของเราเองก็แล้วแต่ สุดท้ายเราก็ตัดสินใจสมัครค่ะ ในใจคิดแค่ว่าเวปไซต์นี้ส่วนใหญ่จะมีคนต่างชาติเยอะ ก็ลองแอดต่างชาติคุยไปเล่นๆก็คงจะไม่เป็นไร และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นค่ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เจอผู้ชายคนนั้น คนที่อยู่ในใจของเรามาจนถึงตอนนี้

เราใช้ชื่อใหม่ในการล็อกอิน รวมถึงรูปที่ไม่ใช่ของตัวเอง หลายคนอาจจะบอกว่ารังเกียจชะมัด แต่ด้วยความสัตย์จริง เราแค่อยากจะหาพื่อนต่างชาติคุยแก้เหงา คลายความเครียดจากการทำงานแค่นั้นเอง ไม่ได้คิดจะใช้เพื่อหาผลประโยชน์กับใครเหมือนกับที่มีข่าวกันครึกโครมในปัจจุบัน เพื่อนที่เข้ามาคุยส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติค่ะ คุยกันแบบสบายๆแบบเพื่อนมากกว่าจะมาจีบกัน เพราะถ้าคนไหนที่เราเห็นว่าจะเข้ามาทำนองนั้นเราจะตัดทันที เพราะเราต้องการจะหาแค่เพื่อนคุยจริงๆ

เล่นมาได้เดือนกว่าค่ะ อยู่ๆก็มีข้อความเข้ามาในกล่องข้อความ พร้อมกับคำขอแอดเฟรนด์เข้ามา แปลกใจนิดหน่อยเพราะคนนี้เป็นคนไทยค่ะ และที่สำคัญเค้าคนนั้นอายุแค่ 20 เอง อ่อนกว่าเราในตอนนั้นเกือบ 6 ปี ด้วยความที่เห็นว่าเด็กกว่า และที่สำคัญก็เป็นคนไทยด้วย เราจึงไม่คิดที่จะสานต่อค่ะ ตั้งใจที่จะไม่รับแอด แต่ยัยน้องสาวมาเห็นเข้าเลยรบเร้าให้ลองเข้าไปดูในโปรไฟล์ของคนคนนั้นดู และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวที่ทำให้เราจดจำและไม่มีวันที่จะลืมได้ตลอดชีวิต...

เค้าเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆ ไม่ได้หล่อเหลาหรือว่าสไตล์เกาหลีที่สาวๆเห็นแล้วต้องกรี๊ด โปรไฟล์ธรรมดาๆที่น้องสาวบอกว่าไม่น่าสนใจ แต่คดีพลิกค่ะ 55 เรากลับไปสะดุดตรงสิ่งที่เค้าคนนั้นโพสต์ มันเป็นเพลง Kazami-dori ของ Depapepe ที่เราชอบฟังเวลาท้อหรือว่าเวลาที่เหงาต้องการกำลังใจ.. หลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าเราบอกว่าเป็นเพลงที่ใช้ประกอบโฆษณาไทยประกันชีวิต หลายคนอาจจะร้องอ๋อนะคะ ใช่ค่ะ เพลงนั้นแหล่ะ และที่สำคัญคลิปที่เค้าคนนั้นโพส เค้าเล่นเองค่ะ เค้าเล่นได้ดีและเพราะมากมันทำให้เราต้องกลับไปฟังซ้ำๆ และสุดท้าย ..เราก็รับแอดเค้าไปเพราะเพลงๆนั้น ..

อีกสองวันต่อมา ก็มีข้อความทักทายจากเค้าเข้ามานอนรอในกล่องข้อความของเรา เราซักถามประวัติกันตามทำเนียมการทักทายครั้งแรก และแน่นอนเราไม่ได้บอกข้อมูลจริงๆของเราให้เค้ารู้ เพราะตอนนั้นเราแค่คิดว่าคงไม่มีการสานต่อยืดยาวแค่คุยกันเล่นๆคงไม่มีอะไร และนั่นก็เป็นความคิดที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของเราจริงๆ .. เค้าบอกข้อมูลของเค้ามาให้เรารับรู้ทุกอย่างเท่าที่เราอยากจะรู้ ไม่ว่าจะเป็นชื่อของเค้า เราเรียกเค้าว่า พี ส่วนเรา เราให้เค้าเรียกเราว่า ดี ค่ะ เค้าเรียนวิศวะปี 2 อยู่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เราถามเรื่องเพลงที่เค้าเล่น น่าแปลกที่เค้าก็ชอบ Depapepe เหมือนกันกับเรา ยิ่งคุย ก็ยิ่งเห็นว่าเค้ามีอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันกับเรามาก ทั้งเรื่องรสนิยมของการฟังเพลง ชอบกินกาแฟ หรือชอบทำอะไรหลายๆอย่างคล้ายกัน เค้าดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวค่ะ หลายครั้งที่เรามีปัญหา แล้วเอามาคุยให้เค้าฟังโดยอ้างว่าเป็นปัญหาของพี่สาว เค้าสามารถมีทางออกหรือข้อคิดดีๆที่ทำให้เราอึ้ง และสบายใจได้ หลังจากนั้นทุกวันหลังเลิกงาน เราจะต้องเข้ามาคุยกับพีจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน เราคุยกันทุกเรื่องค่ะ (แน่นอนว่าทุกเรื่องของเรา บางเรื่องมันก็ไม่ใช่ทั้งหมด) ความรู้สึกดีๆที่เรามีให้พีมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน พร้อมๆกับความกลัวและสับสน เรากลัวว่าเมื่อเค้ารู้ว่าเราไม่ใช่น้องดี แต่เราเป็นผู้หญิงคนนึงที่อายุมากกว่าเค้าตั้ง 6 ปี เป็นผู้หญิงหน้าตาบ้านๆคนนึงที่ไม่ได้สะสวยเหมือนกับรูปที่น้องสาวหามาใส่ให้ในโปรไฟล์ เราสับสนว่าจะบอกเค้าไปดีไม๊? แล้วถ้าเค้ารับไม่ได้ล่ะ เราคงทนไม่ได้แน่ๆที่จะเห็นพีเสียใจและเกลียดเรา ด้วยความเห็นแก่ตัว ณ. ตอนนั้น ด้วยความที่อยากจะยื้อเวลาดีๆเหล่านั้นไว้ให้นานที่สุด เราจึงยังเป็นน้องดีของพี่พีแบบนั้นต่อไป ...

หลังจากนั้นครึ่งปีที่เราคุยกัน พีก็ขอร้องให้เราเปลี่ยนจากการส่งข้อความมาเป็นการโทรคุยได้ไหม แน่นอนว่าเราไม่ปฏิเสธ
เราโทรคุยกันทุกวันหลังเลิกงาน ก่อนนอน ก่อนที่พีจะไปเรียน หรือแม้กระทั่งทุกครั้งที่เราว่างตรงกัน เราคุยกันแบบไม่มีเบื่อ เป็นกำลังใจให้กัน เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยกับพี พีเป็นผู้ชายอ่อนโยน โรแมนติก เค้าจะเล่นกีต้าร์เพลงเพราะๆให้เราฟังก่อนนอนทุกวันเพื่อแลกกับการที่เราจะโทรปลุกทุกเช้าเพื่อให้พีตื่นไปเรียน เราทำแบบนี้มีความสุขแบบนี้ด้วยกัน มา 2 ปี โดยที่ไม่เคยทะเลาะกันเลยซักครั้ง ไม่มีการหึงหวงเหมือนคู่อื่นๆ เพราะพีจะชัดเจนและใช้เวลาทั้งหมดที่ว่างกับการที่มีเราอยู่ในสายโทรศัพท์ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง พีกำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารของมอ.พร้อมกับโทรคุยกับเรา มีผู้หญิงคนนึงเข้ามาบอกว่าชอบและก็ขอเบอร์ พีบอกกับผู้หญิงคนนั้นไปว่า ให้มาขอที่แฟนผมในสายนะครับ ผู้หยิงคนนั้นรีบขอโทษแล้วเดินออกไปเลย มันน่าปลื้มใจไม๊ล่ะ ^^

แต่ก็นั่นแหล่ะนะ หลายๆคนอาจจะข้องใจว่าคบกันมาตั้งสองปีพีไม่คิดจะมาเจอมาหากันบ้างเหรอ บอกได้เลยว่ามันเป็นปัญหาใหญ่เลยล่ะ เพราะทุกครั้งที่เค้าหยุดหรือว่าปิดเทอม เค้าบอกจะมาหาเราทุกครั้ง แต่เราก็มีข้ออ้างที่จะเลี่ยงได้ทุกครั้งเหมือนกัน มันทรมานเหลือเกินว่าไม๊ อยากเจอ แต่ก็เจอไม่ได้

จนมาถึงวันนึง วันที่หลายๆอย่างมาถึงจุดเปลี่ยน วันนั้นสามีคนปัจจุบันซึ่งตอนนั้นเรายังเป็นเพื่อนบ้านกันอยู่มานั่งคุยที่บ้านตามปกติ แต่วันนี้มันไม่ปกติ เมื่อพีโทรเข้ามาในขณะที่เราเข้าห้องน้ำ บี (สามีในปัจจุบันของเรา) เลยถือวิสาสะรับโทรศัพท์ให้ พอพีบอกว่าขอสายดี บีซึ่งแน่นอนว่าไม่รู้จักดีแน่ๆจึงบอกว่าคุณโทรผิดแล้วล่ะแล้วก็วางสายไป พีก็โทรมาซ้ำๆบอกว่านี่เบอร์โทรของดีแฟนผม ก็เลยมีปากเสียงกับบีไปยกใหญ่ พอเราออกมาจากห้องน้ำบีก็ถามคาดคั้นเอากับเราว่ามันคืออะไร สุดท้ายเราก็เลยเล่าความจริงให้บีฟังจนหมดพร้อมกับสารภาพไปว่าเรารักพีไปแล้ว บีโกรธมากบอกว่ายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ถ้าพีเค้ารู้ความจริงเค้าต้องรับไม่ได้แน่ๆ ไหนจะวัยที่ต่างกัน ไหนจะหน้าที่การงานของเรา สังคมของเรา มันต่างกันมากบีบอกให้เราตัดใจซะ ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเราตอนนั้น ความกลัวและสับสนมันกลับเข้ามาในหัวของเราอีกครั้ง พีโทรกลับมาหาเราอีกรอบพร้อมกับถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนรับสายเราก็ได้แต่แก้ตัวไปว่าเพื่อนมันแกล้ง พีก็เข้าใจตามนั้น เค้าก็ไม่ได้ติดใจอะไร ก็ยังทำตัวปกติกับเราเหมือนเดิม แต่คนที่ไม่ปกติกลับเป็นเราเอง มันรุ่มร้อน กลัว สับสน ไม่อยากให้พีเกลียด และหายไปจากชีวิตของเรา เรื่องมันไปกันใหญ่เมื่อบีเอาเรื่องนี้ไปคุยกับพ่อของเรา พ่อเรียกเราเข้าไปคุยกันแบบเปิดอก พ่อให้เหตุผลหลายๆอย่างที่เราเถียงไม่ขึ้น พ่อขอร้องให้เราเลิกติดต่อกับพีโดยให้เหตุผลเรื่องความรู้สึกของพีว่ายังไงซักวันนึงเค้าก็ต้องรับรู้ความจริง เมื่อถึงตอนนั้นทั้งพีแล้วก็เราจะต้องเจ็บปวด เรารับปากกับพ่อว่าจะจบทุกอย่างให้ได้ในไม่ช้า .. แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ ที่จะจบแบบที่พีจะรับได้และไม่เกลียดเรา มันเป็นโจทย์ที่ยากจริงๆ ..
มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ทรมานที่สุดจริงๆ เพราะตอนนั้นเรารักพีมากจริงๆ ระยะเวลาสองปีที่คบกันมาเราผูกพันกันมากจริงๆ แต่สุดท้ายเราก็ต้องยอมจบตามที่สัญญาไว้กับพ่อจนได้ เราให้น้องสาวโทรหาพีบอกว่าเราประสบอุบัติเหตุอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เราเลือกที่จะหายไปจากพีโดยการที่ให้เค้าคิดว่าเราตายแล้ว ดีกว่าที่จะเลือกบอกความจริง เพราะเราคงรับไม่ได้แน่ๆที่จะโดนคนที่เรารักมากเกลียด .. พี่รับรู้เรื่องที่เราเสียจากน้องสาว เสียงพี่ร้องไห้มาตามลำโพงโทรศัพท์เหมือนจะขาดใจ เราซึ่งอยู่ข้างๆนั้นยิ่งจะขาดใจกว่า พีสอบถามที่ตั้งศพของเราซึ่งน้องสาวก็บอกไปมั่วๆเพราะไม่คิดว่าเค้าจะมา แต่สุดท้ายเค้าก็มาจริงๆ เค้านั่งรถจากกรุงเทพมาตามหาเรา เค้าส่งข้อความเข้าโทรศัพท์ของเรา คิดถึง โหยหา อยากเจอ ทั้งๆที่เค้ารู้ว่าเราได้ตายไปแล้ว มันเจ็บปวดมาก เจ็บปวดจริงๆ ที่เห็นคนที่เรารักเจ็บปวด แน่ันอน เค้าหาศพเราไม่เจอ ... หลังจากนั้นเค้าก็กลายเป็นคนเก็บตัว เราเข้าไปส่องในเฟสบุ๊คซึ่งตอนนั้นเรามีพาสเวิร์ดของเค้าอยู่ด้วย เค้าระบายกับพี่ชายของเค้าถึงความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียเราไป และเค้าก็บอกคำที่เราเจ็บปวดที่สุดในชีวิตว่า เค้าจะไม่รักใครอีก นี่เราทำให้คนที่เรารักมากที่สุดต้องเจ็บปวดขนาดนี้เชียวหรือ ทำไมมันทรมานอย่างนี้นะ ทรมานที่สุด ทรมานจริงๆ ..

เราเข้าไปส่องความเป็นไปของพีทุกวัน พร้อมๆกับที่พีก็ส่งข้อความ ส่งเพลง ถึงเราทุกวันโดยที่เค้าคิดว่าเราตายไปแล้ว เค้าร้องไห้ทุกวัน เหมือนกับที่เราร้องไห้ จนเวลาผ่านไปเกือบสี่เดือน วันนั้นเป็นวันสิ้นปี เที่ยงคืนของวันที่ 31 พี่ส่งข้อความมาหาเราเหมือนกับทุกๆวัน แต่วันนี้ข้อความของพีทำให้เราตะบะแตกรีบกดโทรศัพท์หาพีทันที พีบอกว่ากำลังอยู่บนสะพานแห่งหนึ่งและกำลังจะตามเราไป ใช่! พีกำลังจะฆ่าตัวตาย ซึ่งเราก็รู้ดีว่าพีเค้าเป็นคนพูดจริงทำจริงแน่ๆ เรารีบกดโทรศัพท์หาพีทันที เค้ารับสายและร้องไห้ตกใจที่ได้ยินเสียงเรา เค้าถามว่าเค้าไม่ได้ฝันไปใช่ไหม แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ เราขอร้องให้เค้าออกมาจากตรงนั้นแล้วเราจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง ตอนนั้นเรายอมให้เค้าเกลียดเราดีกว่ายอมให้เค้าทำอะไรบ้าๆแบบนั้นลงไป เพราะไม่อย่างนั้นเราคงจะไม่ให้อภัยตัวเองแแน่ๆ

เรากลับมาเปิดอกคุยกันอีกครั้ง เราสารภาพทุกเรื่องให้เค้ารับรู้พร้อมกับทำใจยอมรับการถูกเกลียดจากเค้า เค้าร้องไห้แล้วบอกกับเราว่า ดีแล้วที่ดียังไม่ตายดีแล้วที่ดียังอยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าดีจะเป็นใคร เค้าก็ยังรักดีเหมือนเดิม ความกดดันของเราหายไปจนหมดเหลือแต่ความกังวล ซึ่งเราบอกกับเค้าว่าด้วยวัย และด้วยสังคมเราต่างกันมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะคบกัน พีขอโอกาสให้เราได้เจอกันซักครั้ง แล้วหลังจากนั้นให้ความรู้สึกทุกอย่างของเราสองคนตัดสิน เรารับปากที่จะไปเจอพี คนที่เราโหยหาอยากเจอมาตลอดสามปี ที่ผ่านมาเราทรมานกันมามากแล้ว ถ้าหลังจากที่เราได้เจอกัน เราจะต้องทรมานกันอีกรอบมันก็คุ้มใช่ไหม เราตัดสินใจนัดเจอกันหลังจากที่เค้าสอบปลายภาคเสร็จ ระหว่างนั้นพีก็ดูจะมีความสุขขึ้น เรากลับมาคุยกันเหมือนเดิม พีเร่งวันเร่งคืนที่จะได้เจอกับเรา พีขอร้องให้เราเปิดกล้องคุยกันเป็นครั้งแรก แอบกังวลว่าเค้าคงจะผิดหวังแน่ๆเมื่อได้เห็นตัวจริง แต่พอเค้าได้เห็นเค้ากลับบอกว่า นี่เหรอดีของเค้า ดีที่เค้ารอที่จะได้เจอมาตลอด เราถามเค้าว่าไม่ผิดหวังเหรอ เค้ายิ้มแล้วบอกว่าน่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลย 55 (ปลื้ม)

หลายคนคงอาจจะคิดว่าในเมื่อเรื่องมันทำท่าว่าจะจบแบบแฮปปี้แบบนี้แล้ว สามีคนปัจจุบันของเราโผล่มาได้ยังไง และตอนนี้พีได้หายไปไหน? มันเป็นเรื่องหลังจากที่เราเจอกัน ซึ่งมันนำความเจ็บปวดกลับมาหาเราอีกครั้ง ..  ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ สำหรับเรื่องราวครึ่งหลังเราจะกลับว่าเล่าอีกครั้งถ้าเพื่อนๆยังไม่เบื่อที่จะอ่านมัน ไว้เจอกันค่ะ ^^
เลขไอพี : ไม่แสดง

อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)

ความคิดเห็น

#1 | Spring | 30 มิ.ย. 57 09:55 น.

ยาวมากกกกกกก แต่ก็อ่านจนจบ

ไอพี: ไม่แสดง

#2 | fujicha' | 30 มิ.ย. 57 16:51 น.

ต่อเลยคะ สงสัยมาก .

ไอพี: ไม่แสดง

#3 | Deepkiss.tuma | 30 มิ.ย. 57 17:39 น.

ต่อเถอะะะ เกือบจะร้องแล้ว ... 

ไอพี: ไม่แสดง

#4 | Question? | 30 มิ.ย. 57 22:34 น.

รออ่านอยู่นะคะ 

แก้ไขล่าสุด 11 ก.ค. 57 18:17 | ไอพี: ไม่แสดง

แสดงความคิดเห็น

จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google