-Interstellar- (2014) A-
9 พ.ย. 57 00:09 น. /
ดู 747 ครั้ง /
1 ความเห็น /
1 ชอบจัง
/
แชร์
"Love is the one thing that transcends time and space."
"รักเป็นสิ่งที่ส่งผ่านมิติเวลาและอวกาศ"
-Interstellar- (2014) A-
เป็นอีกครั้งที่ Christopher Nolan ผกก.ในดวงใจใครหลายคนหยิบเอา sci-fi มาบอกเล่ากันหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากกับ Inception (2010) และคราวนี้ถึงกับหยิบประเด็น "นอกจักรวาล" มานำเสนอ เรื่องพูดถึงโลกในอนาคตที่เสื่อมโทรมและขาดแคลนทรัพยากร และรูหนอน (wormhole) ในห้วงอวกาศที่ใช้สำหรับการเดินทางข้ามจักรวาลไม่ใช่ทฤษฎีอีกต่อไป นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งจึงออกเดินทางตามหาดาวดวงใหม่มาทดแทนโลก คูเปอร์ อดีตวิศวกรประจำนาซ่าได้ถูกเรียกตัวให้ร่วมภารกิจโดยต้องทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง
ใครที่คุ้นเคยกับหนังของ Nolan คงทราบกันดีว่าเขาเป็นคนที่ชอบหยิบเรื่องราวไม่ธรรมดาออกมาท้าทายตัวเอง รวมไปถึงการเปลี่ยนโฉมอัศวินรัตติกาลอย่าง Batman ให้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในศตวรรษ สำหรับ Interstellar เองก็เช่นกัน หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความมุมานะ และทะเยอทะยานที่จะบอกเล่าเรื่องราวยิ่งใหญ่อย่างจักรวาลไกลโพ้น สะท้อนให้เห็นว่า Nolan ไม่ใช่ผกก.ที่ย่ำอยู่กับที่ และพร้อมจะพาตัวเองออกมานอกพื้นที่ปลอดภัยได้เสมอ เป็นคุณสมบัติที่ผกก.น้อยคนจะกล้าทำ
มาพูดถึงในแต่ละด้านกันบ้าง
นักแสดง เรียกได้ว่า Matthew McConaughey เป็นนักแสดงที่น่าจับตาอย่างมาก ถึงจะไม่ได้แบกหนังไว้คนเดียว แต่บทบาทสำคัญที่สุดก็อยู่ที่เขา และเขาทำออกมาได้ดีมาก เขาสามารถพาให้คนดูน้ำตาไหล และเคร่งเครียดผ่านสีหน้าของเขาจากหน้ากากชุดอวกาศได้ - 10/10
ด้านภาพและการถ่ายทำ ตรงนี้ถือเป็นส่วนที่ต้องชื่นชมเป็นอันดับแรกสุด ในบรรดาคนชมภาพยนตร์จะทราบกันดีว่าหนังอวกาศล่าสุดอย่าง Gravity (2013) จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบ ถึงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีบางส่วนที่คล้ายคลึงกันอย่างดวงดาว พื้นภาพสีดำมืดในอวกาศ อวกาศที่ไร้เสียง และสถานการณ์ตึงเครียดภายใน/นอกยาน แต่สำหรับคนที่ไปชมเรื่องนี้มาแล้วจะเห็นได้ว่ามันออกมาในรูปแบบ โทนสี แสง และการกำกับที่แทบไม่ซ้ำกับ Gravity เลย โดยเฉพาะการใช้มุมกล้องตายตัวนอกยานเหมือนในหนังอวกาศยุคก่อน เทคนิคพิเศษทั้งหมดดูน่าเชื่อถือและติดดินแม้จะเป็นภาพจินตนาการ (ซึ่งต้องมีบ้างตามธรรมเนียมหนังอวกาศ) ในบางส่วน - 10/10
ดนตรีประกอบของเรื่องนี้ได้ Hans Zimmer กลับมาร่วมงานอีกครั้ง ครั้งนี้ถือว่า Zimmer พัฒนาดนตรีให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอย่างมาก หลังจากที่หนังในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาล้วนลอกแนวดนตรีของเขามาใช้ ดนตรีบางฉากชวนให้เงียบสงบเหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว บางฉากลี้ลับชวนระแวง และบางฉากก็รู้สึกราวกับยานจะถล่มลงมาทั้งยาน ถือเป็นดนตรีประกอบหนังจาก Hans Zimmer ที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ - 10/10
ด้านเนื้อเรื่อง แน่นอนว่าการหยิบเอาเรื่องของจักรวาลที่มนุษย์ยังแทบไม่รู้จักมาบอกเล่าบนแผ่นฟิล์ม โดยเฉพาะการหยิบเอาทฤษฎีทางฟิสิกส์ขั้นสูงที่น้อยคนรู้จักมาเป็นแกนหลัก และผ่านวิสัยทัศน์ของ Nolan แฟนหนังทุกคนจึงรู้ว่าจะไม่มีทางได้เห็นมนุษย์ต่างดาว สัตว์ประหลาด ปืนเลเซอร์ หรือหุ่นยนต์แปลงร่าง (ไม่ได้พาดพิงใครแต่อย่างใด) ในหนังเรื่องนี้แน่นอน อย่างที่ได้เกริ่นไปว่าตัวหนังแสดงให้เห็นถึงความมุมานะของผกก.อย่างมาก ในเนื้อเรื่องเราจะได้สัมผัสกับทฤษฎีมากมายซึ่งดูจะมากกว่า Inception (2010) หลายเท่าตัว สถานการณ์ความตึงเครียดบนอวกาศ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นมนุษย์อย่างเข้มข้นซึ่งเป็นเสน่ห์ของหนัง Nolan
จุดนี้เองเรียกได้ว่าเป็นข้อด้อยอย่างน่าเสียดายของหนังเรื่องนี้ ทฤษฎีต่าง ๆ ที่หยิบยกมาล้วนดูน่าเชื่อถือแต่ก็สูงเกินเข้าใจและมีมากจนเกินจะตามได้ทัน ตัวหนังพยายามใส่ความสมจริงแต่สุดท้ายก็ยังมีความเหนือจริงเข้ามามีบทบาทอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงท้าย ฉากบีบคั้นอารมณ์ที่ทำได้ดีจนน้ำตาไหลยังคุมจังหวะไม่ดีเท่าที่ควร และช่วงท้ายของเรื่องที่ดูจะเร่งเร้าจนเกินไป - 8/10
กล่าวโดยสรุปแล้ว Interstellar เป็นหนังที่ดีมาก แต่ "ยังไม่ใช่หนังดีที่สุดของ Nolan" ส่วนตัวแล้วคิดว่าผลงานท็อปฟอร์มของเขาก็ยังคงเป็นเรื่อง Memento (2001) The Dark Knight (2008) และ Inception (2010) ในแง่ของการลำดับเรื่องและมิติตัวละคร แต่ทั้งหมดนี้ต้องทำความเข้าใจว่า Interstellar ไม่ใช่หนังแอคชั่นหรือผจญภัยที่ขายความบันเทิง มันถือเป็นหนัง Surreal กึ่งศิลปะและกึ่งหนังตลาดที่ชวนให้ขบคิดมากกว่าจะสะใจหรือเต็มอิ่มไปกับความบันเทิง ตัวหนังสะท้อนให้เห็นถึงการดิ้นรนเอาชีวิตรอดทั้งที่มืดแปดด้าน ความเห็นแก่ตัว การยอมเสียสละเพื่อส่วนรวม และความผูกพันที่ลึกซึ้งแม้จะห่างไปหลายล้านปีแสง อย่างที่คำโปรยได้กล่าวไว้ นั่นคือ "ความรัก" ซึ่งเป็นของจริงแท้ แม้จะไม่เคยมีทฤษฎีใดพิสูจน์ได้เลยก็ตาม
"รักเป็นสิ่งที่ส่งผ่านมิติเวลาและอวกาศ"
เป็นอีกครั้งที่ Christopher Nolan ผกก.ในดวงใจใครหลายคนหยิบเอา sci-fi มาบอกเล่ากันหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากกับ Inception (2010) และคราวนี้ถึงกับหยิบประเด็น "นอกจักรวาล" มานำเสนอ เรื่องพูดถึงโลกในอนาคตที่เสื่อมโทรมและขาดแคลนทรัพยากร และรูหนอน (wormhole) ในห้วงอวกาศที่ใช้สำหรับการเดินทางข้ามจักรวาลไม่ใช่ทฤษฎีอีกต่อไป นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งจึงออกเดินทางตามหาดาวดวงใหม่มาทดแทนโลก คูเปอร์ อดีตวิศวกรประจำนาซ่าได้ถูกเรียกตัวให้ร่วมภารกิจโดยต้องทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง
ใครที่คุ้นเคยกับหนังของ Nolan คงทราบกันดีว่าเขาเป็นคนที่ชอบหยิบเรื่องราวไม่ธรรมดาออกมาท้าทายตัวเอง รวมไปถึงการเปลี่ยนโฉมอัศวินรัตติกาลอย่าง Batman ให้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในศตวรรษ สำหรับ Interstellar เองก็เช่นกัน หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความมุมานะ และทะเยอทะยานที่จะบอกเล่าเรื่องราวยิ่งใหญ่อย่างจักรวาลไกลโพ้น สะท้อนให้เห็นว่า Nolan ไม่ใช่ผกก.ที่ย่ำอยู่กับที่ และพร้อมจะพาตัวเองออกมานอกพื้นที่ปลอดภัยได้เสมอ เป็นคุณสมบัติที่ผกก.น้อยคนจะกล้าทำ
มาพูดถึงในแต่ละด้านกันบ้าง
นักแสดง เรียกได้ว่า Matthew McConaughey เป็นนักแสดงที่น่าจับตาอย่างมาก ถึงจะไม่ได้แบกหนังไว้คนเดียว แต่บทบาทสำคัญที่สุดก็อยู่ที่เขา และเขาทำออกมาได้ดีมาก เขาสามารถพาให้คนดูน้ำตาไหล และเคร่งเครียดผ่านสีหน้าของเขาจากหน้ากากชุดอวกาศได้ - 10/10
ด้านภาพและการถ่ายทำ ตรงนี้ถือเป็นส่วนที่ต้องชื่นชมเป็นอันดับแรกสุด ในบรรดาคนชมภาพยนตร์จะทราบกันดีว่าหนังอวกาศล่าสุดอย่าง Gravity (2013) จะต้องถูกหยิบยกขึ้นมาเปรียบเทียบ ถึงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ามีบางส่วนที่คล้ายคลึงกันอย่างดวงดาว พื้นภาพสีดำมืดในอวกาศ อวกาศที่ไร้เสียง และสถานการณ์ตึงเครียดภายใน/นอกยาน แต่สำหรับคนที่ไปชมเรื่องนี้มาแล้วจะเห็นได้ว่ามันออกมาในรูปแบบ โทนสี แสง และการกำกับที่แทบไม่ซ้ำกับ Gravity เลย โดยเฉพาะการใช้มุมกล้องตายตัวนอกยานเหมือนในหนังอวกาศยุคก่อน เทคนิคพิเศษทั้งหมดดูน่าเชื่อถือและติดดินแม้จะเป็นภาพจินตนาการ (ซึ่งต้องมีบ้างตามธรรมเนียมหนังอวกาศ) ในบางส่วน - 10/10
ดนตรีประกอบของเรื่องนี้ได้ Hans Zimmer กลับมาร่วมงานอีกครั้ง ครั้งนี้ถือว่า Zimmer พัฒนาดนตรีให้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอย่างมาก หลังจากที่หนังในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาล้วนลอกแนวดนตรีของเขามาใช้ ดนตรีบางฉากชวนให้เงียบสงบเหมือนอยู่ท่ามกลางหมู่ดาว บางฉากลี้ลับชวนระแวง และบางฉากก็รู้สึกราวกับยานจะถล่มลงมาทั้งยาน ถือเป็นดนตรีประกอบหนังจาก Hans Zimmer ที่ดีที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ - 10/10
ด้านเนื้อเรื่อง แน่นอนว่าการหยิบเอาเรื่องของจักรวาลที่มนุษย์ยังแทบไม่รู้จักมาบอกเล่าบนแผ่นฟิล์ม โดยเฉพาะการหยิบเอาทฤษฎีทางฟิสิกส์ขั้นสูงที่น้อยคนรู้จักมาเป็นแกนหลัก และผ่านวิสัยทัศน์ของ Nolan แฟนหนังทุกคนจึงรู้ว่าจะไม่มีทางได้เห็นมนุษย์ต่างดาว สัตว์ประหลาด ปืนเลเซอร์ หรือหุ่นยนต์แปลงร่าง (ไม่ได้พาดพิงใครแต่อย่างใด) ในหนังเรื่องนี้แน่นอน อย่างที่ได้เกริ่นไปว่าตัวหนังแสดงให้เห็นถึงความมุมานะของผกก.อย่างมาก ในเนื้อเรื่องเราจะได้สัมผัสกับทฤษฎีมากมายซึ่งดูจะมากกว่า Inception (2010) หลายเท่าตัว สถานการณ์ความตึงเครียดบนอวกาศ แต่ก็ยังไม่ทิ้งความเป็นมนุษย์อย่างเข้มข้นซึ่งเป็นเสน่ห์ของหนัง Nolan
จุดนี้เองเรียกได้ว่าเป็นข้อด้อยอย่างน่าเสียดายของหนังเรื่องนี้ ทฤษฎีต่าง ๆ ที่หยิบยกมาล้วนดูน่าเชื่อถือแต่ก็สูงเกินเข้าใจและมีมากจนเกินจะตามได้ทัน ตัวหนังพยายามใส่ความสมจริงแต่สุดท้ายก็ยังมีความเหนือจริงเข้ามามีบทบาทอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงท้าย ฉากบีบคั้นอารมณ์ที่ทำได้ดีจนน้ำตาไหลยังคุมจังหวะไม่ดีเท่าที่ควร และช่วงท้ายของเรื่องที่ดูจะเร่งเร้าจนเกินไป - 8/10
กล่าวโดยสรุปแล้ว Interstellar เป็นหนังที่ดีมาก แต่ "ยังไม่ใช่หนังดีที่สุดของ Nolan" ส่วนตัวแล้วคิดว่าผลงานท็อปฟอร์มของเขาก็ยังคงเป็นเรื่อง Memento (2001) The Dark Knight (2008) และ Inception (2010) ในแง่ของการลำดับเรื่องและมิติตัวละคร แต่ทั้งหมดนี้ต้องทำความเข้าใจว่า Interstellar ไม่ใช่หนังแอคชั่นหรือผจญภัยที่ขายความบันเทิง มันถือเป็นหนัง Surreal กึ่งศิลปะและกึ่งหนังตลาดที่ชวนให้ขบคิดมากกว่าจะสะใจหรือเต็มอิ่มไปกับความบันเทิง ตัวหนังสะท้อนให้เห็นถึงการดิ้นรนเอาชีวิตรอดทั้งที่มืดแปดด้าน ความเห็นแก่ตัว การยอมเสียสละเพื่อส่วนรวม และความผูกพันที่ลึกซึ้งแม้จะห่างไปหลายล้านปีแสง อย่างที่คำโปรยได้กล่าวไว้ นั่นคือ "ความรัก" ซึ่งเป็นของจริงแท้ แม้จะไม่เคยมีทฤษฎีใดพิสูจน์ได้เลยก็ตาม
แก้ไขล่าสุด 9 พ.ย. 57 00:10 |
เลขไอพี : ไม่แสดง
อ่านต่อ คุณอาจจะสนใจเนื้อหาเหล่านี้ (ความคิดเห็นกระทู้ อยู่ด้านล่าง)
ความคิดเห็น
เห็นด้วย ตรงที่ว่า มันดี แต่มันไม่ได้ดี อย่างที่มันควรจะเป็น ยังคงชอบ Inception ที่สุดในเครดิตเฮียคริส
ไอพี: ไม่แสดง
จะต้องเป็นสมาชิกจึงจะแสดงความคิดเห็นได้
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google
เป็นสมาชิกอยู่แล้ว ลงชื่อเข้าใช้ระบบ
ยังไม่ได้เป็นสมาชิก สมัครสมาชิกใหม่
หรือจะลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google หรือ Facebook ก็ได้
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Facebook
ลงชื่อเข้าใช้ระบบด้วย Google